โครงการคัดกรองโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ตำบลกระแสสินธุ์ ปี ๒๕๖๐
ชื่อโครงการ | โครงการคัดกรองโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ตำบลกระแสสินธุ์ ปี ๒๕๖๐ |
รหัสโครงการ | 60-L5162-1-02 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกระแสสินธุ์ |
วันที่อนุมัติ | 9 มิถุนายน 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 เมษายน 2560 - 30 กันยายน 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 49,810.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางฐิตาภา โนภาส |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลกระแสสินธุ์ อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 1233 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่สำคัญ ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพที่ประชาชนไทยมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากมีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่เหมาะสม เช่น การบริโภคอาหารหวาน มัน เค็ม ขาดการออกกำลังกาย โดยที่ประชาชนจำนวนมากไม่รู้ตัวเองว่ามีความผิดปกติหรือเป็นโรคแล้ว และไม่ได้รับการวินิจฉัย และการรักษาที่เหมาะสม จะทราบก็ต่อเมื่อเกิดผลแทรกซ้อนขึ้นแล้ว ซึ่งอาจเกิดเสียชีวิตฉับพลัน หรืออาจเกิดความพิการที่ไม่อาจแก้ไขได้ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองตีบและแตก โรคไตวาย และตาบอด มีข้อมูลยืนยันว่า โรคเหล่านี้เป็นภาระมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสุขภาพ เศรษฐกิจและสังคม โดยที่ประชาชนจำนวนมากไม่รู้ตัวว่าตัวเองมีความผิดปกติ จะทราบก็ต่อเมื่อเกิดผลแทรกซ้อนขึ้นแล้ว ซึ่งอาจเสียชีวิตฉับพลัน หรือเกิดความพิการที่ไม่อาจแก้ไขได้ โรคเบาหวานก็เช่นเดียวกัน จากพฤติกรรมการบริโภครวมถึงการขาดการออกกำลังกาย ทำให้คนไทยป่วยเป็นโรคเบาหวานเพิ่มมากขึ้น และไม่ได้รับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม จึงมีความเสี่ยงเกิดปัญหาแทรกซ้อนทั้งโรคไตวาย ตาบอด และเป็นสาเหตุอันดับ ๒ ที่ทำให้คนไทยตาบอดรองจากต้อกระจก โดยผู้ป่วยเบาหวานมีความเสี่ยงตาบอดมากกว่าคนทั่วไปถึงร้อยละ ๒๕ โครงการควบคุมป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เน้นการตรวจสุขภาพเชิงรุกโดยให้อาสาสมัครสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกระดับ ดำเนินการคัดกรองโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน ในประชาชนอายุตั้งแต่ ๓๕ ปีขึ้นไป ทั่วประเทศ ให้ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๙๐ เพื่อจำแนกเป็นกลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยงสูง กลุ่มสงสัยผู้ป่วยรายใหม่ กลุ่มป่วยที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อน และกลุ่มป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อน เพื่อจะได้วางกลยุทธ์เชิงรุกในการดูแลประชาชนอย่างต่อเนื่อง ให้ประชาชนได้รับทราบภาวะสุขภาพของตนเองและลดความเสี่ยง รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพให้มีสุขภาพแข็งแรง
ดังนั้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกระแสสินธุ์ และชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขตำบลกระแสสินธุ์ จึงให้ความสำคัญในการกำหนดมาตรการและกลวิธีการดำเนินการเชิงรุกที่จะส่งเสริมสุขภาพป้องกันควบคุมโรคและการให้บริการรักษาพยาบาลโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง และเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ให้ความเอาใจใส่ต่อสุขภาพของตนเอง จึงได้จัดทำโครงการคัดกรองโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ตำบลกระแสสินธุ์ ปี ๒๕๖๐ ขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อตรวจคัดกรองสุขภาพและประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพของประชาชนอายุ ๓๕ ปีขึ้นไป และกระตุ้นให้ตระหนักต่อการดูแลสุขภาพของตนเองก่อนเกิดการเกิดโรค โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ๑. ประชาชนอายุ ๓๕ ปีขึ้นไป ได้รับการคัดกรองเบาหวาน/ความดันโลหิตสูง อย่างน้อย ร้อยละ ๙๕ |
||
2 | เพื่อกำหนดมาตรการเชิงรุกในการส่งเสริมสุขภาพการป้องกันควบคุมโรค การสนับสนุนการดูแลรักษา และให้บริการที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่าที่คัดกรอง ซึ่งได้แก่กลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยง กลุ่มป่วย และกลุ่มป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อน ๑. กลุ่มเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม มากกว่า ร้อยละ ๖๐ |
||
3 | เพื่อให้มีระบบการเฝ้าระวังและป้องกันความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงอย่างต่อเนื่อง ๑. อัตราป่วยด้วยโรคเบาหวานรายใหม่ ไม่เกิน ร้อยละ ๔
|
รวมทั้งสิ้น | 0 | 0.00 | 0 | 0.00 | 0.00 |
กิจกรรมในสถานบริการ
๑. ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
๒. ร่วมกันกำหนดกรอบแผนงาน/โครงการ แผนปฏิบัติการเชิงรุก และบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกำหนดผู้รับผิดชอบ
๓. ทบทวนมาตรการและวิธีการเชิงรุกในการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันควบคุมโรค การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพและให้บริการที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม และจัดทำแนวทางหรือคู่มือการปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ
๔. ดำเนินกิจกรรมรณรงค์ ประชาสัมพันธ์สร้างกระแสการส่งเสริมสุขภาพให้ประชาชนตระหนักรับรู้ปัจจัยเสี่ยงและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ เพื่อการป้องกันควบคุมโรคเบาหวานและความดันโลหิต
๕. การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และการหารูปแบบกลไกในระดับหมู่บ้าน / ชุมชน ในการคัดกรองโรค DM/HT และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
๖. ส่งเสริม สนับสนุน ให้หมู่บ้านมีระบบการส่งเสริมสุขภาพและเฝ้าระวังโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงและดำเนินงานลดเสี่ยง/ลดโรคอย่างมีประสิทธิภาพ
๗. ส่งเสริม สนับสนุน ให้หมู่บ้าน มีการคัดกรองความเสี่ยง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และจัดให้มีบริการเสริมทักษะ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพลดเสี่ยง ลดโรค
๘. ส่งเสริม สนับสนุน และประสานความร่วมมือของภาคีเครือข่าย ให้เกิดการดำเนินงานป้องกันควบคุมความเสี่ยงในชุมชน
๙. พัฒนาศักยภาพบุคลากรและแกนนำในชุมชนในการเฝ้าระวังติดตามพฤติกรรมสุขภาพและคัดกรองความเสี่ยง
๑๐. จัดระบบการติดตามประเมินผล
๑๑. จัดทำระบบฐานข้อมูลที่จำเป็นเพื่อการเฝ้าระวังโรค
๑๒. การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูงกิจกรรมระดับหมู่บ้าน
๑. จัดระบบข้อมูลเพื่อการคัดกรอง ควบคุมโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง
๒. จัดระบบบูรณาการแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมป้องกัน ควบคุม โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงเชิงรุกในพื้นที่
๓. ตรวจคัดกรองโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง โรคอ้วน ในกลุ่มประชาชนอายุ ๓๕ ปีขึ้นไป ต่อเนื่องโดยอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) และทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
๔. จัดนิทรรศการสร้างสุขภาพในชุมชน หมู่บ้านละ ๑ ครั้ง- จัดบอร์ดให้ความรู้ เรื่อง ๓อ. ๒ส.
- ให้ความรู้เรื่องโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน
๕. จัดทำระบบฐานข้อมูลที่จำเป็นเพื่อการเฝ้าระวัง ติดตาม ประเมินผล เชื่อมโยงกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
- จัดบอร์ดให้ความรู้ เรื่อง ๓อ. ๒ส.
๑. ประชาชนมีความตระหนักในการจัดการและดูแลสุขภาพของตนเอง รวมทั้งมีส่วนร่วมในการจัดการสิ่งแวดล้อมในชุมชนเพื่อลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ชุมชนมีศักยภาพเข้มแข็งในการดำเนินงาน ลดและควบคุมปัจจัยเสี่ยงให้เหมาะสมกับบริบทของชุมชน
๒. บุคลากรที่เกี่ยวข้องได้รับการเพิ่มพูนความรู้และทักษะในเรื่องการบริหารจัดการและวิธีการดูแลประชาชนกลุ่มเป้าหมายเพื่อลดปัญหาโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง
๓. มีระบบข้อมูลข่าวสารเพื่อการเฝ้าระวัง ป้องกัน ติดตามและประเมินผล เชื่อมโยงระหว่างชุมชนกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลอย่างต่อเนื่อง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2560 10:16 น.