กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

3. สถานการณ์

ประเทศไทยเข้าสู่ “สังคมสูงอายุ” (Aged Society) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 กล่าวคือ มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของประชากรทั้งประเทศ และเพิ่มเป็นร้อยละ 15 ของ ประชากรทั้งประเทศเมื่อสิ้นปี พ.ศ. 2558 ที่ผ่านมา และคาดว่าประเทศไทยจะมีประชากรสูงอายุถึงร้อยละ 20 ใน พ.ศ. 2564 กลายเป็น “สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์” (Complete aged society) จากการสำรวจของกรมอนามัย (2556) พบว่าผู้สูงอายุร้อยละ 95 เจ็บป่วยด้วยโรคใดโรคหนึ่ง ส่วนใหญ่เป็นโรคเรื้อรังซึ่งจะนำไปสู่ภาวะทุพพลภาพและพึ่งพิง และมีผู้ป่วยติดเตียงร้อยละ 1 นอกจากนั้นยังพบว่าผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงระดับสูงแต่ต้องดูแลตนเองหรือไม่มีคนดูแลถึงร้อยละ 13 ในกลุ่มเดียวกัน รัฐบาลจึงให้ความสำคัญในการดำเนินการเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ มีเป้าหมายสำคัญที่จะป้องกันไม่ให้ผู้สูงอายุที่ยังแข็งแรงมีการเจ็บป่วยจนต้องอยู่ในภาวะพึ่งพิง และหากผู้สูงอายุอยู่ในภาวะพึ่งพิงจะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม กระทรวงมหาดไทยได้ขับเคลื่อนโครงการอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่นเพื่อดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการตามแนวทางที่เกี่ยวข้อง ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลริโก๋ได้ดำเนินการตามแนวทางและเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ของอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น เพื่อดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงด้านสุขภาพพื้นฐาน การฟื้นฟูสมรรถภาพและกายภาพ ซึ่งตำบลริโก๋มีประชากรทั้งหมด 7,021 คน มีผู้สูงอายุที่มีติดบ้านติดเตียง จำนวน 7 คน ซึ่งผู้สูงอายุเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลช่วยเหลือทั้งด้านบริการสาธารณสุขและด้านสังคม โดยเฉพาะกลุ่มติดเตียงถึงแม้จะมีคนในครอบครัวดูแล แต่ก็เป็นภาระของผู้ดูแลไม่น้อย องค์การบริหารส่วนตำบลริโก๋ตระหนักถึงเรื่องดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการอาสาบริบาลท้องถิ่นห่วงใยใส่ใจผู้มีภาวะพึ่งพิง เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่นตำบลริโก๋ และให้ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลริโก๋มีคุณภาพชีวิตที่ดี และลดภาระครอบครัว