แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเบตง
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
โครงการส่งเสริมสุขภาพบุคลากรเทศบาลเมืองเบตง พิชิตโรคออฟฟิศซินโดรมและโรคชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเบตง
กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองเบตง
สำนักงานเทศบาลเมืองเบตง
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
กลุ่มวัยทำงานเป็นกลุ่มประชากรที่อยู่ในช่วงวัย 15 - 59 นับได้ว่าเป็นกลุ่มประชากรที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ คือเป็นกำลังสำคัญในการหารายได้เพื่อเลี้ยงตนเองและครอบครัว และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร ทำให้เกิดการพัฒนาองค์กร พัฒนาประเทศ ดังนั้นการมีสุขภาพที่ดีในวัยทำงานจึงเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกมิติแต่เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม การดำรงชีวิตและเทคโนโลยีใน“โลกปัจจุบัน” ส่งผลให้เกิดการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจสูง คนทำงานส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่กับงานมากกว่า 8-10 ชั่วโมงการใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในสถานที่ทำงานมากกว่าที่บ้านและต้องใช้ชีวิตอยู่บนความเร่งรีบ ก่อให้เกิดความเหนื่อยล้าจากภาระงานจนทำให้ละเลยการดูแลสุขภาพโดยรวมของตนเอง เช่น เรื่องการพักผ่อนไม่เพียงพอ ขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ มีแนวโน้มการสูบบุหรี่และดื่มสุราเพิ่มขึ้น มีพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่ถูกต้อง ไม่พิถีพิถันในการเลือกรับประทานอาหาร มีความเครียดสูง ขาดทักษะในการจัดการความเครียด ซึ่งความเครียดและพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่เหมาะสมนี้ทำให้คนวัยทำงานมีความเสี่ยงหรือปัญหาสุขภาพเกิดขึ้นได้ทั้งปัญหาสุขภาพทางกาย สุขภาพจิตเช่นโรคออฟฟิตซินโดรมมีอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ปัญหาเกี่ยวกับตา จากการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ตเป็นเวลานาน ปัญหาสุขภาพจิต เช่น มีความเครียดสะสมวิตกกังวล ซึมเศร้า หรือมีภาวะหมดไฟในการทำงาน (burnout syndromes) นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (โรค NCDs) ซึ่งโรคในกลุ่มโรค NCDs ที่มีอัตราผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตสูงสุด 6 โรค ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ โรคถุงลมโป่งพอง โรคมะเร็งโรคความดันโลหิตสูง และโรคอ้วนลงพุง
เทศบาลเมืองเบตง มีนโยบายพัฒนาด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ในการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การเฝ้าระวังสุขภาพจิตในชุมชน การส่งเสริมการดูแลสุขภาพของประชาชนให้สมบูรณ์แข็งแรง และได้รับบริการสาธารณะอย่างทั่วถึง เท่าเทียม โดยเน้นการป้องกันมากกว่าการรักษา รณรงค์ให้ความรู้แก่ประชาชนในการดูแลสุขภาพของตนเองให้เข้มแข็งและซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ข้อที่ 3 การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี และข้อที่ 17 การมีส่วนร่วมในการพัฒนา ที่มุ่งเน้นให้ประชาชนและบุคลากรมีสุขภาพที่ดีอันเป็นจุดเริ่มต้นให้มนุษย์มีความเป็นอยู่ที่ดีในทุกๆ ด้าน โดยเทศบาลเมืองเบตง เป็นแหล่งรวมของคนวัยทำงานจำนวนมากกว่า 200คน ซึ่งบุคลากรจะบางส่วนจะประสบมีปัญหาสุขภาพในหลาย ๆ เรื่อง เช่น โรคออฟฟิศซินโดรม ภาวะเครียด ปัญหาสุขภาพจิต อ้วนลงพุง เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง จึงจำเป็นต้องตื่นตัวในเรื่องการดูแลสุขภาพเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดที่ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนต้องร่วมเรียนรู้และแก้ไขปัญหาร่วมกัน และสิ่งสำคัญที่สุดคือ การปลูกฝังมุมมองให้รับรู้ร่วมกันว่า "สุขภาวะ" ไม่ใช่แค่เรื่องของความเจ็บป่วยทั้งของตนเอง และคนรอบตัว สุขภาวะที่ดี จะต้องสร้างความสุขเชื่อมโยงถึงกัน คือการช่วยเหลือเกื้อกูล และ พึ่งพาอาศัยของทุกคนในสังคม "สุขภาพ” จึงเป็น เรื่องของคนทุกคนที่ช่วยกันสร้างความเข้าใจและการปฏิบัติที่ถูกต้องด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพซึ่งเป็นการปรับวิถีชีวิตด้านสุขภาพด้วยตนเองนั่นเอง โดยเฉพาะผู้นำและบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ด้านการจัดบริการสาธารณะเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชนซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสุขภาพอนามัยของคนในองค์กร ในชุมชนและสังคมกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองเบตง ตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมสุขภาพของบุคลากรทุกระดับและการสร้างสภาพแวดล้อมในที่ทำงานที่เอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดีจึงได้บูรณาการความร่วมมือร่วมกับทุกกอง/ทุกฝ่ายจัดทำโครงการส่งเสริมสุขภาพบุคลากรเทศบาลเมืองเบตง พิชิตโรคออฟฟิศซินโดรมและโรค NCDs เพื่อส่งเสริมให้บุคลากรมีความรอบรู้ด้านสุขภาพ สามารถเข้าถึง เข้าใจ วิเคราะห์ประเมินสุขภาพตนเอง และปรับใช้ข้อมูลความรู้ที่ได้รับ นำไปสู่การปฏิบัติปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสมลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคออฟฟิตซินโดรมและโรค NCDs และส่งเสริมให้บุคลากรเกิดพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพในระยะยาว มีสุขภาพที่แข็งแรงทั้งร่างกาย จิตใจและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเกิดประสิทธิภาพในการทำงาน นำไปสู่การจัดบริการสาธารณะเพื่อประชาชนในเขตเทศบาลเมืองเบตงได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกทั้งสามารถเป็นต้นแบบ องค์กรสุขภาพดี (Healty Organization) ในการสร้างเสริมสุขภาพให้กับตนเอง ครอบครัว ชุมชน ผู้มาใช้บริการหรือองค์กรอื่น ๆ
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับการคัดกรองประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพและมีความตระหนักรู้ภาวะสุขภาพของตนเอง
2. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีความรู้ความเข้าใจและมีทักษะในการดูแลสุขภาพตนเอง ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคออฟฟิศซินโดรมและโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
3. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านสุขภาพที่ดีขึ้น
4. เพื่อส่งเสริมและพัฒนาบุคคลต้นแบบและองค์กรต้นแบบด้านสุขภาพ
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น : 01/01/2025
กำหนดเสร็จ : 31/07/2025
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
(ทุกรายการสามารถถัวเฉลี่ยกันได้)
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1. บุคลากรเทศบาลได้รับการตรวจประเมินด้านสุขภาพ และมีความตระหนักรู้ภาวะสุขภาพของตนเอง
2. บุคลากรเทศบาลมีความรอบรู้การดูแลสุขภาพป้องกันการเกิดโรค มีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้องเหมาะสม
3. บุคลากรเทศบาลมีสุขภาพกายใจที่แข็งแรง สิ่งแวดล้อมในการทำงานดีขึ้นส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน นำไปสู่การจัดบริการสาธารณะเพื่อประชาชนในเขตเทศบาลเมืองเบตงได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถเป็นต้นแบบองค์กรสุขภาพดี ในการสร้างเสริมสุขภาพให้กับตนเอง ครอบครัว ชุมชน ผู้มาใช้บริการหรือองค์กรอื่น ๆ