โครงการอบรมการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR)และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) ประจำปี ๒๕๖๓ ในเรือนจำจังหวัดตรัง
แบบรายงานการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์
รายงานฉบับสมบูรณ์
โครงการ
“ โครงการอบรมการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR)และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) ประจำปี ๒๕๖๓ ในเรือนจำจังหวัดตรัง ”
ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง
หัวหน้าโครงการ
นายภักดี แก้วเนียม ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดตรัง และ นางเจมบอลย์ บุญแก้ว พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ
ได้รับการสนับสนุนโดย กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลโคกหล่อ
กันยายน 2563
ชื่อโครงการ โครงการอบรมการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR)และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) ประจำปี ๒๕๖๓ ในเรือนจำจังหวัดตรัง
ที่อยู่ ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง จังหวัด ตรัง
รหัสโครงการ 2563-L1490-1-5 เลขที่ข้อตกลง 10/2563
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2563 ถึง 30 กันยายน 2563
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการอบรมการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR)และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) ประจำปี ๒๕๖๓ ในเรือนจำจังหวัดตรัง จังหวัดตรัง" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลโคกหล่อ ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการอบรมการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR)และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) ประจำปี ๒๕๖๓ ในเรือนจำจังหวัดตรัง
บทคัดย่อ
โครงการ " โครงการอบรมการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR)และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) ประจำปี ๒๕๖๓ ในเรือนจำจังหวัดตรัง " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง รหัสโครงการ 2563-L1490-1-5 ระยะเวลาการดำเนินงาน 1 กรกฎาคม 2563 - 30 กันยายน 2563 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 21,440.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลโคกหล่อ เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้
โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ »
บทคัดย่อ »
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล »
วัตถุประสงค์โครงการ »
กิจกรรม/การดำเนินงาน »
กลุ่มเป้าหมาย »
ผลลัพธ์ที่ได้ »
การประเมินผล »
ปัญหาและอุปสรรค »
ข้อเสนอแนะ »
เอกสารประกอบอื่นๆ »
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
ภาวะหัวใจหยุดเต้นและหรือหยุดหายใจเฉียบพลัน เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ มีความเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิต ส่วนใหญ่เกิดจาก ๒ สาเหตุหลัก คือ จากโรคหัวใจขาดเลือด จากการมีโรคหัวใจอยู่เดิม ซึ่งมักพบในผู้ป่วยที่อายุมากกว่า ๓5 ปีขึ้นไป มักพบว่ามีหัวใจเต้นผิดปกติชนิดที่สั่นพลิ้วไม่มีแรงบีบตัวเพื่อให้เลือดออกจากหัวใจ สาเหตุที่ ๒ คือ การขาดออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายจากอุบัติเหตุต่างๆ มักเกิดเหตุนอกโรงพยาบาล เซ่นในปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ในอเมริกา มีผู้ป่วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันนอกโรพยาบาล จำนวน ๔๒๔,๐๐๐ คน มีอัตราการเสียชีวิตทั้งนอกและในโรพยาบาลจากกล้ามเนื้อหัวใจตาย ประมาณร้อยละ ๕๐ ในประเทศไทย มีผู้ป่วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันนอกโรพยาบาล โดยประมาณคือ ๐.๕ – ๑.๐ ต่อ ๑,๐๐๐ รายต่อปี เสียชีวิตจากโรคหัวใจขาดเลือดและอุบัติเหตุจราจร และคาดการณ์ได้ว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีอัตราป่วยและอัตราตายด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจเพิ่มขึ้น โดยพบอัตราตายจากโรคหลอดเลือดหัวใจเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน จาก ๒๐.๒๕ คนต่อแสนประชากรเป็น ๒7.๘๓ คนต่อแสนประชากร สำหรับประเทศไทย ในปี 2560 พบว่า คนไทยมีแนวโน้ม ป่วยด้วยโรคหัวใจขาดเลือดมากที่สุดถึง 326,946 คน และตายจากโรคหัวใจขาดเลือดถึง 20,746 คน เฉลี่ย 57 คน/วัน และมีแนวโน้ม ในการป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของจังหวัดตรัง พบว่าในปี 2561 อัตราการตายจากหัวใจขาดเลือด คิดเป็นร้อยละ 14.21 และในปี 2562(8 เดือน) คิดเป็นร้อยละ 9.33 (ข้อมูล ณ 31 ก.ค. 2562) และอัตราการตายของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ ในปี 2561 คิดเป็นร้อยละ 19.79 และในปี 2562 (8 เดือน) ข้อมูล ณ 31 ก.ค. 2562 คิดเป็นร้อยละ 8.73 ต่อแสนประชาชากร โดยในอำเภอที่มีอัตราการตายสูง ตามลำดับ 1. อำเภอเมืองตรัง 2. อำเภอกันตัง 3. อำเภอย่านตาขาว ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันมีโอกาสเสียชีวิตในไม่กี่นาทีภายหลังหัวใจหยุดเต้น การเริ่มกดนวดหน้าอกโดยเร็ว มีผลต่อการกลับมาเต้นของหัวใจ ผู้พบเห็นคนแรกที่เริ่มทำการฟื้นคืนชีพเร็ว มีความสัมพันธ์กับอัตรารอดชีวิตที่เพิ่มขึ้นตามหลักการห่วงโซ่ของการอยู่รอด ปี พ.ศ. ๒55๘ สมาคมโรหัวใจแห่งอเมริกาให้ข้อเสนอแนะว่าบุคคลแรกที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ที่พบเห็นเหตุการณ์ มีบทบาทสำคัญใน 3 ห่วงแรกของการช่วยชีวิต คือ 1) เมื่อพบผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้นโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินทันที ๒) เริ่มกดนวดหน้าอก ให้เร็วภายในเวลา ๔ นาที และ 3)กระตุ้นหัวใจด้วยเครื่องไฟฟ้า (AED) แต่พบว่าผู้ป่วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันนอกโรพยาบาล ได้รับช่วยฟื้นคืนชีพโดยผู้พบเห็นคนแรกค่อนข้างน้อย อัตราการรอดชีวิตจนออกจากโรงพยาบาลค่อนข้างต่ำคือประมาณร้อยละ ๗.๖ – 7.๙ เท่านั้น การให้คำแนะนำการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานจึงมีความสำคัญมากเนื่องจากช่วยเพิ่มจำนวนการช่วยฟื้นคืนชีพจากผู้พบเห็นคนแรกทำให้เริ่มการกดนวดหน้าอกครั้งแรกเร็วขึ้น นำไปสู่การมีชีวิตรอดที่เพิ่มขึ้น
จากการที่เรือนจำจังหวัดตรัง มีผู้ต้องขังในเรือนจำอยู่ 2,769 คน ซึ่งนับว่ามีประชากรต้องขังที่ค่อนข้างจะหนาแน่น พร้อมยังมีความเสี่ยงเมื่อเกิดอุบัติเหตุต่างๆ ทั้งยังขาดทักษะ และได้เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าวข้างต้น จึงจัดการอบรมการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น (CPR) และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ(AED) เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลรับผิดชอบ ณ สถานที่ติดตั้งเครื่อง ADE เข้าใจในการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น สามารถใช้เครื่อง ADE ช่วยเหลือผู้ที่ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ได้อย่างปลอดภัยและทันท่วงที
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ มีทักษะในการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR)และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED)ได้อย่างถูกต้อง
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- อบรมให้ความรู้ เรื่อง การช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR) และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED)
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
กลุ่มวัยทำงาน
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
100
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
๑. ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR)
๒. ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED)
๓. ผู้เข้ารับการอบรมมีทักษะการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR) ได้อย่างถูกต้อง
4. ผู้เข้ารับการอบรมสามารถใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) ได้อย่างถูกต้อง
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์**
กิจกรรมของโครงการ ผลผลิต* ผลผลิตที่ตั้งไว้ ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ สถานการณ์ เป้าหมาย ผลผลิต อธิบาย
1
เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ มีทักษะในการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR)และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED)ได้อย่างถูกต้อง
ตัวชี้วัด : 1. ทำแบบทดสอบความรู้เรื่องการช่วยกู้ชีพเบื้องตัน (CPR)และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน
๒. ร้อยละ 100 ของผู้เข้ารับการอบรม ผ่านเกณฑ์การทดสอบรายบุคคลการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR) และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED)
0.00
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด
100
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
-
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
-
กลุ่มวัยทำงาน
-
กลุ่มผู้สูงอายุ
-
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
-
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
-
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
-
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
100
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
-
บทคัดย่อ*
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ มีทักษะในการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR)และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED)ได้อย่างถูกต้อง
ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (1) อบรมให้ความรู้ เรื่อง การช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR) และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED)
ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...
หมายเหตุ *- บทคัดย่อ จะนำไปใส่ในส่วนบทคัดย่อของรายงานฉบับสมบูรณ์
- หากต้องการใช้ค่าเริ่มต้นของบทคัดย่อ ให้ลบข้อความในช่องบทคัดย่อ ทั้งหมด แล้วกดปุ่ม Refresh
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค สาเหตุ ข้อเสนอแนะ
โครงการอบรมการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR)และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) ประจำปี ๒๕๖๓ ในเรือนจำจังหวัดตรัง จังหวัด ตรัง
รหัสโครงการ 2563-L1490-1-5
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
................................
( นายภักดี แก้วเนียม ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดตรัง และ นางเจมบอลย์ บุญแก้ว พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......
โครงการ
“ โครงการอบรมการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR)และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) ประจำปี ๒๕๖๓ ในเรือนจำจังหวัดตรัง ”
ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง
หัวหน้าโครงการ
นายภักดี แก้วเนียม ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดตรัง และ นางเจมบอลย์ บุญแก้ว พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ
กันยายน 2563
ที่อยู่ ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง จังหวัด ตรัง
รหัสโครงการ 2563-L1490-1-5 เลขที่ข้อตกลง 10/2563
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2563 ถึง 30 กันยายน 2563
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการอบรมการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR)และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) ประจำปี ๒๕๖๓ ในเรือนจำจังหวัดตรัง จังหวัดตรัง" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลโคกหล่อ ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการอบรมการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR)และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) ประจำปี ๒๕๖๓ ในเรือนจำจังหวัดตรัง
บทคัดย่อ
โครงการ " โครงการอบรมการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR)และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) ประจำปี ๒๕๖๓ ในเรือนจำจังหวัดตรัง " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง รหัสโครงการ 2563-L1490-1-5 ระยะเวลาการดำเนินงาน 1 กรกฎาคม 2563 - 30 กันยายน 2563 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 21,440.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลโคกหล่อ เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้
โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ | » |
บทคัดย่อ | » |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล | » |
วัตถุประสงค์โครงการ | » |
กิจกรรม/การดำเนินงาน | » |
กลุ่มเป้าหมาย | » |
ผลลัพธ์ที่ได้ | » |
การประเมินผล | » |
ปัญหาและอุปสรรค | » |
ข้อเสนอแนะ | » |
เอกสารประกอบอื่นๆ | » |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
ภาวะหัวใจหยุดเต้นและหรือหยุดหายใจเฉียบพลัน เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ มีความเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิต ส่วนใหญ่เกิดจาก ๒ สาเหตุหลัก คือ จากโรคหัวใจขาดเลือด จากการมีโรคหัวใจอยู่เดิม ซึ่งมักพบในผู้ป่วยที่อายุมากกว่า ๓5 ปีขึ้นไป มักพบว่ามีหัวใจเต้นผิดปกติชนิดที่สั่นพลิ้วไม่มีแรงบีบตัวเพื่อให้เลือดออกจากหัวใจ สาเหตุที่ ๒ คือ การขาดออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายจากอุบัติเหตุต่างๆ มักเกิดเหตุนอกโรงพยาบาล เซ่นในปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ในอเมริกา มีผู้ป่วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันนอกโรพยาบาล จำนวน ๔๒๔,๐๐๐ คน มีอัตราการเสียชีวิตทั้งนอกและในโรพยาบาลจากกล้ามเนื้อหัวใจตาย ประมาณร้อยละ ๕๐ ในประเทศไทย มีผู้ป่วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันนอกโรพยาบาล โดยประมาณคือ ๐.๕ – ๑.๐ ต่อ ๑,๐๐๐ รายต่อปี เสียชีวิตจากโรคหัวใจขาดเลือดและอุบัติเหตุจราจร และคาดการณ์ได้ว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีอัตราป่วยและอัตราตายด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจเพิ่มขึ้น โดยพบอัตราตายจากโรคหลอดเลือดหัวใจเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน จาก ๒๐.๒๕ คนต่อแสนประชากรเป็น ๒7.๘๓ คนต่อแสนประชากร สำหรับประเทศไทย ในปี 2560 พบว่า คนไทยมีแนวโน้ม ป่วยด้วยโรคหัวใจขาดเลือดมากที่สุดถึง 326,946 คน และตายจากโรคหัวใจขาดเลือดถึง 20,746 คน เฉลี่ย 57 คน/วัน และมีแนวโน้ม ในการป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของจังหวัดตรัง พบว่าในปี 2561 อัตราการตายจากหัวใจขาดเลือด คิดเป็นร้อยละ 14.21 และในปี 2562(8 เดือน) คิดเป็นร้อยละ 9.33 (ข้อมูล ณ 31 ก.ค. 2562) และอัตราการตายของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ ในปี 2561 คิดเป็นร้อยละ 19.79 และในปี 2562 (8 เดือน) ข้อมูล ณ 31 ก.ค. 2562 คิดเป็นร้อยละ 8.73 ต่อแสนประชาชากร โดยในอำเภอที่มีอัตราการตายสูง ตามลำดับ 1. อำเภอเมืองตรัง 2. อำเภอกันตัง 3. อำเภอย่านตาขาว ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันมีโอกาสเสียชีวิตในไม่กี่นาทีภายหลังหัวใจหยุดเต้น การเริ่มกดนวดหน้าอกโดยเร็ว มีผลต่อการกลับมาเต้นของหัวใจ ผู้พบเห็นคนแรกที่เริ่มทำการฟื้นคืนชีพเร็ว มีความสัมพันธ์กับอัตรารอดชีวิตที่เพิ่มขึ้นตามหลักการห่วงโซ่ของการอยู่รอด ปี พ.ศ. ๒55๘ สมาคมโรหัวใจแห่งอเมริกาให้ข้อเสนอแนะว่าบุคคลแรกที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ที่พบเห็นเหตุการณ์ มีบทบาทสำคัญใน 3 ห่วงแรกของการช่วยชีวิต คือ 1) เมื่อพบผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้นโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินทันที ๒) เริ่มกดนวดหน้าอก ให้เร็วภายในเวลา ๔ นาที และ 3)กระตุ้นหัวใจด้วยเครื่องไฟฟ้า (AED) แต่พบว่าผู้ป่วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันนอกโรพยาบาล ได้รับช่วยฟื้นคืนชีพโดยผู้พบเห็นคนแรกค่อนข้างน้อย อัตราการรอดชีวิตจนออกจากโรงพยาบาลค่อนข้างต่ำคือประมาณร้อยละ ๗.๖ – 7.๙ เท่านั้น การให้คำแนะนำการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานจึงมีความสำคัญมากเนื่องจากช่วยเพิ่มจำนวนการช่วยฟื้นคืนชีพจากผู้พบเห็นคนแรกทำให้เริ่มการกดนวดหน้าอกครั้งแรกเร็วขึ้น นำไปสู่การมีชีวิตรอดที่เพิ่มขึ้น จากการที่เรือนจำจังหวัดตรัง มีผู้ต้องขังในเรือนจำอยู่ 2,769 คน ซึ่งนับว่ามีประชากรต้องขังที่ค่อนข้างจะหนาแน่น พร้อมยังมีความเสี่ยงเมื่อเกิดอุบัติเหตุต่างๆ ทั้งยังขาดทักษะ และได้เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าวข้างต้น จึงจัดการอบรมการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น (CPR) และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ(AED) เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลรับผิดชอบ ณ สถานที่ติดตั้งเครื่อง ADE เข้าใจในการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น สามารถใช้เครื่อง ADE ช่วยเหลือผู้ที่ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ได้อย่างปลอดภัยและทันท่วงที
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ มีทักษะในการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR)และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED)ได้อย่างถูกต้อง
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- อบรมให้ความรู้ เรื่อง การช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR) และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED)
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้ | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | ||
กลุ่มวัยทำงาน | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 100 | |
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] |
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
๑. ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR) ๒. ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) ๓. ผู้เข้ารับการอบรมมีทักษะการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR) ได้อย่างถูกต้อง 4. ผู้เข้ารับการอบรมสามารถใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) ได้อย่างถูกต้อง
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์** กิจกรรมของโครงการ | ผลผลิต* | |
---|---|---|
ผลผลิตที่ตั้งไว้ | ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง |
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ | สถานการณ์ | เป้าหมาย | ผลผลิต | อธิบาย | |
---|---|---|---|---|---|
1 | เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ มีทักษะในการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR)และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED)ได้อย่างถูกต้อง ตัวชี้วัด : 1. ทำแบบทดสอบความรู้เรื่องการช่วยกู้ชีพเบื้องตัน (CPR)และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ๒. ร้อยละ 100 ของผู้เข้ารับการอบรม ผ่านเกณฑ์การทดสอบรายบุคคลการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR) และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) |
0.00 |
|
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
---|---|---|---|
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด | 100 | ||
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | |||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | - | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | - | ||
กลุ่มวัยทำงาน | - | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | - | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | |||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | - | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | - | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | - | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 100 | ||
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] | - |
บทคัดย่อ*
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ มีทักษะในการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR)และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED)ได้อย่างถูกต้อง
ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (1) อบรมให้ความรู้ เรื่อง การช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR) และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED)
ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...
หมายเหตุ *
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค | สาเหตุ | ข้อเสนอแนะ |
---|---|---|
|
|
|
โครงการอบรมการช่วยกู้ชีพเบื้องต้น(CPR)และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) ประจำปี ๒๕๖๓ ในเรือนจำจังหวัดตรัง จังหวัด ตรัง
รหัสโครงการ 2563-L1490-1-5
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
( นายภักดี แก้วเนียม ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดตรัง และ นางเจมบอลย์ บุญแก้ว พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......