กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

ผลการดำเนินโครงการ

สรุปผลการดำเนินโครงการ

ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ

วันที่ 11 มกราคม 2566 คัดกรองสุขภาพเบื้อต้น มีดังนี้ วัดความดัน ชั่งน้ำหนัก และวัดรอบเอว เพื่อประมาณสุขภาพของผู้สูงอายุโรงเรียนมะขามหวาน ละลายพฤติกรรมเป็นกิจกรรมสั้นๆ แต่มีประสิทธิภาพในการช่วยให้ผู้สูงอายุทุกคนได้ทำความรู้จักและกระชับด้วยการแนะนำตนเองเพื่อได้รู้จักกันมากขึ้นในการเปิดเรียนครั้งแรก และทำกิจกรรมรำเพื่อสร้างความสัมพันธ์ให้ผู้สูงอายุ โดยวิทยากร น.ส.อรรชนา บุญรักษ์
วันที่ 18 มกราคม 2566 ได้เรียนรู้เคล็ดลับสูงวัยทำอย่างไรไม่ให้ร่างกายนำหน้ากว่าอายุจริงของเรา
มีทั้งหมด 10 เคล็ดลับ เพื่อการสูงวัยอย่างมีสุขภาวะ ดังนี้     - หมั่นออกกำลังกายเพื่อสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง - เข้าสังคม - รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- ตรวจสุขภาพเป็นประจำ - รับประทานยาตามที่แพทย์แนะนำ
- ลดปริมาณการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ - เลิกสูบบุหรี่ - นอนหลับให้เพียงพอ - ใส่ใจสุขภาพช่องปาก - ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพทางเพศ โดยวิทยากร น.ส.ศรัณยา ระหัด วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 นักเรียนผู้สูงอายุร่วมกันไหว้พระสวดมนต์และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นกิจกรรมสั้นๆ และเรียบง่าย ง่าย ได้เรียนรู้การออกกำลังกายแบบง่ายๆ การออกกำลังกายในผู้สูงอายุ แบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ มีดังนี้ 1. เพิ่มการไหลเวียนโลหิต เพิ่มการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด (แอโรบิค) 2. เพิ่มการทำงานของกล้ามเนื้อ ข้อต่อส่วนต่าง ๆ เป็นการออกกำลังกายฝืนแรงต้าน 3. เหยียดยืดข้อต่อส่วนต่าง ๆ ป้องกันอาการข้อยืดติด 4. ฝึกการทรงตัว
ละลายพฤติกรรมเป็นกิจกรรมสั้นๆ แต่มีประสิทธิภาพในการช่วยให้ผู้สูงอายุทุกคนได้ทำความรู้จักและกระชับด้วยการร้อง เล่น เต้น รำ โดยวิทยากร นางอรุณี ยุทธิปูน วันที่ 1 มีนาคม 2566 ได้มีการตรวจสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ การมีสุขภาพช่องปากที่ดีมีความสำคัญกับทุกวัย และยิ่งสำคัญเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุเพราะฟันของผู้สูงอายุที่เหลืออยู่ มีการเปลี่ยนแปลงจากการใช้งานมายาวนาน หรือมีโรคที่เป็นมาตั้งแต่ก่อนถึงวัยสูงอายุ มีการสูญเสียฟัน เกิดช่องว่าง ทำให้การดูแลรักษาความสะอาดทำได้ยากกว่าฟันทั่วๆ ไป ผู้สูงอายุที่มีสุขภาพช่องปากดีจะช่วยให้รู้สึกสบาย รับประทานอาหารได้อร่อยและหลากหลายประเภท มีร่างกายแข็งแรง ช่วยการพูดออกเสียงได้ชัดเจน ไม่ต้องกังวลในการเข้าสังคมและส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ถ้าสุขภาพช่องปากไม่ดีจะมีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้ เพราะจุลินทรีย์จากการติดเชื้อในช่องปากอาจผ่าเข้าสู่กระแสเลือดไปที่หัวใจ โดยเฉพาะในผู้ที่มีประวัติความผิดปกติของหัวใจหรือเข้าสู่ทางเดินหายใจ โดยวิทยากร น.ส.ฮันวาณี แกนุ้ย วันที่ 22 มีนาคม 2566 ได้เรียนรู้ด้านอาหารและโภชนาการที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ โภชนาการสำหรับผู้สูงอายุ การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมต่อสุขภาพเป็นเรื่องที่จำเป็น โดยเฉพาะผู้สูงวัยซึ่งเป็นวัยที่ต้องการพลังงานและสารอาหารแตกต่างจากวัยทำงาน หรือผู้ที่มีสุขภาพร่างกายปกติ เนื่องจากประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลงของระบบต่างๆ ดังนั้น จึงต้องมีความเข้าใจเรื่องอาหารและโภชนาการเป็นอย่างดี ซึ่งความต้องการพลังงานและสารอาหารในผู้สูงอายุแต่ละรายก็จะแตกต่างกันไป ขึ้นกับอายุ น้ำหนัก ส่วนสูง และการใช้พลังงานในแต่ละวัน โภชนบัญญัติ 9 ประการสำหรับผู้สูงอายุ 1. กินอาหารให้หลากหลายในสัดส่วนที่เหมาะสม และหมั่นดูแลน้ำหนักตัว 2. กินข้าวเป็นหลัก เน้นข้าวกล้อง ข้าวขัดสีน้อย 3. กินพืชผักและผลไม้ตามฤดูกาลให้มากเป็นประจำ 4. กินปลา ไข่ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ถั่วและผลิตภัณฑ์จากถั่วเป็นประจำ 5. ดื่มนมและผลิตภัณฑ์จากนมเป็นประจำ 6. หลีกเลี่ยงอาหาร ไขมันสูง หวานจัด เค็มจัด 7. ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มรสหวาน 8. กินอาหารสะอาด ปลอดภัย 9. งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ โดยวิทยากร นางพรรณวดี พูลผล วันที่ 5 เมษายน 2566 เรียนรู้การทำลูกประคบสมุนไพรลูกประคบสมุนไพร คือ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำสมุนไพรหลายชนิดมาผ่านกระบวนการทำความสะอาดแล้วนำมาหั่นหรือสับให้เป็นชิ้นตามขนาดที่ต้องการตำพอแตก ใช้สดหรือทำให้แห้ง นำมาห่อหรือบรรจุรวมกันในผ้าให้ได้รูปทรงต่าง ๆ เช่น ทรงกลม หมอนสำหรับใช้นาบหรือกดประคบส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ถ้าเป็นลูกประคบสมุนไพรแห้งแห้ง ก่อนใช้ต้องนำมาพรมน้ำแล้วทำให้ร้อนโดยนึ่ง อุปกรณ์การทำลูกประคบสมุนไพร   1. ผ้าสำหรับห่อลูกประคบ ต้องเป็นผ้าฝ้ายหรือผ้าดิบที่มีเนื้อผ้าแน่นพอที่จะป้องกันไม่ให้สมุนไพรร่วง ออกมาได้   2. สมุนไพรที่ใช้ทำลูกประคบต้องหั่นหรือสับเป็นชิ้นเล็กๆ สด/แห้ง ต้องไม่มีราปรากฏให้เห็นเด่นชัดและ ต้องมี พืชสมุนไพรหลักที่มีน้ำมันหอมระเหยอย่างน้อย 3 ชนิด เช่น ไพล ขมิ้นชัน ตะไคร้ และผิวหรือใบมะกรูด/ กลุ่มสมุนไพรที่มีรสเปรี้ยวมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ เช่น ใบมะขาม ใบส้มป่อย และกลุ่มสารที่มี กลิ่นหอม จะระเหยออกมาเมื่อถูกความร้อน เช่น การบูร พิมเสน และเกลือ ช่วยดูดความร้อน   3. หม้อสำหรับนึ่งลูกประคบและจานรองลูกประคบ   4. เชือกสำหรับมัดผ้าห่อลูกประคบ วิธีทำลูกประคบ   1. นำหัวไพล ขมิ้นชัน ตะไคร้ มะกรูด ล้างทำความสะอาด นำมาหั่นหรือสับให้เป็นชิ้นตามขนาดที่ต้องการตำพอ หยาบ ๆ   2. นำใบมะขาม ใบส้มป่อย ผสมกับสมุนไพรในข้อ 1 เสร็จแล้วใส่เกลือ การบูร คลุกเคล้าให้เข้าเป็นเนื้อ เดียวกัน แต่อย่าให้แฉะเป็นน้ำ   3. แบ่งสมุนไพรที่คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วเป็นส่วนเท่า ๆ กัน โดยใช้ผ้าฝ้ายหรือผ้าดิบห่อเป็นลูกประคบมัด ด้วยเชือกให้แน่น   4. นำลูกประคบที่ได้ไปนึ่ง ใช้เวลานึ่งประมาณ 15-20 นาที วิธีการใช้ลูกประคบสมุนไพร     นำลูกประคบที่ได้ไปนึ่งประมาร 15-20 นาที เมื่อลูกประคบร้อนได้ที่แล้ว ก่อนนำมาใช้ประคบควรมี การทดสอบความร้อนโดยแตะที่ท้องแขนหรือหลังมือก่อน และในช่วงแรกที่ลูกประคบยังร้อนอยู่ ต้อง ประคบด้วยความเร็ว ไม่วางลูกประคบไว้บนผิวหนังนาน ๆ เพียงแตะลูกประคบแล้วยกขึ้น แต่เมื่อลูก ประคบคลายความร้อนลงสามารถวางลูกประคบได้นานขึ้นพร้อมกับกดคลึงจนกว่าลูกประคบคลาย ความร้อน แล้วจึงเปลี่ยนลูกประคบไปใช้ลูกใหม่แทน (ใช้แล้วนำไปนึ่งแทน) วิทยากร น.ส.วิภารัตน์ แทนบุญ วันที่ 19 เมษายน 2566 เรียนรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกาย สำหรับผู้สูงอายุมีวัตถุประสงค์ในการเสริมสร้างความแข็งแรงของระบบต่างๆในร่างกาย โดยเฉพาะระบบหัวใจและหายใจ ช่วยชะลอความเสื่อมของระบบต่าง ๆ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงทนทานให้กับกล้ามเนื้อ เพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย ปรับระบบการทำงานของระบบต่าง ๆ เช่น การออกกำลังกายด้วยกะลามะพร้าวและผ้าขาวม้า เป็นต้น โดย นางวรรณ ทองเอียด
วันที่ 10 พฤษภาคม 2566 ได้เรียนรู้ด้านอาหารและโภชนาการที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ โภชนาการสำหรับผู้สูงอายุ และได้ฝึกปฏิบัติการทำอาหารเพื่อสุขภาพ การทำสลัดโรล เป็นการเปลี่ยนรูปแบบการรับประทานสลัดให้รับประทานง่ายขึ้น โดยที่ยังคงคุณค่าทางสารอาหารเอาไว้อย่างครบครัน ไม่ว่า จะเป็น ผัก เนื้อปูอัด แผ่นแป้งปอเปี้ยะ น้ำสลัด และอื่น ๆ ทำให้การกินสลัดนั้นง่ายขึ้น เพียงแค่ ใช้ส้อมจิ้มและตักเข้าปากเท่านั้น ก็อร่อยแล้ว ในส่วนของการเลือกน้ำจิ้ม จะเป็นแบบไหนก็ได้ ใครที่ชอบรสชาติจัดจ้าน เป็นน้ำจิ้มซีฟู้ดหรือวาซาบิก็ได้ หรือ ใครที่ไม่ชอบน้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำจิ้มโยเกิร์ตเบาๆ
วันที่ 17 พฤษภาคม 2566 ผู้สูงอายุได้เรียนรู้การเล่นกีฬา ออกกำลังกาย ได้เล่นกีฬาแชร์บอล การเล่นแชร์บอลจะมี 2 ทีมในสนาม โดยแต่ละทีมจะมีผู้เล่นฝั่งละ 7 คน และมีตัวสำรองสำหรับไว้เปลี่ยนตัวอีก 5 คน โดยตำแหน่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาในสนามก็คือ ผู้ถือตะกร้า กับผู้ป้องกันตะกร้า นอกเสียจากว่าจะเปลี่ยนตัวออกแล้วส่งตัวสำรองลงแทน ส่วนตำแหน่งการยืนของผู้เล่นใน เป็นต้น
วันที่ 24 พฤษภาคม 2566 ได้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติบำบัด คือ การดูแลรักษา กาย ใจ โดยขบวนการธรรมชาติ ตั้งอยู่บนหลักว่าโรคทุกชนิด ทั้งร่างกายและจิตใจของคนเรา สามารถเยียวยารักษาตัวเองได้ ถ้าร่างกายอยู่ในสภาพสมดุลปกติ โรคร้ายต่างๆที่เกิดขึ้นจำนวนมาก เช่น มะเร็ง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดหัวใจตีบตัน ภูมิแพ้ หืดหอบ ฯลฯ เกิดจากการดำเนินชีวิตที่ผิดธรรมชาติ โดยเฉพาะคนที่อยู่ในเมืองใหญ่ๆ และ รับประทานอาหารที่มีสารเคมีปนเปื้อน เช่น เนื้อสัตว์ที่เลี้ยงด้วยฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต ยาปฏิชีวนะ หรือ รับประทานยาหรือฉีดยาที่ทำจากสารเคมี สารเหล่านี้จะตกค้างอยู่ในร่างกายมาก หรือการใช้ชีวิตที่เครียดเกินไป หักโหมเกินไป กังวลเกินไป ออกกำลังกายไม่เพียงพอ พักผ่อนไม่เพียงพอ ดังนั้น การดูแลสุขภาพของคนเราจะเน้น เรื่องอาหาร การรับประทานอาหารที่ดีก็จะทำให้มีสุขภาพดี สุขภาพของคนขึ้นอยู่กับ พฤติกรรมของการรับประทานอาหาร Bacteria ไม่มีผลทำให้เกิดโรคต่อร่างกาย การเจ็บป่วยของคนล้วนเกิดจากอาหารที่มีสารพิษปนเปื้อนที่คนเรารับประทานเข้า ไป เรื่อง ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นเรื่องของธรรมชาติที่ต้องเรียนรู้ โดยวิทยากร นายเลิศ สุขเกษม วันที่ 21 มิถุนายน 2566ได้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพโดยการรำไม้พลอง การบริหารร่างกายโดยการรำไม้พลอง เป็นการยืดเหยียดกล้ามเนื้อลำตัว หลังและต้นขา เป็นส่วนใหญ่ ช่วยป้องกันและลดอาการปวดหลัง ส่งเสริมคุณภาพชีวิต การบริหารร่างกายอย่างต่อเนื่องประมาณ 20-30 นาที มีทั้งหมด 12 ท่า ดังนี้ เขย่าเข่า, เหวี่ยงข้าง, พายเรือ, หมุนกาย/หมุนเอว, ตาชั่ง, ว่ายน้ำวัดวา, กรรเชียงถอยหลัง, ดาวดึงส์, นกบิน, ทศกัณฑ์/โยกตัว, ยกน้ำหนัก/จับไม้ข้ามหัวและนวดตัว โดยวิทยากร นางสงวน แก้วสวัสดิ์
วันที่ 5 กรกฎาคม 2566 ได้เรียนรู้การใช้ยาให้ถูกวิธีและปลอดภัยแม้ยาสามารถใช้รักษาทำให้ผู้ป่วยหายป่วยและร่างกายรู้สึกดีขึ้นได้แต่สิ่งสำคัญคือ ยาทุกชนิดไม่ว่าจะได้มาจากการจ่ายยาของแพทย์ หรือยาที่หาซื้อเองตามร้านขายยาล้วนแล้วแต่มีอันตราย เช่นเดียวกับที่มีคุณประโยชน์ หลักการใช้ยาที่ถูกต้องและปลอดภัย 1) ก่อนใช้ยาทุกครั้งต้องอ่านฉลากยาให้เข้าใจ อ่านให้ละเอียด และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด 2) ใช้ยาให้ตรงกับโรค โดยปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ เพราะจะทำให้ไม่เป็นอันตราย 3) ใช้ยาให้ถูกวิธี เช่น ไม่แกะผงยาที่อยู่ในแคปซูลมาโรยแผล ยาชนิดที่ใช้ทาห้ามนำมารับประทาน เป็นต้น 4) ใช้ยาให้ถูกกับบุคคล ควรใช้ยาให้ถูกกับสภาพของบุคคลเพราะร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เช่น ยาที่ให้เด็กกินต้องมีปริมาณไม่เท่ากับผู้ใหญ่ ยาบางชนิดไม่ควรให้หญิงมีครรภ์กินเพราะอาจเป็นอันตรายต่อลูกในท้องได้ 5) ใช้ยาให้ถูกขนาด ควรใช้ยาตามขนาดที่แพทย์หรือเภสัชกรกำหนดไว้ เพราะถ้าใช้เกินขนาดอาจเกิดอันตรายต่อร่างกาย หรือถ้าใช้น้อยไปอาจจะทำให้การรักษาโรคไม่ได้ผลดี 6) ใช้ยาให้ถูกเวลา ยาแต่ละชนิดจะกำหนดระยะเวลาที่ใช้ไว้ หลักสำคัญที่สุดเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยก็คือ ไปพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคอะไร และแพทย์ก็จะเป็นผู้สั่งยาที่เหมาะสมสำหรับโรคนั้น ๆ ให้ใช้ต่อไป โดยวิทยากร นางพรรณวดี พูลผล วันที่ 9 สิงหาคม 2566 เรียนรู้การส่งเสริมสุขภาพจิตในผู้สูงอายุ ในทางจิตวิทยา วัยสูงอายุเป็นวัยแห่งความเคารพนับถือที่ลูกหลานยกย่องให้เกียรติ เป็นวัยแห่งความสุขที่จะได้เห็นลูกหลานที่เลี้ยงมาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ภาระรับผิดชอบต่าง ๆ ลดลง มีเวลาว่างที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ตามความชอบหรือความสนใจอย่างเต็มที่ แต่ในขณะเดียวกัน วัยสูงอายุก็เป็นช่วงเวลาของชีวิตที่จะเปลี่ยนจากวัยกลางคนเข้าสู่วัยชราอย่างเต็มตัว ทำให้ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ มากมายทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสังคม การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เหล่านี้อาจเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตในผู้สูงอายุได้ โดยวิทยากร นางสงวน แก้วสวัสดิ์

ผลผลิตโครงการ

วัตถุประสงค์สถานการณ์เป้าหมายผลผลิตอธิบาย
1 เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพกายและจิตใจของผู้สูงอายุ
ตัวชี้วัด : ผู้สูงอายุได้รับการดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจ
70.00 70.00

ผู้สูงอายุได้รับการดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจ

2 เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านต่างๆของผูงสูงอายุ
ตัวชี้วัด : ผู้สูงอายุได้รับการส่งเสริมเรียนรู้ในด้านต่างๆ
80.00 80.00

ผู้สูงอายุได้รับการส่งเสริมเรียนรู้ในด้านต่างๆ

3 เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รวมกลุ่มกันทำกิจกรรมร่วมกัน
ตัวชี้วัด : ผู้สูงอายุได้รวมกลุ่มกันทำกิจกรรม
90.00 90.00

ผู้สูงอายุได้รวมกลุ่มกันทำกิจกรรม

4 เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้สูงอายุในบั้นปลายของชีวิต
ตัวชี้วัด : ผู้สูงอายุมีขวัญและกำลังใจในบั้นปลายชีวิต
100.00 100.00

ผู้สูงอายุมีขวัญและกำลังใจในบั้นปลายชีวิต

ผู้เข้าร่วมโครงการ

กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด 40 40
กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน -
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน -
กลุ่มวัยทำงาน -
กลุ่มผู้สูงอายุ 40 40
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด -
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง -
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ -
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง -
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] -

บทคัดย่อ*

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพกายและจิตใจของผู้สูงอายุ (2) เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านต่างๆของผูงสูงอายุ (3) เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รวมกลุ่มกันทำกิจกรรมร่วมกัน (4) เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้สูงอายุในบั้นปลายของชีวิต

ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่

ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...

หมายเหตุ *

  • บทคัดย่อ จะนำไปใส่ในส่วนบทคัดย่อของรายงานฉบับสมบูรณ์
  • หากต้องการใช้ค่าเริ่มต้นของบทคัดย่อ ให้ลบข้อความในช่องบทคัดย่อ ทั้งหมด แล้วกดปุ่ม Refresh