แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ปะลุรู
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
โครงการเสริมพลังปรับเปลี่ยนป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เต้านม และปากมดลูก ปี69ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ปะลุรู
ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขชุมชน หมู่ที่ 1
1.นายอับดุลวาหะ ลิงอกือจิ ประธาน
2.นางไยนา สาและกรรมการ
3.นางฆอลีเยาะ ยาการียา กรรมการ
4.น.ส.มัสตูรา ลิงอกือจิ กรรมการ
5.น.ส.คริสติน่า มือลีกรรมการ
หมู่ที่ 1 ตำบลปะลุรู อำเภอสุไงหาดี จังหวัดนราธิวาส
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
ปัจจุบันโรคมะเร็งเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้คนไทยเสียชีวิต สำหรับโรคมะเร็งที่ทำให้สตรีเสียชีวิตมากที่สุด คือ มะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก โดยมะเร็งเต้านมพบมากเป็นอันดับหนึ่งและเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมะเร็งเต้านมจะไม่แสดงอาการในระยะเริ่มแรก จะปรากฏอาการผิดปกติให้เห็นเมื่ออยู่ในระยะก้อนมะเร็งมีการอักเสบ และลุกลามไปทั่วแล้ว การรักษามักไม่ได้ผล ดังนั้น การป้องกันที่ดีที่สุด คือการค้นหาก้อนมะเร็งให้เร็วที่สุด การตรวจเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน สามารถช่วยให้ค้นหามะเร็งเต้านมได้ตั้งแต่ระยะแรก ส่งผลให้ลดอัตราการตายจากมะเร็งเต้านมได้ สำหรับมะเร็งปากมดลูก
จากสถิติทั่วโลกพบว่ามะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบได้มากเป็นอันดับสอง หรือประมาณ 80% ของผู้ป่วยและพบมากในประเทศที่กำลังพัฒนา สำหรับประเทศไทย จากข้อมูลของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ชี้ว่ามะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบได้มากที่สุดในผู้หญิงไทยเมื่อเทียบกับมะเร็งชนิดอื่น และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นทุกปี กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญโรคนี้มาโดยตลอด และเร่งดำเนินการให้ผู้หญิง ได้เข้าถึงเทคโนโลยีที่สามารถป้องกันตนเองจากโรคนี้ได้สำหรับการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งปากมดลูก มีวิธีการค้นหา โดยการตรวจหาเซลล์มะเร็งให้พบตั้งแต่อยู่ในระยะเริ่มแรกและในระยะก่อนเป็นมะเร็งซึ่งสามารถรักษาให้หายได้ และเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการรักษาในระยะลุกลามและจากการศึกษา พบว่า การคัดกรองด้วยการทำ Pap smear ในสตรีกลุ่มเป้าหมายอายุ 30-60 ปี ทำให้ช่วยลดอัตราการเกิดและอัตราการตายจากโรคมะเร็งปากมดลูก
จากข้อมูลการดำเนินงานตรวจมะเร็งปากมดลูก จะเห็นได้ว่าการตรวจมะเร็งปากมดลูกค่อนข้างยาก โรงพยาบาลสุไหงปาดี เป็นหน่วยงานบริการสุขภาพที่ใกล้ชิดกับประชาชนและได้สอบถามสาเหตุที่ไม่ยอมการคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เนื่องจาก ความอาย ไม่กล้าเข้ารับการตรวจคัดกรองยังสถานบริการทาง รพ.สต. ได้ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญในการป้องกันมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมในหญิงอายุ 30-60 ปี
ดังนั้นเพื่อให้การคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านม และต่อมลูกหมาก ในกลุ่มเสี่ยง ชายและหญิง สตรีวัยเจริญพันธุ์ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายและสามารถพบผู้ที่มีความผิดปกติตั้งแต่แรกเริ่มก่อนเป็นโรคมากขึ้น โรงพยาบาลสุไหงปาดี จึงได้จัดทำโครงการอบรมให้ความรู้ในกลุ่มเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมและปากมดลูก ต่อมลูกหมาก เชิงรุก น ปี 2569ขึ้น เพื่อให้สตรีกลุ่มเป้าหมายได้มีพฤติกรรมการตรวจเต้านมด้วยตนเองที่ถูกต้อง
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น : 01/12/2025
กำหนดเสร็จ : 31/08/2026
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
รายละเอียดกิจกรรม/งบประมาณ/อื่นๆ
- ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม จำนวน40 คน x 35 บาท x 2 มื้อ เป็นเงิน 2,800.- บาท
- ค่าอาหารกลางวัน จำนวน 40 คน x 60 บาท เป็นเงิน 2,400.- บาท
- ค่าป้ายไวนิล ขนาด 120*240 เมตร จำนวน 1 แผ่น เป็นเงิน 720.-บาท
- ค่าตอบแทนวิทยากร จำนวน 1 คนจำนวน 4 ชั่วโมงละ 600 บาท เป็นเงิน 2,400.-บาท
- ค่าวัสดุในการจัดกิจกรรม จำนวน 40คน x80 บาท เป็นเงิน 3,200.-บาท
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1.เพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งในกลุ่มชายหญิงอายุ ๓๐-๖๐ ปี ได้มากกว่าร้อยละ ๒๐
2.เพื่อให้ประชาชน อายุ ๓๐-๖๐ ปี มีความรู้และความเข้าใจ การดูแลถูกต้อง
3.เพื่อส่งเสริมการส่วนร่วมของ ชุมชนในการแก้ไขปัญหามะเร็ง