กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

ชื่อโครงการ โครงการส่งเสริมทันตสุขภาพและป้องกันโรคในช่องปาก

ที่อยู่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพิเทน หมู่ 2 ตำบลพิเทน อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี จังหวัด ปัตตานี

รหัสโครงการ เลขที่ข้อตกลง

ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 5 เมษายน 2560 ถึง 4 กันยายน 2560

กิตติกรรมประกาศ

"โครงการส่งเสริมทันตสุขภาพและป้องกันโรคในช่องปาก จังหวัดปัตตานี" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพิเทน หมู่ 2 ตำบลพิเทน อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี

คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.พิเทน ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป

คณะทำงานโครงการ
โครงการส่งเสริมทันตสุขภาพและป้องกันโรคในช่องปาก

บทคัดย่อ

โครงการ " โครงการส่งเสริมทันตสุขภาพและป้องกันโรคในช่องปาก " ดำเนินการในพื้นที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพิเทน หมู่ 2 ตำบลพิเทน อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี รหัสโครงการ ระยะเวลาการดำเนินงาน 5 เมษายน 2560 - 4 กันยายน 2560 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 12,850.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล อบต.พิเทน เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นสมาชิกในชุมชนจำนวน 0 คน หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้

โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ

หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"

สารบัญ

ความเป็นมา/หลักการเหตุผล

สุขภาพช่องปากมีความสำคัญต่อสุขภาพของทุกคน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กปฐมวัย โรคฟันผุในเด็กสามารถ พบได้ตั้งแต่ฟันเริ่มขึ้นในช่วงขวบปีแรก และอัตราการผุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงอายุ 1-3 ปี สาเหตุหลักที่ทำให้เด็กมีฟันผุ มาจากพฤติกรรมของมารดาในการเลี้ยงดูบุตรที่ไม่ถูกต้อง การดูแลทำความสะอาดช่องปากไม่ถูกวิธี และมีพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่เหมาะสมก่อให้เกิดโรคฟันผุในฟันน้ำนมอย่างรุนแรง ทำให้เด็กมีความเจ็บปวด เคี้ยวอาหารไม่ได้ตามปกติ ได้รับสารอาหารที่จำเป็นไม่เพียงพอ จึงส่งผลต่อภาวะโภชนาการและพัฒนาการการเจริญเติบโตของเด็กในที่สุด การเกิดโรคฟันผุในฟันน้ำนม นอกจากจะมีผลเสียโดยตรงต่อสุขภาพของเด็กในขณะนั้นแล้ว ยังมีผลเสีย ต่อฟันแท้ของเด็กในอนาคตด้วย กล่าวคือ ฟันน้ำนมที่ผุ ถูกถอนหรือหลุดไปก่อนที่ฟันแท้จะขึ้นแทนที่ จะทำให้ฟันที่อยู่ติดกันล้ม เอียง เข้าหาช่องว่าง ทำให้ฟันแท้ที่จะขึ้นแทนต่ำแหน่งนั้น ไม่สามารถขึ้นได้อย่างปกติ อาจจะขึ้นมาในลักษณะบิด ซ้อนกันซึ่งจะเป็นปมด้อย ทำให้เด็กไม่กล้าแสดงออก การแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทำได้โดยการเน้นรูปแบบการส่งเสริม ป้องกัน ให้กับผู้ปกครองเพื่อให้ผู้ปกครองสามารถดูแลทำความสะอาดช่องปากเด็กได้อย่างถูกวิธี ต่อเนื่องและสม่ำเสมอ รวมทั้งมีการติดตาม ประเมินผลจากทันตบุคลากร ทางฝ่ายทันตสาธารณสุขโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพิเทนได้ให้ความสำคัญในการเฝ้าระวังทันตสุขภาพและตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมทันตสุขภาพและป้องกันโรคในช่องปาก ขึ้น

สถานการณ์

วัตถุประสงค์โครงการ

1. 1.เพื่อลดอัตราการเกิดโรคฟันผุและการสูญเสียฟันน้ำนมของเด็กนักเรียนก่อนวัยอันควร 2.เพื่อให้ผู้ปกครองมีความรู้ที่ถูกต้องและมีทัศนคติที่ดีต่อการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็ก 3. เพื่อให้ผู้ปกครองมีทักษะในการทำความสะอาดช่องปากของเด็กอย่างถูกวิธี ตัวชี้วัด 1. เด็กอายุ 0-1 ปี ได้รับการตรวจฟันและการทาฟลูออไรด์ในรายที่เสี่ยงต่อการเกิดฟันผุ ร้อยละ 60 2. ผู้ปกครองมีความรู้และทักษะในการทำความสะอาดช่องปากของเด็กอย่างถูกวิธีร้อยละ 80 3. เด็กอายุ 0-1 ปี มีค่าปราศจากฟันผุเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาอย่างน้อยร้อยละ 2

กิจกรรม/การดำเนินงาน

กลุ่มเป้าหมาย

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1.ผู้ปกครองมีความรู้และทักษะในการทำความสะอาดช่องปากของเด็กที่ถูกต้องร้อยละ 80 2. มีรูปแบบการจัดกิจกรรมแบบบูรณาการอย่างชัดเจน 3. เด็กที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคฟันผุมีการติดตามร้อยละ 80
ผลลัพธ์ 1. เด็กอายุ 0-1 ปี ปราศจากฟันผุร้อยละ 50
2.ภาคีเครือข่ายทันตสุขภาพมีการพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพการส่งเสริมภาวะทันตสุขภาพ 2. หน่วยงานมีประเมินตนเอง ถอดบทเรียนจนเกิดองค์ความรู้ และสามารถนำไปพัฒนากิจกรรมของตนเอง
3. กิจกรรมได้รับการติดตามประเมินโดยหน่วยงานหรือภาคีที่เกี่ยวข้อง

ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน

* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น