กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.จำป่าหวาย

1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม

โครงการบูรณาการลดปัจจัยเสี่ยงจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสิ่งเสพติด

ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา

กองทุนสุขภาพตำบล อบต.จำป่าหวาย

เครือข่ายลดปัจจัยเสี่ยงสุขภาพตำบลจำป่าหวาย

1.พระครูสุวรรณปัญญาลังการ
2.นางลออมหาวรรณศรี
3.นางวลัยรัตน์ รำไพ
4.นางแก้ว เจริญ
5.นางสาวบัวลองปัญญา

หมู่ที่ 1-13 ตำบลจำป่าหวาย

2. ความสอดคล้องกับแผนงาน

แผนงานสุรา , แผนงานยาสูบ , แผนงานสิ่งเสพติด

3. สถานการณ์

สถานการณ์ปัญหาขนาด
1 จำนวนร้านค้าที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายในการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในชุมชน

 

33.33
2 จำนวนกลุ่มหรือเครือข่ายเพื่อควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในชุมชน

 

7.69
3 ร้อยละของหมู่บ้านหรือชุมชนที่มีและใช้มาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในชุมชน

 

0.00
4 ร้อยละของการสูบยาสูบของผู้ใหญ่ อายุ 25 ปีขึ้นไปในชุมชน

 

20.55
5 จำนวนร้านค้าที่ขายผลิตภัณฑ์ยาสูบในชุมชนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย (รวมทั้งร้านสะดวกซื้อ)

 

7.69

องค์การอนามัยโลกกำหนดให้การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัญหาเร่งด่วนอันดับที่ 2 เป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆมากกว่า 200 ชนิด และการเสียชีวิตของประชากรโลกมากกว่า 3.3 ล้านคนต่อปี สถานการณ์การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากรายงานประจำขององค์การอนามัยโลกปี 2014 ระบุว่า ประเทศไทยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเป็นอันดับที่ 78 ของโลก เฉลี่ย 7.1 ลิตรต่อคน คิดเป็นค่าใช้จ่ายค่าสุราคนละ 509 บาทต่อวัน หรือประมาณ 6,108 บาทต่อปี มีปริมาณการดื่มต่อนักดื่ม 23.8 ต่อลิตรต่อคนต่อปีและมีความชุกผู้ที่มีภาวะจากการดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 4.9 สูงที่สุดในอาเซียน อีกทั้งยังเป็นพฤติกรรมเสี่ยง การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีผลกระทบต่อสุขภาพผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพิ่มโอกาสในการเกิดโรคและการบาดเจ็บมากกว่า200 ชนิด มีโอกาสป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวเนื่องกับการดื่มแอลกอฮอล์มากกว่าผู้ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 216 เท่าทำให้เกิดโรคมากกว่า 60 โรค และจากการรายงานภาระโรคและการบาดเจ็บของประชากรไทยปี2556 พบว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการสูญเสียปีสุขภาวะในประชากรชายโดยสูงถึงห้าแสน ห้าหมื่นปีหรือร้อยละ 8.8
ผลกระทบจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อให้เกิดผลกระทบในหลากหลายมิติทั้งที่เกิดขึ้นกับตนเองและผู้อื่น ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อตนเองหรือผลกระทบทางตรงต่อสุขภาพ เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุจราจร การเกิดอุบัติเหตุจราจรมีความสัมพันธ์กับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยความสัมพันธ์ในลักษณะที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นตามปริมาณการดื่มก่อนขับขี่ โดยสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุจราจรมากที่สุดคือเมาแล้วขับ และเป็นเหตุที่ทำให้เสียชีวิตลำดับที่สอง ผลกระทบแบบเรื้อรังหรือระยะยาว ได้แก่ภาวการณ์เกิดพิษเฉียบพลัน ระบบทางเดินอาหาร มะเร็ง โรคทางจิตและประสาทและโรคอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยความรุนแรงของโรค มีความสัมพันธ์กับปริมาณการดื่มที่มากขึ้นผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อผู้อื่นซึ่งเป็นหลักการสำคัญลำดับต้นๆในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คือผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนในครอบครัวของผู้ดื่ม พฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของบุคคลในครอบครัว เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการดื่มของบุคคลอื่นที่เป็นสมาชิกในครอบครัวอีกทั้งยังเป็นผลให้เกิดการส่งผ่านพฤติกรรมการดื่มจากรุ่นสู่รุ่น (intergenerational transmission) นอกจากนี้ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังเป็นปัจจัยที่สัมพันธ์กับการทารุณกรรมต่อเด็กในครอบครัวทางร่างกายร้อยละ 18.1 และทางจิตใจ ร้อยละ9.2 ส่งผลต่อความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานก่อให้เกิดความรุนแรงในสถานที่ปฏิบัติงาน อาทิเช่น การคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศ ยังพบว่าผู้ที่ดื่มในระดับอันตรายมากจะสูญเสียผลิตภาพการทำงานมากที่สุด ร้อยละ 13.9 หรือคิดเป็นการขาดงาน 30 วันต่อปี (10) ในส่วนผลกระทบต่อชุมชนหรือสาธารณะ ได้แก่ การกระทำความผิดทางอาญา การดื่มสุราเป็นปัจจัยที่สัมพันธ์กับการกระทำผิดคดีอาญาต่างๆ อาทิเช่น ทำให้เสียทรัพย์ ร้อยละ 59.1 ความผิดเกี่ยวกับเพศ ร้อยละ 34.8 ความผิดต่อร่างกาย ร้อยละ 20.8 ความผิดฐานบุกรุก ร้อยละ 16.1 และความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา ร้อยละ10.5 ความสูญเสียบนท้องถนนเป็นอีกผลกระทบหนึ่ง ผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีทัศนคติหลังการดื่มกับสมรรถภาพในการขับรถ คิดว่าตนเองยังสามารถขับรถได้อย่างปลอดภัย ส่งผลให้เป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุอันดับที่ 1 คือเมาสุรา การดื่มแล้วขับเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุและทำให้มีผู้เสียชีวิตอันดับที่ 1 (4) ผลกระทบต่อครอบครัว การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งและความรุนแรงในครอบครัว พบว่าครอบครัวที่ดื่มสุรามีโอกาสเกิดความรุนแรงในครอบครัว 3.84 เท่า ของครอบครัวที่ไม่ดื่มสุรา (10) ทำให้สัมพันธภาพในครอบครัวไม่ดี บุตรขาดความอบอุ่น ผู้หญิงที่เป็นภรรยาเผชิญกับปัญหาสุขภาพจิต อาจถึงเป็นโรคซึมเศร้าเพราะหัวหน้าครอบครัวติดสุรา (15) ผลกระทบต่อรัฐ ก่อให้เกิดภาระของประเทศในการคอยแบกรับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลการบาดเจ็บจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ค่าใช้จ่ายในการบังคับใช้กฎหมายและการฟ้องร้องคดีความกระบวนยุติธรรม เป็นต้น
สถานการณ์การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายจังหวัดของจังหวัดพะเยา โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2554 ความชุกของนักดื่มในประชากรอายุ 15 ปี ขึ้นไป ร้อยละ 54 สูงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ มีคะแนนดัชนีความเสี่ยงต่อปัญหาแอลกอฮอล์ของจังหวัดสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศเช่นเดียวกัน ในปี 2560 พบความชุกร้อยละ 44 อยู่ในลำดับที่ 3และในปี 2564 พบความชุกร้อยละ 40.7 อยู่ในลำดับที่ 5 ของประเทศ (ข้อมูลจากศูนย์วิจัยปัญหาสุรา,2564)
จากสถานการณ์การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตำบลจำป่าหวาย มีการสำรวจข้อมูลโดยใช้แบบประเมินพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เข้ารับบริการสุขภาพในสถานบริการ(ASSIST) ในประชากร อายุ 15 ปี ขึ้นไป ประชากรที่ได้รับการคัดกรองทั้งหมด จำนวน 1,413 คน ประชากรที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำนวน 791 คน คิดเป็นร้อยละ 55.98 (ข้อมูลจาก HDC(Health Data Center) จังหวัดพะเยา)
ข้อมูลผู้ป่วยที่รับการรักษาพยาบาลจากโรงพยาบาลพะเยา สาเหตุเนื่องจากสุราของตำบลจำป่าหวายที่เข้ารับการรักษาพยาบาลจากกลุ่มงานจิตเวช โรงพยาบาลพะเยา ย้อนหลัง 3 ปี มีแนวโน้มสูงขึ้น ดังข้อมูลตามตารางต่อไปนี้
ตารางที่ 1 แสดงจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา กลุ่มงานจิตเวช โรงพยาบาลพะเยา ปี 2564-2566
ปี พ.ศ. จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ (คน)จำนวนผู้ป่วย(คน) จำนวนที่รับบริการ(ครั้ง) หมายเหตุ
256418 30 131
2565 9 31130
256619 34 92 *พยายามฆ่าตัวตาย 1 ราย เพศชาย
1 ต.ค.-31 ธ.ค.66*** 2037 112
ตารางที่ 1 จากข้อมูลดังกล่าว เห็นได้ว่าจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาสาเหตุเนื่องจากสุรามีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเฉพาะข้อมูลช่วง 1 ตุลาคม–31 ธันวาคม 2566 จำนวนผู้ป่วยรายใหม่สูงกว่าผู้ป่วยตลอดปี ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าข้อมูลจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้นมาจากปัจจัยใดบ้าง
ด้านพฤติกรรมการดื่ม พบว่าในปัจจุบัน ผู้ป่วยมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับสารเสพติดอื่นแบบผสมผสาน ได้แก่ ดื่มเหล้าควบคู่กับการใช้กัญชา กะท่อม สูบบุหรี่(รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้า) ส่งผลให้มีการออกฤทธิ์เร็ว รุนแรง และต้องการเพิ่มปริมาณสูงขึ้น ผลกระทบต่อแต่ละด้านเพิ่มสูงขึ้นตามมาที่เห็นชัดเจนคือผลกระทบในมิติด้านสุขภาพ ด้านสังคม และด้านเศรษฐกิจ
จากความสำคัญของปัญหาดังกล่าว เครือข่ายลดปัจจัยเสี่ยงสุขภาพตำบลจำป่าหวาย จึงได้ประสานงานและร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม องค์การบริหารส่วนตำบลจำป่าหวาย และหน่วยบริการสาธารณสุข (โรงพยาบาลพะเยาและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจำป่าหวาย) จัดทำโครงการบูรณาการลดปัจจัยเสี่ยงจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร่วมสารเสพติดอื่นๆตำบลจำป่าหวายขึ้น

ระบุสถานการณ์ หลักการและเหตุผล หรือ ที่มาของการทำโครงการ เพิ่มเติม

4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด

  • บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
  • ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
วัตถุประสงค์ / ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดเป้าหมาย 1 ปี
1 เพื่อเพิ่มกลุ่มหรือเครือข่ายเพื่อควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในชุมชน

จำนวนกลุ่มหรือเครือข่ายเพื่อควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในชุมชน

7.69 100.00
2 เพื่อลดจำนวนร้านค้าที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายในการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในชุมชน

จำนวนร้านค้าที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายในการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในชุมชน

33.33 100.00

2.1 เพื่อพัฒนาศักยภาพแกนนำชุมชน อสม. ในการดำเนินงานลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร่วม สารเสพติดอื่นๆ
2.2 เพื่อเฝ้าระวังการฆ่าตัวตายโดยค้นหา คัดกรอง ผู้ที่มีพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระดับที่มีความเสี่ยงต่างๆเข้ารับการปรึกษาและส่งต่อหน่วยบริการอย่างเหมาะสม
2.3 เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนมีนโยบายสาธารณะและการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลด ละ เลิกการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสารเสพติดอื่น

5. กลุ่มเป้าหมาย

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
กลุ่มวัยทำงาน
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]

6. ระยะเวลาดำเนินงาน

วันเริ่มต้น 01/05/2024

กำหนดเสร็จ 31/08/2024

7. วิธีการดำเนินงาน

  • กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
  • งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด

กิจกรรมที่ 1 3.1 สำรวจข้อมูลการดื่มเริ่มตั้งแต่กลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไป แหล่งจำหน่าย และจัดประชุมคณะทำงานร่วมกับผู้นำชุมชน อสม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อชี้แจงสร้างความเข้าใจแนวทางในการขับเคลื่อนโครงการ คืนข้อมูลและทำข้อตกลงการขับเคลื่อนงานร่วมกัน (ประกอบด้วย คณะทำงาน

ชื่อกิจกรรม
3.1 สำรวจข้อมูลการดื่มเริ่มตั้งแต่กลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไป แหล่งจำหน่าย และจัดประชุมคณะทำงานร่วมกับผู้นำชุมชน อสม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อชี้แจงสร้างความเข้าใจแนวทางในการขับเคลื่อนโครงการ คืนข้อมูลและทำข้อตกลงการขับเคลื่อนงานร่วมกัน (ประกอบด้วย คณะทำงาน
รายละเอียดกิจกรรม/งบประมาณ/อื่นๆ

8.1 ค่าจัดประชุมคณะทำงานร่วมกับผู้นำชุมชน อสม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อชี้แจงสร้างความเข้าใจแนวทางในการขับเคลื่อนโครงการ(2,260) - ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม จำนวน 66x 1 มื้อ ๆละ 25 บาทเป็นเงิน1,650.- บาท - ค่าป้ายไวนิลโครงการ ขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 3 เมตร ๆละ 120 บาท เป็นเงิน 360.- บาท - ค่ากระดาษเอ4 180 แกรมสำหรับทำบันทึกข้อตกลงฯ 1 ห่อ(50แผ่น)ๆละ 250 บาท
เป็นเงิน 250.- บาท 8.2 ค่าใช้จ่ายกิจกรรมพัฒนาศักยภาพอาสาสร้างสุขภาวะ 1 วัน (12,000) - ค่าอาหารกลางวัน จำนวน 45 คน x 1 มื้อๆละ 50 บาท เป็นเงิน2,250.- บาท - ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม จำนวน 45 คนx 2 มื้อๆละ 25 บาท เป็นเงิน2,250.- บาท - ค่าตอบแทนวิทยากร วันละ 6 ชั่วโมงๆละ 500 บาท เป็นเงิน3,000.- บาท - ค่าวัสดุ(คู่มือ ปากกา แฟ้ม) 45 ชุดๆละ 50 บาท เป็นเงิน4,500.- บาท 8.3 ค่าใช้จ่ายจัดเวทีประชุมประชาคมธรรมนูญตำบลจำนวน 2 ครั้ง(วัน)(12,600) - ค่าอาหารกลางวัน จำนวน 30 คน x 2 มื้อๆละ 50 บาท เป็นเงิน3,000.- บาท - ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม จำนวน 30 คนx 4 มื้อๆละ 25 บาท เป็นเงิน3,000.- บาท - ค่าตอบแทนวิทยากร วันละ 6 ชั่วโมงๆละ 500 บาทx 2 วัน เป็นเงิน6,000.- บาท - ค่าจัดทำเอกสารร่างธรรมนูญตำบล 30 ชุดๆละ 20 บาท เป็นเงิน600.- บาท 8.4 ค่าใช้จ่ายกิจกรรมรณรงค์คนบวชใจงดเหล้าช่วงเข้าพรรษา (5,860) - ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม จำนวน 200 คนx 1 มื้อๆละ 25 บาท เป็นเงิน 5,000.-บาท - ค่าป้ายไวนิล “ชวน ช่วย ชมเชียร์ งดเหล้าครบพรรษา”ขนาดกว้าง1เมตร ยาว3 เมตร เป็นเงิน360.-บาท - ค่ากระดาษเอ4ขนาด180 แกรม(ทำใบประกาศ) จำนวน 2 ห่อ(ห่อละ50แผ่น)ๆละ250 บาท
เป็นเงิน500.-บาท - ค่าใช้จ่ายอื่นๆ(กระปุกออมสิน ไวนิล สติกเกอร์)ขอรับการสนับสนุนจากสำนักงานเครือข่าย องค์กรงดเหล้า 8.5 ค่าใช้จ่ายคณะทำงานและอาสาสมัครเยี่ยมติดตามผู้ที่มีพฤติกรรมการดื่มในระดับความเสี่ยงปานกลางถึงเสี่ยงสูง (5,400) - ค่าอาหารกลางวัน จำนวน 9 วัน x 1 มื้อๆละ 50 บาทx6คน เป็นเงิน 2,700.-บาท - ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม จำนวน 9 วัน x 2 มื้อๆละ 25บาทx6คน เป็นเงิน 2,700.-บาท 8.6 ค่าใช้จ่ายเวทีคืนข้อมูลและถอดบทเรียนโครงการ (9,000) - ค่าอาหารกลางวัน จำนวน 60 คน x 1 มื้อๆละ 50 บาท เป็นเงิน 3,000.-บาท - ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม จำนวน 60 คน x 2 มื้อ ๆละ 25 บาทเป็นเงิน 3,000.-บาท - ค่าตอบแทนวิทยากร 6 ชั่วโมงๆ500 บาทเป็นเงิน 3,000.-บาท 8.7 ค่าสรุปรายงานโครงการจัดทำรูปเล่ม 2 เล่มๆละ 200 บาทเป็นเงิน 400.-บาท รวม จำนวนเงินทั้งสิ้น 47,550.- บาท ตัวอักษร ( สี่หมื่นเจ็ดพันห้าร้อยห้าสิบบาทถ้วน)

ระยะเวลาดำเนินงาน
1 พฤษภาคม 2567 ถึง 31 สิงหาคม 2567
ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)

ผลผลิต 1. แกนนำชุมชน อสม.มีความรู้ความเข้าใจในการขับเคลื่อนงานลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร่วม สารเสพติดอื่นๆ 2. ผู้ที่มีพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระดับที่มีความเสี่ยงต่างๆได้รับการค้นหา คัดกรองให้เข้ารับการปรึกษาและส่งต่อหน่วยบริการสุขภาพอย่างเหมาะสม 3. ตำบลจำป่าหวายมีธรรมนูญตำบลร่วมกับกิจกรรมการลด ละ เลิกการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลลัพธ์

จำนวนเงินงบประมาณของกิจกรรม (บาท)
47550.00

งบประมาณโครงการ

จำนวนงบประมาณที่ต้องการสนับสนุน จำนวน 47,550.00 บาท

หมายเหตุ :

8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง

ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?

8.1 แกนนำชุมชน อสม. สามารถขับเคลื่อนงานด้านการแก้ไขปัญหาการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร่วม สารเสพติดอื่นๆในชุมชนของตนเองได้8.2 ประชาชนได้รับการเฝ้าระวังการฆ่าตัวตายจากผลกระทบจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการใช้สารเสพติดอื่นๆ


>