แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลคลองขุด
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลคลองขุด
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคลองขุด (สาขา)
นางสาวบุปผา พนมคุณ
ศาลาเอนกประสงค์ หมู่ที่ 7 ตำบลคลองขุด อำเภอเมือง จังหวัดสตูล
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
จากสถิติ ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคลองขุด (สาขา) ตำบลคลองขุดอำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูลพบว่ามีผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านม เป็นจำนวนมากและมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก ซึ่งถ้าเราตรวจค้นพบในระยะแรกก็สามารถทำการรักษาให้หายได้
ดังนั้นทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคลองขุด (สาขา) อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล จึงได้จัดทำโครงการสตรีร่วมใจต้านภัยมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมขึ้น เพื่อให้กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเสี่ยงได้มีความรู้ ความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญในการตรวจมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมอีกทั้งได้รับการรักษาในระยะก่อนเป็นมะเร็งเพื่อป้องกันการเกิดมะเร็งในสตรี
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 08/11/2022
กำหนดเสร็จ 31/12/2022
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1.ร้อยละ 100 ของประชากรกลุ่มเป้าหมายมีความรู้เกี่ยวกับการป้องกันภาวะเสี่ยงและสามารถปฏิบัติตนเพื่อลดภาวะเสี่ยงในการเกิดโรคได้อย่างถูกต้อง
2.ร้อยละ 100 ของผู้ป่วยรายใหม่ได้รับการส่งต่อและรักษาตามมาตรฐาน
3.ร้อยละ 100 ของกลุ่มเสี่ยงลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม
4.ร้อยละ 100 กลุ่มสตรีสามารถเผยแพร่ความรู้และทักษะในการตรวจเต้านมด้วยตนเองแก่ผู้อื่นได้