2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
ปัจจุบันโรคมะเร็งเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งในประเทศไทยและมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น และโรคมะเร็งที่พบมากที่สุดในประเทศไทย คือ โรคมะเร็งตับ รองลงมาคือมะเร็งปอด มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านมตามลำดับในประเทศไทย โรคมะเร็งปากมดลูกเป็นโรคมะเร็งที่พบเป็นอันดับหนึ่งในสตรีไทย มีผู้ป่วยรายใหม่ประมาณปีละ 6,300 ราย ซึ่งพบอัตราตายเกินครึ่ง พบมากที่สุดอายุระหว่าง 45-50 ปี ระยะที่พบส่วนใหญ่อยู่ในระยะลุกลาม การรักษาจึงเป็นไปได้ยาก ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง การป้องกัน และการควบคุมโรคมะเร็งปากมดลูก ต้องมีการค้นหาด้วยการตรวจหาเซลล์มะเร็งให้พบตั้งแต่อยู่ในระยะเริ่มแรก และระยะก่อนเป็นมะเร็ง ซึ่งสามารถรักษาให้หายได้และเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการรักษาในระยะลุกลามและจากการศึกษาขององค์การอนามัยโลก ได้พบว่าการคัดกรองด้วยการทำ pap smear ในสตรีกลุ่มเป้าหมายอายุ 30-60 ปี ทำให้ช่วยลดอัตราการเกิดและอัตราการตายจากโรคมะเร็งปากมดลูกได้ เนื่องจากโรคมะเร็งเป็นโรคที่เป็นแล้วจะทำให้เกิดอาการป่วยและเสียชีวิตก่อนวัยอันสมควร แต่ในขณะเดียวกันโรคมะเร็งเป็นโรคหนึ่งที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ถ้าหากว่าได้รับการตรวจวินิจฉัยและมาพบแพทย์ตั้งแต่ในระยะเริ่มแรก ปัจจุบันสตรีจำนวนไม่น้อยที่ยังขาดความรู้ในเรื่องโรคมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านม เดิมการตรวจแป๊บสเมียร์ (Conventional Pap Smear) เป็นการเก็บเซลล์ปากมดลูกมาป้ายบนสไลด์ ความแม่นยำในการตรวจขึ้นอยู่กับความชำนาญของผู้อ่านสไลด์ ปัจจุบันนี้สาธารณสุขไทยได้มีการตรวจหาเชื้อมะเร็งปากมดลูกแบบใหม่ เรียกว่า HPV DNA Test เป็นเทคนิคทางด้านชีวโมเลกุลที่จะตรวจหาตัวเชื้อ HPV ได้โดยตรง ทำให้สามารถตรวจหาระยะของโรคก่อนที่จะกลายเป็นมะเร็ง คือการตรวจในระดับโมเลกุล เพื่อหาเชื้อ HPV ความเสี่ยงสูงทั้ง 14 สายพันธุ์ ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก ประมาณ 99% โดยมีวิธีการตรวจเหมือนตรวจภายใน คือเก็บเซลล์บริเวณตัวอย่างที่ปากมดลูกช่องคลอดด้านใน ส่งตรวจเหมือนวิธีการตรวจด้วยน้ำยา ซึ่งสามารถที่จะตรวจหาเซลล์และแยกน้ำยาเพื่อจะตรวจหาเชื้อ HPV DNA ได้ และเมื่อปี 2567 ได้มีการรณรงค์ให้มีการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกในนักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เพื่อเป็นการป้องกันโรคตั้งแต่วัยรุ่น ก่อนการมีเพศสัมพันธ์ แต่นักเรียนดังกล่าวยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้จึงทำให้เกิดความตระหนักน้อย
จากการดำเนินงานคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในสตรีอายุ30-60 ปีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลร่มไทร มีเป้าหมายสะสมที่จะต้องดำเนินการระหว่างปี 2563 – 2567 จำนวน 535 คน ระยะเวลาที่ผ่านมาได้ทำการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกแล้วจำนวน 151 คน ผลการตรวจผิดปกติ 2 คน ในปี 2568 นี้ได้กำหนดเป้าหมายที่จะต้องดำเนินการคัดกรองจำนวน 144 คน และสตรีอายุ 30-70 ปี ได้รับการตรวจคัดกรองเต้านมด้วยเจ้าหน้าที่และด้วยตนเอง ปีงบประมาณ 2567 จำนวน 871 คน ในปีงบประมาณ 2568 นี้ ได้กำหนดเป้าหมายจะต้องดำเนินการตรวจจำนวน 1,000 คน เพื่อเป็นการเฝ้าระวังภาวะทางสุขภาพ ลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลร่มไทร จึงได้จัดทำโครงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีปลอดภัยจากโรคมะเร็งปากมดลูกได้ในที่สุดดังนั้นเพื่อสร้างองค์ความรู้ ร่วมหาแนวทางแก้ปัญหาและชี้แจงความจำเป็นในการควบคุมป้องกันความรุนแรงของมะเร็งปากมดลูก
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 01/01/2025
กำหนดเสร็จ 30/09/2025
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1.สตรีกลุ่มเป้าหมายอายุ 30-60 ปี ม่ีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักในเรื่องมะเร็งปากมดลูกมากขึ้น
2.สตรีกลุ่มเป้าหมาย ได้รับการตรวจมะเร็งปากมดลูก