กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ชะมวง

1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม

โครงการเฝ้าระวังความเสี่ยง ของเกษตรกรจากการสัมผัสสารเคมี ประจำปีงบประมาณ 2564

ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา

กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ชะมวง

ชมรมอสม.รพ.สต.บ้านหัวถนน

1. นางอุไร สงนุ้ย
2. นางปาริชาต อ่อนประเสริฐ
3. นางโสภัคดี ณ พัทลุง
4. นางสาวยุวดี เกื้อรุ่ง
5. นางจำเรียง แก้วมาก

ในเขตโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหัวถนน

2. ความสอดคล้องกับแผนงาน

แผนงานกลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีความเสี่ยง

3. สถานการณ์

สถานการณ์ปัญหาขนาด

ประชากรไทยมีอาชีพพื้นฐานอยู่ในภาคเกษตรกรรมซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานนอกระบบผู้มีรายได้น้อย แต่ทำงานที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพจากสภาพภูมิอากาศที่ร้อนจัด ท่าทางการทำงานที่มีความเสี่ยงต่อการปวดหลังและกล้ามเนื้ออักเสบ รวมทั้งการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพมีพิษทั้งแบบเฉียบพลัน และเรื้อรังตั้งแต่ระดับเล็กน้อยจนรุนแรงถึงแก่ชีวิตขึ้นอยู่กับระดับความเข้มข้น ความเป็นพิษ และปริมาณที่ได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืชสามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายทาง โดยการสัมผัสทางผิวหนังที่ไม่สวมถุงมือและรองเท้าบูท ป้องกันขณะทำงานกับสารเคมี การสูดหายใจละอองที่ฟุ้งกระจายในอากาศ และการรับประทานอาหารและดื่มน้ำที่มีสารเคมีปนเปื้อน พฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัยทำให้เกษตรกรมีความเสี่ยงจากการได้รับอันตรายจากสารเคมีเพิ่มขึ้นยกตัวอย่างเช่น ใช้ถังภาชนะบรรจุสารเคมีที่รั่วซึม ฉีดพ่นสวนทิศทางลมทำให้เสื้อผ้าเปียกชุ่มสารเคมีโดยไม่อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ซึมเปื้อนทันที เป็นต้น สารเคมีกำจัดศัตรูพืช สามารถทำอันตรายต่อสุขภาพร่างกายได้ทั้งมนุษย์ และสัตว์ กล่าวคือ จะไปทำลายอวัยวะภายในร่างกาย เช่น ตับ ไต ปอด สมองผิวหนัง ระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และตาซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะรับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายทางใด และปริมาณมากน้อยเท่าใด ส่วนใหญ่แล้วการที่อวัยวะภายในร่างกายได้สะสมสารเคมีไว้จนถึงขีดที่ร่างกายไม่อาจทนได้จึงแสดงอาการต่างๆขึ้นมา เช่น โรคมะเร็ง โรคต่อมไร้ท่อ โรคเลือดและระบบภูมิคุ้มกันเป็นต้น
หมู่ที่ 1,2,4,5,6,9,10,11 และ 13 ตำบลชะมวงเป็นตำบลหนึ่ง ที่ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพในภาคเกษตรกรรม โดยมีพื้นที่ที่ใช้ในการเกษตรมากถึงร้อยละ 80 ของพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ทำนา ทำไร่ ทำสวนผลไม้และสวนยางพาราผลกระทบจากการใช้สารเคมีในการควบคุมและกำจัดศัตรูพืช จึงกระจายและขยายเป็นวงกว้าง และยังอยู่ในระดับที่รุนแรงและสูงอยู่
จากข้อมูลดังกล่าว แสดงว่าเกษตรกรในตำบลชะมวง ยังคงมีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งในการนำมาใช้นั้นได้มีการใช้อย่างไม่ถูกวิธีและขาดความรู้ จึงทำให้มีผลกระทบกับด้านสุขภาพโดยตรง ดังนั้นชมรม
อสม.รพ.สต.บ้านหัวถนน จึงเล็งเห็นความสำคัญของสุขภาพเกษตรกรใน หมู่ที่ 1,2,4,5,6,9,10,11 และ 13 ตำบลชะมวง จึงได้จัดทำโครงการให้ความรู้และสำรวจความเสี่ยงของเกษตรกรจากการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ประจำปีงบประมาณ 2564ขึ้นเพื่อให้เกษตรกรกลุ่มเสี่ยง ได้รับการตรวจสุขภาพและเจาะเลือดเพื่อดูว่ามีปริมาณสารเคมีตกค้างในกระแสเลือดอยู่ในระดับใดเพื่อทำการเฝ้าระวังและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงต่อไป

ระบุสถานการณ์ หลักการและเหตุผล หรือ ที่มาของการทำโครงการ เพิ่มเติม

4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด

  • บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
  • ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
วัตถุประสงค์ / ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดเป้าหมาย 1 ปี
1 มีฐานข้อมูลสถานการณ์ของเกษตรกรที่สัมผัสสารเคมี

ผู้ที่มีความเสี่ยงในการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืชได้รับการตรวจคัดกรองสารเคมีในเลือด ร้อยละ 100

90.00 100.00
2 มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและลดการใช้สารเคมี

กลุ่มเสี่ยงที่ได้รับการคัดกรองสารเคมีในเลือดมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและลดการใช้สารเคมีร้อยละ 100

90.00 100.00

5. กลุ่มเป้าหมาย

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
กลุ่มวัยทำงาน
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง 90
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]

6. ระยะเวลาดำเนินงาน

วันเริ่มต้น 01/03/2021

กำหนดเสร็จ 31/08/2021

7. วิธีการดำเนินงาน

  • กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
  • งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด

กิจกรรมที่ 1 กิจกรรมเฝ้าระวังการสัมผัสสารเคมีตกค้าง

ชื่อกิจกรรม
กิจกรรมเฝ้าระวังการสัมผัสสารเคมีตกค้าง
รายละเอียดกิจกรรม/งบประมาณ/อื่นๆ

-เก็บข้อมูลภาวะสุขภาพตามความเสี่ยงจากการทำงาน
-ตรวจหาระดับปริมาณสารเคมีตกค้างของเกษตรกรจากการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ครั้งที่ 1
-ให้ความรู้เรื่องการป้องกันตนเองจากสารเคมีในภาคเกษตรกร
ค่าใช้จ่าย
1. จัดทำป้ายไวนิลโครงการฯ ขนาด 1.50 X 2.00 เมตร จำนวน 1 แผ่น เป็นเงิน500บาท 2. จัดทำป้ายไวนิลรณรงค์การลดการใช้สารเคมี วิธีการล้างทำความสะอาด พืชผัก ก่อนการบริโภค เพื่อประชาสัมพันธ์ ทุกหมู่บ้าน ขนาด 1.50 X 2.00 เมตร พร้อมโครงไม้ ขนาด 1 X 1 นิ้ว พร้อมค่าติดตั้ง ป้ายละ 750 บาท จำนวน 9 หมู่บ้านหมู่บ้านละ 2 ป้ายเป็นเงิน13,500บาท
3. ค่าจ้างเหมาเจาะเลือดหาสารเคมีจำนวน 90 คน คนละ 50 บาท เจาะตรวจ ครั้งที่ 1เป็นเงิน4,500บาท
4. ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม จำนวน 90 คน จำนวน 2 มื้อๆ ละ 25 บาทเป็นเงิน 4,500 บาท
5. ค่าอาหารกลางวัน จำนวน 90 คน จำนวน 1 มื้อๆ ละ 70 บาท เป็นเงิน 6,300 บาท
6. ค่าตอบแทนวิทยากรชั่วโมงละ 300 บาทจำนวน 6 ชั่วโมง เป็นเงิน 1,800 บาท

ระยะเวลาดำเนินงาน
26 มีนาคม 2564 ถึง 26 มีนาคม 2564
ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)

กลุ่มเสี่ยงเข้าร่วมอบรม ร้อยละ 100 กลุ่มเสี่ยงได้รับการตรวจสารเคมี ครั้งที่ 1 ร้อยละ 100

จำนวนเงินงบประมาณของกิจกรรม (บาท)
31100.00

กิจกรรมที่ 2 ให้ความรู้การทำปุ๋ยอินทรีย์ทดแทนสารเคมี

ชื่อกิจกรรม
ให้ความรู้การทำปุ๋ยอินทรีย์ทดแทนสารเคมี
รายละเอียดกิจกรรม/งบประมาณ/อื่นๆ

ให้ความรู้การทำปุ๋ยอินทรีย์ทดแทนสารเคมี โดยใช้บุคคลากร ภูมิปัญญาในชุมชน เป็นวิทยากรโดยไม่ใช้งบประมาณ

ระยะเวลาดำเนินงาน
29 มีนาคม 2564 ถึง 29 มีนาคม 2564
ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)

กลุ่มเสี่ยงจากการคัดกรองที่พบสารเคมีตกค้าง จากการคัดกรอง ครั้งที่ 1 เข้าร่วมอบรมความรู้การทำปุ๋ยอินทรีย์ทดแทนสารเคมี ร้อยละ 100
กลุ่มเสี่ยง ร้อยละ 80 สามารถทำปุ๋ยอินทรีย์ทดแทนสารเคมีได้ จากแบบประเมิน

จำนวนเงินงบประมาณของกิจกรรม (บาท)
0.00

กิจกรรมที่ 3 กิจกรรมส่งเสริมการปลูกผักกินเองในครัวเรือน

ชื่อกิจกรรม
กิจกรรมส่งเสริมการปลูกผักกินเองในครัวเรือน
รายละเอียดกิจกรรม/งบประมาณ/อื่นๆ

กลุ่มเสี่ยงจากการคัดกรองที่พบสารเคมีตกค้าง จากการคัดกรอง ครั้งที่ 1มีการปลูกผักกินเองที่บ้าน ไม่ใช้งบประมาณ

ระยะเวลาดำเนินงาน
1 มีนาคม 2564 ถึง 31 สิงหาคม 2564
ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)

กลุ่มเสี่ยงจากการคัดกรองที่พบสารเคมีตกค้าง จากการคัดกรอง ครั้งที่ 1 มีการปลูกผักกินเองที่บ้าน
กลุ่มเสี่ยงจากการคัดกรองที่พบสารเคมีตกค้าง จากการคัดกรอง ครั้งที่ 1 กินผักปลอดสารเคมีที่ปลูกเอง

จำนวนเงินงบประมาณของกิจกรรม (บาท)
0.00

กิจกรรมที่ 4 กิจกรรมตรวจหาระดับปริมาณสารเคมีตกค้างของเกษตรกรจากการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ครั้งที่ 2เฉพาะที่ผลการเจาะครั้งที่ 1 พบว่ามีความเสี่ยง

ชื่อกิจกรรม
กิจกรรมตรวจหาระดับปริมาณสารเคมีตกค้างของเกษตรกรจากการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ครั้งที่ 2เฉพาะที่ผลการเจาะครั้งที่ 1 พบว่ามีความเสี่ยง
รายละเอียดกิจกรรม/งบประมาณ/อื่นๆ

ตรวจหาระดับปริมาณสารเคมีตกค้างของเกษตรกรจากการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ครั้งที่ 2เฉพาะที่ผลการเจาะครั้งที่ 1 พบว่ามีความเสี่ยง ค่าใช้จ่าย 1. ค่าจ้างเหมาเจาะเลือดหาสารเคมีจำนวน 90 คน คนละ 50 บาท เจาะตรวจ ครั้งที่ 2 เป็นเงิน4,500บาท

ระยะเวลาดำเนินงาน
11 มิถุนายน 2564 ถึง 11 มิถุนายน 2564
ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)

กลุ่มเสี่ยงที่พบมีความเสี่ยงผิดปกติจากการตรวจครั้งที่ 1 ได้รับการตรวจคัดกรองครั้งที่ 2 ร้อยละ 100

จำนวนเงินงบประมาณของกิจกรรม (บาท)
4500.00

งบประมาณโครงการ

จำนวนงบประมาณที่ต้องการสนับสนุน จำนวน 35,600.00 บาท

หมายเหตุ :

8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง

ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?

1. ทราบถึงสถานการณ์สารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในเลือดของเกษตรกรกลุ่มเสี่ยง
2. เพื่อจะได้นำข้อมูลมาใช้ในการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การเฝ้าระวังและควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพของเกษตรกร
3. เกษตรกรมีทักษะและมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดการเกิดโรคจากสารเคมี


>