แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
โครงการชุมชนจัดการสุขภาพปรับพฤติกรรม เปลี่ยนชีวิต พิชิตโรคเบาหวาน/ความดันโลหิตสูง ปี 2569 หมู่ที่ 4 6 9 10 และ 12 ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลาชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
ชมรม อสม. รพ.สต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา จ.ยะลา
1. นางอัสเน๊าะ สามะประธาน อสม.ม.4โทร 0807027203
2. นางต่วนเนาะ เจะนิ ประธาน อสม.ม.6โทร 0849656945
3. นางดวงกมล มณี ประธาน อสม.ม.9โทร 0873992940
4. นางแยนะเปาะจิ ประธาน อสม.ม.10 โทร 0811899195
5. นางนูรียะห์ โต๊ะกูเวง ประธาน อสม.ม.12 โทร 0836594849
1.อาคารอเนกประสงค์ตลาดเฉลิมพระเกียรติเทศบาลเมืองสะเตงนอก ม.4 ตำบลสะเตงนอก2. มัสยิดหมู่ที่ 6 บ้านตือโล๊ะกือบอ3. มัสยิดหมู่ที่ 10 บ้านตือเบาะ4. มัสยิดหมู่ที่12 บ้านบาเฆ็ง
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
การมีมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน โดยมีการคัดกรองพฤติกรรมการเกิดโรค ซึ่งมีเป้าหมายประชากรกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไป ต้องได้รับการตรวจคัดกรองความเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานด้วยการวัดความดันโลหิต การชั่งน้ำหนัก วัดความสูงและการวัดเส้นรอบพุง การเจาะน้ำตาลในเลือด เพื่อค้นหาพฤติกรรมเสี่ยงและค้นหาโรคในระยะเริ่มต้น และเพื่อที่จะมีการดำเนินการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงโดยเป้าหมายกลุ่มเสี่ยงต้องได้รับความรู้ มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมรวมทั้งกลุ่มที่สงสัยจะเป็นโรคต้องส่งไปรับการรักษาตั้งแต่เริ่มแรกทุกราย ในรายที่ป่วยแล้วได้รับการตรวจประเมินภาวะโรคอันจะส่งผลให้ลดความรุนแรงของโรค ดังนั้น การดำเนินงานเน้นการทำงานเชิงรุก เร่งการป้องกันโรคโดยใช้เครือข่ายระหว่าง รพ.สต.กับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เพราะการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ที่เกิดจากพฤติกรรมของประชาชนจะประสบความสำเร็จมีประสิทธิภาพและเกิดความต่อเนืองยั่งยืน จำเป็นอย่างยิ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน และใช้กระบวนการที่บูรณาการเชื่อมโยงการดำเนินงานโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นโรคที่เป็นปัญหาที่สำคัญในพื้นที่ ในปีงบประมาณ 2568 ที่ผ่านมา พบว่า ประชานชนทั้ง 5 หมู่บ้านที่ได้รับการคัดกรองโรคเบาหวาน มีภาวะน้ำตาลปกติ เสี่ยง และสงสัยป่วย ดังนี้ ประชาชน ม.4 บ้านนัดโต๊ะโมง มีภาวะน้ำตาลปกติ 787 คน คิดเป็นร้อยละ 91.94 เสี่ยง จำนวน 52 คน คิดเป็นร้อยละ 6.07 สงสัยป่วย จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 1.99 ประชาชน ม.6 บ้านตือโล๊ะกือบอ มีน้ำตาลปกติ ร้อยละ 85.41 เสี่ยงจำนวน 75 คน คิดเป็นร้อยละ 9.52 สงสัยป่วยจำนวน 39 คน คิดเป็นร้อยละ 4.95 ประชาชน ม.9 บ้านกือแลหม๊ะ มีน้ำตาลปกติ ร้อยละ 86.84 เสี่ยงจำนวน 129 คน คิดเป็นร้อยละ 7.32 สงสัยป่วย จำนวน 100 คน คิดเป็นร้อยละ 5.67 ประชาชน ม.10 บ้านตือเบาะ มีน้ำตาลปกติ 856 คน คิดเป็นร้อยละ 88.64 เสี่ยง จำนวน 28 คน คิดเป็นร้อยละ 3.17 สงสัยป่วย จำนวน 22 คน คิดเป็นร้อยละ 2.49 ประชาชน ม.12 บ้านบาเฆ็ง ประชานชนที่ได้รับการคัดกรองโรคเบาหวาน 1,027 คน มีน้ำตาลปกติ ร้อยละ 93.29 เสี่ยง จำนวน 58 คน คิดเป็นร้อยละ 5.19สงสัยป่วย จำนวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 1.34 และประชาชนทั้ง 5 หมู่บ้านได้รับการคัดกรองโรคความดันโลหิตมีภาวะปกติ เสี่ยง และสงสัยป่วย ดังนี้ ประชาชน ม.4 ได้รับการคัดกรองโรคความดันโลหิตสูง ปกติ 714 คน คิดเป็นร้อยละ 92.37 เสี่ยงจำนวน 43 คน คิดเป็นร้อยละ 5.56 สงสัยป่วยจำนวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 1.18 และป่วยเป็นโรค รายใหม่ จำนวน 2 ราย ประชาชน ม.6 ได้รับการคัดกรองโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 665 คน คิดเป็นร้อยละ 91.35 เสี่ยง จำนวน 36 คน คิดเป็นร้อยละ 4.95 สงสัยป่วย จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 1.65 และป่วยเป็นโรครายใหม่ จำนวน 15 ราย ประชาชน ม.9 ได้รับการคัดกรองโรคความดันโลหิตสูง ปกติ 1,465 คน คิดเป็นร้อยละ 94.03เสี่ยง จำนวน 58 คน คิดเป็นร้อยละ 3.72 สงสัยป่วย จำนวน 31 คน คิดเป็นร้อยละ 1.99 และป่วยเป็นโรครายใหม่ จำนวน 4 ราย ประชาชน ม.10 ได้รับการคัดกรองโรคความดันโลหิตสูง ปกติ 856 คน คิดเป็น ร้อยละ 95.86 เสี่ยงจำนวน 31 คน คิดเป็นร้อยละ 3.47 สงสัยป่วยจำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 0.67 และป่วยเป็นโรครายใหม่ จำนวน 1 ราย และประชาชน ม.12 ที่ได้รับการคัดกรองโรคความดันโลหิตสูง ปกติ 1,027 คนคิดเป็น ร้อยละ 96.80 เสี่ยงจำนวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 2.83 สงสัยป่วยจำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 0.38 และป่วยเป็นโรครายใหม่ จำนวน 2 ราย
ดังนั้น หากประชาชนในกลุ่มต่างๆ ปฏิบัติตัวยังไม่ถูกต้อง หรือขาดความรู้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และขาดความรอบรู้ในการจัดการพฤติกรรมสุขภาวะตนเองแล้ว จะส่งผลให้เกิดผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นในทุกปี ประกอบกับประชาชนยังขาดการเข้าถึงการดูแลด้านสุขภาพ และขาดการจัดการสุขภาพของชุมชนโดยชุมชน ในการดูแลหรือบริการอย่างต่อเนื่องและใกล้บ้านใกล้ใจ ไม่ว่าจะเป็นจุดหรือสถานที่ให้บริการหรือสถานที่ร่วมจัดการด้านสุขภาพในชุมชนที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ และเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หมู่ที่ 4,6,9,10 และ 12 ตำบลสะเตงนอก จึงได้จัดทำโครงการชุมชนจัดการสุขภาพปรับพฤติกรรม เปลี่ยนชีวิต พิชิตโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ปี 2569 ขึ้น เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงมีความรู้ความเข้าใจและสร้างความตระหนักในการดูแลสุขภาพ มีพฤติกรรมที่ดี และได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรัง ประชาชนในพื้นที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
วัตถุประสงค์
1. เพื่อปรับพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตและโรคเบาหวานในประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป
2. เพื่อพัฒนาและยกระดับศักยภาพในการบริการและจัดการด้านสุขภาพของกลุ่มเสี่ยง สงสัยป่วยสามารถเข้าถึงระบบบริการของชุมชนโดยชุมชน
3. เพื่อส่งเสริมการเกิดกลไกจัดการหมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต้นแบบห่างไกลโรค NCDs
ตัวชี้วัด
1. กลุ่มเสี่ยง สงสัยป่วย มีความรอบรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการป้องกันการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80
2. มีสถานีสุขภาพ“Health station” ในชุมชน 5 แห่ง
3. เกิดกลไกจัดการหมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต้นแบบห่างไกลโรค NCDs
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น : 01/01/2026
กำหนดเสร็จ : 31/08/2026
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?ประชาชนกลุ่มเสี่ยงในชุมชนมีความรอบรู้ ความเข้าใจและเกิดความตระหนัก สามารถดูแล และจัดการสุขภาพตนเอง ปรับพฤติกรรมโดยไม่เป็นกลุ่มป่วยรายใหม่ รวมทั้งสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพในชุมชน (ใกล้บ้าน ใกล้ใจ) ได้ทั่วถึง ช่วยประหยัดงบประมาณของครัวเรือนในการเดินทาง และได้รับการดูแลจากชุมชนโดยทีมคณะทำงานของชุมชนเองอย่างมีประสิทธิภาพ