กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

แบบรายงานการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์

รายงานฉบับสมบูรณ์

กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองกันตัง


“ โครงการเทศบาลเมืองกันตัง ห่วงใยใส่ใจดูแลผู้พิการ/ทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว ปี 2566 ”

ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง

หัวหน้าโครงการ

ชื่อโครงการ โครงการเทศบาลเมืองกันตัง ห่วงใยใส่ใจดูแลผู้พิการ/ทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว ปี 2566

ที่อยู่ ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง จังหวัด ตรัง

รหัสโครงการ 66-L6895-01-12 เลขที่ข้อตกลง

ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 2 มกราคม 2566 ถึง 31 สิงหาคม 2566


กิตติกรรมประกาศ

"โครงการเทศบาลเมืองกันตัง ห่วงใยใส่ใจดูแลผู้พิการ/ทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว ปี 2566 จังหวัดตรัง" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง

คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองกันตัง ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป

คณะทำงานโครงการ
โครงการเทศบาลเมืองกันตัง ห่วงใยใส่ใจดูแลผู้พิการ/ทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว ปี 2566



บทคัดย่อ

โครงการ " โครงการเทศบาลเมืองกันตัง ห่วงใยใส่ใจดูแลผู้พิการ/ทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว ปี 2566 " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง รหัสโครงการ 66-L6895-01-12 ระยะเวลาการดำเนินงาน 2 มกราคม 2566 - 31 สิงหาคม 2566 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 20,075.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองกันตัง เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นสมาชิกในชุมชนจำนวน 0 คน หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้

โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ

หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"


สารบัญ

กิตติกรรมประกาศ»
บทคัดย่อ»
   ความเป็นมา/หลักการเหตุผล»
   วัตถุประสงค์โครงการ»
   กิจกรรม/การดำเนินงาน»
   กลุ่มเป้าหมาย»
   ผลลัพธ์ที่ได้»
   การประเมินผล»
   ปัญหาและอุปสรรค»
   ข้อเสนอแนะ»
   เอกสารประกอบอื่นๆ»

ความเป็นมา/หลักการเหตุผล

ตามพระราชบัญญัติการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ พ.ศ. 2534  มาตรา 4 ได้ให้ความหมายของคนพิการว่า  เป็นคนที่มีความผิดปกติหรือบกพร่องทางร่างกาย ทางสติปัญญาหรือทางจิตใจตามประเภทและหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎกระทรวง  และการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ หมายความว่า การเสริมสร้างสมรรถภาพ หรือการเสริมสร้างความสามารถของคนพิการให้มีสภาพที่ดีขึ้น โดยอาศัยวิธีทางการแพทย์ ทางการศึกษา ทางสังคม  และการฝึกอาชีพเพื่อให้คนพิการได้มีโอกาสทำงาน หรือดำรงชีวิตในสังคมทัดเทียมคนปกติ มาตรา 15 ให้คนพิการที่ได้รับการจดทะเบียนตามมาตรา 14 ได้รับการสงเคราะห์ การพัฒนาและการฟื้นฟูสมรรถภาพ โดยวิธีทางการแพทย์ และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ค่าอุปกรณ์เพื่อปรับสภาพทางร่างกาย  ทางสติปัญญา หรือทางจิตใจ หรือเสริมสร้างสมรรถภาพให้ดีขึ้นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
การฟื้นฟูสมรรถภาพผู้พิการในชุมชนเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการโดยมีญาติหรือผู้ดูแลและคนในชุมชนมีส่วนร่วม เนื่องจากความพิการทางร่างกายและทางจิตส่งผลต่อคุณภาพชีวิตทำให้ผู้พิการ/ทุพพลภาพไม่สามารถดำรงชีวิตได้เทียบเท่าคนปกติ ไม่สามารถเข้าถึงระบบบริการทางการแพทย์ทำให้ขาดการดูแลรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้พิการ/ทุพพลภาพรวมไปถึงการเป็นภาระต่อญาติหรือผู้ดูแล จากข้อมูลการสำรวจของ อสม. ในเขตเทศบาลเมืองกันตัง พบว่า จำนวนผู้พิการที่อาศัยอยู่จริงทั้งหมด 119 คน แบ่งตามประเภทความพิการ คือทางกาย/การเคลื่อนไหว 74 ราย ทางสติปัญญา 13 ราย ทางการเรียนรู้ 3 ราย ทางการได้ยิน/สื่อความหมาย 12 ราย ทางจิต 10 ราย ทางการมองเห็น 5 ราย และออทิสติก 2 ราย  มีผู้พิการด้านการเคลื่อนไหวจำนวนหนึ่งไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ต้องมีผู้ดูแล  ซึ่งผู้ดูแลประจำส่วนใหญ่ไม่ได้รับการฝึกทักษะในการดูแลที่ถูกต้องและบางครั้งผู้พิการ/ทุพพลภาพถูกทอดทิ้งอยู่ตามลำพัง  จึงทำให้ผู้พิการ/ทุพพลภาพมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย เช่น กล้ามเนื้อลีบ ข้อติด แผลกดทับ เป็นต้น จากสภาพปัญหาดังกล่าว ศูนย์บริการสาธารณสุข เทศบาลเมืองกันตัง เห็นความสำคัญ จึงจัดโครงการเทศบาลเมืองกันตัง ห่วงใยใส่ใจดูแลผู้พิการ/ทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว ปี 2566 ขึ้น เพื่อให้ผู้พิการ/ทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหวเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข ได้รับการดูแลรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และต่อเนื่อง อันจะมีผลทำให้คุณภาพชีวิตของผู้พิการ/ทุพพลภาพดีขึ้นได้ในระดับหนึ่ง รวมทั้งญาติหรือผู้ดูแลมีส่วนร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ/ทุพพลภาพ

สถานการณ์

วัตถุประสงค์โครงการ

  1. เพื่อให้แกนนำสุขภาพในชุมชนได้รับความรู้ มีทักษะในการดูแลผู้พิการทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว
  2. เพื่อให้ผู้พิการทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหวเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข ได้รับการดูแลรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
  3. เพื่อเสริมศักยภาพในการประกอบกิจวัตรประจำวันของคนพิการทุพลภาพทางการเคลื่อนไหว

กิจกรรม/การดำเนินงาน

  1. กิจกรรมสำรวจข้อมูลผู้พิการ
  2. กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ
  3. กิจกรรมเยี่ยมบ้าน/ฟื้นฟูสมรรถภาพ

กลุ่มเป้าหมาย

กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
กลุ่มวัยทำงาน 60
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ 25
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

  1. แกนนำสุขภาพในชุมชน ได้รับความรู้ และเกิดทักษะในการดูแลฟื้นฟูสมรรถภาพผู้พิการทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว
  2. ผู้พิการ/ทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว ได้รับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพตามศักยภาพ สามารถดำรงชีวิตได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในระดับหนึ่ง โดยญาติหรือผู้ดูแลมีส่วนร่วม
  3. ผู้พิการ/ทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหวได้รับการเยี่ยมบ้านเป็นการกระตุ้นและสร้างขวัญกำลังใจให้คนพิการ/ทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหวรู้สึกถึงคุณค่าในตัวเอง มีกำลังใจในการดำเนินชีวิต

ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์**
กิจกรรมของโครงการ
ผลผลิต*
ผลผลิตที่ตั้งไว้ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง

1. กิจกรรมสำรวจข้อมูลผู้พิการ

วันที่ 2 มกราคม 2566 เวลา 08:30 น.

กิจกรรมที่ทำ

สำรวจและจัดทำทะเบียนข้อมูลผู้พิการทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

มีการสำรวจและจัดทำทะเบียนข้อมูลผู้พิการทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว

 

0 0

2. กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ

วันที่ 7 เมษายน 2566 เวลา 08:30 น.

กิจกรรมที่ทำ

08.30 น. – 09.00 น. ลงทะเบียน/ประเมินความรู้ก่อนอบรมโดย  เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข เทศบาลเมืองกันตัง
09.00 น. – 10.00 น. บรรยายเรื่อง  หลักการและประโยชน์ของการฝึกกิจวัตรประจำวันโดย  วิทยากรจากงานกายภาพบำบัดโรงพยาบาลกันตัง(คุณฐิริภรณ์  สุทธินนท์  นักกายภาพบำบัด) 10.00 น. – 10.10 น.  พักรับประทานอาหารว่าง 10.10 น. – 12.00 น. บรรยายเรื่อง  หลักการและประโยชน์ของการฟื้นฟูสมรรถภาพเบื้องต้นโดย  วิทยากรจากงานกายภาพบำบัดโรงพยาบาลกันตัง  (คุณโสรยา  แก้วนิลประเสริฐ  นักกายภาพบำบัดปฏิบัติการ) 12.00 น. – 13.00 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน 13.00 น. – 16.00 น. แบ่งกลุ่มเข้าฐานการเรียนรู้  3  ฐาน  พร้อมประเมินทักษะ  เรื่อง - ฐานที่  1  วิธีการนวดบำบัดเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้พิการ/ทุพพลภาพโดย  วิทยากรจากงานแพทย์แผนไทยโรงพยาบาลกันตัง(คุณสุดารัตน์  เกตุรัตน์  แพทย์แผนไทยชำนาญการ) - ฐานที่  2  การจัดท่าทาง/การเปลี่ยนท่าที่ถูกต้องในผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกและการบริหารข้อป้องกันข้อยึดติดโดย  วิทยากรจากงานกายภาพบำบัดโรงพยาบาลกันตัง  (คุณโสรยา  แก้วนิลประเสริฐ  นักกายภาพบำบัดปฏิบัติการ) - ฐานที่  3  วิธีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและการใช้อุปกรณ์เครื่องช่วยคนพิการโดย  วิทยากรจากงานกายภาพบำบัดโรงพยาบาลกันตัง (คุณฐิริภรณ์  สุทธินนท์  นักกายภาพบำบัด) 16.00 น. – 16.30 น. - ตอบข้อซักถาม/สรุปผลการเรียนรู้ ประเมินความรู้หลังอบรม หมายเหตุ  ช่วงบ่ายเวลา 14.30 – 14.40 รับประทานอาหารว่างระหว่างเข้าฐานการเรียนรู้

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

1.  จัดอบรมให้ความรู้แก่แกนนำสุขภาพชุมชนที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ  จำนวน  60  คน เมื่อวันที่  7  เมษายน  2566  ณ  อาคารคอซิมบี๊  เทศบาลเมืองกันตัง  ในเรื่องความรู้เกี่ยวกับหลักการและประโยชน์ของการฝึกกิจวัตรประจำวัน  หลักการและประโยชน์ของการฟื้นฟูสมรรถภาพเบื้องต้น  และแบ่งกลุ่มเข้าฐานการเรียนรู้พร้อมประเมินทักษะ  3  ฐาน  คือ  ฐานที่ 1  วิธีการนวดบำบัดเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้พิการ/ทุพพลภาพ  ฐานที่  2  การจัดท่าทาง/การเปลี่ยนท่าที่ถูกต้องในผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกและการบริหารข้อป้องกันข้อยึดติด  และฐานที่  3  วิธีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและการใช้อุปกรณ์เครื่องช่วยคนพิการ  และประเมินความรู้ก่อน-หลังการเข้ารับการอบรม  และประเมินความพึงพอใจ  โดยมีวิทยากรจากงานแพทย์แผนไทย  และงานกายภาพบำบัดโรงพยาบาลกันตังมาให้ความรู้ดังกล่าว 1.1 การประเมินความรู้ก่อน-หลังการเข้ารับการอบรม  ซึ่งใช้แบบประเมินความรู้เรื่อง การดูแลและการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้พิการ  (คำถามแบบกากบาทถูกผิดหน้าข้อความ จำนวน  10 ข้อ ๆ ละ 1 คะแนน  รวมคะแนนเต็ม  10  คะแนน) สามารถสรุปผลการประเมินได้  ดังนี้ - ก่อนการอบรม  ซึ่งได้รับแบบประเมินคืน จำนวน 60 ชุด พบว่าผู้เข้ารับการอบรมได้คะแนนเฉลี่ย 7.1  คะแนน  ได้รับคะแนนสูงสุดอยู่ที่  10  คะแนน  จำนวน  12  คน  รองลงมาคือ  9  คะแนน  จำนวน  14  คน  8 คะแนน  จำนวน  11  คน  7  คะแนน  จำนวน  8  คน  6  คะแนน  จำนวน  9  คน  และคะแนนต่ำสุดอยู่ที่  5 คะแนน  จำนวน  4  คน  จะเห็นได้ว่าก่อนการอบรมผู้เข้าอบรมส่วนใหญ่ได้รับคะแนน  9  คะแนนมากที่สุด  คิดเป็นร้อยละ  26.67  รองลงมาคือ  10  คะแนน  คิดเป็นร้อยละ  20,  8  คะแนน  คิดเป็นร้อยละ  18.33,  6 คะแนน  คิดเป็นร้อยละ  15,  7  คะแนน  คิดเป็นร้อยละ  13.33  และ 5 คะแนน  คิดเป็นร้อยละ  6.67
- หลังการอบรม ซึ่งได้รับแบบประเมินคืน จำนวน  54  ชุด พบว่าผู้เข้าอบรมได้คะแนนเฉลี่ย  8.83 คะแนน  ได้รับคะแนนสูงสุดอยู่ที่  10  คะแนน  จำนวน  19 คน  รองลงมาคือ  9  คะแนน  จำนวน  18  คน  8  คะแนน  จำนวน  8  คน  7  คะแนน  จำนวน  7  คน  และคะแนนต่ำสุดอยู่ที่  6 คะแนน  จำนวน  2  คน  จะเห็นได้ว่าหลังการอบรมผู้เข้าอบรมส่วนใหญ่ได้คะแนน  10  คะแนนมากที่สุด  คิดเป็นร้อยละ  35.2  รองลงมาคือ  9  คะแนน  คิดเป็นร้อยละ  33.33, 8  คะแนน  คิดเป็นร้อยละ  14.81, 7  คะแนน  คิดเป็นร้อยละ  12.96  และ  6 คะแนน  คิดเป็นร้อยละ  3.70
1.2  การประเมินทักษะการดูแล/ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้พิการ/ทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว  แก่แกนนำสุขภาพชุมชน  จำนวน  60  คน  ตามฐานการเรียนรู้จำนวน  3  ฐาน  ซึ่งมีผลการประเมินดังนี้ -  ฐานที่  1  วิธีการนวดบำบัดเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้พิการ/ทุพพลภาพ  ผลการประเมินผู้เข้าร่วมกิจกรรม  พบว่า  ผ่านการประเมินร้อยละ 100 -  ฐานที่  2  การจัดท่าทาง/การเปลี่ยนท่าที่ถูกต้องในผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกและการบริหารข้อป้องกันข้อยึดติด  ผลการประเมินผู้เข้าร่วมกิจกรรม  พบว่า  ผ่านการประเมินร้อยละ 100 -  ฐานที่  3  วิธีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและการใช้อุปกรณ์เครื่องช่วยคนพิการ  ผลการประเมินผู้เข้าร่วมกิจกรรม  พบว่า  ผ่านการประเมินร้อยละ 100 1.3  ผลการประเมินความพึงพอใจผู้เข้ารับการอบรม  จำนวน  60  คน  ซึ่งได้รับแบบประเมินคืน  54  ชุด  คิดเป็นร้อยละ 90  ผู้เข้ารับการอบรมส่วนใหญ่ร้อยละ  85.80  มีความพึงพอใจในการดำเนินโครงการอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย  4.29

 

60 0

3. กิจกรรมเยี่ยมบ้าน/ฟื้นฟูสมรรถภาพ

วันที่ 10 พฤษภาคม 2566 เวลา 08:30 น.

กิจกรรมที่ทำ

จัดกิจกรรมเยี่ยมบ้านฟื้นฟูสมรรถภาพ  โดยประสานงานร่วมกับนักกายภาพบำบัดโรงพยาบาลกันตัง และแกนนำสุขภาพในชุมชน  ประเมินความสามารถของผู้พิการรวมทั้งพิจารณาการฟื้นฟูสมรรถภาพให้เหมาะสมกับความสามารถของผู้พิการแต่ละราย  หรือพิจารณาส่งต่อรับการฟื้นฟูสมรรถภาพที่โรงพยาบาลกันตัง  ให้คำปรึกษาแนะนำการจัดสิ่งแวดล้อมภายในบ้านให้เอื้อต่อสุขภาพ  และป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากความพิการกับผู้ดูแลที่บ้าน

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

กิจกรรมเยี่ยมบ้าน/ฟื้นฟูสมรรถภาพแก่ผู้พิการทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว โดยประสานงานร่วมกับนักกายภาพบำบัดโรงพยาบาลกันตัง  และแกนนำสุขภาพในชุมชน  เพื่อลงพื้นที่ประเมินความสามารถของผู้พิการรวมทั้งพิจารณาการฟื้นฟูสมรรถภาพให้เหมาะสมกับความสามารถของผู้พิการแต่ละราย  หรือพิจารณาส่งต่อรับการฟื้นฟูสมรรถภาพที่โรงพยาบาลกันตัง  ให้คำปรึกษาแนะนำการจัดสิ่งแวดล้อมภายในบ้านให้เอื้อต่อสุขภาพ  และป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากความพิการที่บ้าน  ซึ่งได้ลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน/ฟื้นฟูสมรรถภาพแก่ผู้พิการ/ทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหวในชุมชน  จำนวน  24  ราย  โดยมีรายชื่อผู้พิการ/ทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว ที่ได้รับการเยี่ยมดังนี้ 1). นายสมชาย  จันทร์ก้าน  บ้านเลขที่  316/40  ถ.ตรังคภูมิ 2). นายสุเทพ  ชูแก้ว  บ้านเลขที่  49/3  ถ.ควนทองสี 3). นายจตุรภัทร์  เชียรประสงค์  บ้านเลขที่  74/79 ถ.ควนทองสี 4). นายวงศ์  ชื่นสมบัติ  บ้านเลขที่  342/1 ถ.ตรังคภูมิ 5). นางบี้ส้อ  ตุลารักษ์  บ้านเลขที่  316/9 ถ.ตรังคภูมิ
6). นางชดช้อย  มณีศรี  บ้านเลขที่  316/5 ถ.ตรังคภูมิ 7). นายวิเชียร  มานะสุวรรณ  บ้านเลขที่  32/135  ถ.ขื่อนา 8). น.ส. ธันย์ชนก ว่องวิริยะสกุล  บ้านเลขที่  32/123 ถ.ขื่อนา 9). นายประพร วงศ์อภิชาติ  บ้านเลขที่  32/37 ถ.ขื่อนา 10). นายบุญประสิทธิ์ จันทร์แก้ว  บ้านเลขที่  27 ซ.1 ถ.ขื่อนา 11). นางพรทิพย์  สุกิจพิทยานนท์  บ้านเลขที่  145  ถ.สถลสถานพิทักษ์ 12). นางนันทา  กาดิรันต์   บ้านเลขที่  42/2  ถ.หน้าค่าย
13). นายศุภชัย  ผิวดำ  บ้านเลขที่  17 ถ.ค่ายพิทักษ์ 14). นายสุริยา  ทองชู  บ้านเลขที่  52/6 ถ.ค่ายพิทักษ์ 15). นางกิมไป๊  มีพันธ์  บ้านเลขที่  52/18 ถ.ค่ายพิทักษ์ 16). นางนารี  บัวเพ็ชร  บ้านเลขที่  111  ซ.1 ถ.รถไฟ 17). น.ส. นลินรัตน์  นิ่มแนบ  บ้านเลขที่  89  ถ.รถไฟ 18). นายสุรินทร์    สีจันทร์  บ้านเลขที่  88/11 ถ.กิตติคุณ 19). นายวรพันธ์  เกื้อแก้ว  บ้านเลขที่  156  ถ.กิตติคุณ 20). น.ส. วลัยพรรณ  ชัยณรงค์  บ้านเลขที่  29  ถ.รัษฎาอุทิศ 9 21). นางประสพศรี  สกุลส่องบุญศิริ  บ้านเลขที่  136 ถ.สถลสถานพิทักษ์ 22). นายสุวิทย์  แสงธีระวัฒน์พร  บ้านเลขที่  124/5 ถ.ตรังคภูมิ 23). น.ส.รีนา  แซ่ลิ้ม  บ้านเลขที่  47 ถ.รัษฎา 24). นางจันทรา  หาญภักดี  บ้านเลขที่  119/9 ถ.ตรังคภูมิ 2.1 ผลการประเมิน/ติดตามการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้พิการ/ทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหวที่บ้านก่อน-หลังการฟื้นฟูสมรรถภาพ  ตามแบบประเมินกิจวัตรประจำวัน  (BARTHEL ACTIVITY OF DAILY LIVING SCALE)  ซึ่งจากการประเมินกิจวัตรประจำวันก่อนการฟื้นฟูสมรรถภาพ  พบว่า  ผู้พิการ/ทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหวส่วนใหญ่ไม่สามารถทํากิจวัตรประจําวันได้เองต้องการความช่วยเหลืออย่างมากที่สุด  คิดเป็นร้อยละ  41.67  รองลงมา  คือ  ไม่สามารถทํากิจวัตรประจําวันได้เองต้องการความช่วยเหลืออย่างมาก  คิดเป็นร้อยละ  29.17  สามารถทํากิจวัตรประจําวันได้เองในระดับปานกลาง  คิดเป็นร้อยละ 25  และสามารถทํากิจวัตรประจําวันได้เองในระดับมาก  คิดเป็นร้อยละ  4.16  ตามลำดับ
หลังการฟื้นฟูสมรรถภาพ  พบว่า  ผู้พิการ/ทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหวส่วนใหญ่ไม่สามารถทํากิจวัตรประจําวันได้เองต้องการความช่วยเหลืออย่างมากที่สุด  คิดเป็นร้อยละ  37.5  รองลงมา  คือ  ไม่สามารถทํากิจวัตรประจําวันได้เองต้องการความช่วยเหลืออย่างมาก คิดเป็นร้อยละ  33.33  สามารถทํากิจวัตรประจําวันได้เองในระดับปานกลาง  คิดเป็นร้อยละ 25  และสามารถทํากิจวัตรประจําวันได้เองในระดับมาก  คิดเป็นร้อยละ  4.16  ตามลำดับ 2.3  ผลการประเมินหลังการฟื้นฟูสมรรถภาพโดยนักกายภาพบำบัด  พบว่า  ผู้พิการ/ทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว  มีกำลังกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น หรือ ดีขึ้น  จำนวน  7 ราย คิดเป็นร้อยละ  29.17 และมีกำลังกล้ามเนื้อคงที่หรือเท่าเดิม  จำนวน  17  ราย  คิดเป็นร้อยละ  70.83

 

25 0

* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น


ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม

ผลการดำเนินโครงการ

สรุปผลการดำเนินโครงการ

ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ

  1. จัดอบรมให้ความรู้แก่แกนนำสุขภาพชุมชนที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ จำนวน 60 คน เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566 ณ อาคารคอซิมบี๊ เทศบาลเมืองกันตัง ในเรื่องความรู้เกี่ยวกับหลักการและประโยชน์ของการฝึกกิจวัตรประจำวัน หลักการและประโยชน์ของการฟื้นฟูสมรรถภาพเบื้องต้น และแบ่งกลุ่มเข้าฐานการเรียนรู้พร้อมประเมินทักษะ 3 ฐาน คือ ฐานที่ 1 วิธีการนวดบำบัดเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้พิการ/ทุพพลภาพ ฐานที่ 2 การจัดท่าทาง/การเปลี่ยนท่าที่ถูกต้องในผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกและการบริหารข้อป้องกันข้อยึดติด และฐานที่ 3 วิธีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและการใช้อุปกรณ์เครื่องช่วยคนพิการ และประเมินความรู้ก่อน-หลังการเข้ารับการอบรม และประเมินความพึงพอใจ โดยมีวิทยากรจากงานแพทย์แผนไทย และงานกายภาพบำบัดโรงพยาบาลกันตังมาให้ความรู้ดังกล่าว 1.1 การประเมินความรู้ก่อน-หลังการเข้ารับการอบรม ซึ่งใช้แบบประเมินความรู้เรื่อง การดูแลและการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้พิการ (คำถามแบบกากบาทถูกผิดหน้าข้อความ จำนวน 10 ข้อ ๆ ละ 1 คะแนน รวมคะแนนเต็ม 10 คะแนน) สามารถสรุปผลการประเมินได้ ดังนี้

- ก่อนการอบรม ซึ่งได้รับแบบประเมินคืน จำนวน 60 ชุด พบว่าผู้เข้ารับการอบรมได้คะแนนเฉลี่ย 7.1 คะแนน ได้รับคะแนนสูงสุดอยู่ที่ 10 คะแนน จำนวน 12 คน รองลงมาคือ 9 คะแนน จำนวน 14 คน 8 คะแนน จำนวน 11 คน 7 คะแนน จำนวน 8 คน 6 คะแนน จำนวน 9 คน และคะแนนต่ำสุดอยู่ที่ 5 คะแนน จำนวน 4 คน จะเห็นได้ว่าก่อนการอบรมผู้เข้าอบรมส่วนใหญ่ได้รับคะแนน 9 คะแนนมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 26.67 รองลงมาคือ 10 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 20, 8 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 18.33, 6 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 15, 7 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 13.33 และ 5 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 6.67 ตามลำดับ - หลังการอบรม ซึ่งได้รับแบบประเมินคืน จำนวน 54 ชุด พบว่าผู้เข้าอบรมได้คะแนนเฉลี่ย 8.83 คะแนน ได้รับคะแนนสูงสุดอยู่ที่ 10 คะแนน จำนวน 19 คน รองลงมาคือ 9 คะแนน จำนวน 18 คน  8 คะแนน จำนวน 8 คน 7 คะแนน จำนวน 7 คน และคะแนนต่ำสุดอยู่ที่ 6 คะแนน จำนวน 2 คน จะเห็นได้ว่าหลังการอบรมผู้เข้าอบรมส่วนใหญ่ได้คะแนน 10 คะแนนมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 35.2 รองลงมาคือ 9 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 33.33, 8 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 14.81, 7 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 12.96 และ 6 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 3.70
1.2 การประเมินทักษะการดูแล/ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้พิการ/ทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว แก่แกนนำสุขภาพชุมชน จำนวน 60 คน ตามฐานการเรียนรู้จำนวน 3 ฐาน ซึ่งมีผลการประเมินดังนี้ - ฐานที่ 1 วิธีการนวดบำบัดเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้พิการ/ทุพพลภาพ ผลการประเมินผู้เข้าร่วมกิจกรรม พบว่า ผ่านการประเมินร้อยละ 100 - ฐานที่ 2 การจัดท่าทาง/การเปลี่ยนท่าที่ถูกต้องในผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกและการบริหารข้อป้องกันข้อยึดติด ผลการประเมินผู้เข้าร่วมกิจกรรม พบว่า ผ่านการประเมินร้อยละ 100 - ฐานที่ 3 วิธีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและการใช้อุปกรณ์เครื่องช่วยคนพิการ ผลการประเมินผู้เข้าร่วมกิจกรรม พบว่า ผ่านการประเมินร้อยละ 100 1.3 ผลการประเมินความพึงพอใจผู้เข้ารับการอบรม จำนวน  60 คน ซึ่งได้รับแบบประเมินคืน 54 ชุด คิดเป็นร้อยละ 90 ผู้เข้ารับการอบรมส่วนใหญ่ร้อยละ 85.80 มีความพึงพอใจในการดำเนินโครงการอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.29
ข้อเสนอแนะ 1. โครงการดีมาก ได้ทบทวน และนำไปปรับใช้ 2. อยากให้มีการจัดอบรมทุกปี 2. กิจกรรมเยี่ยมบ้าน/ฟื้นฟูสมรรถภาพแก่ผู้พิการทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว โดยประสานงานร่วมกับนักกายภาพบำบัดโรงพยาบาลกันตัง และแกนนำสุขภาพในชุมชน เพื่อลงพื้นที่ประเมินความสามารถของผู้พิการรวมทั้งพิจารณาการฟื้นฟูสมรรถภาพให้เหมาะสมกับความสามารถของผู้พิการแต่ละราย หรือพิจารณาส่งต่อรับการฟื้นฟูสมรรถภาพที่โรงพยาบาลกันตัง ให้คำปรึกษาแนะนำการจัดสิ่งแวดล้อมภายในบ้านให้เอื้อต่อสุขภาพ และป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากความพิการที่บ้าน ซึ่งได้ลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน/ฟื้นฟูสมรรถภาพแก่ผู้พิการ/ทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหวในชุมชน จำนวน 24 ราย โดยมีรายชื่อผู้พิการ/ทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว ที่ได้รับการเยี่ยมดังนี้ 1). นายสมชาย จันทร์ก้าน บ้านเลขที่ 316/40 ถ.ตรังคภูมิ 2). นายสุเทพ  ชูแก้ว บ้านเลขที่ 49/3 ถ.ควนทองสี 3). นายจตุรภัทร์ เชียรประสงค์ บ้านเลขที่ 74/79 ถ.ควนทองสี

4). นายวงศ์  ชื่นสมบัติ บ้านเลขที่ 342/1 ถ.ตรังคภูมิ 5). นางบี้ส้อ ตุลารักษ์ บ้านเลขที่ 316/9 ถ.ตรังคภูมิ
6). นางชดช้อย มณีศรี บ้านเลขที่ 316/5 ถ.ตรังคภูมิ 7). นายวิเชียร มานะสุวรรณ บ้านเลขที่ 32/135 ถ.ขื่อนา 8). น.ส. ธันย์ชนก ว่องวิริยะสกุล บ้านเลขที่ 32/123 ถ.ขื่อนา 9). นายประพร วงศ์อภิชาติ บ้านเลขที่ 32/37 ถ.ขื่อนา 10). นายบุญประสิทธิ์ จันทร์แก้ว บ้านเลขที่ 27 ซ.1 ถ.ขื่อนา 11). นางพรทิพย์ สุกิจพิทยานนท์ บ้านเลขที่ 145 ถ.สถลสถานพิทักษ์ 12). นางนันทา กาดิรันต์  บ้านเลขที่ 42/2 ถ.หน้าค่าย
13). นายศุภชัย ผิวดำ บ้านเลขที่ 17 ถ.ค่ายพิทักษ์ 14). นายสุริยา ทองชู บ้านเลขที่ 52/6 ถ.ค่ายพิทักษ์ 15). นางกิมไป๊ มีพันธ์ บ้านเลขที่ 52/18 ถ.ค่ายพิทักษ์ 16). นางนารี บัวเพ็ชร บ้านเลขที่ 111 ซ.1 ถ.รถไฟ 17). น.ส. นลินรัตน์  นิ่มแนบ บ้านเลขที่ 89 ถ.รถไฟ 18). นายสุรินทร์  สีจันทร์ บ้านเลขที่ 88/11 ถ.กิตติคุณ 19). นายวรพันธ์ เกื้อแก้ว บ้านเลขที่ 156 ถ.กิตติคุณ 20). น.ส. วลัยพรรณ ชัยณรงค์ บ้านเลขที่ 29 ถ.รัษฎาอุทิศ 9 21). นางประสพศรี สกุลส่องบุญศิริ บ้านเลขที่ 136 ถ.สถลสถานพิทักษ์ 22). นายสุวิทย์ แสงธีระวัฒน์พร บ้านเลขที่ 124/5 ถ.ตรังคภูมิ 23). น.ส.รีนา แซ่ลิ้ม บ้านเลขที่ 47 ถ.รัษฎา 24). นางจันทรา หาญภักดี บ้านเลขที่ 119/9 ถ.ตรังคภูมิ 2.1 ผลการประเมิน/ติดตามการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้พิการ/ทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหวที่บ้านก่อน-หลังการฟื้นฟูสมรรถภาพ ตามแบบประเมินกิจวัตรประจำวัน (BARTHEL ACTIVITY OF DAILY LIVING SCALE) ซึ่งจากการประเมินกิจวัตรประจำวันก่อนการฟื้นฟูสมรรถภาพ พบว่า ผู้พิการ/ทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหวส่วนใหญ่ไม่สามารถทํากิจวัตรประจําวันได้เองต้องการความช่วยเหลืออย่างมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 41.67 รองลงมา คือ ไม่สามารถทํากิจวัตรประจําวันได้เองต้องการความช่วยเหลืออย่างมาก คิดเป็นร้อยละ 29.17 สามารถทํากิจวัตรประจําวันได้เองในระดับปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 25 และสามารถทํากิจวัตรประจําวันได้เองในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 4.16 ตามลำดับ
หลังการฟื้นฟูสมรรถภาพ พบว่า ผู้พิการ/ทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหวส่วนใหญ่ไม่สามารถทํากิจวัตรประจําวันได้เองต้องการความช่วยเหลืออย่างมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 37.5 รองลงมา คือ ไม่สามารถทํากิจวัตรประจําวันได้เองต้องการความช่วยเหลืออย่างมาก คิดเป็นร้อยละ 33.33 สามารถทํากิจวัตรประจําวันได้เองในระดับปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 25 และสามารถทํากิจวัตรประจําวันได้เองในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 4.16 ตามลำดับ 2.3 ผลการประเมินหลังการฟื้นฟูสมรรถภาพโดยนักกายภาพบำบัด พบว่า ผู้พิการ/ทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว มีกำลังกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น หรือ ดีขึ้น จำนวน 7 ราย คิดเป็นร้อยละ 29.17 และมีกำลังกล้ามเนื้อคงที่หรือเท่าเดิม จำนวน 17 ราย คิดเป็นร้อยละ 70.83

ผลผลิตโครงการ

วัตถุประสงค์สถานการณ์เป้าหมายผลผลิตอธิบาย
1 เพื่อให้แกนนำสุขภาพในชุมชนได้รับความรู้ มีทักษะในการดูแลผู้พิการทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว
ตัวชี้วัด :

 

2 เพื่อให้ผู้พิการทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหวเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข ได้รับการดูแลรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
ตัวชี้วัด :

 

3 เพื่อเสริมศักยภาพในการประกอบกิจวัตรประจำวันของคนพิการทุพลภาพทางการเคลื่อนไหว
ตัวชี้วัด :

 

ผู้เข้าร่วมโครงการ

กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด 85
กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน -
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน -
กลุ่มวัยทำงาน 60 60
กลุ่มผู้สูงอายุ -
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด -
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง -
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ 25 24
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง -
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] -

บทคัดย่อ*

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อให้แกนนำสุขภาพในชุมชนได้รับความรู้ มีทักษะในการดูแลผู้พิการทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว (2) เพื่อให้ผู้พิการทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหวเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข  ได้รับการดูแลรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพได้อย่างถูกต้องเหมาะสม (3) เพื่อเสริมศักยภาพในการประกอบกิจวัตรประจำวันของคนพิการทุพลภาพทางการเคลื่อนไหว

ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (1) กิจกรรมสำรวจข้อมูลผู้พิการ (2) กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ (3) กิจกรรมเยี่ยมบ้าน/ฟื้นฟูสมรรถภาพ

ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...

หมายเหตุ *

  • บทคัดย่อ จะนำไปใส่ในส่วนบทคัดย่อของรายงานฉบับสมบูรณ์
  • หากต้องการใช้ค่าเริ่มต้นของบทคัดย่อ ให้ลบข้อความในช่องบทคัดย่อ ทั้งหมด แล้วกดปุ่ม Refresh

ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ

ปัญหาและอุปสรรคสาเหตุข้อเสนอแนะ

 

 

 


โครงการเทศบาลเมืองกันตัง ห่วงใยใส่ใจดูแลผู้พิการ/ทุพพลภาพทางการเคลื่อนไหว ปี 2566 จังหวัด ตรัง

รหัสโครงการ 66-L6895-01-12

ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว

................................
( )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......

vertical_align_topไปบนสุด