แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ตำมะลัง
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ตำมะลัง
ชมรมอสม.ตำบลตำมะลัง ม.2
1.นางเนตรนภา ไมตรี
2.นางสาววิณา จางวาง
3.นางสาวศศิธร ยาวาหาบ
4.นางสาววนิดา ปุนยัง
5.นางสาวกูมารีย๊ะ หลงกูนัน
ตำบลตำมะลัง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
โรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เป็นโรคที่มีอุบัติการณ์เกิดสูงสุดจากรายงานเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรค ยังมีข่าวจากสื่อต่างๆ ไข้หวัดนก ไข้หวัดใหญ่ รวมทั้งโรคไวรัสโคโรน่า19 โดยเฉพาะพื้นที่เกาะ/ทะเลพบว่าโรคระบบทางเดินหายใจ พบได้มากตลอดทั้งปี สภาพภูมิอากาศ และสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม ยิ่งส่งผลกระทบต่อสภาวะจิตใจของประชาชน เกิดการสูญเสียทางด้านสุขภาพ ด้านเศรษฐกิจ ต้องเสียค่าพยาบาล เสียเวลาในการประกอบอาชีพและอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้
ทั้งนี้ทาง ชมรม อสม.ต.ตำมะลัง ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ จึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้นมาให้ได้ความรู้และนำไปถ่ายทอดให้ประชาชน เฝ้าระวังและมีความรู้ และสามารถป้องกัน โรคติดเชื้อทางเดินหายใจให้กับตนเองในเบื้องต้น
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 17/02/2023
กำหนดเสร็จ 31/08/2023
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1.แกนนำมีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถป้องกันตนเองจากโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ
2. แกนนำสามารถนำความรู้ที่มีไปประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนในชุมชนได้
3. ทำให้แกนนำและปรชาชนมีวิธีการป้องกันตนเองอย่างถูกวิธี
4. ทำให้อัตราการเกิดโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจลดลง