2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
ปัจจุบันประเทศไทยเผชิญปัญหามลพิษ จากการจัดการของเสียอันตราย หรือ ขยะพิษ ไม่ได้มาตรฐานโดยพบว่า มือถือเก่า โน้ตบุ๊ก แล็ปท็อป ทีวีเก่า ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ ถูกทิ้งปะปนกับขยะมูลฝอยทั่วไปและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ขณะที่ซากชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าโดนถอดแยกชิ้นส่วนแล้วเผาทำลาย เทกอง ส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ คุณภาพน้ำ สารเคมีอันตรายปนเปื้อนอยู่ในสิ่งแวดล้อม องค์ประกอบทางเคมีทั้งปรอท ตะกั่ว หรือโลหะหนัก ล้วนเป็นสารก่อมะเร็งเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชนมากยิ่งขึ้น ข้อมูลจากรายงานสถานการณ์มลพิษของประเทศไทย โดยกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ระบุว่าของเสียอันตรายจากชุมชนเกิดขึ้น 638,000 ตันต่อปี โดยเป็นซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์414,600 ตันต่อปี หรือร้อยละ 65 อีก 223,400 ตัน หรือร้อยละ 35 เป็นของเสียอันตรายประเภทอื่นๆ เช่น แบตเตอรี่ ถ่าน ไฟฉาย ภาชนะบรรจุสารเคมี กระป๋องสเปรย์ของเสียอันตรายเหล่านี้ได้รับการจัดการอย่างถูกต้องเพิ่มขึ้นเพียง 83,600 ตัน หรือร้อยละ 13 เท่านั้น ซึ่งในรายงานมลพิษฉบับล่าสุดนี้ ได้ระบุการจัดการยังไม่เพียงพอ ขาดกฎระเบียบที่จะคัดแยกของเสียอันตรายจากขยะทั่วไป และประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายกำกับดูแล ในการให้ภาคเอกชนรับผิดชอบในการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จากปัญหาภาวะมลพิษที่เกิดจากขยะที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ความเดือดร้อนและสุขภาพอนามัยของประชาชนอย่างต่อเนื่อง
เทศบาลเมืองเบตงมีการรวบรวมขยะอันตรายเพื่อนำส่งไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา โดยในปีงบประมาณ 2567 เทศบาลเมืองเบตงได้รวบรวมขยะอันตรายจากชุมชนได้ประมาณ 2,370 กิโลกรัม โดยยังพบมีขยะอันตรายที่เข้าสู่ระบบฝังกลบขยะ แสดงให้เห็นว่ายังมีขยะอันตรายบางส่วนไม่ได้รับการคัดแยกและรวบรวม ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจก่อให้เกิดการปนเปื้อนของสารพิษของขยะอันตรายลงสู่สิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชนชาวเบตงได้ และจากการสำรวจข้อมูลในชุมชนกาแป๊ะ กม. 2 เทศบาลเมืองเบตง พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ในชุมชนได้ทิ้งขยะอันตรายรวมกับขยะมูลฝอยทั่วไป โดยไม่มีการแยกขยะอันตรายทิ้งต่างหากอย่างไม่ถูกวิธีทำให้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศ การปนเปื้อนต่อสิ่งแวดล้อม การแพร่กระจายของเชื้อโรค สิ่งเหล่านี้ส่งผลร้ายกลับมายังประชาชนในชุมชน ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพของประชาชนในชุมชน ทำให้มีภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ประสิทธิภาพในการประกอบอาชีพลดลง
ชุมชนกาแป๊ะ กม. 2 เทศบาลเมืองเบตง ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการคัดแยกและรวบรวมขยะอันตรายในชุมชน จึงได้จัดทำโครงการการคัดแยกและรวบรวมขยะอันตราย เพื่อสุขภาพที่ดีของคนเบตง ประจำปีงบประมาณ 2568 เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจในการคัดแยกและรวบรวมขยะอันตรายอย่างถูกต้องและปลอดภัยเพื่อรอการรวบรวมไปกำจัดอย่างถูกหลักสุขาภิบาล อนึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลให้ประชาชนปลอดภัยจากสารปนเปื้อนที่มาจากขยะอันตรายต่อไป
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
1.เพื่อให้ประชาชนและเยาวชน มีความรู้ถึงผลกระทบจากขยะมูลฝอยและของเสียอันตรายและสิ่งแวดล้อมในชุมชน
2.เพื่อให้ประชาชนและเยาวชน มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยและขยะอันตรายในชุมชนโดยเริ่มต้นที่ครัวเรือน
3.เพื่อส่งเสริมให้มีการคัดแยกและกำจัดขยะอันตรายในครัวเรือนและชุมชน อย่างเหมาะสม
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 01/03/2025
กำหนดเสร็จ 30/04/2025
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
สามารถถัวเฉลี่ยกันได้ทุกรายการ
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1. ประชาชนในชุมชนมีความรู้ ความเข้าใจ ในการคัดแยกขยะอันตรายออกจากขยะประเภทอื่น ที่ก่อให้เกิดมลภาวะเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม
2. ประชาชนในชุมชนมีการคัดแยกและรวบรวมขยะอันตรายออกจากมูลฝอยทั่วไปก่อนนำไปแยกกำจัดอย่างถูกวิธี
3. ประชาชนในชุมชนมีถังขยะอันตรายและขยะติดเชื้อไว้รองรับขยะในชุมชน