แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่างาม ต.ท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
70
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่างาม ต.ท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
ประชาชนในชุมชนไม่มีความรู้เรื่องการดูแลตนเองเพื่อป้องกันโรคเบาหวาน
ระบุสถานการณ์ หลักการและเหตุผล หรือ ที่มาของการทำโครงการ เพิ่มเติม4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
1.เพื่อให้ผู้สูงอายุมีความรู้เรื่องการดูแลตนเองเพื่อป้องกันการพลัดตกหกล้ม ข้อเข่าเสื่อม ถาวะซึมเศร้า และภาวะสมองเสื่อม
2.เพื่อให้ผู้สูงอายุสมารถดูแลสุขภาพในเรื่องการพลัดตกหกล้ม ข้อเข่าเสื่อม ถาวะซึมเศร้า และภาวะสมองเสื่อมได้ด้วยตนเอง
3.เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับการตรวจประเมินภาวะสุขภาพในเรื่องพลัดตกหกล้ม ข้อเข่าเสื่อม ภาวะซึมเศร้าและภาวะสมองเสื่อม
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 01/12/2019
กำหนดเสร็จ 31/10/2020
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?ประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไปรับการคัดกรองเบาหวานและความดันโลหิตสูงตามมาตรฐานที่กำหนด กลุ่มเสี่ยง และป่วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูงมีความรู้เรื่องโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง และได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 3อ.2ส. ส่งผลให้อัตราอุบัติการณ์ผู้ป่วยรายใหม่ของโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงในประชาชนกลุ่มเสี่ยงลดลง และผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงสามารถควบคุมความดันโลหิตไม่น้อยกว่า ร้อยละ 50 และผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถควบคุมน้ำตาลในเลือดไม่น้อยกว่าร้อยละ 40