กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลโคกชะงาย

1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม

โครงการการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกในชุมชน ปี 2563

ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา

กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลตำบลโคกชะงาย

โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโคกชะงาย

1.นางพรภิรมย์ ด้วงเล็ก
2.นางสาวสุกัญญา อินทร์เหมือน
3.นางสาวนิสรีน เหล็มปาน

หมู่ที่ 2, 3, 4, 5, 6 และ 8 ตำบลโคกชะงาย อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง

2. ความสอดคล้องกับแผนงาน

แผนงานเผชิญภัยพิบัติและโรคระบาด

3. สถานการณ์

สถานการณ์ปัญหาขนาด
1 อัตราป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกในชุมชน 297.18 ต่อแสนประชากร

 

3.00

โรคไข้เลือดออกเป็นโรคติดต่อนำโดยแมลง ซึ่งมียุงเป็นพาหะนำโรค สามารถพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี แต่มักพบการระบาดในฤดูฝนผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงลอยตลอดเวลาหน้าแดงปวดศีรษะเบื่ออาหารอาเจียนซึมถ้ารักษาไม่ทันอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ จากรายงานพยากรณ์โรคไข้เลือดออกของกรมควบคุมโรค คาดว่าในปี พ.ศ. 2562 จะมีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกประมาณ 94,000 – 95,000 ราย นอกจากนี้ในช่วงปลายปี 2560 - 2561 มีการเปลี่ยนแปลงชนิดของไวรัสเดงกี จึงมีโอกาสที่จะพบผู้ป่วยและผู้ป่วยเสียชีวิตสูงในพื้นที่ที่ไม่มี Den-2 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 6 สิงหาคม 2562 พบ ผู้ป่วย 64,159 ราย เสียชีวิต 72 ราย กลุ่มอายุที่ป่วยมกที่สุด คือ กลุ่มอายุ 5 - 14 ปี รองลงมา 15 - 34 ปี(กรมควบคุมโรค, 2562) สำหรับจังหวัดพัทลุง ตั้งแต่ 1 มกราคม – 16 ตุลาคม 2562 มีผู้ป่วย จำนวน 879 ราย คิดมีอัตราป่วย167.44 ต่อแสนประชากร มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นอันดับที่ 22 ของประเทศ อำเภอเมืองพัทลุง มีผู้ป่วยทั้งหมด 310 คน คิดเป็นอัตราป่วย 255.44 ต่อแสนประชากร เป็นอันดับที่ 2 ของจังหวัด รองจากอำเภอตะโหมด (สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลา, 2562)
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโคกชะงาย ตำบลโคกชะงายอำเภอเมืองจังหวัดพัทลุงมีหมู่บ้านที่รับผิดชอบทั้งหมด6หมู่บ้านจำนวน810หลังคาเรือนโรงเรียน1แห่งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 1 แห่ง
วัด 2 แห่ง จากข้อมูลรายงาน 506 ตั้งแต่ 1 มกราคม – 16 ตุลาคม 2562มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดทุกชนิด ทั้งหมด 14 ราย ซึ่งเดือนเมษายน และเดือนสิงหาคม มีการระบาดของโรคมากที่สุด ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง กลุ่มอายุที่ป่วยมากที่สุด คือ กลุ่มอายุ 0-14 ปี รองลงมา คือ กลุ่มอายุ 15 – 34 ปีเมื่อจำแนกรายหมู่บ้าน พบว่า หมู่ที่ 8 มีผู้ป่วยมากที่สุด จำนวน 4 ราย รองลงมาคือ หมู่ที่ 5 จำนวน 3 ราย ทุกๆปี ชุมชนได้ดำเนินการกิจกรรม ป้องกันและควบคุม
โรคไข้เลือดออก โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในชุมชน ร่วมดำเนินการในรณรงค์สำรวจและทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายและควบคุมโรคกรณีมีผู้ป่วย จากการดำเนินงานที่ผ่านมาพบว่า ดัชนีลูกน้ำยุงลายในชุมชนยังเกินค่ามาตรฐาน (HI ≤10) ภาชนะแห่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายส่วนใหญ่ เป็นภาชนะเหลือใช้บริเวณรอบบ้าน เช่น ยางรถยนต์ แก้วน้ำพลาสติก ขวดน้ำ เป็นต้น และยังพบว่าประชาชนในบางครัวเรือนยังขาดความตระหนักการจัดสภาพแวดล้อมทั้งในบ้านและรอบบ้านให้เรียบร้อย และทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำที่บ้านของตนเองอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ตำบลโคกชะงายยังคงมีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกอย่างต่อเนื่อง จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุข ได้ตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนจากโรคไข้เลือดออก จึงจัดโครงการการป้องกัน และควบคุมโรคไข้เลือดออกในชุมชน ปี 2563 ขึ้น เพื่อดำเนินงานป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกในพื้นที่ โดยเน้นให้ชุมชนประชาชนโรงเรียนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา ช่วยลดอัตราความชุกของลูกน้ำยุงลายในหมู่บ้านส่งผลให้อัตราป่วยโรคไข้เลือดออกในตำบลโคกชะงายลดลง

ระบุสถานการณ์ หลักการและเหตุผล หรือ ที่มาของการทำโครงการ เพิ่มเติม

4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด

  • บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
  • ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
วัตถุประสงค์ / ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดเป้าหมาย 1 ปี
1 เพื่อทำลายภาชนะที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายทุกหลังคาเรือน

ทุกหลังคาเรือนทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย

3.00 810.00
2 เพื่อลดอัตราความชุกของลูกน้ำยุงลายในชุมชนไม่เกินร้อยละ 10

ลดอัตราความชุกของลูกน้ำยุงลายในชุมชนไม่เกินร้อยละ 10

3.00 9.00
3 เพื่อลดอัตราป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกในชุมชนไม่เกิน 75 ต่อแสนประชากร

ลดอัตราป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกในชุมชนไม่เกิน 75 ต่อแสนประชากร

3.00 12.00

5. กลุ่มเป้าหมาย

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
กลุ่มวัยทำงาน
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง 3,066
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]

6. ระยะเวลาดำเนินงาน

วันเริ่มต้น 01/10/2019

กำหนดเสร็จ 31/07/2020

7. วิธีการดำเนินงาน

  • กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
  • งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด

กิจกรรมที่ 1 กิจกรรมรณรงค์และควบคุมโรคไข้เลือดออกในชุมชน

ชื่อกิจกรรม
กิจกรรมรณรงค์และควบคุมโรคไข้เลือดออกในชุมชน
รายละเอียดกิจกรรม/งบประมาณ/อื่นๆ
  • ค่าน้ำยาเคมีกำจัดยุง จำนวน 2 ลิตร ๆ ละ 1,200 บาท เป็นเงิน 2,400 บาท
  • ทรายกำจัดลูกน้ำยุง (แบบซองชา) 4 ถัง ๆ ละ 4,500 บาทเป็นเงิน 18,000 บาท
  • โลชั่นทากันยุง จำนวน 100 หลอด ๆ ละ 50 บาท เป็นเงิน5,000 บาท
  • สเปรย์กำจัดยุง 60 กระป๋อง ๆ ละ 75 บาท เป็นเงิน4,500 บาท
  • ค่าจ้างเหมาพ่นยุง จำนวน 10 คนๆละ 5 ครั้งๆละ 300 บาท เป็นเงิน 15,000 บาท
ระยะเวลาดำเนินงาน
ถึง
ผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome)

ดัชนีลูกน้ำยุงลายในชุมชนไม่เกินร้อยละ 10

จำนวนเงินงบประมาณของกิจกรรม (บาท)
44900.00

งบประมาณโครงการ

จำนวนงบประมาณที่ต้องการสนับสนุน จำนวน 44,900.00 บาท

หมายเหตุ :
ทุกรายการสามารถัวเฉลี่ยกันได้

8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง

ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?

1.ลดอัตราป่วยโรคไข้เลือดออกในชุมชนไม่เกิน 75 ต่อแสนประชากร
2.ทุกหลังคาเรือนทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ
3.ทุกหลังคาเรือนทำลายแหล่งเพาะพันธ์ลูกน้ำยุงลาย
4.ลดอัตราความชุกของลูกน้ำยุงลายในชุมชนไม่เกินร้อยละ 10
5.ลดอัตราป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกในชุมชนไม่เกิน 75 ต่อแสนประชากร


>