แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลเชิงแส
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลเชิงแส
อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ม.2 ตำบลเชิงแส
1.นางสุณี บุระไพโรจน์
2.นางจำนงค์ หอยหวาน
3.นางอุไรวรรณ สละจิต
4.นายจรูญ ดำคง
5.นางอำพร สวยงาม
หมู่ที่ 2 ตำบลเชิงแส
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
ปัจจุบันสภาพแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงทำให้วิถีชีวิตและพฤติกรรม การบริโภคไม่เหมาะสม จากการรับประทานรสจัด รวมทั้งการรับประทานผักผลไม้ที่ไม่เพียงพอ และมีภาวะเครียด การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ และการออกกำลังกายไม่เพียงพอ ทำให้จำนวนผู้ป่วยเรื้อรังมีแนวโน้มสูงขึ้น อย่างน่าเป็นห่วง ซึ่งโรคเรื้อรังไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคและไม่สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้ แต่โรคเรื้อรังเหล่านี้เกิดจากนิสัยหรือพฤติกรรมการดำเนินชีวิต ซึ่งพัฒนาการของโรคจะดำเนินไปอย่างช้า ๆ แต่ค่อย ๆ สะสมอาการ อย่างต่อเนื่อง และเมื่อมีอาการของโรคเกิดขึ้นแล้ว ก็มักจะเกิดการเรื้อรังของโรคด้วย โรคที่ถูกจัดว่าเป็นโรคติดต่อเรื้อรัง ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคมะเร็ง โรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง โรคเหล่านี้เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงถือว่าเป็นภัยเงียบ โดยผลกระทบของโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนส่งผลให้เกิดความทุพพลภาพและเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ตลอดจนการนำไปสู่โรคแทรกซ้อนที่สำคัญ เช่น จอประสาทตาเสื่อม โรคไตเรื้อรังโรคหัวใจและหลอดเลือด บาดแผลเรื้อรัง การตัดแขนขา เป็นต้น โรคเหล่านี้ทั้งยังส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยตลอดจนค่ารักษาพยาบาล
จากข้อมูล ศูนย์สุขภาพชุมชนตำบลเชิงแส โรงพยาบาลกระแสสินธุ์ พบว่า ผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง ตำบลเชิงแส มีประชากรอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป จำนวน 1,312ราย พบว่าป่วยเป็นโรคเบาหวาน จำนวน 222 ราย เพศชาย 76 ราย คิดเป็นร้อยละ 34.23 เพศหญิง 146 รายคิดเป็นร้อยละ 65.77 มีผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง 501 ราย เพศชาย 189 ราย คิดเป็นร้อยละ 37.72 เพศหญิง 312 ราย คิดเป็นร้อยละ 62.28 (ข้อมูล ณ วันที่ 17 ส.ค.65) สำหรับในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลเชิงแส มีประชากรอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป จำนวน 295 ราย พบว่ามีจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวาน จำนวน 44 ราย เพศชาย 21ราย คิดเป็นร้อยละ 47.73 เพศหญิง 23 ราย คิดเป็นร้อยละ 52.27 มีผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง 109 ราย เพศชาย 47 ราย คิดเป็นร้อยละ 43.12 เพศหญิง 62 ราย คิดเป็นร้อยละ 56.88 (ข้อมูล ณ วันที่ 17 ส.ค.65) จะเห็นได้ว่าอัตราการป่วยด้วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง มีอัตราที่สูงเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรกลุ่มเป้าหมาย จึงเห็นสมควรที่ทุกฝ่ายควรให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าว
สาธารณสุขมูลฐาน ม.2 ตำบลเชิงแส ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาสาธารณสุขที่เกิดขึ้น จึงได้จัดทำโครงการคัดกรอง ป้องกัน และแก้ไขปัญหาโรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง หมู่ที่ 2 ตำบลเชิงแสเพื่อให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับการตรวจคัดกรองโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง พร้อมทั้งสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพตนเองได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เพื่อเป็นการลดอัตราการป่วย อัตราการตาย และภาวะแทรกซ้อนจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังดังกล่าว ตลอดจนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปฏิบัติตนในการดูแลตนเองให้ถูกต้อง รวมถึงการส่งเสริมการมีสุขภาวะที่ดีของคนในชุมชน ต่อไป
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 01/10/2022
กำหนดเสร็จ 30/09/2023
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
ทุกรายการสามารถถั่วเฉลี่ยจ่ายกันได้
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1. ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานและประชาชนกลุ่มเสี่ยงมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน สามารถปฏิบัติได้อย่างเหมาะสมในการป้องกันรักษาโรค
2. ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้องและต่อเนื่อง
3. ประชาชน กลุ่มเสี่ยงได้รับการคัดกรองโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานอย่างมีประสิทธิภาพ
4. อัตราการป่วย อัตราการตาย และภาวะแทรกซ้อนจากโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวานลดลง