แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ ส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค อสม. 4.0 ประจำปี 2569ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก
ชมรม อสม.เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก
1. นายกามารอเด็ง มามะ ประธานชมรมฯ
2. นายวัชริศ เจ๊ะเล๊าะ
3. นางสารีณีเบ็ญมุมิน
4. นางจารินี เหาะสัน
5. นางสาวสุรีรัตน์ยาทองไซย์
เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เป็นบุคลากรสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านสาธารณสุขชุมชน เพื่อดูแลและส่งเสริมสุขภาพของประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ในยุคไทยแลนด์ 4.0 บทบาทของ อสม. ได้พัฒนาให้มีความทันสมัยมากขึ้น โดยมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยในการทำงานด้านสุขภาพ ทั้งด้านการให้ข้อมูล การติดตามเฝ้าระวังสุขภาพ และการสื่อสารสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนผ่านช่องทางที่หลากหลาย เพื่อให้การดูแลสุขภาพเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
อสม. ในยุค 4.0 จึงไม่เพียงทำหน้าที่เป็นผู้ให้ข้อมูลด้านสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นแบบอย่างที่ดีของพฤติกรรมการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมในชุมชน สามารถสร้างแรงจูงใจและความเชื่อมั่นให้กับประชาชนให้เกิดความร่วมมือและมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค และพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นกำลังสำคัญในการสื่อสารสุขภาพที่ถูกต้องและทันสมัยให้กับครอบครัว ชุมชน และสังคมโดยรวม
ดังนั้น การพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านให้มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะที่เหมาะสมกับบริบทปัจจุบัน จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้อสม. สามารถทำหน้าที่เป็นผู้นำด้านสุขภาพในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาสาธารณสุขของประเทศและนโยบายไทยแลนด์ 4.0 อันจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น
จากเหตุผลดังกล่าว เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จึงเห็นความสำคัญและจัดทำ โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค อสม. 4.0 ประจำปี 2569 ขึ้น เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ ทักษะ และศักยภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขให้สามารถเป็นผู้นำด้านสุขภาพของชุมชนได้อย่างมีประสิทธิผล และมีบทบาทสำคัญในการสร้างสังคมสุขภาพดีอย่างยั่งยืน
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
1. เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ ทักษะ และศักยภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ให้สามารถปฏิบัติงานด้านสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิผล
• ตัวชี้วัด:
1. จำนวนอสม. ที่ผ่านการประเมินความรู้หลังอบรม (Target: ≥80% ได้คะแนนผ่านเกณฑ์)
2. จำนวนอสม. ที่สามารถวางแผนกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพในชุมชนได้หลังอบรม (Target: ≥70%)
2. เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมสาธารณสุขสำหรับ อสม. 4.0
• ตัวชี้วัด:
1. จำนวนอสม. ที่สามารถใช้งานแอปพลิเคชันติดตามสุขภาพหรือเครื่องมือออนไลน์ได้ (80%)
2. จำนวนอสม. ที่สามารถสื่อสารข้อมูลสุขภาพผ่านสื่อออนไลน์หรือโซเชียลมีเดียได้ (70%)
3. เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างอสม. ครอบครัว ชุมชน และหน่วยงานสาธารณสุขในการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค
• ตัวชี้วัด:
1. จำนวนชุมชนที่มีอสม. ร่วมกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพหลังอบรม (80% ของชุมชนที่เข้าร่วม)
4. เพื่อให้ อสม. สามารถเป็นผู้นำด้านสุขภาพในชุมชน และเป็นต้นแบบของพฤติกรรมการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม
• ตัวชี้วัด:
1. จำนวนอสม. ที่สามารถให้คำแนะนำพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสมแก่ประชาชน (70%)
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น : 01/10/2025
กำหนดเสร็จ : 30/09/2026
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
ทุกกิจกรรมสามารถถัวเฉลี่ยได้
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1. อสม. มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะด้านสุขภาพสมัยใหม่ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. อสม. สามารถใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการติดตาม เฝ้าระวังสุขภาพ และสื่อสารสร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชน
3. ชุมชนเกิดความร่วมมือในการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค และพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน