กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

directions_run

โครงการใส่ใจสุขภาพป้องกันภาวะเครียดและซึมเศร้าในประชาชนกลุ่มเสี่ยงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านต้นสน หมู่ที่ 13 ตำบลโคกสัก อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุงปี 2564

stars
1. รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ โครงการใส่ใจสุขภาพป้องกันภาวะเครียดและซึมเศร้าในประชาชนกลุ่มเสี่ยงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านต้นสน หมู่ที่ 13 ตำบลโคกสัก อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุงปี 2564
รหัสโครงการ 64-L3330-1-12
ประเภทการสนับสนุน ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต.
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ โรงพยาบาลส่งเริมสุขภาพตำบลบ้านต้นสน
วันที่อนุมัติ 12 กรกฎาคม 2564
ระยะเวลาดำเนินโครงการ 19 สิงหาคม 2564 - 20 สิงหาคม 2564
กำหนดวันส่งรายงาน 30 กันยายน 2564
งบประมาณ 21,075.00 บาท
ผู้รับผิดชอบโครงการ นางจินดาพัฒน์ แม่ลิ่ม
พี่เลี้ยงโครงการ นางวาลัยพร ด้วงคง
พื้นที่ดำเนินการ จังหวัดพัทลุง
ละติจูด-ลองจิจูด place
stars
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
แผนงานกลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีความเสี่ยง
stars
3. งวดสำหรับการทำรายงาน
stars
4. กลุ่มเป้าหมาย

(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง 100 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง :

stars
5. หลักการและเหตุผล/สถานการณ์
สถานการณ์ปัญหาขนาด

ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล

สถานการณ์โควิดระลอกใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นเชื่อว่าส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของคนทั่วๆไปมากกว่าในระลอก2 ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทั้งจากลักษณะของเชื้อที่ระบาดได้ง่ายขึ้น จำนวนยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงคนใกล้ตัวหรือคนรู้จักจำนวนมากขึ้นที่ตกเป็นเหยื่อของโควิดในครั้งนี้ ประกอบกับความไม่แน่นอนของโอกาสที่จะได้รับฉีดวัคซีน ก็ทำให้หลายๆ ท่าน (หรือคนใกล้ตัวท่าน) เกิดทั้งอาการกลัว วิตกกังวล จนถึงขั้นตื่นตกใจขึ้นมาได้ความน่ากลัวของโควิดนั้นนอกจากตัวเชื้อโรคที่ส่งผลต่อสุขภาพกายแล้ว ความไม่แน่นอนที่มาจากโควิดก็ยังส่งผลต่อสุขภาพจิตอีกด้วย ความไม่แน่นอนดังกล่าวครอบคลุม ทั้งความไม่แน่นอนว่าตนเองหรือคนในครอบครัวจะได้รับเชื้อโรคมาโดยไม่รู้ตัวหรือไม่ ความไม่แน่นอนว่าถ้ารับเชื้อมาแล้วอาการจะเป็นอย่างไร ความไม่แน่นอนว่าถ้าติดเชื้อมาจะมีโรงพยาบาลรับรักษาหรือไม่ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแผนการต่างๆ ที่ได้วางไว้ล่วงหน้า (แผนการเรียน การทำงาน ท่องเที่ยว สังสรรค์ ฯลฯ) ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการจะได้รับวัคซีน ความไม่แน่นอนในภาวะเศรษฐกิจ ความไม่แน่นอนว่าตนเองจะมีงานและรายได้หรือไม่ ฯลฯ “ความไม่แน่นอน” (Uncertainty) ที่เกิดขึ้นเนื่องจากโควิดนั้น อาจจะพบว่าร้ายกาจพอๆกับเจ้าตัวไวรัสโควิดเอง เพียงแต่แทนที่จะส่งผลต่อสุขภาพกาย ก็จะส่งผลต่อสุขภาพจิตแทน เนื่องจากความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นจะไปกระตุ้นความหวาดกลัว (Fear) ในสมองของคน ซึ่งความกลัวก็เป็นหนึ่งในอารมณ์พื้นฐานของคนและเมื่อเราเผชิญกับความกลัว คนก็จะมีปฏิกิริยาที่จะปรับพฤติกรรมหรือปรับตัวเพื่อหลบเลี่ยงจากความกลัวดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างไรก็ดี เมื่อความกลัวที่เกิดขึ้นมาจากความไม่แน่นอน และเป็นความไม่แน่นอนที่มีปริมาณมาก ก็จะนำไปสู่ความวิตกกังวล หรือ Anxiety ที่จะส่งผลสุขภาพจิตโดยตรง และที่น่ากลัวคือการแพร่กระจายของข้อมูลต่างๆ บนโลกสังคมออนไลน์ ที่เมื่อเปิดเข้าไปอ่านข้อความหรือข้อมูลต่างๆ ในช่วงนี้ก็มักจะมีแต่เรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องกับโควิด ซึ่งถึงแม้ผู้โพสต์ข้อความจะมีเจตนาดีที่จะกระจายข้อมูลข่าวสารให้ผู้อื่นได้รับรู้ แต่เมื่อผู้รับสารต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนจากโควิด มีความกลัวและความวิตกกังวลเป็นทุนเดิม ก็ยิ่งทำให้ข้อมูลข่าวสารต่างๆที่ได้รับนั้นกลายเป็นการตอกย้ำและทำให้ความวิตกกังวลแพร่กระจายไปในวงกว้างมากขึ้น และสามารถที่จะนำไปสู่ความตื่นตกใจในสังคมวงกว้างส่งผลกระทบให้คนในสังคมที่ร่วมกันต่อสู้กับภาวะวิกฤติการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน มีโอกาสเกิดความกดดัน ความเครียดและความวิตกกังวลส่งผลต่อสุขภาพจิตของคนไทยเป็นจำนวนมาก
จากการคัดกรองภาวะเครียดและซึมเศร้า พบว่าในประชาชนกลุ่มเสี่ยงไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวัยทำงานกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากโรคประจำตัว การเบื่อหน่ายชีวิตการถูกทอดทิ้ง การเกิดโรคระบาดไวรัสโควิด 19 ทำให้เกิดภาวะเครียดและซึมเศร้าตามมาโดยในปี 2560 ฆ่าตัวตายสำเร็จ 1 ราย และในปี 2563 ฆ่าตัวตามสำเร็จ 2 รายประชาชนกลุ่มเสี่ยงมีภาวะเครียดและซึมเศร้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านต้นสนจึงได้จัดทำโครงการใส่ใจสุขภาพป้องกันภาวะเครียดและซึมเศร้าในประชาชนกลุ่มเสี่ยงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านต้นสน หมู่ที่ 13ตำบลโคกสักอำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุงปี 2564 ขึ้นโดยการสร้างแกนนำสุขภาพจิตในชุมชนเพื่อช่วยดูแลติดตามคัดกรองภาวะเครียดและซึมเศร้าในชุมชนและต้องมีการดำเนินงานด้านสุขภาพจิตอย่างเร่งด่วนโดยอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วนในทุกเขตสุขภาพเพื่อเตรียมความพร้อมการเข้าสู่คลื่นลูกที่4ภายใต้“แผนการฟื้นฟูจิตใจในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อมุ่งเน้นให้ประชาชน ครอบครัว และชุมชน ปลอดภัยจากผลกระทบด้านสุขภาพจิตในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นี้และมีความเข้มแข็งทางจิตใจเต็มเปี่ยมด้วยพลังสามารถปรับตัวเข้าสู่ชีวิต วิถีใหม่ (New Normal) ได้

stars
6. วัตถุประสงค์/เป้าหมาย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดปัญหาเป้าหมาย 1 ปี
1 เพื่อให้แกนนำสุขภาพจิตมีความรู้และแนวทางการคัดกรองที่ถูกต้อง

จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ

0.00
2 เพื่อให้แกนนำสามารถสำรวจคัดกรองผู้มีภาวะซึมเศร้าประชาชนกลุ่มเสี่ยง

ประเมินผลจากแบบทดสอบก่อนและหลังเข้าร่วมโครงการ

0.00
3 เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่มีภาวะเครียดและซึมเศร้าได้รับการส่งต่อที่ถูกต้องเหมะสม

กลุ่มเสี่ยงและผู้ป่วยได้รับการคัดกรองสุขภาพจิตที่มีปัญหาได้รับการเข้าถึงบริการรักษาและส่งต่อทุกราย

0.00
4 เพื่อให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการป้องกันภาวะเครียดและซึมเศร้า

ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันภาวะเครียดและซึมเศร้าในชุมชน

0.00
5 เพื่อประเมินความพึงพอใจในการเข้าร่วมกิจกรรมโครงการของประชาชนกลุ่มเสี่ยง

ประชาชนกลุ่มเสี่ยงมีความพึงพอใจในการเข้าร่วมกิจกรรมโครงการร้อยละ100

0.00
stars
7. การดำเนินงาน/กิจกรรม
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม กลุ่มเป้าหมาย
(คน)
งบกิจกรรม
(บาท)
ทำแล้ว
 
ใช้จ่ายแล้ว
(บาท)
วันที่ กิจกรรม 108 21,075.00 3 21,075.00
18 ส.ค. 64 กิจกรรมประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้แกนนำสุขภาพจิต โดยมีการทำแบบประเมินทางสุขภาพจิตชุมชนเช่น ดัชนีชี้วัดความสุขคนไทย แบบประเมินความเครียด แบบประเมินโรคซึมเศร้า และแบบประเมินความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายและ แบบคัดกรองโรคจิต 54 7,275.00 7,275.00
19 ส.ค. 64 - 20 ก.ค. 64 กิจกรรมประชุมแลกเปลี่ยนเรียนงานสุขภาพจิตในประชาชนกลุ่มเสี่ยง โดยมีการทำแบบประเมินความเครียด และ แบบประเมินโรคซึมเศร้าแก่ผู้เข้าร่วมประชุม จำนวน 100 คน มีการประชุม 2 รุ่น รุ่นละ 50 คน 54 13,800.00 13,800.00
15 ก.ย. 64 - 17 ส.ค. 64 ติดตามประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่พบว่าผลผิดปกติจากการคัดกรองในชุมชนร่วมกับแกนนำสุขภาพจิต อสม.และอปท. 0 0.00 0.00

 

stars
8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1.แกนนำสุขภาพจิตมีความรู้และแนวทางการคัดกรองที่ถูกต้อง 2. แกนนำสามารถสำรวจคัดกรองผู้มีภาวะซึมเศร้าประชาชนกลุ่มเสี่ยง 3. ประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่มีภาวะเครียดและซึมเศร้าได้รับการส่งต่อที่ถูกต้องเหมะสม 4. ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันภาวะเครียดและซึมเศร้าในชุมชน 5. ประชาชนกลุ่มเสี่ยงมีความพึงพอใจในการเข้าร่วมกิจกรรมโครงการร้อยละ100

stars
9. เอกสารประกอบโครงการ

โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2564 12:25 น.