โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตายสำเร็จ
แบบรายงานการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์
รายงานฉบับสมบูรณ์
โครงการ
“ โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตายสำเร็จ ”
หมู่ที่ 1 - 13 ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
หัวหน้าโครงการ
นายประดับวุฒิ ณ นิโรจน์
ได้รับการสนับสนุนโดย กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ปันแต
สิงหาคม 2565
ชื่อโครงการ โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตายสำเร็จ
ที่อยู่ หมู่ที่ 1 - 13 ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง จังหวัด พัทลุง
รหัสโครงการ 65-L3321-1-04 เลขที่ข้อตกลง 14/2565
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2565 ถึง 31 สิงหาคม 2565
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตายสำเร็จ จังหวัดพัทลุง" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน หมู่ที่ 1 - 13 ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ปันแต ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตายสำเร็จ
บทคัดย่อ
โครงการ " โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตายสำเร็จ " ดำเนินการในพื้นที่ หมู่ที่ 1 - 13 ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง รหัสโครงการ 65-L3321-1-04 ระยะเวลาการดำเนินงาน 1 มิถุนายน 2565 - 31 สิงหาคม 2565 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 7,220.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ปันแต เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้
โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ »
บทคัดย่อ »
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล »
วัตถุประสงค์โครงการ »
กิจกรรม/การดำเนินงาน »
กลุ่มเป้าหมาย »
ผลลัพธ์ที่ได้ »
การประเมินผล »
ปัญหาและอุปสรรค »
ข้อเสนอแนะ »
เอกสารประกอบอื่นๆ »
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
ปัญหาการฆ่าตัวตายในสังคมไทย เพื่อสร้างความตระหนักถึงความรุนแรงและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการฆ่าตัวตาย รวมถึงแนวทางการป้องกัน ภายในการประชุมวิชาการสุขภาพจิตนานาชาติ ครั้งที่ 15 และประชุมวิชาการสุขภาพจิตและจิตเวชเด็ก ครั้งที่13 จัดโดย กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เมื่อเร็วๆนี้ว่า มีการคาดการณ์จากหลายฝ่ายทั่วโลกว่า ในช่วง 20-30 ปีนี้ โรคมะเร็ง หรือโรคติดต่อร้ายแรงที่เป็นสาเหตุทำให้มีการเสียชีวิตสูงจะลดความรุนแรงลง เนื่องจากความรู้ทางการแพทย์และเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้า แต่ปัญหาสุขภาพจิตและการทำร้ายตัวเองจะทวีความรุนแรงมากขึ้นตามปัญหาสังคมที่มีความซับซ้อน สำหรับประเทศไทย การคาดการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้ เพราะผู้คนในสังคมไทยยังไม่ให้ความสำคัญในการรักษาสุขภาพจิตมากเท่ากับการรักษาสุขภาพกาย ผอ.รพ.จิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ กล่าวอีกว่า ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2556-2558 จังหวัดในภาคเหนือ ยังคงมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงกว่าภาคอื่น ทั้งนี้ ในปี 2558 พบว่า ช่วงอายุ 30-54 ปี มีการฆ่าตัวตายมากกว่าช่วงอายุอื่น โดยเฉพาะ ช่วงอายุ 35-39 ปี มีการฆ่าตัวตายสูงสุด เพศชายยังคงฆ่าตัวตายสำเร็จมากกว่าเพศหญิง ในพื้นที่ตำบลปันแต ปี2564 มีการฆ่าตัวตายสำเร็จ จำนวน 2 ราย ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงสำคัญนำไปสู่การฆ่าตัวตายมีอยู่ด้วยกันหลายปัจจัยที่ควรร่วมมือกันเฝ้าระวังและป้องกันอย่างจริงจัง ได้แก่ ปัญหาความสัมพันธ์ เช่น การน้อยใจ ถูกดุด่า โดนตำหนิ ทะเลาะกับคนใกล้ชิด หุนหันพลันแล่น ถูกนอกใจ อกหักรักคุด รวมไปถึง มีปัญหาติดสุรา ยาเสพติด ทรมานจากโรคเรื้อรัง เป็นโรคจิต โรคซึมเศร้าอยู่เดิม เคยทำร้ายตัวเองมาก่อน ตลอดจนมีปัญหาเศรษฐกิจ ยากจน ขัดสน เงินไม่พอใช้ เสียทรัพย์จากการพนัน เป็นต้น การฆ่าตัวตาย สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยซึ่งอยากให้มองว่าการฆ่าตัวตาย เป็นเหมือนโรคๆ หนึ่ง ที่รักษาได้ และ ป้องกันได้ ด้วยความร่วมมือจากทุกคน ซึ่งองค์การอนามัยโลกก็ได้กำหนดมาตรการป้องกันการฆ่าตัวตายให้ประเทศทั่วโลกได้ยึดถือปฏิบัติ กำหนดเป้าหมายร่วมกันที่จะลดอัตราการฆ่าตัวตายในแต่ละประเทศ ให้ลดลงจากเดิม 10% ภายในปี พ.ศ. 2563 ซึ่งประเทศไทย โดยกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญ คือ อัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จ ไม่เกิน 6.5 ต่อแสนประชากร ไม่ใช่เพียงประเทศไทยเท่านั้นที่กำลังถูกภัยร้ายนี้คุกคาม แต่ทั่วโลกเองก็กำลังเผชิญกับปัญหานี้เช่นเดียวกัน เพราะการมองข้ามความสำคัญของการดูแลสุขภาพจิต ที่เห็นได้จากงบลงทุนในการดูแลสุขภาพจิตทั่วโลก มีเพียงร้อยละ 2.8 และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับเพียงร้อยละ 0.44 อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกับหลายประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว อัตราการฆ่าตัวตายของไทยยังจัดอยู่ในระดับปานกลาง ทั้งนี้ การแก้ปัญหาการฆ่าตัวตายที่สำคัญ คือ ต้องขับเคลื่อนด้วยผู้กำหนดนโยบายอย่างจริงจังพร้อมมีข้อมูลหลักฐานวิชาการที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาขับเคลื่อนไปได้
กลวิธีสำคัญในการดำเนินงานเพื่อป้องกันการฆ่าตัวตายในแต่ละประเทศ ได้แก่ การมีวิสัยทัศน์ แผนงาน กลยุทธ์ ที่ชัดเจน การสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง บูรณาการแก้ไขปัญหาใน ทุกรูปแบบ มีการประเมินอย่างเป็นระบบ คำนึงถึงการดูแลสุขภาพจิตและโรคทางจิตเวชที่เกี่ยวข้อง ลดการเข้าถึงอาวุธ สารเคมี และแอลกอฮอล์ ตลอดจน ความร่วมมือที่ดีจากสื่อมวลชนในการนำเสนอปัญหาการฆ่าตัวตายที่มีความถูกต้องเหมาะสมเพื่อให้ความรู้ สร้างความตระหนัก ลดและป้องกันปัญหาการฆ่าตัวตาย
สำหรับมาตรการป้องกันในหน่วยงาน คือ การให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันการฆ่าตัวตายและโรคทางจิตเวชต่างๆ การสังเกต เฝ้าระวัง เพื่อนร่วมงานที่มีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย เพื่อนำไปสู่การช่วยเหลือต่อไป ส่วนคนที่เคยมีอาการแล้วดีขึ้น จะมีการป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีก อย่างไรก็ตาม ปัญหาการฆ่าตัวตาย สามารถป้องกันได้ ทั้งจากคนใกล้ชิดและเพื่อนร่วมงาน โดยพบว่า การให้กำลังใจ ทำให้เกิดความภาคภูมิใจและเห็นคุณค่าในตัวเองของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะช่วยลดอัตราการฆ่าตัวตายลงได้
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- เพื่อลดอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จในพื้นที่
- เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการของผู้ป่วยจิตเวช ในชุมชน
- เพื่อให้ผู้ป่วยจิตเวชสามารถอยู่กับครอบครัวและชุมชนได้อย่างมีความสุขตามศักยภาพของตนเอง
- เพื่อให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยจิตเวช
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- กิจกรรมอบรมสุขภาพจิตศึกษาในกลุ่ม อสม.
- กิจกรรมการประเมินอาการทางจิตของผู้ป่วยจิตเวชในชุมชน โดย อสม.
- กิจกรรมอบรมสุขภาพจิตศึกษาในกลุ่ม อสม.
- 2.กิจกรรมการประเมินอาการทางจิตของผู้ป่วยจิตเวชในชุมชน โดย อสม.
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
กลุ่มวัยทำงาน
39
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
40
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์**
กิจกรรมของโครงการ ผลผลิต* ผลผลิตที่ตั้งไว้ ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง
1. กิจกรรมอบรมสุขภาพจิตศึกษาในกลุ่ม อสม.
วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เวลา 09:00 น.กิจกรรมที่ทำ
จัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้ แก่ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เป็นเวลา 1 วัน โดยได้รับสนุนวิทยากรจากโรงพยาบาลควนขนุน ณ ห้องประชุมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปันแต
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
ผลผลิต อสม. จำนวน 39 คนเข้าร่วมอบรมร้อยละ 100 โดยได้รับสนับสนุนวิทยากรจากโรงพยาบาลควนขนุน ให้ความรู้ในหัวข้อ แนวคิดการบำบัด โดยการแก้ปัญหา เพื่อป้องกันพฤติกรรมการฆ่าตัวตายและเทคนิคสนทนาที่ใช้ในการแก้ปัญหาการฆ่าตัวตาย การสร้างสัมพันธภาพกับผู้รับบริการ/ฝึกปฏิบัติ
ผลลัพธ์ ผู้ดูแลมีความรู้และทักษะในเรื่องสุขภาพจิตศึกษาและการประเมินอาการทางจิตของผู้ป่วยจิตเวช ได้อย่างถูกต้อง ประเมินจากแบบทดสอบการอบรม ก่อนหลัง มีความรู้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 92
39
0
2. 2.กิจกรรมการประเมินอาการทางจิตของผู้ป่วยจิตเวชในชุมชน โดย อสม.
วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เวลา 09:00 น.กิจกรรมที่ทำ
กิจกรรมการประเมินอาการทางจิตของผู้ป่วยจิตเวชในชุมชน โดย อสม. โดยการเยี่ยมติดตามผู้ป่วยจิตเวชที่บ้าน
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
ผลผลิต ผู้ป่วยจิตเวชได้รับการประเมินทางจิต ร้อยละ 100
ผลลัพธ์
1.ผู้ป่วยจิตเวชที่ได้รับการประเมิน
ไม่มีภาวะรุนแรง ไม่ต้องส่งต่อพบแพทย์
2. ลดอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จในพื้นที่
40
0
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ สถานการณ์ เป้าหมาย ผลผลิต อธิบาย
1
เพื่อลดอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จในพื้นที่
ตัวชี้วัด : อัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จในพื้นที่
6.30
2
เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการของผู้ป่วยจิตเวช ในชุมชน
ตัวชี้วัด : ร้อยละ 80 ญาติของผู้ป่วยจิตเวชมีความรู้ความเข้าใจในการดูแลผู้ป่วยจิตเวชในชุมชน
80.00
3
เพื่อให้ผู้ป่วยจิตเวชสามารถอยู่กับครอบครัวและชุมชนได้อย่างมีความสุขตามศักยภาพของตนเอง
ตัวชี้วัด : ร้อยละ 80 ของผู้ป่วยจิตเวชสามารถอยู่กับครอบครัวและชุมชนได้อย่างมีความสุขตามศักยภาพของตนเอง
80.00
4
เพื่อให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยจิตเวช
ตัวชี้วัด : ภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยจิตเวช
0.00
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด
79
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
-
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
-
กลุ่มวัยทำงาน
39
กลุ่มผู้สูงอายุ
-
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
-
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
-
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
-
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
40
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
-
บทคัดย่อ*
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อลดอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จในพื้นที่ (2) เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการของผู้ป่วยจิตเวช ในชุมชน (3) เพื่อให้ผู้ป่วยจิตเวชสามารถอยู่กับครอบครัวและชุมชนได้อย่างมีความสุขตามศักยภาพของตนเอง (4) เพื่อให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยจิตเวช
ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (1) กิจกรรมอบรมสุขภาพจิตศึกษาในกลุ่ม อสม. (2) กิจกรรมการประเมินอาการทางจิตของผู้ป่วยจิตเวชในชุมชน โดย อสม. (3) กิจกรรมอบรมสุขภาพจิตศึกษาในกลุ่ม อสม. (4) 2.กิจกรรมการประเมินอาการทางจิตของผู้ป่วยจิตเวชในชุมชน โดย อสม.
ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...
หมายเหตุ *- บทคัดย่อ จะนำไปใส่ในส่วนบทคัดย่อของรายงานฉบับสมบูรณ์
- หากต้องการใช้ค่าเริ่มต้นของบทคัดย่อ ให้ลบข้อความในช่องบทคัดย่อ ทั้งหมด แล้วกดปุ่ม Refresh
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค สาเหตุ ข้อเสนอแนะ
โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตายสำเร็จ จังหวัด พัทลุง
รหัสโครงการ 65-L3321-1-04
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
................................
( นายประดับวุฒิ ณ นิโรจน์ )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......
โครงการ
“ โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตายสำเร็จ ”
หมู่ที่ 1 - 13 ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
หัวหน้าโครงการ
นายประดับวุฒิ ณ นิโรจน์
สิงหาคม 2565
ที่อยู่ หมู่ที่ 1 - 13 ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง จังหวัด พัทลุง
รหัสโครงการ 65-L3321-1-04 เลขที่ข้อตกลง 14/2565
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2565 ถึง 31 สิงหาคม 2565
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตายสำเร็จ จังหวัดพัทลุง" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน หมู่ที่ 1 - 13 ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ปันแต ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตายสำเร็จ
บทคัดย่อ
โครงการ " โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตายสำเร็จ " ดำเนินการในพื้นที่ หมู่ที่ 1 - 13 ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง รหัสโครงการ 65-L3321-1-04 ระยะเวลาการดำเนินงาน 1 มิถุนายน 2565 - 31 สิงหาคม 2565 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 7,220.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล อบต.ปันแต เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้
โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
| กิตติกรรมประกาศ | » |
| บทคัดย่อ | » |
| ความเป็นมา/หลักการเหตุผล | » |
| วัตถุประสงค์โครงการ | » |
| กิจกรรม/การดำเนินงาน | » |
| กลุ่มเป้าหมาย | » |
| ผลลัพธ์ที่ได้ | » |
| การประเมินผล | » |
| ปัญหาและอุปสรรค | » |
| ข้อเสนอแนะ | » |
| เอกสารประกอบอื่นๆ | » |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
ปัญหาการฆ่าตัวตายในสังคมไทย เพื่อสร้างความตระหนักถึงความรุนแรงและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการฆ่าตัวตาย รวมถึงแนวทางการป้องกัน ภายในการประชุมวิชาการสุขภาพจิตนานาชาติ ครั้งที่ 15 และประชุมวิชาการสุขภาพจิตและจิตเวชเด็ก ครั้งที่13 จัดโดย กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เมื่อเร็วๆนี้ว่า มีการคาดการณ์จากหลายฝ่ายทั่วโลกว่า ในช่วง 20-30 ปีนี้ โรคมะเร็ง หรือโรคติดต่อร้ายแรงที่เป็นสาเหตุทำให้มีการเสียชีวิตสูงจะลดความรุนแรงลง เนื่องจากความรู้ทางการแพทย์และเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้า แต่ปัญหาสุขภาพจิตและการทำร้ายตัวเองจะทวีความรุนแรงมากขึ้นตามปัญหาสังคมที่มีความซับซ้อน สำหรับประเทศไทย การคาดการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้ เพราะผู้คนในสังคมไทยยังไม่ให้ความสำคัญในการรักษาสุขภาพจิตมากเท่ากับการรักษาสุขภาพกาย ผอ.รพ.จิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ กล่าวอีกว่า ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2556-2558 จังหวัดในภาคเหนือ ยังคงมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงกว่าภาคอื่น ทั้งนี้ ในปี 2558 พบว่า ช่วงอายุ 30-54 ปี มีการฆ่าตัวตายมากกว่าช่วงอายุอื่น โดยเฉพาะ ช่วงอายุ 35-39 ปี มีการฆ่าตัวตายสูงสุด เพศชายยังคงฆ่าตัวตายสำเร็จมากกว่าเพศหญิง ในพื้นที่ตำบลปันแต ปี2564 มีการฆ่าตัวตายสำเร็จ จำนวน 2 ราย ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงสำคัญนำไปสู่การฆ่าตัวตายมีอยู่ด้วยกันหลายปัจจัยที่ควรร่วมมือกันเฝ้าระวังและป้องกันอย่างจริงจัง ได้แก่ ปัญหาความสัมพันธ์ เช่น การน้อยใจ ถูกดุด่า โดนตำหนิ ทะเลาะกับคนใกล้ชิด หุนหันพลันแล่น ถูกนอกใจ อกหักรักคุด รวมไปถึง มีปัญหาติดสุรา ยาเสพติด ทรมานจากโรคเรื้อรัง เป็นโรคจิต โรคซึมเศร้าอยู่เดิม เคยทำร้ายตัวเองมาก่อน ตลอดจนมีปัญหาเศรษฐกิจ ยากจน ขัดสน เงินไม่พอใช้ เสียทรัพย์จากการพนัน เป็นต้น การฆ่าตัวตาย สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยซึ่งอยากให้มองว่าการฆ่าตัวตาย เป็นเหมือนโรคๆ หนึ่ง ที่รักษาได้ และ ป้องกันได้ ด้วยความร่วมมือจากทุกคน ซึ่งองค์การอนามัยโลกก็ได้กำหนดมาตรการป้องกันการฆ่าตัวตายให้ประเทศทั่วโลกได้ยึดถือปฏิบัติ กำหนดเป้าหมายร่วมกันที่จะลดอัตราการฆ่าตัวตายในแต่ละประเทศ ให้ลดลงจากเดิม 10% ภายในปี พ.ศ. 2563 ซึ่งประเทศไทย โดยกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญ คือ อัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จ ไม่เกิน 6.5 ต่อแสนประชากร ไม่ใช่เพียงประเทศไทยเท่านั้นที่กำลังถูกภัยร้ายนี้คุกคาม แต่ทั่วโลกเองก็กำลังเผชิญกับปัญหานี้เช่นเดียวกัน เพราะการมองข้ามความสำคัญของการดูแลสุขภาพจิต ที่เห็นได้จากงบลงทุนในการดูแลสุขภาพจิตทั่วโลก มีเพียงร้อยละ 2.8 และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับเพียงร้อยละ 0.44 อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกับหลายประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว อัตราการฆ่าตัวตายของไทยยังจัดอยู่ในระดับปานกลาง ทั้งนี้ การแก้ปัญหาการฆ่าตัวตายที่สำคัญ คือ ต้องขับเคลื่อนด้วยผู้กำหนดนโยบายอย่างจริงจังพร้อมมีข้อมูลหลักฐานวิชาการที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาขับเคลื่อนไปได้ กลวิธีสำคัญในการดำเนินงานเพื่อป้องกันการฆ่าตัวตายในแต่ละประเทศ ได้แก่ การมีวิสัยทัศน์ แผนงาน กลยุทธ์ ที่ชัดเจน การสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง บูรณาการแก้ไขปัญหาใน ทุกรูปแบบ มีการประเมินอย่างเป็นระบบ คำนึงถึงการดูแลสุขภาพจิตและโรคทางจิตเวชที่เกี่ยวข้อง ลดการเข้าถึงอาวุธ สารเคมี และแอลกอฮอล์ ตลอดจน ความร่วมมือที่ดีจากสื่อมวลชนในการนำเสนอปัญหาการฆ่าตัวตายที่มีความถูกต้องเหมาะสมเพื่อให้ความรู้ สร้างความตระหนัก ลดและป้องกันปัญหาการฆ่าตัวตาย สำหรับมาตรการป้องกันในหน่วยงาน คือ การให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันการฆ่าตัวตายและโรคทางจิตเวชต่างๆ การสังเกต เฝ้าระวัง เพื่อนร่วมงานที่มีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย เพื่อนำไปสู่การช่วยเหลือต่อไป ส่วนคนที่เคยมีอาการแล้วดีขึ้น จะมีการป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีก อย่างไรก็ตาม ปัญหาการฆ่าตัวตาย สามารถป้องกันได้ ทั้งจากคนใกล้ชิดและเพื่อนร่วมงาน โดยพบว่า การให้กำลังใจ ทำให้เกิดความภาคภูมิใจและเห็นคุณค่าในตัวเองของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะช่วยลดอัตราการฆ่าตัวตายลงได้
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- เพื่อลดอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จในพื้นที่
- เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการของผู้ป่วยจิตเวช ในชุมชน
- เพื่อให้ผู้ป่วยจิตเวชสามารถอยู่กับครอบครัวและชุมชนได้อย่างมีความสุขตามศักยภาพของตนเอง
- เพื่อให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยจิตเวช
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- กิจกรรมอบรมสุขภาพจิตศึกษาในกลุ่ม อสม.
- กิจกรรมการประเมินอาการทางจิตของผู้ป่วยจิตเวชในชุมชน โดย อสม.
- กิจกรรมอบรมสุขภาพจิตศึกษาในกลุ่ม อสม.
- 2.กิจกรรมการประเมินอาการทางจิตของผู้ป่วยจิตเวชในชุมชน โดย อสม.
กลุ่มเป้าหมาย
| กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้ | |
|---|---|---|
| กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
| กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | ||
| กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | ||
| กลุ่มวัยทำงาน | 39 | |
| กลุ่มผู้สูงอายุ | ||
| กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
| กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | ||
| กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | ||
| กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | ||
| กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 40 | |
| สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] |
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
| วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์** กิจกรรมของโครงการ | ผลผลิต* | |
|---|---|---|
| ผลผลิตที่ตั้งไว้ | ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง | |
1. กิจกรรมอบรมสุขภาพจิตศึกษาในกลุ่ม อสม. |
||
วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เวลา 09:00 น.กิจกรรมที่ทำจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้ แก่ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เป็นเวลา 1 วัน โดยได้รับสนุนวิทยากรจากโรงพยาบาลควนขนุน ณ ห้องประชุมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปันแต ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นผลผลิต อสม. จำนวน 39 คนเข้าร่วมอบรมร้อยละ 100 โดยได้รับสนับสนุนวิทยากรจากโรงพยาบาลควนขนุน ให้ความรู้ในหัวข้อ แนวคิดการบำบัด โดยการแก้ปัญหา เพื่อป้องกันพฤติกรรมการฆ่าตัวตายและเทคนิคสนทนาที่ใช้ในการแก้ปัญหาการฆ่าตัวตาย การสร้างสัมพันธภาพกับผู้รับบริการ/ฝึกปฏิบัติ ผลลัพธ์ ผู้ดูแลมีความรู้และทักษะในเรื่องสุขภาพจิตศึกษาและการประเมินอาการทางจิตของผู้ป่วยจิตเวช ได้อย่างถูกต้อง ประเมินจากแบบทดสอบการอบรม ก่อนหลัง มีความรู้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 92
|
39 | 0 |
2. 2.กิจกรรมการประเมินอาการทางจิตของผู้ป่วยจิตเวชในชุมชน โดย อสม. |
||
วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เวลา 09:00 น.กิจกรรมที่ทำกิจกรรมการประเมินอาการทางจิตของผู้ป่วยจิตเวชในชุมชน โดย อสม. โดยการเยี่ยมติดตามผู้ป่วยจิตเวชที่บ้าน ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นผลผลิต ผู้ป่วยจิตเวชได้รับการประเมินทางจิต ร้อยละ 100
|
40 | 0 |
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
ผลผลิตโครงการ
| วัตถุประสงค์ | สถานการณ์ | เป้าหมาย | ผลผลิต | อธิบาย | |
|---|---|---|---|---|---|
| 1 | เพื่อลดอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จในพื้นที่ ตัวชี้วัด : อัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จในพื้นที่ |
6.30 |
|
||
| 2 | เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการของผู้ป่วยจิตเวช ในชุมชน ตัวชี้วัด : ร้อยละ 80 ญาติของผู้ป่วยจิตเวชมีความรู้ความเข้าใจในการดูแลผู้ป่วยจิตเวชในชุมชน |
80.00 |
|
||
| 3 | เพื่อให้ผู้ป่วยจิตเวชสามารถอยู่กับครอบครัวและชุมชนได้อย่างมีความสุขตามศักยภาพของตนเอง ตัวชี้วัด : ร้อยละ 80 ของผู้ป่วยจิตเวชสามารถอยู่กับครอบครัวและชุมชนได้อย่างมีความสุขตามศักยภาพของตนเอง |
80.00 |
|
||
| 4 | เพื่อให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยจิตเวช ตัวชี้วัด : ภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยจิตเวช |
0.00 |
|
ผู้เข้าร่วมโครงการ
| กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
|---|---|---|---|
| จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด | 79 | ||
| กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
| กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | |||
| กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | - | ||
| กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | - | ||
| กลุ่มวัยทำงาน | 39 | ||
| กลุ่มผู้สูงอายุ | - | ||
| กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | |||
| กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | - | ||
| กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | - | ||
| กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | - | ||
| กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 40 | ||
| สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] | - |
บทคัดย่อ*
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อลดอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จในพื้นที่ (2) เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการของผู้ป่วยจิตเวช ในชุมชน (3) เพื่อให้ผู้ป่วยจิตเวชสามารถอยู่กับครอบครัวและชุมชนได้อย่างมีความสุขตามศักยภาพของตนเอง (4) เพื่อให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยจิตเวช
ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (1) กิจกรรมอบรมสุขภาพจิตศึกษาในกลุ่ม อสม. (2) กิจกรรมการประเมินอาการทางจิตของผู้ป่วยจิตเวชในชุมชน โดย อสม. (3) กิจกรรมอบรมสุขภาพจิตศึกษาในกลุ่ม อสม. (4) 2.กิจกรรมการประเมินอาการทางจิตของผู้ป่วยจิตเวชในชุมชน โดย อสม.
ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...
หมายเหตุ *
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
| ปัญหาและอุปสรรค | สาเหตุ | ข้อเสนอแนะ |
|---|---|---|
|
|
|
โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตายสำเร็จ จังหวัด พัทลุง
รหัสโครงการ 65-L3321-1-04
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
( นายประดับวุฒิ ณ นิโรจน์ )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......