แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ท่าน้ำ
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
โครงการปรับวันละนิด เพื่อชีวิตยืนยาวชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ท่าน้ำ
อสม.ตำบลท่าน้ำ
1.นางสเมาะดอเลาะ
2.นางสาวสุทธิสาพุ่มสา
3.นางรอบียะห์กูสา
4.นางมารีเย๊าะมะดิเย๊าะ
5.นางอามีเนาะแมเงาะ
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
ปัจจุบันโรคสถานการณ์โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โดยเฉพาะโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน นับเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ และถือเป็นภัยเงียบ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในระยะยาว ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค พบว่าประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงในปี 2565 จำนวน 6.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 2 แสนคน โรคเบาหวานในปี 2565 จำนวน 3.3 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 1.5 แสนคนการคัดกรองผู้ป่วยรายใหม่พบว่า การคัดกรองผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงในประชากรอายุ 35 ปีขึ้นไป มีผู้ได้รับการคัดกรองเพียง 14 ล้านคน ยังไม่ได้รับการคัดกรองมากถึง 8 ล้านคน จากเป้าหมายทั่วประเทศ 22 ล้านคน หากประชาชนไม่รู้ว่าตัวเองป่วยและไม่ได้รับการรักษา จะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามมา เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคไตเรื้อรัง โดยพบว่าโรคไตเรื้อรังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประเทศไทยพบอุบัติการณ์ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ต้องบำบัดทดแทนไตเฉลี่ยปีละ20,000 ราย จากรายงานผู้ป่วยจากโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสารณสุข พ.ศ. 2564 มีผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะ1-5 ทั้งหมดจำนวน 1,007,251 ราย นอกจากภาวะแทรกซ้อนดังกล่าว ยังพบว่าภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานานส่งผลให้อวัยวะเสื่อม และทำงานล้มเหลว เกิดภาวะแทรกซ้อนทางตา ทำให้สูญเสียการมองเห็น แผลหายยากเป็นต้น ซึ่งทั้งหมดล้วนส่งผลต่อสุขภาวะของประชาชนและมีค่าใช้จ่ายในการรักษาเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันมาตรการคัดกรองโรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง เป็นมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทั่วโลกยอมรับว่าเป็นมาตรการที่คุ้มค่า ทั้งนี้ประชาชนอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป ต้องได้รับการคัดกรองโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงปีละ1 ครั้ง เพื่อทราบตัวเลขสุขภาพตนเอง (รู้เลขเสี่ยง เลี่ยงโรคไม่ติดต่อ)(ข้อมูลจาก : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข วันที่11 มีนาคม 2566 และระบาดวิทยาและการทบทวนมาตรการป้องกันโรคไตเรื้อรัง
กรมควบคุมโรค กองโรคไม่ติดต่อ วันที่ 25 มิถุนายน 2565)
จากการดำเนินงานโรคไม่ติดต่อเรื้อรังตำบลท่าน้ำ พบว่าอัตราการคัดกรองโรคเบาหวาน ปี66 คิดเป็นร้อยละ 90.42 โรคความดันโลหิตสูง ปี66 คิดเป็นร้อยละ 91.08คัดกรองเบาหวานปี67คิดเป็นร้อยละ 92.95โรคความดันโลหิตสูง ปี67 คิดเป็นร้อยละ 92.99 เพิ่มขึ้นทุกปี พบว่าเสี่ยงโรคเบาหวาน ปี 66 คิดเป็นร้อยละ 10.18 พบว่าเสี่ยงโรคความดัน ปี 66 คิดเป็นร้อยละ 26.43เสี่ยงโรคเบาหวานปี 67 คิดเป็นร้อยละ 11.01 และเสี่ยงความดันปี67 คิดเป็นร้อยละ 27.45 โดยความร่วมมือของอสม.และชุมชน ซึ่งสามารถค้นหา เฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง และส่งต่อกลุ่มสงสัยป่วยเพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว ช่วยป้องกัน แม้อัตราการคัดกรองจะเพิ่มขึ้น แต่ยังมีประชาชนส่วนหนึ่งที่ยังไม่เข้าถึงบริการ จำเป็นต้องได้รับการติดตามต่อเนื่อง อีกทั้งกลุ่มที่ได้รับการคัดกรองและเป็นกลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวาน บางรายปฏิเสธการส่งต่อตรวจน้ำตาลในเลือดและปฏิเสธการพบแพทย์ ซึ่งจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูงต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนก่อนได้รับการรักษาได้ และจากการสุ่มตรวจความเค็มในอาหารที่ปรุงจากครัวเรือน ร้านขายอาหารในตลาดและชุมชนร้านอาหารริมฟุตบาท รถเร่ ร้านอาหารในโรงเรียน โรงพยาบาล จำนวนทั้งสิ้น 25 รายการ พบว่าอาหารที่ปรุงในครัวเรือน ร้านขายอาหารในตลาดและชุมชน ร้านอาหารริมฟุตบาท บางรายการมีค่าความเค็มเกินมาตรฐานตั้งแต่เริ่มเค็ม-เค็มมาก ซึ่งการรับประทานอาหารรสเค็มต่อเนื่องเป็นเวลานาน เป็นปัจจัยเสี่ยงกระตุ้นให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่างๆได้
ชมรมอสม ตำบลท่าน้ำ เห็นความสำคัญของการป้องกันโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคเรื้อรังอื่นๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยง กลุ่มสงสัยป่วย และกลุ่มป่วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน สามารถดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสม ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามหลัก 3อ 2ส. โดยเฉพาะการรับประทานอาหารที่เหมาะสมตระหนักถึงการป้องกันการเกิดโรครายใหม่ ช่วยลดอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง และลดอัตราตายในกลุ่มป่วย เน้นการดูแลตนเองอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน จึงได้จัดโครงการปรับวันละนิด เพื่อชีวิตยืนยาว ขึ้น
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น :
กำหนดเสร็จ :
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1. ผู้เข้าร่วมโครงการเห็นความสำคัญและตระหนักถึงการดูแลสุขภาพตนเอง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 3อ. 2ส. และเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยเฉพาะการรับประทานอาหารที่เหมาะสม ทั้งการปรุงอาหารรับประทานเองในครัวเรือน และการเลือกซื้ออาหารปรุงสำเร็จในชุมชน
2. ร้านจำหน่ายอาหารในชุมชน เห็นความสำคัญของการปรุงอาหารที่เหมาะสมจำหน่าย โดยเริ่มจากการลดเค็ม เมื่อตรวจพบความเค็มเกินมาตรฐานที่กำหนด
3. เจ้าหน้าที่และอสม.เป็นตัวอย่างที่ดีในการดูแลสุขภาพตนเอง สามารถให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพคนในชุมชนได้อย่างเหมาะสม สามารถปฏิบัติได้จริง
4.ประชาชนกลุ่มปกติ ไม่เปลี่ยนเป็นกลุ่มสงสัย/กลุ่มป่วย สามารถดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสม และกลุ่มเสี่ยง/สงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามหลัก 3อ.2ส. สามารถควบคุมระดับความดันโลหิต ระดับน้ำตาลในเลือดได้ กรณีไม่สามารถควบคุมได้ ได้รับส่งต่ออย่างเหมาะสมตามมาตรฐานวิชาชีพ และติดตามต่อเนื่องเพื่อเฝ้าระวังภาวะสุขภาพ
5.กลุ่มสงสัยโรคเบาหวาน ที่ยังปฏิเสธการตรวจ FPG ได้รับการติดตามและดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอสม. และเข้าสู่กระบวนการรักษาหากยังไม่สามารถคุมระดับน้ำตาลในเลือดหรือเริ่มมีอาการผิดปกติ
6.อัตราป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานรายใหม่ลดลง
7.ผู้ป่วยโรคเรื้อรังสามารถควบคุมโรคได้ และอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนลดลง
8. มีการตรวจความเค็มจากอาหารในชุมชนอย่างต่อเนื่องทุกเดือน เพื่อช่วยสร้างความตระหนักในการบริโภคอาหารเค็มน้อย
9. ภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาวะชุมชนอย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง