กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.มาโมง

1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม

โครงการหนูน้อยปฐมวัยสวมหมวกนิรภัยมีวินัยจราจร

ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา

กองทุนสุขภาพตำบล อบต.มาโมง

ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนนิคมพัฒนา4

ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนนิคมพัฒนา4

2. ความสอดคล้องกับแผนงาน

แผนงานความปลอดภัยทางถนน

3. สถานการณ์

สถานการณ์ปัญหาขนาด

หลายประเทศทั่วโลกกำลังประสบปัญหาการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตขณะขับขี่ยานพาหนะสองล้อ เช่น รถจักรยาน และจักรยานยนต์ และการเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสส่วนใหญ่มาจาก อาการบาดเจ็บที่ศีรษะ ซึ่งหมวกนิรภัยมีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงที่จะบาดเจ็บที่ ศีรษะและ ลดอาการรุนแรงของอาการบาดเจ็บลงได้การส่งเสริมให้ผู้ขับขี่มีวินัยและสวมหมวกนิรภัยมากขึ้น จึงเป็นวิธีการสำคัญ ในการเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน และเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการลดการเสียชีวิตและการบาดเจ็บที่ศีรษะอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัยมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะหรือเสียชีวิตจากการบาดเจ็บประเภทนี้ นอกจากนี้ผู้ขับขี่ที่ไม่สวม หมวกนิรภัยยังเพิ่มภาระให้แก่โรงพยาบาลที่รับตัวเข้ารักษา เป็นภาระแก่บุคคล ครอบครัว (หรือผู้ดูแล) และสังคม หากต้องกลายเป็นคนพิการ สาเหตุการชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไทย 99% เกิดจากการไม่สวมหมวกนิรภัย โดยรายงานของสมาคมส่งเสริมความปลอดภัยและอนามัยในการทำงาน (ประเทศไทย) ยังเผยว่า มีเด็กไทยเพียง 7% เท่านั้นที่ใส่หมวกนิรภัยระหว่างการเดินทาง ซึ่งอัตราการใช้หมวกนิรภัยจำนวนน้อยนี่เอง สะท้อนให้เห็นถึงความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่าภัยอันตรายรอบตัวนั้นสามารถเกิดขึ้นได้แบบไม่คาดฝัน และเป็นเรื่องที่น่ากังวลที่พ่อแม่และผู้ปกครองหลายๆ คนไม่ตระหนักถึงความสำคัญในการให้บุตรหลานสวมใส่หมวกนิรภัยขณะเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ แล้วก็ยังมีอีกหลายครอบครัวที่แม้จะสวมหมวกนิรภัยให้เด็ก แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกใช้หมวกนิรภัยที่มีคุณภาพ มีขนาดพอดีกับศีรษะเด็ก และจะสวมใส่หมวกนิรภัยให้เด็กอย่างถูกวิธีได้อย่างไร และพฤติกรรมการขับขี่ที่ประมาท ขาดความระมัดระวัง ชะล่าใจ ขับขี่ด้วยความเร็ว การฝ่าสัญญาณไฟ การขับขี่ในช่องจราจรที่ไม่ถูกต้อง การเปลี่ยนช่องทางจราจรโดยไม่เปิดสัญญาณไฟ เนื่องจากอาจเข้าใจว่าเป็นพื้นที่ที่การจราจรไม่ได้หนาแน่นเหมือนในเมือง เป็นต้น ด้วยเหตุนี้การรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยและได้มาตรฐาน รวมถึงการเรียนรู้วิธีการใช้ถนนอย่างถูกต้อง จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการป้องกันและสร้างความตระหนักถึงความปลอดภัยบนท้องถนน เพื่อลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุ ดังนั้น เพื่อกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมที่ถูกต้องในการใช้ถนน การสร้างความรู้ความเข้าใจแก่เด็ก พ่อแม่และผู้ปกครอง ให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้หมวกนิรภัย พร้อมอบรมวินัยจราจร ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมากในการช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุและจำนวนตัวเลขผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่ถือเป็นอนาคตของชาติ
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนนิคมพัฒนา 4ตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนของเด็กปฐมวัย จึงได้จัดทำ โครงการหนูน้อยปฐมวัยสวมหมวกนิรภัยมีวินัยจราจร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ขึ้น โดยการจัดอบรมให้ความรู้ด้านความปลอดภัยทางท้องถนนและการสาธิตการใช้หมวกนิรภัยอย่างถูกวิธีให้กับครู เด็กปฐมวัยและผู้ปกครอง โดยเน้นให้เด็กๆ เป็นศูนย์กลาง ส่วนครูและผู้ปกครองจะทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลและให้ความรู้ที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เด็กๆ ได้เดินทางไปกลับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กได้อย่างปลอดภัย และหวังจะลดจำนวนการบาดเจ็บและเสียชีวิตของเด็กไทยจากอุบัติเหตุทางถนน

ระบุสถานการณ์ หลักการและเหตุผล หรือ ที่มาของการทำโครงการ เพิ่มเติม

4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด

  • บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
  • ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
วัตถุประสงค์ / ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดเป้าหมาย 1 ปี

1. เพื่อส่งเสริมสุขภาพอนามัยเด็กปฐมวัยให้สมบูรณ์ แข็งแรง มีพัฒนาการครบถ้วนทุกด้านอย่างเหมาะสม ตามวัย
2. เพื่อให้เด็กปฐมวัย ครูและผู้ปกครองมีความรู้ ความเข้าใจและตระหนักถึงความปลอดภัยทางถนนและกระตุ้นให้ครูและผู้ปกครองเห็นความสำคัญของการใส่หมวกนิรภัยให้กับ เด็กเล็ก
3. สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในการใส่หมวกนิรภัยและมีวินัยจราจรในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนนิคมพัฒนา 4
4. เพื่อส่งเสริมนโยบายรัฐในการรณรงค์ให้พื้นที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเป็นพื้นที่ปลอดภัยทางถนนด้วยการสวมหมวกนิรภัย 100%

5. กลุ่มเป้าหมาย

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน 30
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
กลุ่มวัยทำงาน 52
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]

6. ระยะเวลาดำเนินงาน

วันเริ่มต้น 01/08/2023

กำหนดเสร็จ 30/09/2023

7. วิธีการดำเนินงาน

  • กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
  • งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด

กิจกรรมที่ 1 โครงการหนูน้อยปฐมวัยสวมหมวกนิรภัยมีวินัยจราจร

ชื่อกิจกรรม
โครงการหนูน้อยปฐมวัยสวมหมวกนิรภัยมีวินัยจราจร
รายละเอียดกิจกรรม/งบประมาณ/อื่นๆ

1.จัดทำโครงการเพื่อเสนอความเห็นชอบและขอรับอนุมัติ     2.ประชุมคณะทำงาน เพื่อกำหนอแนวทางแผนการดำเนินงาน     3.จัดเตรียมข้อมูล สื่อ วัสดุ-อุปกรณ์ต่างๆ สถานที่และประสานวิทยากรในการจัดฝึกอบรมโครงการ     4.จัดอบรมโครงการหนูน้อยปฐมวัยสวมหมวกนิรภัยมีวินัยจราจร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566     5.สรุป ประเมินผลโครงการ     6.รายงาน ผลการดำเนินการตามโครงการ

ระยะเวลาดำเนินงาน
1 สิงหาคม 2566 ถึง 30 กันยายน 2566
ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)

จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด82 คน - เด็กปฐมวัยศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนนิคมพัฒนา 4 จำนวน 30คน - ผู้ปกครอง จำนวน 30คน
- ครู/ผู้ดูแลจำนวน3คน - กรรมการสถานศึกษาจำนวน 10คน - เจ้าหน้าที่ อบต.จำนวน 8คน - วิทยากร จำนวน 1คน

จำนวนเงินงบประมาณของกิจกรรม (บาท)
27590.00

งบประมาณโครงการ

จำนวนงบประมาณที่ต้องการสนับสนุน จำนวน 27,590.00 บาท

หมายเหตุ :
ค่าใช้จ่ายโครงการหนูน้อยปฐมวัยสวมหมวกนิรภัยมีวินัยจราจร ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนนิคมพัฒนา 4
1.จัดซื้อสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ป้องกันภัย
-ค่าจัดซื้อหมวกนิรภัยเด็กเล็ก 2-4 ปีเป็นเงิน 7,500.- บาท
(จำนวน 30 ใบๆละ 250.- บาท)
-ค่าจัดซื้อหมวกนิรภัย ผู้ปกครองเป็นเงิน 8,400.- บาท
(จำนวน 30 ใบๆละ 280.- บาท)
2.ค่าอาหารกลางวันสำหรับกลุ่มเป้าหมายและผู้ดำเนินงาน เป็นเงิน3,120.- บาท
( จำนวน52 คน ๆ ละ 60 บาท)
3.อาหารว่างและเครื่องดื่มสำหรับกลุ่มเป้าหมายและผู้ดำเนินงานเป็นเงิน2,870.- บาท
( จำนวน82 คนๆ 1 มื้อๆละ 35 บาท)
3.จัดจ้างทำสื่อประชาสัมพันธ์และให้ความรู้ในการรณรงค์
- ป้ายโครงการขนาด 1x3 เมตรเป็นเงิน 750.- บาท
- ป้ายรณรงค์โครงการขนาด 1x3 เมตร เป็นเงิน 750.- บาท
- ค่าจัดทำสติกเกอร์รณรงค์สวมหมวกนิรภัย (60 คนๆละx10.-บาท) เป็นเงิน 600.- บาท
- ค่าวิทยากร(6 ชั่วโมงละๆ600.-บาทx1 คน)เป็นเงิน 3,600.- บาท
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น27,590.-บาท(สองหมื่นเจ็ดพันห้าร้อยเก้าสิบบาทถ้วน)

8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง

ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?

1.เด็กปฐมวัยได้รับการส่งเสริมสุขภาพและพัฒนาการครบถ้วนทุกด้าน
2. เด็กปฐมวัยได้รับความรู้และการฝึกทักษะการขับขี่ปลอดภัยและการสวมหมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐานเพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากการขับขี่
3. ครู ผู้ปกครองและชุมชนมีส่วนร่วมรณรงค์ในการสร้างวัฒนธรรมการสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งเมื่อขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการบาดเจ็บรุนแรงจากอุบัติเหตุทางถนน
4. สนับสนุนให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนนิคมพัฒนา 4 เป็นพื้นที่ปลอดภัยทางถนนและสวมหมวกนิรภัย 100% และพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ปลูกฝังวินัยจราจรและการขับขี่ปลอดภัยสำหรับเด็กปฐมวัย


>