แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.กาลิซา
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
โครงการคัดกรองมะเร็งเต้านมและปากมดลูก เชิงรุก บุกถึงบ้าน ปี 2565ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล อบต.กาลิซา
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกาลิซา(บ้านกาหนั๊วะ)
เขตรับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกาลิซา(บ้านกาหนั๊วะ)
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
ปัจจุบันโรคมะเร็งเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้คนไทยเสียชีวิต สำหรับโรคมะเร็งที่ทำให้สตรีเสียชีวิตมากที่สุด คือ มะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก โดยมะเร็งเต้านมพบมากเป็นอันดับหนึ่งและเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมะเร็งเต้านมจะไม่แสดงอาการในระยะเริ่มแรก จะปรากฏอาการผิดปกติให้เห็นเมื่ออยู่ในระยะก้อนมะเร็งมีการอักเสบ และลุกลามไปทั่วแล้ว การรักษามักไม่ได้ผล ดังนั้น การป้องกันที่ดีที่สุด คือการค้นหาก้อนมะเร็งให้เร็วที่สุด การตรวจเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน สามารถช่วยให้ค้นหามะเร็งเต้านมได้ตั้งแต่ระยะแรก ส่งผลให้ลดอัตราการตายจากมะเร็งเต้านมได้ สำหรับมะเร็งปากมดลูก
จากสถิติทั่วโลกพบว่ามะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบได้มากเป็นอันดับสอง หรือประมาณ 80% ของผู้ป่วยและพบมากในประเทศที่กำลังพัฒนา สำหรับประเทศไทย จากข้อมูลของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ชี้ว่ามะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบได้มากที่สุดในผู้หญิงไทยเมื่อเทียบกับมะเร็งชนิดอื่น และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นทุกปี กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญโรคนี้มาโดยตลอด และเร่งดำเนินการให้ผู้หญิง ได้เข้าถึงเทคโนโลยีที่สามารถป้องกันตนเองจากโรคนี้ได้สำหรับการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งปากมดลูก มีวิธีการค้นหา โดยการตรวจหาเซลล์มะเร็งให้พบตั้งแต่อยู่ในระยะเริ่มแรกและในระยะก่อนเป็นมะเร็งซึ่งสามารถรักษาให้หายได้ และเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการรักษาในระยะลุกลามและจากการศึกษา พบว่า การคัดกรองด้วยการทำ Pap smear ในสตรีกลุ่มเป้าหมายอายุ 30-60 ปี ทำให้ช่วยลดอัตราการเกิดและอัตราการตายจากโรคมะเร็งปากมดลูก
จากข้อมูลการดำเนินงานตรวจมะเร็งปากมดลูก จะเห็นได้ว่าการตรวจมะเร็งปากมดลูกค่อนข้างยาก โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกาลิซา(บ้านกาหนั๊วะ)เป็นหน่วยงานบริการสุขภาพที่ใกล้ชิดกับประชาชนและได้สอบถามสาเหตุที่ไม่ยอมการคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เนื่องจาก ความอาย ไม่กล้าเข้ารับการตรวจคัดกรองยังสถานบริการทาง รพ.สต. ได้ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญในการป้องกันมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมในหญิงอายุ ๓๐-๖๐ ปี
ดังนั้นเพื่อให้การคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านม ในสตรีวัยเจริญพันธุ์ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายและสามารถพบผู้ที่มีความผิดปกติตั้งแต่แรกเริ่มก่อนเป็นโรคมากขึ้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกาลิซา(บ้านกาหนั๊วะ)จึงได้จัดทำโครงการคัดกรองมะเร็งเต้านมและปากมดลูก เชิงรุก บุกถึงบ้านปี ๒๕๖5ขึ้น เพื่อให้สตรีกลุ่มเป้าหมายได้มีพฤติกรรมการตรวจเต้านมด้วยตนเองที่ถูกต้องและสม่ำเสมอ มีความกระตือรือร้นในการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นการตรวจค้นหาโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มแรก อันจะสามารถช่วยลดปัญหาโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกในระยะต่อไป
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น : 01/05/2022
กำหนดเสร็จ : 30/09/2022
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?๑. กลุ่มหญิงอายุ ๓๐-๖๐ ปี ได้รับการตรวจมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมตามเกณฑ์กำหนดและได้รับการเฝ้าระวัง ปัจจัยเสี่ยง สามารถรักษาโรคในระยะแรกได้ทันท่วงทีและเป็นการส่งเสริม ดูแลสุขภาพของกลุ่มเป้าหมาย
๒. ไม่มีอัตราการป่วยและตายจากโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการรักษาสุขภาพของประชาชน
๓. ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของกลุ่มหญิงอายุ ๓๐-๖๐ ปี
๔. เป็นการแสดงบทบาทการเอาใจใส่สุขภาพของประชาชนของ อสม. และร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐในระดับพื้นที่