แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.คอลอตันหยง
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล อบต.คอลอตันหยง
แกนนำอาสาสมัครสาธารณสุขบ้านโคกโตนด
1.นางสาวปาตีเม๊าะ ระโอะ 2.นางตุแวแย ตุแวตอซอ 3.นางสาวราชาวดี อาแวกะจิ 4.นางสาวปัทมาฮ์กีแย และ 5.นางสาวสุไรยา หะยีเจ๊ะมะ
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
ผู้สูงอายุหรือคนชรา ตามคำจำกัดความขององค์การอนามัยโลก หมายถึงคนที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไปทั้งเพศหญิงและเพศชายและผู้พิการ หมายถึง บุคคลซึ่งมีความสามารถถูกจำกัดให้ปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวัน และการมีส่วนร่วมทางสังคมได้โดยวิธีการทั่วไป เนื่องจากมีความบกพร่องทางการมองเห็น การได้ยิน การเคลื่อนไหว การสื่อสาร จิตใจ อารมณ์ พฤติกรรม สติปัญญาและการเรียนรู้ และมีความต้องการจำเป็นพิเศษด้านต่าง ๆ เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตและมีส่วนร่วมในสังคมได้อย่างบุคคลทั่วไป" ปัจจุบันประเทศต่างๆทั่วโลกมีอัตราการเพิ่มจำนวนของผู้สูงอายุและผู้พิการมากขึ้นเรื่อย ๆทุกปีเหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากความเจริญก้าวหน้าทางการแพทย์และการพัฒนางานด้านสาธารณสุขทำให้สุขภาพอนามัยของประชาชนดีขึ้นและมีอายุยืนยาวทำให้ผู้สูงอายุในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ผู้สูงอายุถือได้ว่าเป็นทรัพยากรของชาติที่มีคุณค่าทุกคนควรให้ความรักเคารพและดูแลเอาใจใส่เนื่องจากเป็นผู้ที่สร้างประโยชน์แก่ประเทศชาติมาก่อนสามารถถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ และวัฒนธรรมอันดีไปสู่ลูกหลาน แต่ปัจจุบันผู้สูงอายุและผู้พิการถูกทอดทิ้งจากบุตรหลานมากขึ้นทำกิจวัตรและดูแลตัวเองในเรื่องของความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันมากขึ้นฉะนั้นผู้สูงอายุและผู้พิการควรต้องได้รับความรู้ในเรื่อง การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ การออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพปากและฟัน การป้องกันอุบัติเหตุเหล่านี้เป็นต้นเพื่อที่จะสามารถดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองได้ทำให้เกิดปัญหาได้น้อยที่สุดและส่งผลให้จิตใจสดชื่น แจ่มใส ช่วยให้คนรอบข้างหรือครอบครัวทั้งสังคมมีความสุขด้วยและครอบครัวเป็นสถาบันที่เล็กที่สุดแต่มีความสำคัญที่สุด ถ้าครอบครัวให้ความสำคัญและเล็งเห็นความสำคัญของผู้สูงอายุด้วยแล้วครอบครัวและสังคมไทยจะมีความสุขและทุกคนมีสุขภาพจิตที่ดีส่งผลให้ร่างกายดีตามมาเพื่อเป็นการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ ผู้พิการและส่งเสริมสถาบันครอบครัวดังกล่าวจึงได้ทำโครงการนี้ขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุและผู้พิการให้สามารถดูแลตัวเองได้โดยไม่เป็นภาระแก่ลูกหลาน
จากการเก็บรวบรวมข้อมูลของกลุ่มแกนนำอาสาสมัครประจำหมู่บ้านโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโคกโตนดพบว่า จำนวนผู้สูงอายุในพื้นที่ทั้งหมดมีจำนวน 229 คน แบ่งเป็น จำนวนบุคคลที่มีภาวะพึ่งพิง (AdlS6) ที่จำเป็นต้องใช้ผ้าอ้อมผู้ใหญ่มีจำนวน 3 คน แยกตามหมู่บ้านได้ดังนี้ หมู่ที่ 7 บ้านแม่โอน จำนวน 1 คน หมู่ 8 บ้านบาโงแนแต จำนวน 2 คน และติดบ้านจำนวน 16 คน ผู้พิการ จำนวน 31 คน
จากข้อมูลข้างต้นแกนนำอาสาสมัครสาธารณสุขบ้านโคกโตนดจึงจัดโครงการส่งเสริมสุขภาพผู้พิการและผู้สูงอายุ บ้านโคกโตนด ตำบลคอลอตันหยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานีขึ้น เพื่อให้คำปรึกษา คำแนะนำด้านสุขภาพแก่ผู้สูงอายุในชุมชน รวมทั้งได้ดำเนินการจัดกิจกรรมนันทนาการ เพื่อเสริมสร้าง
พลานามัย และบริการตรวจสุขภาพเบื้องต้น เพื่อทราบภาวะสุขภาพตนเอง และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่ไม่พึงประสงค์ พึ่งพาตนเองให้นานที่สุด อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 01/05/2023
กำหนดเสร็จ 30/09/2023
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1. ผู้พิการและผู้สูงอายุมีความรู้ความเข้าใจด้านสุขภาพส่งเสริมการดูแลสุขภาพกายและจิตใจ
2. ผู้พิการและผู้สูงอายุสามารถดูแลสุขภาพของตนเองเบื้องต้นได้และพึ่งผู้อื่นให้น้อยที่สุด
3. ผู้พิการและผู้สูงอายุยอมรับการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย จิตใจ สนใจบุคคลอื่นและสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น