แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเบตง
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเบตง
โรงเรียนเทศบาล 2 (บ้านกาแป๊ะกอตอ)
โรงเรียนเทศบาล 2 (บ้านกาแป๊ะกอตอ)
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
พืชสมุนไพรเป็นสิ่งที่อยู่คู่คนไทยมานับพันปีแต่เมื่อการแผนปัจจุบันเริ่มเข้ามามีบทบาทในบ้านเราสรรพคุณและคุณค่าของสมุนไพรไทยอันเป็นสิ่งที่เรียกได้ว่า ภูมิปัญญาโบราณก็เริ่มถูกบดบังไปเรื่อย ๆ และถูกทอดทิ้งไปในที่สุดซึ่งความเป็นจริงคนส่วนใหญ่ก็พอรู้กันว่า สมุนไพรไทยเป็นสิ่งที่มีคุณค่าใช้ประโยชน์ได้จริง และใช้ได้อย่างกว้างขวางแต่เป็นเพราะเราใช้วิธีรักษาโรคแผนใหม่มานานมากจนวิชาการแพทย์แผนโบราณที่มีสมุนไพรเป็นยาหลักถูกลืมจนต่อไม่ติด ทำให้เยาวชนรุ่นหลัง ๆ รู้จักสมุนไพรไทยได้น้อยมากและแทบจะไม่รู้จักเลยทั้ง ๆ ที่สมุนไพรเหล่านั้นอยู่ใกล้ ๆ ตัวเราเอง โรงเรียนเทศบาล 2 (บ้านกาแป๊ะกอตอ) เห็นความสำคัญของการสืบสานภูมิปัญญาไทยไม่ให้สูญหาย และเพื่อให้นักเรียน มีการส่งเสริมการนำสมุนไพรและใช้สมุนไพรในพื้นที่บริเวณรอบตัว นำมาทำผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพ เช่น การทำยาหม่องการทำน้ำมันไพล การทำลูกประคบ การทำสมุนไพรอบตัวเพื่อสุขภาพ บำบัดโรค บำรุงร่างกาย บำรุงโลหิต บำรุงประสาท สมุนไพรแต่ละชนิด มีคุณค่าและสรรพคุณในตัวเอง แตกต่างกันไป เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการเกิดโรคต่างๆ เพื่อดูแลสุขภาพของตนเองได้
สถานการณ์การใช้บริการการแพทย์แผนไทยปี พ.ศ.2552, 2554 และ 2556 โดย รัชนี จันทร์เกษและคณะ เผยแพร่ในวารสารวิจัยระบบสาธารณสุขฉบับเมษายน-มิถุนายน 2559 ประชากรไทยที่เจ็บป่วยส่วนใหญ่เลือกไปรักษาที่สถานพยาบาลภาครัฐ การไปหาหมอพื้นบ้าน/หมอแผนโบราณ หรือหมอนวดไทยมีค่อนข้างน้อย ไม่ถึงร้อยละ 2 ของประชากรที่เจ็บป่วย การรักษา ด้วยยาสมุนไพรในภาพรวมมีแนวโน้มลดลง โดยพบว่ากลุ่มอายุ 25-59 ปีที่เจ็บป่วยมีการใช้ยาแผนโบราณ หรือยาสมุนไพรระหว่างร้อยละ 51.0-60.3 ของประชากรที่เจ็บป่วยทั้งหมดที่น่าสนใจคือโรคปวดหลังและปวดกล้ามเนื้อต่างๆ เป็นกลุ่มอาการที่พบมากเป็นอันดับสอง แต่กลับมีการใช้ยาแผนโบราณหรือสมุนไพรเป็นอันดับหนึ่ง คิดเป็นร้อยละ 27.3 33.4 และ 31.1 ของประชากรที่ใช้ยาแผนโบราณหรือสมุนไพรในปี พ.ศ.2552, 2554 และ 2556 ตามลำดับ
ดังนั้น โรงเรียนเทศบาล 2 (บ้านกาแป๊ะกอตอ) จึงได้เสนอโครงการแปรรูปสมุนไพรไทย เพื่อสุขภาพขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการเกิดโรคต่างๆ เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพรที่แปรรูปขึ้นมา เช่น น้ำมันไพล ยาหม่อง ลูกประคบ สมุนไพรรอบตัว น้ำสมุนไพรไทย ป้องกันรักษาโรคตามสรรพคุณของสมุนไพร เป็นการให้ความรู้ ความเข้าใจถึงคุณค่าพร้อมสรรพคุณของสมุนไพรแต่ละชนิดในการป้องกันรักษาโรค เพื่อสู้ภัยโรค ลดการใช้สารเคมีในการปลูกพืชในโรงเรียน ครัวเรือน ดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างปกติสุข และยังเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชน ทั้งในกลุ่มเด็กวัยเรียน เยาวชน รวมถึงวัยทำงาน หันมาใช้พืชสมุนไพรที่มีอยู่รอบๆบ้านหรือในชุมชนในการดูแลสุขภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ขอรับรองว่าโครงการนี้ไม่ได้ซ้ำซ้อนกับงบประมาณที่ได้รับจากแหล่งอื่น มีความสอดคล้องกับแผนสุขภาพชุมชน และเทศบาลเมืองเบตงได้รับทราบถึงกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และวิธีการดำเนินงานตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติฯ พ.ศ.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 01/09/2023
กำหนดเสร็จ 29/12/2023
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1. ร้อยละ 80 ผู้เข้าร่วมโครงการฯ มีความรู้ ความเข้าใจในสรรพคุณในการรักษา ป้องกัน โรคต่างๆเบื้องต้น สามารถแปรรูปสมุนไพรรอบตัว รอบรั้ว รอบโรงเรียน
2. ร้อยละ 80 ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ลดความเสี่ยงในการใช้สารเคมีเพื่อให้พืชผักสมุนไพรไว้รับประทานและนำมาแปรรูปผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในการรักษาพยาบาลระดับเบื้องต้น
3. ร้อยละ 80 ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ดูแลรักษาสุขภาพของตนเองโดยใช้พืชผักสมุนไพรได้ถูกต้อง