โครงการส่งเสริมสุขภาพผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง
ชื่อโครงการ | โครงการส่งเสริมสุขภาพผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง |
รหัสโครงการ | |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | หน่วยบริการปฐมภูมิโรงพยาบาลบันนังสตา |
วันที่อนุมัติ | 27 กรกฎาคม 2565 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 22 สิงหาคม 2565 - 23 กันยายน 2565 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2565 |
งบประมาณ | 33,685.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวฟาตีเมาะ อับดุลนิเลาะ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | 100 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ในสถานการณ์การเกิดโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมีความชุกค่อนข้างสูงและนำไปสู่การเกิดโรคแทรกซ้อนที่เรื้อรังและรุนแรงได้เช่นภาวะหลอดเลือดตีบแข็งความดันโลหิตสูงจอประสาทตาเสื่อมไตวายโรคหลอดเลือดหัวใจขาดเลือดร่วมกับเป็นแผลเรื้อรังติดเชื้อได้ง่ายซึ่งเป็นสาเหตุที่สำคัญที่ทำให้เกิดความพิการหลายประการได้แก่ตาบอด หรือถูกตัดขาซึ่งปัญหาภาวะแทรกซ้อนต่างๆตามมา เช่นทางด้านร่างกายจิตใจอารมณ์สังคมรวมทั้งปัญหาเศรษฐกิจของครอบครัวทำให้ญาติผู้เกี่ยวข้องต้องแบกภาระในการติดตามดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อนอย่างต่อเนื่องและตลอดชีวิตของผู้ป่วยทำให้เกิดการขาดรายได้ในการประกอบอาชีพเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวซึ่งหากผู้ป่วยและครอบครัวไม่มีความเข้าใจในโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงที่ผู้ป่วยกำลังเชิญอยู่ร่วมกับให้การดูแลผู้ป่วยไม่ถูกต้องปัญหาต่างๆดังกล่าวรวมถึงภาวะแทรกซ้อนก็อาจเกิดขึ้นได้ซึ่งหากไม่สามารถควบคุมภาวะแทรกให้อยู่ในภาวะปกติได้ก็ส่งผลให้เกิดปัญหาที่เรื้อรังต่อไป
จากสภาพพื้นที่ของหน่วยบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลบันนังสตา พบความชุกของผู้ป่วยโรคเบาหวานตั้งแต่ปี 2564 จำนวน 428 ราย และในปี 2565 จำนวน 426 ราย ส่วนโรคความดันโลหิตสูงความชุกของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงตั้งแต่ปี 2564 จำนวน 1,256 ราย และในปี 2565 จำนวน 1,196 ราย ซึ่งไม่มีแนวโน้มที่จะลดลง นอกจากนี้ยังพบภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง คือภาวะแทรกซ้อนของโรคระบบหัวใจหลอดเลือด(CVD) จำนวน 74 ราย ภาวะแทรกซ้อนของโรคไตจำนวน 877 ราย ซึ่งสาเหตุการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากที่ผู้ป่วยมีพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพตนเองขณะเป็นโรคไม่ถูกต้องและขาดความตระหนักในการดูแลตนเองเมื่อมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นกับผู้ป่วยจึงไม่สามารถแก้ไขให้อยู่ในสภาวะปกติได้ก่อให้เกิดปัญหาด้านสาธารณสุขต่างๆ ในเรื่องการดำรงชีวิตและค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ผู้ป่วยโรคเรื้อรังในพื้นที่หน่วยบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลบันนังสตา มีอัตราการป่วยที่สูงซึ่งมาตรการในการดูแลรักษาผู้ป่วยจำเป็นต้องอาศัยความรู้ ความสามารถของผู้ให้การรักษาและความร่วมมือของผู้ป่วยในการดูแลสุขภาพและป้องกันภาวะแทรกซ้อน เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข ดังนั้นหน่วยบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลบันนังสตา จึงได้ดำเนินการจัดโครงการส่งเสริมสุขภาพผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง เพื่อมุ่งเน้นให้ดูแลสุขภาพตนเองได้ถูกต้องและไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนจนเสียชีวิต
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการปฏิบัติตัวของผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงให้ถูกต้องและมีความเหมาะสมกับโรคร่วมกับป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงโดยให้ญาติผู้ดูแลมีส่วนร่วม ผู้ป่วยเบาหวาน/ความดันโลหิตมีความรู้ความเข้าใจโรคเบื้องต้น ประเมินผลจากการสังเกตเวลาตอบคำถามขณะอบรม ร้อยละ 80 |
0.00 | |
2 | ผู้ป่วยมีความเข้าใจในการเลือกดูแลสุขภาพเหมาะกับตนเอง มีทางเลือกในการดูแลสุขภาพ
|
0.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 33,685.00 | 0 | 0.00 | |
22 - 26 ส.ค. 65 | กิจกรรมอบรมให้ความรู้เรื่องโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ให้ถูกต้องและมีความเหมาะสมกับโรคร่วมกับป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง | 0 | 33,685.00 | - |
- ผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง ที่มีภาวะแทรกซ้อนมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดูแลตนเองได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม 2.2. ญาติผู้ดูแลผู้ป่วยสามารถให้การดูแลผู้ป่วยที่บ้านได้อย่างถูกต้องเหมาะสมต่อเนื่อง 3.3. ผู้ป่วยและครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดี
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2565 00:00 น.