แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.โต๊ะเด็ง
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล อบต.โต๊ะเด็ง
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโผลง สังกัดกองการศึกษาฯ องค์การบริหารส่วนตำบลโต๊ะเด็ง
ห้องประชุมบังสูรย์องค์การบริหารส่วนตำบลโต๊ะเด็ง
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
ทุกคนอยากมีสุขภาพดี ไม่เจ็บป่วย ซึ่งการกินอาหารถูกต้องเหมาะสมและพอเพียงจะทำให้มีโภชนาการดี และนำไปสู่การมีสุขภาพดี ในทางตรงกันข้ามหากกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ไม่เพียงพอจะทำให้ขาดสารอาหาร หรือถ้ากินอาหารมากเกินไป ก็จะทำให้เป็นโรคอ้วน หรือโภชนาการเกิน“โภชนาการ” จึงเป็นเรื่องของการกิน “อาหาร” ที่ร่างกายเรานำ “สารอาหาร” จากอาหารไปใช้ประโยชน์และดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างเป็นสุข อาหารและโภชนาการเป็นพื้นฐานที่สำคัญยิ่งต่อสุขภาพ และคุณภาพชีวิตของประชากรในวัยต่าง ๆ ในวงจรชีวิตมนุษย์ทุกเพศ ทุกวัยทั้งเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ ฯโดยเฉพาะในเด็กวัยก่อนเรียนเป็นวัยที่อยู่ในระยะสำคัญของชีวิต เป็นวัยรากฐานของพัฒนาการ การเจริญเติบโตทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและสติปัญญา จึงเป็นวัยที่มีความสำคัญเหมาะสมที่สุดในการวางพื้นฐานเพื่อยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะในระยะ 2 ปี แรกของชีวิต เป็นระยะที่ร่างกายและสมอง มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วจำเป็นต้องได้รับการเลี้ยงดูที่ดีที่สุด เพื่อส่งเสริมพัฒนาการรอบด้านอาหารและภาวะโภชนาการที่ดีเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาของเด็กวัยก่อนวัยเรียน ปัญหาทางโภชนาการที่พบบ่อยในเด็กวัยนี้ ได้แก่ ภาวะการเจริญเติบโตไม่สมวัยจากโรคขาดสารอาหาร ภาวะโภชนาการเกินการขาดสารไอโอดีน ภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก โดยมีสาเหตุสำคัญจากพฤติกรรมการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ลดลง การให้อาหารตามวัยแก่เด็กเร็วเกินไปและไม่ถูกต้อง
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโผลง มีเด็กทั้งหมด 65คนมีเด็กมีภาวะน้ำหนักเกินเกณฑ์ 1คน เด็กน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ 2 คน และเด็กตัวเตี้ยจำนวน 1 คน หากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กไม่แก้ปัญหาเด็กกลุ่มนี้ จะส่งผลเสียกับเด็กต่อไปในอนาคต
ดังนั้น ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโผลง สังกัดกองการศึกษาฯ องค์การบริหารส่วนตำบลโต๊ะเด็งได้เล็งเห็นความสำคัญของการเฝ้าระวังทางโภชนาการในเด็กก่อนวัยเรียน เพื่อให้เด็กมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง มีการเจริญเติบโตของสมองและร่างกายเหมาะสมตามวัย เติบโตเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า และเป็นอนาคตที่สำคัญของประเทศชาติต่อไป จึงจัดทำโครงการส่งเสริมสุขภาพและโภชนาการเด็กปฐมวัยศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโผลง มีเด็กทั้งหมด 65คนมีเด็กมีภาวะน้ำหนักเกินเกณฑ์ 1คน เด็กน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ 2 คน และเด็กตัวเตี้ยจำนวน 1 คน หากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กไม่แก้ปัญหาเด็กกลุ่มนี้ จะส่งผลเสียกับเด็กต่อไปในอนาคต
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ผู้ปกครอง ครู ผู้ดูแลเด็กและผู้ประกอบอาหารศพด.มีความรู้ความเข้าใจถึงภาวะโภชนาการและส่งเสริมโภชนาการของลูกแต่ละช่วงวัย
2. เพื่อให้ผู้ปกครอง ครูและผู้ดูแลเด็กสามารถนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้
3. เพื่อให้ผู้ปกครอง ครูและผู้ดูแลเด็กมีความรู้เรื่องโรคที่พบบ่อยในเด็กสามารถดูแลรักษาและป้องกันโรคได้
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 06/06/2019
กำหนดเสร็จ 06/06/2019
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1. ผู้ปกครอง ครู ผู้ดูแลเด็กและผู้ประกอบอาหารศพด.มีความรู้ความเข้าใจเรื่องการโภชนาการและการส่งเสริมโภชนาการของลูกแต่ละช่วงวัย
2. ผู้ปกครอง ครู ผู้ดูแลเด็กและผู้ประกอบอาหารศพด.สามารถนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ให้หมาะสมกับเด็กได้
3. เด็กปฐมวัย มีพัฒนาการทางด้านร่างกายและสองเจริญเติบโตสมวัย
4. ผู้ปกครอง ครูและผู้ดูแลเด็กมีความรู้เรื่องโรคที่พบบ่อยในเด็กสามารถดูแลรักษาและป้องกันโรคได้
5. ผู้ปกครอง ครูและผู้ดูแลเด็กมีความรู้เกี่ยวกับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
6. เด็กมีสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้นและมีพัฒนาการสมวัย