กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

กิตติกรรมประกาศ

"โครงการแยกขยะในมือคุณ มอบรอยยิ้มให้ชุมชน จังหวัดนราธิวาส" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ณ ห้องสมุดและอาคารอเนกประสงค์ หมู่ที่ 2 ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส

คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.โคกเคียน ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป

คณะทำงานโครงการ
โครงการแยกขยะในมือคุณ มอบรอยยิ้มให้ชุมชน

บทคัดย่อ

โครงการ " โครงการแยกขยะในมือคุณ มอบรอยยิ้มให้ชุมชน " ดำเนินการในพื้นที่ ณ ห้องสมุดและอาคารอเนกประสงค์ หมู่ที่ 2 ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส รหัสโครงการ 60-L2492-2-33 ระยะเวลาการดำเนินงาน 25 สิงหาคม 2560 - 30 กันยายน 2560 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 20,000.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล อบต.โคกเคียน เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้

โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ

หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"

สารบัญ

ความเป็นมา/หลักการเหตุผล

จากการเก็บรวบรวมขยะมูลฝอยในหมู่บ้านโคกพะยอม ตำบลโคกเคียน พบว่ามีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกปี ขยะมูลฝอยที่รถเก็บขนขององค์การบริหารส่วนตำบลโคกเคียนไปเททิ้งยังบ่อขยะเพื่อกำจัดนั้นได้แก่ ขยะที่เป็นถุงพลาสติกจำนวนมาก ขยะอินทรีย์ ขยะรีไซเคิล ขยะอันตรายและขยะทั่วไป ซึ่งหากมีการคัดแยกตั้งแต่ต้นทางจากแหล่งกำเนิดจะสามารถลดปริมาณขยะที่จะนำไปกำจัดลงได้ ชมรมเยาวชนโคกพะยอมรักษ์สันติ จึงได้เล็งเห็นถึงปัญหาการจัดการขยะมูลฝอย ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจำนวนมาก จึงได้จัดให้มีโครงการลดและแยกขยะมูลฝอยจากแหล่งกำเนิดในยุทธศาสตร์ด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อปรับปรุงระบบการจัดการขยะมูลฝอยในชุมชนหมู่บ้านโคกพะยอมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ปริมาณขยะมูลฝอยในหมู่บ้านโคกพะยอม เกิดจากพฤติกรรมการใช้วัสดุสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันที่มีการเลือกใช้วัสดุที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่มีการคำนึงถึงผลกระทบอันอาจเกิดการใช้วัสดุเครื่องใช้ฝอยในครัวเรือนที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อสภาวะภูมิอากาศ หรือ สิ่งแวดล้อม ฉะนั้นการส่งเสริมให้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของประชาชน ให้มีการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทางในระดับครัวเรือน การให้สุขศึกษา ประชาสัมพันธ์ จะทำให้ประชาชนตระหนักและเข้าใจสภาพปัญหาหรือผลกระทบที่เกิดขึ้น มีความสนใจและใส่ใจในการปฏิบัติตาม จำเป็นต้องมีการปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอในรูปแบบที่แตกต่างกันไป โดยจะต้องพิจารณาเนื้อหาและสื่อที่จะใช้ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย ตลอดจนเวลาที่เหมาะสม ซึ่งการส่งเสริมให้มีการคัดแยกขยะนอกจากสมารถลดปริมาณขยะจากแหล่งกำเนิดลงได้แล้ว ยังเป็นการสร้างรายได้จากการคัดแยกของเพื่อนำไปขายได้อีกด้วย การรณรงค์ให้ความรู้แก่เด็ก เยาวชนและประชาชนในชุมชนให้มีความรู้ในการคัดแยกขยะที่ถูกต้องเหมาะสม เป็นกลวิธีอีกอย่างหนึ่งที่มีความสำคัญที่จะทำให้เกิดจิตใต้สำนึกในการคัดแยกขยะและรักษาสิ่งแวดล้อม จนสามารถเป็นตัวอย่างแก่คนในชุมชนได้ ซึ่งหากทุกองค์กรเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยร่วมกับหน่วยงานของของรัฐ โดยหาแนวทางแก้ไข กลวิธีที่จะใช้เพื่อให้เกิดผลเป็นที่น่าพอใจก็จะทำให้ประสบผลสำเร็จและการดำเนินงานโดยอาศัยรางสร้างที่มีอยู่เดิมในชุมชนทำให้มีความเข้มแข็งมากขึ้นด้วย

สถานการณ์

วัตถุประสงค์โครงการ

1. 1. เพื่อให้ประชาชนได้รับความรู้ มีความตระหนักการคัดแยกขยะได้อย่างถูกต้อง
2. 2. ได้รู้วิธีการนำขยะมูลฝอยกลับมาใช้ประโยชน์ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
3. 3. เพื่อสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนลดใช้วัสดุที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
4. 4. เพื่อสร้างความเข้าใจให้ประชาชนมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคและการทิ้งขยะมูลฝอย

กิจกรรม/การดำเนินงาน

กลุ่มเป้าหมาย

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1. ประชาชนมีความรู้ ความตระหนักในการคัดแยก
2. แยกขยะก่อนทิ้งและนำขยะมาใช้ประโยชน์
3. ประชนชนมีจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม และมีพฤติกรรมใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สมารถลดภาวะก๊าซเรือนกระจก
4. ประชาชนสามารถนำขยะมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ และนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน

* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น