แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.จำป่าหวาย
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล อบต.จำป่าหวาย
เครือข่ายลดปัจจัยเสี่ยงสุขภาพตำบลจำป่าหวาย
1.พระครูสุวรรณปัญญาลังการ
2.นางลออมหาวรรณศรี
3.นางวลัยรัตน์ รำไพ
4.นางแก้ว เจริญ
5.นางสาวบัวลองปัญญา
หมู่ที่ 1-13 ตำบลจำป่าหวาย
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
องค์การอนามัยโลกกำหนดให้การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัญหาเร่งด่วนอันดับที่ 2 เป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆมากกว่า 200 ชนิด และการเสียชีวิตของประชากรโลกมากกว่า 3.3 ล้านคนต่อปี สถานการณ์การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากรายงานประจำขององค์การอนามัยโลกปี 2014 ระบุว่า ประเทศไทยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเป็นอันดับที่ 78 ของโลก เฉลี่ย 7.1 ลิตรต่อคน คิดเป็นค่าใช้จ่ายค่าสุราคนละ 509 บาทต่อวัน หรือประมาณ 6,108 บาทต่อปี มีปริมาณการดื่มต่อนักดื่ม 23.8 ต่อลิตรต่อคนต่อปีและมีความชุกผู้ที่มีภาวะจากการดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 4.9 สูงที่สุดในอาเซียน อีกทั้งยังเป็นพฤติกรรมเสี่ยง การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีผลกระทบต่อสุขภาพผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพิ่มโอกาสในการเกิดโรคและการบาดเจ็บมากกว่า200 ชนิด มีโอกาสป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวเนื่องกับการดื่มแอลกอฮอล์มากกว่าผู้ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 216 เท่าทำให้เกิดโรคมากกว่า 60 โรค และจากการรายงานภาระโรคและการบาดเจ็บของประชากรไทยปี2556 พบว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการสูญเสียปีสุขภาวะในประชากรชายโดยสูงถึงห้าแสน ห้าหมื่นปีหรือร้อยละ 8.8
ผลกระทบจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อให้เกิดผลกระทบในหลากหลายมิติทั้งที่เกิดขึ้นกับตนเองและผู้อื่น ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อตนเองหรือผลกระทบทางตรงต่อสุขภาพ เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุจราจร การเกิดอุบัติเหตุจราจรมีความสัมพันธ์กับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยความสัมพันธ์ในลักษณะที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นตามปริมาณการดื่มก่อนขับขี่ โดยสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุจราจรมากที่สุดคือเมาแล้วขับ และเป็นเหตุที่ทำให้เสียชีวิตลำดับที่สอง ผลกระทบแบบเรื้อรังหรือระยะยาว ได้แก่ภาวการณ์เกิดพิษเฉียบพลัน ระบบทางเดินอาหาร มะเร็ง โรคทางจิตและประสาทและโรคอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยความรุนแรงของโรค มีความสัมพันธ์กับปริมาณการดื่มที่มากขึ้นผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อผู้อื่นซึ่งเป็นหลักการสำคัญลำดับต้นๆในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คือผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนในครอบครัวของผู้ดื่ม พฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของบุคคลในครอบครัว เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการดื่มของบุคคลอื่นที่เป็นสมาชิกในครอบครัวอีกทั้งยังเป็นผลให้เกิดการส่งผ่านพฤติกรรมการดื่มจากรุ่นสู่รุ่น (intergenerational transmission) นอกจากนี้ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังเป็นปัจจัยที่สัมพันธ์กับการทารุณกรรมต่อเด็กในครอบครัวทางร่างกายร้อยละ 18.1 และทางจิตใจ ร้อยละ9.2 ส่งผลต่อความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานก่อให้เกิดความรุนแรงในสถานที่ปฏิบัติงาน อาทิเช่น การคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศ ยังพบว่าผู้ที่ดื่มในระดับอันตรายมากจะสูญเสียผลิตภาพการทำงานมากที่สุด ร้อยละ 13.9 หรือคิดเป็นการขาดงาน 30 วันต่อปี (10) ในส่วนผลกระทบต่อชุมชนหรือสาธารณะ ได้แก่ การกระทำความผิดทางอาญา การดื่มสุราเป็นปัจจัยที่สัมพันธ์กับการกระทำผิดคดีอาญาต่างๆ อาทิเช่น ทำให้เสียทรัพย์ ร้อยละ 59.1 ความผิดเกี่ยวกับเพศ ร้อยละ 34.8 ความผิดต่อร่างกาย ร้อยละ 20.8 ความผิดฐานบุกรุก ร้อยละ 16.1 และความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา ร้อยละ10.5 ความสูญเสียบนท้องถนนเป็นอีกผลกระทบหนึ่ง ผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีทัศนคติหลังการดื่มกับสมรรถภาพในการขับรถ คิดว่าตนเองยังสามารถขับรถได้อย่างปลอดภัย ส่งผลให้เป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุอันดับที่ 1 คือเมาสุรา การดื่มแล้วขับเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุและทำให้มีผู้เสียชีวิตอันดับที่ 1 (4) ผลกระทบต่อครอบครัว การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งและความรุนแรงในครอบครัว พบว่าครอบครัวที่ดื่มสุรามีโอกาสเกิดความรุนแรงในครอบครัว 3.84 เท่า ของครอบครัวที่ไม่ดื่มสุรา (10) ทำให้สัมพันธภาพในครอบครัวไม่ดี บุตรขาดความอบอุ่น ผู้หญิงที่เป็นภรรยาเผชิญกับปัญหาสุขภาพจิต อาจถึงเป็นโรคซึมเศร้าเพราะหัวหน้าครอบครัวติดสุรา (15) ผลกระทบต่อรัฐ ก่อให้เกิดภาระของประเทศในการคอยแบกรับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลการบาดเจ็บจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ค่าใช้จ่ายในการบังคับใช้กฎหมายและการฟ้องร้องคดีความกระบวนยุติธรรม เป็นต้น
สถานการณ์การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายจังหวัดของจังหวัดพะเยา โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2554 ความชุกของนักดื่มในประชากรอายุ 15 ปี ขึ้นไป ร้อยละ 54 สูงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ มีคะแนนดัชนีความเสี่ยงต่อปัญหาแอลกอฮอล์ของจังหวัดสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศเช่นเดียวกัน ในปี 2560 พบความชุกร้อยละ 44 อยู่ในลำดับที่ 3และในปี 2564 พบความชุกร้อยละ 40.7 อยู่ในลำดับที่ 5 ของประเทศ (ข้อมูลจากศูนย์วิจัยปัญหาสุรา,2564)
จากสถานการณ์การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตำบลจำป่าหวาย มีการสำรวจข้อมูลโดยใช้แบบประเมินพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เข้ารับบริการสุขภาพในสถานบริการ(ASSIST) ในประชากร อายุ 15 ปี ขึ้นไป ประชากรที่ได้รับการคัดกรองทั้งหมด จำนวน 1,413 คน ประชากรที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำนวน 791 คน คิดเป็นร้อยละ 55.98 (ข้อมูลจาก HDC(Health Data Center) จังหวัดพะเยา)
ข้อมูลผู้ป่วยที่รับการรักษาพยาบาลจากโรงพยาบาลพะเยา สาเหตุเนื่องจากสุราของตำบลจำป่าหวายที่เข้ารับการรักษาพยาบาลจากกลุ่มงานจิตเวช โรงพยาบาลพะเยา ย้อนหลัง 3 ปี มีแนวโน้มสูงขึ้น ดังข้อมูลตามตารางต่อไปนี้
ตารางที่ 1 แสดงจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา กลุ่มงานจิตเวช โรงพยาบาลพะเยา ปี 2564-2566
ปี พ.ศ. จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ (คน)จำนวนผู้ป่วย(คน) จำนวนที่รับบริการ(ครั้ง) หมายเหตุ
256418 30 131
2565 9 31130
256619 34 92 *พยายามฆ่าตัวตาย 1 ราย เพศชาย
1 ต.ค.-31 ธ.ค.66*** 2037 112
ตารางที่ 1 จากข้อมูลดังกล่าว เห็นได้ว่าจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาสาเหตุเนื่องจากสุรามีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเฉพาะข้อมูลช่วง 1 ตุลาคม–31 ธันวาคม 2566 จำนวนผู้ป่วยรายใหม่สูงกว่าผู้ป่วยตลอดปี ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าข้อมูลจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้นมาจากปัจจัยใดบ้าง
ด้านพฤติกรรมการดื่ม พบว่าในปัจจุบัน ผู้ป่วยมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับสารเสพติดอื่นแบบผสมผสาน ได้แก่ ดื่มเหล้าควบคู่กับการใช้กัญชา กะท่อม สูบบุหรี่(รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้า) ส่งผลให้มีการออกฤทธิ์เร็ว รุนแรง และต้องการเพิ่มปริมาณสูงขึ้น ผลกระทบต่อแต่ละด้านเพิ่มสูงขึ้นตามมาที่เห็นชัดเจนคือผลกระทบในมิติด้านสุขภาพ ด้านสังคม และด้านเศรษฐกิจ
จากความสำคัญของปัญหาดังกล่าว เครือข่ายลดปัจจัยเสี่ยงสุขภาพตำบลจำป่าหวาย จึงได้ประสานงานและร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม องค์การบริหารส่วนตำบลจำป่าหวาย และหน่วยบริการสาธารณสุข (โรงพยาบาลพะเยาและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจำป่าหวาย) จัดทำโครงการบูรณาการลดปัจจัยเสี่ยงจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร่วมสารเสพติดอื่นๆตำบลจำป่าหวายขึ้น
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
2.1 เพื่อพัฒนาศักยภาพแกนนำชุมชน อสม. ในการดำเนินงานลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร่วม สารเสพติดอื่นๆ
2.2 เพื่อเฝ้าระวังการฆ่าตัวตายโดยค้นหา คัดกรอง ผู้ที่มีพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระดับที่มีความเสี่ยงต่างๆเข้ารับการปรึกษาและส่งต่อหน่วยบริการอย่างเหมาะสม
2.3 เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนมีนโยบายสาธารณะและการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลด ละ เลิกการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสารเสพติดอื่น
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 01/05/2024
กำหนดเสร็จ 31/08/2024
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?8.1 แกนนำชุมชน อสม. สามารถขับเคลื่อนงานด้านการแก้ไขปัญหาการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร่วม สารเสพติดอื่นๆในชุมชนของตนเองได้8.2 ประชาชนได้รับการเฝ้าระวังการฆ่าตัวตายจากผลกระทบจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการใช้สารเสพติดอื่นๆ