แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.นาทอน
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กปลอดโรค ปลอดภัย อนามัยดีชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล อบต.นาทอน
กองการศึกษาฯ อบต.นาทอน
1. นางวิไลวรรณอย่างดี*โทร080-5465815
2. นางสาวศุพรรัตน์โสสนุย
3. นางรัชนีเวชศักดิ์
4. นางสาวอนาทินีเสียมไหม
5. นางสาวศุภรดาธรรมสะโร
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านวังเจริญราษฎร์ ต.นาทอน อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
การเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้แก่เด็กปฐมวัย เป็นภารกิจสำคัญที่สำคัญยิ่งที่ทุกฝ่ายจะต้องตระหนักถึงการเจริญเติบโต สุขภาพอนามัย และพัฒนาการของเด็ก ซึ่งเด็กปฐมวัยยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ดี ประกอบกับสภาพสังคมและเศรษฐกิจปัจจุบันที่เปลี่ยนไป พ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ประสบปัญหาการเลี้ยงดูบุตรหลาน เนื่องจากต้องใช้เวลาเพื่อการประกอบอาชีพ การนำบุตรหลานไปเข้ารับการเลี้ยงดูในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเพื่อเตรียมความพร้อมของเด็กก่อนเข้าโรงเรียน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเป็นสถานที่ที่เด็กอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก ทำให้เชื้อโรคสามารถแพร่เชื้อและติดต่อสู่กันได้ง่าย เมื่อมีเด็กเจ็บป่วยเพราะเด็กเล็กมีภูมิต้านทานต่ำ จึงมีโอกาสป่วยได้โดยเฉพาะโรคติดต่อที่สำคัญและพบบ่อยในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ได้แก่ โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ โรคมือ เท้า ปาก โรคอุจจาระร่วง โรคตาแดง โรคติดต่อที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน เช่น คางทูม อีสุกอีใส และหัด เป็นต้น และนอกจากนี้ยังมีโรคอื่นๆ เช่น โรคและความผิดปกติในช่องปากที่มีปัญหาชัดเจนและพบมาในเด็ก คือ โรคฟันผุ ซึ่งเด็กกลุ่มนี้จะขาดการดูแลที่ถูกต้องเหมาะสมจึงเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจะต้องมีการดูแลจัดสภาพแวดล้อมให้สะอาดถูกสุขลักษณะ ปลอดโรค และความปลอดภัยทั้งภายนอกและภายใน รวมไปถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆด้วย เช่น ความปลอดภัยบนท้องถนน หรือปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นกับเด็กได้ ผู้เกี่ยวข้องทุกคนจึงต้องมีความตระหนักและแก้ปัญหาให้ทันท่วงทีเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่เด็ก ผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้องต่อไป
สรุปข้อมูลสุขภาพ ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านวังเจริญราษฎร์ซึ่งมีเด็กทั้งหมด จำนวน 70 คน พบว่า
1. โรคฟันผุจำนวน คน
สาเหตุของปัญหา ดังนี้
-เด็กแปรงฟันไม่เป็นจำนวน30 คน
-เด็กฟันผุมาจากบ้านจำนวน50 คน
-เด็กชอบพาขนมกรุบกรอบ,ลูกอมจำนวน 7คน
-เด็กพาขวดนมและหลับคาขวดนม จำนวน8คน
2. น้ำหนักโภชนาการไม่สมส่วนจำนวน4คน
3. เด็กเป็นหวัดบ่อย จำนวน10คน
4. เด็กมีแผลพุพอง จำนวน4คน
5. ไม่สวมใส่หมวกกันน๊อค จำนวน40คน
จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่าเด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็กมีปัญหาด้านสุขภาพ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเด็กในด้านการดูแลสุขภาพอนามัยที่ดีและพัฒนาการเหมาะสมตามวัย
ดังนั้น ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านวังเจริญราษฎร์ จึงมีแนวคิดเรื่องโครงการ “ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กปลอดโรคปลอดภัยอนามัยดี” เพื่อส่งเสริมด้านสุขภาพ พัฒนาการที่เหมาะสมตามวัยของเด็กและส่งเสริมให้เด็กและผู้ปกครองได้ตระหนักถึงปลอดภัยในชีวิตประจำวัน เป็นการลงทุนในการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยที่สามารถปันผลให้ได้ตลอดชีวิต ครูและผู้ปกครองชุมชนสามารถสร้างแบบอย่างที่ดีให้กับเด็ก โดยร่วมมือกับสาธารณสุขอำเภอทุ่งหว้า โรงพยาบาลทุ่งหว้า สถานีตำรวจภูธรทุ่งหว้า รพ.สต.บ้านวังตง องค์การบริหารส่วนตำบลนาทอน และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านวังเจริญราษฎร์ในการส่งเสริมสุขภาพและความปลอดภัยต่อไป
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น : 01/05/2021
กำหนดเสร็จ : 30/09/2021
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
ถัวเฉลี่ยทุกรายการ
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1.ผู้ปกครองเด็ก ได้รับความรู้เกี่ยวกับการดูแลส่งเสริมสุขภาพอนามัยและการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยทุกคน
2.เด็กและผู้ปกครองแปรงฟันที่ถูกวิธีและตระหนักถึงความสำคัญของการแปรงฟันทุกคน
3.เด็กและผู้ปกครองได้รับความรู้ความเข้าใจในการขับขี่อย่างปลอดภัยและสวมใส่หมวกกันน๊อคร้อยละ80