โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ อยู่อย่างไรห่างไกลไตวาย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุ่งนุ้ยปีงบประมาณ 2560
ชื่อโครงการ | โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ อยู่อย่างไรห่างไกลไตวาย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุ่งนุ้ยปีงบประมาณ 2560 |
รหัสโครงการ | 52816001 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุ่งนุ้ย |
วันที่อนุมัติ | 4 กรกฎาคม 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 กรกฎาคม 2560 - 30 กันยายน 2560 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 31,700.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางยุพา ปังแลมาเส็น |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.871,100.144place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 257 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | 222 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ด้วยปัจจุบันกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เป็นปัญหาสำคัญทางสาธารณสุขและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรคเบาหวาน(DM)และโรคความดันโลหิตสูง (HT) เป็นภัยเงียบที่ส่งผลกระทบทำให้เกิดภาวะโรคแทรกซ้อน ทำให้เกิดความพิการและตายก่อนวัยอันควร การเกิดโรคมีสาเหตุจากหลายปัจจัยเสี่ยงที่มาจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม ขาดการออกกำลังกาย และนำไปสู่การเจ็บป่วยแทรกซ้อนที่สำคัญ อาทิ ผลต่อเส้นเลือดที่ตา ทำให้เกิดอาการตามัวหรือตาบอด ผลต่อเส้นเลือดที่ไต ทำให้การทำงานของไตผิดปกติไตวาย ผลต่อเส้นเลือดที่หัวใจ ทำให้เกิดโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตัน ผลต่อระบบประสาท ทำให้เกิดภาวะปลายเส้นประสาทอักเสบผลต่อเส้นเลือดบริเวณปลายมือปลายเท้าทำให้เกิดแผลที่เท้าได้ง่ายความเจ็บป่วยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยตลอดจนค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขโดยรวม ไตเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่กรองสารต่างๆที่อยู่ในกระแสเลือดมีเส้นเลือดขนาดเล็กมากมายบริเวณไตเมื่อผนังเส้นเลือดถูกทำลายโดยน้ำตาลในเลือดที่สูงอยู่เป็นเวลานานการทำหน้าที่ในการกรองของไตจะเริ่มเสื่อมลงทำให้โปรตีนรั่วออกมาในปัสสาวะ ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานมานานกว่า๑๐ปี มักเกิดปัญหาไตเสื่อมแต่ความรุนแรงและระยะการเกิดจะมากหรือน้อยขึ้นกับการควบคุมน้ำตาลในเลือดและที่สำคัญที่สุดคือการตรวจหาปริมาณโปรตีนในปัสสาวะ ตั้งแต่เริ่มแรกที่ยังไม่มีอาการด้วยวิธีตรวจหาปริมาณไข่ขาวในปัสสาวะที่เก็บภายใน๒๔ชั่วโมงซึ่งเมื่อตรวจพบได้ในระยะเริ่มต้นนี้จะมีการดูแลรักษาเพื่อช่วยชะลอความเสื่อมของไตได้มากสามารถยืดระยะเวลาการดำเนินของโรค เข้าสู่ภาวะไตวายเรื้อรังได้อีกหลายปี จากการดำเนินงานโรคไม่ติดต่อเรื้อรังของโรงพยาบาลส่งเสริมสุภาพตำบลทุ่งนุ้ยพบว่าผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงในเขตรับผิดชอบจำนวน๒๔๐รายมีภาวะแทรกซ้อนของไตระยะที่ ๓ - ๕ ในปี ๒๕๕๘ – ๒๕๖๐ เป็นจำนวน ๒๓,๓๙,และ ๖๐รายตามลำดับ ( ข้อมูลจากทะเบียนผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง รพ.สต.ทุ่งนุ้ย )พบว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆคณะทำงานโรคไม่ติดต่อเรื้อรังโรงพยาบาลส่งเสริมสุภาพตำบลทุ่งนุ้ย ได้ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดจากภาวะแทรกซ้อนทางไต ของผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงจึงได้จัดทำโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการอยู่อย่างไรห่างไกลไตวาย ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐ ขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนทางไตของผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง
|
||
2 | เพื่อกระตุ้นให้ผู้ป่วยตระหนัก ต่อการดูแลสุขภาพของตนเองก่อนเกิดการเจ็บป่วยรุนแรง โดยความร่วมมือของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขผู้ป่วยผู้ดูแลและอสม.
|
||
3 | เพื่อกำหนดมาตรการและวิธีการเชิงรุกในการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันควบคุมโรค การสนับสนุนการดูแลรักษา และให้บริการที่เหมาะสมกับกลุ่มป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อนทางไต
|
ขั้นเตรียมการ
๑.รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล ผลจากการตรวจคัดกรองภาวะแทรกซ้อนทางไตของผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง
ประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทีม NCD เพื่อหาแนวทางการดำเนินงาน
๒.เขียนโครงการเสนอเพื่อขอรับการสนับสนุนและอนุมัติงบประมาณ และเพื่อสนับสนุนนโยบายแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ สาขา NCD
๓.ประชุมชี้แจงโครงการกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแผนการดำเนินงาน จัดทำแผนการดำเนินงานและดำเนินการตามแผน
ขั้นดำเนินการ
๔.ลงทะเบียนผู้เข้าร่วมโครงการ
๕.ประเมินความรู้ก่อนเข้ารับการอบรม
๖.อบรมกลุ่มเป้าหมาย ผู้ดูแลและแกนนำ อสม.
๗.แจ้งภาวะสุขภาพให้ผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อนทราบว่าตนเองมีปัญหาไตอยู่ในระยะใด (๑ – ๕)และหาแนวทางการดูแลสุขภาพร่วมกันเพื่อลดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง
ขั้นประเมินผล
๘ประเมินความรู้หลังเข้ารับการอบรม
๙ติดตามผลการดูแลตนเองของผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อนทางไตและติดตามผลการเจาะเลือด ตรวจปัสสาวะประจำปี
๑. กลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานความดันโลหิตสูง ผู้ดูแลผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงที่มีภาวะแทรกซ้อนทางไตแกนนำ อสม ได้รับความรู้ คำแนะนำและให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพตนเองและมีพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม
๒. กลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานความดันโลหิตสูงที่มีภาวะแทรกซ้อนทุกคน ได้รับการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมอย่างครบวงจร ทั้งในส่วนของการดูแลตนเอง การได้รับบริการจากสถานบริการตั้งแต่ระดับปฐมภูมิ จนถึงตติยภูมิ รวมทั้งการสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการดูแลสุขภาพในชุมชน
๓. กลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานความดันโลหิตสูงที่มีภาวะแทรกซ้อน ได้รับการเฝ้าระวังติดตามและป้องกันความเสี่ยงการเกิดโรคแทรกซ้อนที่รุนแรงขึ้นอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
๔. บุคลากรที่ปฏิบัติงานได้รับการพัฒนาศักยภาพให้มีความรู้และทักษะในการจัดการและบริการ เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2560 13:54 น.