แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.กำแพง
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
โครงการรู้เท่าทัน รู้ป้องกันโรคหลอดเลือดสมองและหลอดเลือดหัวใจตำบลกำแพงศูนย์สุขภาชุมชนกำแพง อ.ละงู จ.สตูลชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล อบต.กำแพง
ศูนย์สุขภาพชุมชนกำแพง รพ.ละงู
1.นางสาวบุญศรีมาลินี ผู้ประสานงานคนที่ 1 เบอร์ โทร081-7386346
2.นางมีนา อุศมา ผู้ประสานงานคนที่ 2 เบอร์ โทร086-9662242
3.นางสาวรสนา หนูวงศ์ ผู้ประสานงานคนที่ 3 เบอร์ โทร083-6599640
4.นายสมหมาย หลังเถาะ
5.นางสาวณัฐสิมา เส็มสัน
ตำบลกำแพงหมู่ 1-12
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
จากรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส 2 ของสภาพัฒน์ ได้มีการระบุถึงปัญหาทางด้านสุขภาพที่ประเทศไทยควรให้ความสำคัญ โดยมีประเด็นเรื่อง 'การเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง'ที่เพิ่มสูงขึ้นในไทยโดยสถิติองค์การโรคหลอดเลือดสมองโลก (World Stroke Organization: WSO) รายงานว่าปัจจุบันพบผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองทั่วโลกมากกว่า 101 ล้านราย เสียชีวิตประมาณ 6.5 ล้านรายต่อปีสำหรับประเทศไทย ในแต่ละปีจะมีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตเป็นอันดับ 2 รองจากโรคมะเร็ง จากข้อมูล Health Data Center ของกระทรวงสาธารณสุข ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (1 ตุลาคม 2566 – 1 สิงหาคม 2567) พบว่า คนไทยป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง 355,213 ราย เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ที่มีผู้ป่วย 350,934 ราย และจำนวนผู้เสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดสมองในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 มีจำนวน 47,275 ราย เพิ่มขึ้นมากสุดในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา (ปี 2563 - 2566) สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (1 ตุลาคม 2566 – 1 สิงหาคม 2567) พบผู้เสียชีวิตแล้ว 35,116 ราย (เฉลี่ยวันละ 100 คน )ซึ่งในกลุ่มอายุ 18 – 39 ปี มีจำนวนผู้ป่วยขยายตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุด สาเหตุและปัจจัยการเกิดโรค สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง ได้แก่ ความดันโลหิตสูง การออกกำลังกายไม่เพียงพอ การบริโภคอาหารไม่เหมาะสม ไขมันในเลือดสูง การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ภาวะโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคอ้วน และภาวะเครียด สำหรับโรคหลอดเลือดสมองนั้นเป็นหนึ่งในกลุ่มโรค NCDs หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมและการดำเนินชีวิต จนทำให้เกิดการสะสมของอาการและโรคตามมา และเมื่อเป็นก็จะมีอาการเรื้อรังรักษาให้หายได้ยาก โดย NCDs นั้นจัดว่าเป็นปัญหาสุขภาพอันดับหนึ่งของโลกทั้งในมิติของจำนวนการเสียชีวิตและภาระโรคโดยรวม และผู้ที่เป็นโรค NCDs นั้นมักจะเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดกว่าร้อยละ 44 เลยทีเดียว ซึ่งในแต่ละปีพบผู้เสียชีวิตจากโรค NCDs ในกลุ่มอายุ 30-69 ปี หรือเรียกว่า “การเสียชีวิตก่อนวัยอันควร” มากถึง 15 ล้านคน โดยมีคนไทยป่วยด้วยโรค NCDs ถึง 14 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 300,000 คนต่อปี และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในทุกๆ ปี ซึ่งส่วนใหญ่เสียชีวิตก่อนอายุ 60 ปีและผู้ที่ป่วยเป็นโรค NCDs จะเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองมากที่สุด ราวร้อยละ 11 ส่วนกลุ่มโรคใน NCDs ที่มีอัตราผู้ป่วยและเสียชีวิตสูงสุด ได้แก่1.โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ เกิดจากการกินอาหารไขมันสูงมากเกินไป ไขมันจะไปเกาะอยู่ตามผนังหลอดเลือดต่างๆ ในร่างกาย ทำให้หลอดเลือดอุดตัน เลือดไม่สามารถไหลเวียนได้สะดวก เสี่ยงต่อการเกิดหัวใจล้มเหลวหรือหลอดเลือดสมองแตก ตีบ ตัน หรืออัมพฤกษ์ อัมพาตได้
2. โรคมะเร็ง เกิดจากเซลล์ในร่างกายแตกตัวผิดปกติ เกิดเป็นเซลล์มะเร็งตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย หากตรวจพบและได้รับการรักษาล่าช้า จะส่งผลให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในที่สุด
3.โรคอ้วนลงพุง เกิดจากมีพฤติกรรมการกินมากกว่าการเผาผลาญออก ไขมันส่วนเกินไปสะสมอยู่ในส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะในช่องท้อง เป็นสาเหตุให้เกิดโรคต่างๆ ตามมามากมาย เช่น ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดสมองแตก ไตวาย เป็นต้น ซึ่งอาการเจ็บป่วยของโรคในกลุ่มนี้จะมีความเชื่อมโยงและเกี่ยวข้องกัน เช่น ผู้ที่มีโรคอ้วน หรือเบาหวานก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจได้ เป็นต้น
สังเกตอาการตนเองตามหลักการ B.E.F.A.S.T วิธีสังเกตอาการหากสงสัยว่าเราจะป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองหรือไม่ จะเรียกว่า หลักการ B.E.F.A.S.Tเพื่อให้จำได้ง่าย ได้แก่
B (Balance) เดินเซ เวียนศีรษะบ้านหมุนฉับพลัน
E (Eye) ตามัว มองเห็นภาพซ้อนฉับพลัน
F (Face) ปากเบี้ยว หน้าเบี้ยวเฉียบพลัน
A (Arm) แขน ขา อ่อนแรงหรือชาครึ่งซีก
S (Speech) พูดไม่ชัด เสียงเปลี่ยน ลิ้นแข็ง พูดไม่รู้เรื่อง พูดไม่ออกทันทีทันใด
T (Time) หากมีอาการให้รีบพาผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็วหากไปพบแพทย์ช้า อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตหรืออาจจะกลายเป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้
สถานการณ์ 3 ปีย้อนหลัง อำเภอละงูมีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในปีงบประมาณ 2565-2567 จำนวน 387 ,462 และ485 ราย มีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบแบบสมบูรณ์ (ภาวะหัวใจขาดเลือดแบบเฉียบพลัน)ในปีงบประมาณ 2565-2567จำนวน 187, 215 และ232 รายมีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบแบบไม่สมบูรณ์ ในปีงบประมาณ 2565-2567จำนวน 107 , 116 และ138 ราย
ในเขตตำบลกำแพงพบว่า มีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในปีงบประมาณ 2565-2567 จำนวน 28,30 และ 38 รายตามลำดับ และมีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบแบบสมบูรณ์ (ภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน) ปีงบประมาณ 2565-2567 จำนวน 15,14 และ 19 ราย , ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบแบบไม่สมบูรณ์ ปีงบประมาณ 2565-2567 จำนวน 17,16 และ 22 ราย และโรคหัวใจอื่นๆ ปีงบประมาณ 2565-2567 จำนวน 7,11 และ 12รายตามลำดับ จากข้อมูล Home health care system งานเยี่ยมบ้านโรงพยาบาลละงู ปี2567
อัตราการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและหลอดเลือดหัวใจในเขตตำบลกำแพงส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไป ผู้ชายร้อยละ 70 ผู้หญิงร้อยละ 30 โรคเบาหวาน /ความดันโลหิตสูง ระดับไขมันในเลือดสูง ร้อยละ 70 และปัจจัยอื่นๆ เช่นสูบบุหรี่ ซึ่งจากผลการสำรวจข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในปี 2567 พบว่าจังหวัดสตูลมีอัตราการบริโภคยาสูบสูงเป็นอันดับ2ของประเทศคิดเป็นร้อยละ 25.20สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสตูล(สสจ.สตูล)จากการคัดกรองผู้ที่สูบบุหรี่ในเขตตำบลกำแพง ปีพ.ศ.2565-2567 ร้อยละ85.64, 88.39 ,84.66
แต่ถ้าหากผู้ป่วยฉุกเฉินเหล่านี้ได้รับการช่วยเหลือได้รวดเร็วทันเวลา จะสามารถช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้ถึงร้อยละ 30 และลดความพิการที่อาจเกิดตามมาภายหลังได้ หากได้รับการนำส่งโรงพยาบาลอย่างถูกวิธี และได้รับยาละลายลิ่มเลือดภายในเวลา 4.5 ชั่วโมง นับจากเกิดเหตุ จากสถานการณ์ดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าจำนวนผู้ป่วย และการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในทุกๆปี ซึ่งเป็นภัยคุกคามทางด้านสุขภาพ
ศูนย์สุขภาพชุมชนกำแพง โรงพยาบาลละงู เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการรู้เท่าทัน รู้ป้องกัน โรคหลอดเลือดสมองและหลอดเลือดหัวใจ ปีงบประมาณ 2568 ขึ้น โดยการบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนร่วมกับบุคลากรสาธารณสุข เพื่อให้มีภาคีเครือข่ายที่เข้มแข็งในการดำเนินงานป้องกันโรคหลอดเลือดสมองและโรคหัวใจในพื้นที่เพื่อลดความพิการและเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น : 01/01/2025
กำหนดเสร็จ : 30/09/2025
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
สามารถถัวเฉลี่ยจ่ายทุกรายการ
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1.กลุ่มเป้าหมาย (อสม.ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา และเครือข่าย ) มีศักยภาพและองค์ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับโรคหัวใจและหลอดเลือดร้อยละ 80
2.กลุ่มเสี่ยงมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับโรคหัวใจและหลอดเลือด ร้อยละ 80
3.อัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดลดลงร้อยละ 50