โครงการฟันสวย ยิ้มสดใส ปีงบประมาณ 2565
ชื่อโครงการ | โครงการฟันสวย ยิ้มสดใส ปีงบประมาณ 2565 |
รหัสโครงการ | 65-L8406-01-01 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยบริการหรือสถานบริการสาธารณสุข เช่น รพ.สต. |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลควนโดน |
วันที่อนุมัติ | 3 สิงหาคม 2565 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 22 สิงหาคม 2565 - 30 กันยายน 2565 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 20,000.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางธิดา เหมือนพะวงศ์ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลควนโดน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 204 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | 15 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด : |
||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | 50 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
ปัญหาสุขภาพช่องปากเป็นปัญหาสำคัญที่พบในประชาชนทุกกลุ่มวัย การมีสุขภาพช่องปากที่ดีเป็นส่วนหนึ่งของการมีสุขภาพร่างกายที่ดีช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิต เพราะเมื่อมีปัญหาสุขภาพช่องปากย่อมส่งผลต่อระบบอื่นๆของร่างกาย การดูแลเพื่อให้เด็กมีฟันดีควรเริ่มตั้งแต่คุณแม่ตั้งครรภ์ เพราะฟันน้ำนมจะมีการสร้างตั้งแต่อายุครรภ์มารดาได้ 6 สัปดาห์ และการสร้างฟันต้องการสารอาหารหลายชนิดเช่นเดียวกับการเจริญเติบโตของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแร่ธาตุจำพวกแคลเซียม ฟอสฟอรัส ซึ่งจะส่งผลให้เคลือบฟันและเนื้อฟันมีความแข็งแรง การเอาใจใส่ดูแลรักษาอนามัยช่องปากขณะตั้งครรภ์ที่ดีสามารถป้องกันการเกิดปัญหาช่องปากได้ ทั้งนี้ เนื่องมาจากในช่วงตั้งครรภ์จะมีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปาก ได้แก่ โรคเหงือกอักเสบ โรคฟันผุ ซึ่งเชื้อโรคต่างๆในช่องปากแม่สามารถจะติดต่อไปสู่ลูกได้ และโรคฟันผุเป็นโรคที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของเด็ก หากเกิดโรคฟันผุจะทำให้เด็กไม่สามารถบดเคี้ยวอาหารได้เชื้อโรคจะส่งผลให้เกิดอาการอักเสบ ปอดบวม อันจะส่งผลต่อสภาวะโภชนาการ การพัฒนาการด้านการเรียนรู้และพัฒนาการด้านบุคลิกภาพของเด็กเป็นอย่างมาก นอกจากนี้การพัฒนาการของโฆษณาขนมที่มีรสหวาน ซึ่งมีการผลิตในรูปแบบที่หลากหลาย ความเจริญ ทางการโฆษณามากขึ้น ส่งผลให้มีการบริโภคขนมหวานซึ่งมีส่วนประกอบของแป้งและน้ำตาลสูง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคฟันผุง่ายขึ้น เด็กประถมศึกษาถือเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญของงานสร้างเสริมสุขภาพช่องปาก เพราะเป็นช่วงวัยที่เริ่ม มีการเปลี่ยนแปลงชุดฟันในช่องปากจากฟันน้ำนมเป็นฟันถาวร ฟันที่เริ่มขึ้นมาในช่องปาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟันกรามถาวรซี่แรกที่ขึ้นเมื่อเด็กอายุประมาณ 6 ปี จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคฟันผุสูงมาก เพราะการสะสมแร่ธาตุที่ผิวฟันยังไม่สมบูรณ์ และเด็กยังไม่สามารถแปรงฟันได้อย่างมีคุณภาพ โรคฟันผุเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ โดยใช้มาตรการการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ เช่น การใช้ฟลูออไรด์การใช้สารเคลือบหลุมร่องฟัน การแปรงฟัน นอกจากนี้โรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานนั้นส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในช่องปาก เช่น การสูญเสียฟัน การเกิดโรคเหงือกอักเสบ โรคปริทันต์อักเสบ โรคของเนื้อเยื่ออ่อนภายในช่องปาก ต่อมน้ำลายทำงานลดลงและอาการปากแห้ง โรคฟันผุ การติดเชื้อราในช่องปาก อาการปวดแสบร้อนในปากหรือลิ้น ความผิดปกติของระบบประสาท และมีความเสี่ยงต่อโรคในช่องปากมากกว่าปกติ เช่น มีความชุกของโรคปริทันต์สูงกว่าคนที่ไม่โรค ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะไม่ทราบว่าเป็นภาวะแทรกซ้อนของโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน จึงทําให้ผู้ป่วยจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคในช่องปาก
ตำบลควนโดน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล เป็นพื้นที่ที่พบปัญหาโรคฟันผุ และโรคเหงือกอักเสบในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ พบว่าในปี 2564 เป็นโรคฟันผุ ร้อยละ 46.67 และโรคเหงือกอักเสบ ร้อยละ 83.33ในเด็กประถมศึกษา จากข้อมูลการตรวจสุขภาพช่องปากนักเรียนตามระบบเฝ้าระวังทันตสุขภาพในโรงเรียนประถมศึกษา ตั้งแต่ปี 2561 ถึง 2564 พบว่าเด็กอายุ 6-12 ปี มีฟันแท้ผุเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 35.67 52.23 53.88 และ 55.78 ตามลำดับ ซึ่งในปี 2564 พบฟันแท้ผุมากในเด็กอายุ 6 9 และ12 ปี คิดเป็นร้อยละ15.33 21.43 25 และ 27.02 ตามลำดับ และในกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรังพบว่ามีโรคฟันผุ ร้อยละ 60.5 และโรคเหงือกอักเสบ ร้อยละ 74.00ทั้งนี้ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลควนโดนได้เห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าวจึงจัดทำโครงการฟันสวย ยิ้มสดใส ปีงบประมาณ 2565 มีวัตถุประสงค์เพื่อการแก้ไขปัญหาสุขภาพช่องปากอย่างจริงจังตามบริบทและวิถีการดําเนินชีวิตในพื้นที่ และเพื่อให้มีความรู้ในการดูแลสุขภาพช่องปาก สามารถแปรงฟันอย่างถูกวิธี การเข้ารับบริการรักษาทางทันตกรรมตามความจำเป็น ตลอดจนปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมในด้านสุขภาพช่องปาก เพื่อลดปัญหาการเกิดโรคในช่องปาก
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 มีความรู้ที่ถูกต้องในเรื่องการดูแลสุขภาพช่องปาก ตรวจคัดกรองโรคในช่องปากเบื้องต้นได้ และมีทักษะในการแปรงฟันอย่างถูกวิธีตลอดจนมีระดับค่าดัชนีคราบจุลินทรีย์(Plaque index)ลดลง ร้อยละ 75 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 มีทักษะในการแปรงฟันอย่างถูกวิธีตลอดจนมีระดับค่าดัชนีคราบจุลินทรีย์(Plaque index)ลดลง |
60.00 | 75.00 |
2 | เพื่อให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 ได้รับบริการเคลือบหลุมร่องฟัน และเคลือบ/ทาฟลูออไรด์เฉพาะที่ ร้อยละเด็ก 6 - 12 ปี ได้รับบริการทันตกรรม (คน) มีผลงานไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกลุ่มเป้าหมายในเขตรับผิดชอบ |
40.00 | 50.00 |
3 | เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์มีความรู้ที่ถูกต้องในเรื่องการดูแลสุขภาพช่องปาก และมีทักษะในการแปรงฟันอย่างถูกวิธีตลอดจนมีระดับค่าดัชนีคราบจุลินทรีย์(Plaque index)ลดลง ร้อยละ 70 ของหญิงตั้งครรภ์ได้รับการฝึกแปรงฟันแบบลงมือปฏิบัติ หรือได้รับการฝึกแปรงฟันแบบลงมือปฏิบัติ และplaque control เฉพาะเขตรับผิดชอบ |
46.67 | 70.00 |
4 | เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์ได้รับให้บริการทันตกรรมตามความจำเป็น ร้อยละ 70 หญิงตั้งครรภ์ได้รับบริการทันตกรรม |
50.00 | 70.00 |
5 | เพื่อฝึกทักษะการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้ป่วยโรคเรื้อรังด้วยตนเองอย่างถูกต้อง ร้อยละ 50 ของผู้ป่วยโรคเรื้อรังได้ตรวจคัดกรองสุขภาพช่องปาก และมีทักษะการแปรงฟันที่ถูกต้อง |
35.00 | 50.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 20,000.00 | 0 | 0.00 | |
22 ส.ค. 65 - 30 ก.ย. 65 | กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องโรคในช่องปาก และการดูแลสุขภาพช่องปากที่ถูกต้อง | 0 | 20,000.00 | - | ||
22 ส.ค. 65 - 30 ก.ย. 65 | กิจกรรมให้บริการทันตกรรมตามความจำเป็น เช่น เคลือบหลุมร่องฟัน และเคลือบ/ทาฟลูออไรด์เฉพาะที่ อุดฟัน ขูดหินปูน และถอนฟัน | 0 | 0.00 | - |
- ร้อยละ 75 ของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่1 - 6 มีทักษะการแปรงฟันอย่างถูกวิธี และมีค่าดัชนีคราบจุลินทรีย์(Plaque Index)ลดลง
- หญิงตั้งครรภ์มีความรู้ที่ถูกต้องในเรื่องการดูแลสุขภาพช่องปาก สามารถนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในการดูแลตนเองและลูกได้อย่างเหมาะสม
- ผู้ป่วยโรคเรื้อรังมีความรู้ที่ถูกต้องในเรื่องการดูแลสุขภาพช่องปาก สามารถนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในการดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสม
- กลุ่มเป้าหมายได้รับบริการทันตกรรมตามความจำเป็น เช่น เคลือบหลุมร่องฟัน และเคลือบ/ทาฟลูออไรด์เฉพาะที่ อุดฟัน ขูดหินปูน และถอนฟัน
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2565 00:00 น.