โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานเทศบาลเมืองเบตงระยะที่ 2 (ปฏิบัติงานบนสำนักงาน)
แบบรายงานการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์
รายงานฉบับสมบูรณ์
โครงการ
“ โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานเทศบาลเมืองเบตงระยะที่ 2 (ปฏิบัติงานบนสำนักงาน) ”
ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
หัวหน้าโครงการ
นางศุภัศร์มา ยี่สุ่นศรี
ได้รับการสนับสนุนโดย กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเบตง
ธันวาคม 2566
ชื่อโครงการ โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานเทศบาลเมืองเบตงระยะที่ 2 (ปฏิบัติงานบนสำนักงาน)
ที่อยู่ ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา จังหวัด ยะลา
รหัสโครงการ 2566-L7161-01-07 เลขที่ข้อตกลง
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 2 ตุลาคม 2566 ถึง 29 ธันวาคม 2566
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานเทศบาลเมืองเบตงระยะที่ 2 (ปฏิบัติงานบนสำนักงาน) จังหวัดยะลา" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเบตง ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานเทศบาลเมืองเบตงระยะที่ 2 (ปฏิบัติงานบนสำนักงาน)
บทคัดย่อ
โครงการ " โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานเทศบาลเมืองเบตงระยะที่ 2 (ปฏิบัติงานบนสำนักงาน) " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา รหัสโครงการ 2566-L7161-01-07 ระยะเวลาการดำเนินงาน 2 ตุลาคม 2566 - 29 ธันวาคม 2566 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 138,700.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเบตง เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้
โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ »
บทคัดย่อ »
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล »
วัตถุประสงค์โครงการ »
กิจกรรม/การดำเนินงาน »
กลุ่มเป้าหมาย »
ผลลัพธ์ที่ได้ »
การประเมินผล »
ปัญหาและอุปสรรค »
ข้อเสนอแนะ »
เอกสารประกอบอื่นๆ »
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
ปัญหาสุขภาพในการทำงานเป็นปัญหาสำคัญต่อกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยตรง พบปัญหานี้อย่างมากในประชากรที่อยู่ในช่วงของวัยแรงงาน โดยเฉพาะในปัจจุบันผลกระทบที่เกิดขึ้นจึงส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานที่อาจร้ายแรงถึงขั้นสูญสียแรงงานส่วนหนึ่งออกไปจากระบบเศรษฐกิจอันจะนำไปสู่ปัญหาขาดแคลนภาวะ แรงงานในภาคเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต ซึ่งอุปกรณ์สื่อสารและคอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำงานของสำนักงาน ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ทำให้สำนักงานในองค์กร ต่าง ๆ นำเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาช่วยในการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรับ-ส่ง ข้อมูลข่าวสารอิเล็กทรอนิกส์ การทำธุรกิจและให้บริการบนอินเตอร์เน็ต ตลอดจนการใช้เป็นเครื่องมือช่วยใน การทำงาน พนักงานส่วนใหญ่ในสำนักงานใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์หลักในการปฏิบัติงานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องโดยที่ระยะเวลาในการปฏิบัติงานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ในแต่ละวันพบว่ามีระยะเวลาการใช้งาน นานกว่า 4 ชั่วโมงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพนักงานระดับปฏิบัติการจะพบว่ามีระยะเวลาการใช้งานเครื่อง คอมพิวเตอร์นานกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน การใช้คอมพิวเตอร์ในการปฏิบัติงานอาจส่งผลต่อสภาพร่างกายและ ประสิทธิภาพในการทำงานของผู้ใช้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งมีผลการวิจัยเป็นจำนวนมากที่พบว่าการปฏิบัติงาน ที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงานเกือบตลอดทั้งวันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะความเสี่ยงต่อร่างกายใน ด้านต่าง ๆ เช่น อาการปวดบริเวณกล้ามเนื้อ คอและไหล่ปวดขมับและศีรษะ อาการผิดปกติทางตา ตาแห้ง อาการเมื่อยล้าทางตา อนึ่ง ตามกฎหมายพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานปี 2551 มาตรา 23 ของประเทศไทย ได้มีการกำหนดจำนวนชั่วโมงของการทำงานสำหรับงานที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัย ต้องไม่เกินวันละ 7 ชั่วโมง และสัปดาห์หนึ่งไม่เกิน 42 ชั่วโมง
ทั้งนี้ สาเหตุเนื่องจากปัจจุบันพบว่า หลายองค์กรได้นำดัชนีชี้วัดความสำเร็จ (KPI) เข้ามาใช้ภายในองค์กร และกำหนดเกณฑ์การให้ผลตอบแทน อาทิ ตำแหน่ง เงินเดือน ตามการประเมินผลการปฏิบัติงาน (Performance Management) เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้ปฏิบัติงานภายในองค์กรต้องทุ่มเทอย่างหนักและเร่งสร้างผลงานในการทางาน เพื่อสร้างความพร้อมและความได้เปรียบทางการแข่งขัน (Competitive advantage) ให้กับองค์กร (ณรงค์วิทย์ แสนทอง, 2556) รวมถึง หลายองค์กรมีจานวนผู้ปฏิบัติงานไม่เพียงพอต่อปริมาณงาน เนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจ หลายองค์กรจึงมีนโยบายการลดขนาดองค์กร และพยายามจากัดการรับพนักงาน ส่งผลให้เกิดสภาวะอัตรากาลังคนขาดผู้ปฏิบัติงานซึ่งเป็นพนักงานประจำ จำเป็นต้องรับภาระงานที่ค่อนข้างมากกว่าปกติ (Workload)(Ahmadi & Asl, 2013) ด้วยเหตุนี้ จึงส่งผลให้ปัจจุบันแนวโน้มของผู้ปฏิบัติงานมีจำนวนชั่วโมงการทำงานที่เพิ่มสูงขึ้น โดยมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคออฟฟิตซินโดรมหรือโรคคอมพิวเตอร์ซินโดรมของผู้ปฏิบัติงานภายในสำนักงาน (คมปกรณ์ ลิมป์สุทธิรัชต์, 2555)
จากการที่เทศบาลเมืองเบตง ได้ดำเนินการในการจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ อาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานเทศบาลเมืองเบตง พ.ศ. 2566 ซึ่งได้จัดฝึกอบรมโครงการดังกล่าว แก่พนักงานเจ้าหน้าที่สังกัดกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม สังกัดกองช่างและสังกัดงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักปลัดเทศบาล พบว่า มีความรู้ความปลอดภัยเกี่ยวกับ อาชีวอนามัย และความปลอดภัย เพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 96 อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือและสนับสนุนอย่างเต็มที่จากผู้เข้าร่วมอบรมทุกท่านซึ่งโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม เทศบาลเมืองเบตงจึงมองเห็นและให้ความสำคัญอีกกลุ่มหนึ่งที่ปฏิบัติงานบนสำนักงาน ซึ่งประกอบด้วยกองฝ่าย จำนวน 8 กอง ได้แก่ สำนักปลัดเทศบาล กองคลัง กองการศึกษา กองช่าง กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม กองยุทธศาสตร์และงบประมาณ กองสวัสดิการสังคม และกองการเจ้าหน้าที่ มีจำนวนหน้าที่ที่ปฏิบัติงานบนสำนักงานทั้งสิ้น 212 คน (ข้อมูล ณ เดือนกรกฎาคม 2566) ซึ่งส่วนใหญ่ต้องทำงานโดยการใช้คอมพิวเตอร์เป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นงานสารบรรณ งานจัดเก็บข้อมูลในระบบฐานข้อมูล การออกใบอนุญาต การเขียนแบบ หรือแม้กระทั่งสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ ซึ่งต้องนั่งทำงานมากกว่า 7 ชั่วโมงต่อวัน ก่อให้เกิดเป็นลักษณะอาการเจ็บป่วยสะสม (Repetitive strain injury) และอาการเมื่อยล้าบริเวณตา (Computer Vision Syndrome) ที่เกิดจากการมีพฤติกรรมท่าทางการทำงาน ในอิริยาบทเดิมๆ ของผู้ปฏิบัติงาน เป็นระยะเวลานาน มีความเครียดจากการทำงาน และสภาพแวดล้อมจากการทำงานไม่เหมาะสม อีกทั้งยังพบว่า พนักงานเทศบาลยังขาดความรู้ความเข้าใจถึงสาเหตุ การตระหนักรู้ การวางกลยุทธ์ แนวทางการป้องกันการเกิดโรคออศฟิตซินโดรมและโรคคอมพิวเตอร์ซินโดรม
เทศบาลเมืองเบตง โดยกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ได้เกิดความตระหนักและเห็นถึงอันตราย ที่จะเกิดขึ้นกับพนักงานเทศบาลที่ปฏิบัติงานบนสำนักงานดังกล่าวข้างต้น จึงได้จัดทำโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ อาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานเทศบาลเมืองเบตง ระยะที่ 2 เพื่อให้การประกอบอาชีพการปฏิบัติงานของพนักงานเทศบาลที่ปฏิบัติงานบนสำนักงาน มีความรู้ความเข้าใจ และตระหนักถึงโรคออฟฟิศซินโดรมและโรคคอมพิวเตอร์ซินโดรม สามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการป้องกันโรค ทำให้ปราศจากโรคและมีสภาวะสมบูรณ์ดีทั้งทางร่างกาย ทางจิตใจ ทางสังคม และจิตวิญญาณ มีสภาวะ ที่ปราศจากภัยคุกคามไม่มีอันตราย หรือความเสี่ยงใดๆ อนึ่ง การดำเนินงานโครงการดังกล่าวจะส่งผลให้ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองเบตง ได้รับการจัดบริการสาธารณะอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ทั้งนี้ขอรับรองว่าโครงการนี้ไม่ได้ซ้ำซ้อนกับงบประมาณที่ได้รับจากแหล่งอื่น มีความสอดคล้องกับแผนสุขภาพชุมชน และเทศบาลเมืองเบตงได้รับทราบถึงกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และวิธีการดำเนินงานตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติฯ พ.ศ.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- 1. พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ มีความรู้เรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน
- 2. เพื่อให้พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ สามารถค้นหาความเสี่ยง และ สามารถขจัดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้อย่างถูกต้อง
- 3. เพื่อให้พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ สามารถนำความรู้และทักษะที่ได้รับไปจัดการความเสี่ยง จากการทำงานที่ส่งต่อสุขภาพได้
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- กิจกรรมที่ 1. อบรมเชิงปฎิบัติการเรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน
- อบรมเชิงปฎิบัติการเรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน แบ่ง 8 กลุ่ม
- อบรมเชิงปฏิบัติการ (แบ่งกลุ่ม 8 กลุ่ม)
- กิจกรรมสันทนาการ
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
กลุ่มวัยทำงาน
200
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
- พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ มีความรู้เรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน
- พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ สามารถค้นหาความเสี่ยง และ สามารถขจัดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้อย่างถูกต้อง
- พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ สามารถนำความรู้และทักษะที่ได้รับไปจัดการความเสี่ยงจากการทำงานที่ส่งต่อผลสุขภาพได้
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์**
กิจกรรมของโครงการ ผลผลิต* ผลผลิตที่ตั้งไว้ ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง
1. กิจกรรมสันทนาการ
วันที่ 2 กันยายน 2566 เวลา 08:00 น.กิจกรรมที่ทำ
วิธีการดำเนินการ
1 ขั้นเตรียมการ
1.1 ชี้แจง ทำความเข้าใจผุ้กำกับดูแลของกอง/ฝ่าย ให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ของโครงการ
1.2 ติดต่อและประสานงานกับผู้ที่เกียวข้องเพื่อขอใช้สถานที่และประสานงานวิทยากร
2 ขั้นดำเนิการ
2.1 การคัดกรองสุขภาพเบื้องต้น (แบบทดสอบกลุ่มเสี่ยงผู้ที่มีภาวะออฟฟิศซินโดรม
2.2 กิจกรรมอบรม ดดยแบ่งเป็น
(1) อบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน โดยแบ่งเป็น 8 กลุ่ม ตามฐานกิจกรรมดังนี้
หัวข้อ "สาเหตุของการเกิดโรคออฟฟิศ ซินโดรม(Office Syndrome)คืออะไร"
หัวข้อ "อาการและโรคที่เกิดจากออฟฟิศ ซินโดรม(Office Syndrome)"
หัวข้อ "ผลกระทบกลุ่มอาการออฟฟิศ ซินโดรม(Office Syndrome)"
หัวข้อ "การจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมตามหลักการยศาาสตร์(Ergonomic)"
หัวข้อ "โรคใหม่ๆ ของคนวัยทำงาน 2023"
หัวข้อ "การตรวจสุขภาพของคนวัยทำงาน"
(2) อบรมเชิงปฏิบัติการค้นหาความเสี่ยง และการจัดแผนขจัดความเครียดในสำนักงาน นำเสนอผลการค้นหาความเสี่ยงและแสดงความคิดเห็น
(3) อบรมเชิงปฏิบัติการโภชนาการและอาหารเพื่อสุขภาพแก่ผู้ปฏิบัติงานแบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติจัดทำอาหารสุขภาพ พร้อมนำเสนอผลการจัดทำเมนูสุขภาพ
(4) อบรมเชิงปฏิบัติการขจัดความเสี่ยงต่อสุขภาพ นำเสนอแผนขจัดความเครียดในสำนักงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้
(5) กิจกรรมสันทนาการ
- เทคนิคการออกกำลังกายเพื่อป้องกันออฟฟิศซินโดรม
- กิจกรรมชวนขยับ ป้องกัน ออฟฟิศ ซินโดรม (สันทนาการ)
3. ขั้นประเมินผล
3.1 จากการทำแบบทดสอบก่อน-หลังการอบรม
3.2 จากการถาม-ตอบ ระหว่างการอบรม
3.3 จากแบบสรุปแผนผังความคิดจากการหาความเสี่ยงและขจัดความเสี่ยงจากการทำงาน
3.4 จากการสังเกตการให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
-โดยจัดกิจกรรมอบรม มีผู้เข้าการอบรม จำนวน 200 คน ผู้เข้าร่วมมีความพึงพอใจภาพรวม ร้อยละ 91.34
-พนักงานมีความรู้เรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน สามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการปกิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง
-พนักงาน สามารถค้นหาความเสี่ยง และ สามารถขจัดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้อย่างถูกต้องและสามารถนำความรู้และทักษะที่ได้รับไปจัดการความเสี่ยงจากการทำงานที่ส่งต่อผลสุขภาพได้
0
0
2. อบรมเชิงปฏิบัติการ (แบ่งกลุ่ม 8 กลุ่ม)
วันที่ 2 กันยายน 2566 เวลา 08:00 น.กิจกรรมที่ทำ
วิธีการดำเนินการ
1 ขั้นเตรียมการ
1.1 ชี้แจง ทำความเข้าใจผุ้กำกับดูแลของกอง/ฝ่าย ให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ของโครงการ
1.2 ติดต่อและประสานงานกับผู้ที่เกียวข้องเพื่อขอใช้สถานที่และประสานงานวิทยากร
2 ขั้นดำเนิการ
2.1 การคัดกรองสุขภาพเบื้องต้น (แบบทดสอบกลุ่มเสี่ยงผู้ที่มีภาวะออฟฟิศซินโดรม
2.2 กิจกรรมอบรม ดดยแบ่งเป็น
(1) อบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน โดยแบ่งเป็น 8 กลุ่ม ตามฐานกิจกรรมดังนี้
หัวข้อ "สาเหตุของการเกิดโรคออฟฟิศ ซินโดรม(Office Syndrome)คืออะไร"
หัวข้อ "อาการและโรคที่เกิดจากออฟฟิศ ซินโดรม(Office Syndrome)"
หัวข้อ "ผลกระทบกลุ่มอาการออฟฟิศ ซินโดรม(Office Syndrome)"
หัวข้อ "การจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมตามหลักการยศาาสตร์(Ergonomic)"
หัวข้อ "โรคใหม่ๆ ของคนวัยทำงาน 2023"
หัวข้อ "การตรวจสุขภาพของคนวัยทำงาน"
(2) อบรมเชิงปฏิบัติการค้นหาความเสี่ยง และการจัดแผนขจัดความเครียดในสำนักงาน นำเสนอผลการค้นหาความเสี่ยงและแสดงความคิดเห็น
(3) อบรมเชิงปฏิบัติการโภชนาการและอาหารเพื่อสุขภาพแก่ผู้ปฏิบัติงานแบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติจัดทำอาหารสุขภาพ พร้อมนำเสนอผลการจัดทำเมนูสุขภาพ
(4) อบรมเชิงปฏิบัติการขจัดความเสี่ยงต่อสุขภาพ นำเสนอแผนขจัดความเครียดในสำนักงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้
(5) กิจกรรมสันทนาการ
- เทคนิคการออกกำลังกายเพื่อป้องกันออฟฟิศซินโดรม
- กิจกรรมชวนขยับ ป้องกัน ออฟฟิศ ซินโดรม (สันทนาการ)
3. ขั้นประเมินผล
3.1 จากการทำแบบทดสอบก่อน-หลังการอบรม
3.2 จากการถาม-ตอบ ระหว่างการอบรม
3.3 จากแบบสรุปแผนผังความคิดจากการหาความเสี่ยงและขจัดความเสี่ยงจากการทำงาน
3.4 จากการสังเกตการให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
-โดยจัดกิจกรรมอบรม มีผู้เข้าการอบรม จำนวน 200 คน ผู้เข้าร่วมมีความพึงพอใจภาพรวม ร้อยละ 91.34
-พนักงานมีความรู้เรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน สามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการปกิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง
-พนักงาน สามารถค้นหาความเสี่ยง และ สามารถขจัดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้อย่างถูกต้องและสามารถนำความรู้และทักษะที่ได้รับไปจัดการความเสี่ยงจากการทำงานที่ส่งต่อผลสุขภาพได้
0
0
3. อบรมเชิงปฎิบัติการเรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน แบ่ง 8 กลุ่ม
วันที่ 2 กันยายน 2566 เวลา 08:00 น.กิจกรรมที่ทำ
วิธีการดำเนินการ
1 ขั้นเตรียมการ
1.1 ชี้แจง ทำความเข้าใจผุ้กำกับดูแลของกอง/ฝ่าย ให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ของโครงการ
1.2 ติดต่อและประสานงานกับผู้ที่เกียวข้องเพื่อขอใช้สถานที่และประสานงานวิทยากร
2 ขั้นดำเนิการ
2.1 การคัดกรองสุขภาพเบื้องต้น (แบบทดสอบกลุ่มเสี่ยงผู้ที่มีภาวะออฟฟิศซินโดรม
2.2 กิจกรรมอบรม ดดยแบ่งเป็น
(1) อบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน โดยแบ่งเป็น 8 กลุ่ม ตามฐานกิจกรรมดังนี้
หัวข้อ "สาเหตุของการเกิดโรคออฟฟิศ ซินโดรม(Office Syndrome)คืออะไร"
หัวข้อ "อาการและโรคที่เกิดจากออฟฟิศ ซินโดรม(Office Syndrome)"
หัวข้อ "ผลกระทบกลุ่มอาการออฟฟิศ ซินโดรม(Office Syndrome)"
หัวข้อ "การจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมตามหลักการยศาาสตร์(Ergonomic)"
หัวข้อ "โรคใหม่ๆ ของคนวัยทำงาน 2023"
หัวข้อ "การตรวจสุขภาพของคนวัยทำงาน"
(2) อบรมเชิงปฏิบัติการค้นหาความเสี่ยง และการจัดแผนขจัดความเครียดในสำนักงาน นำเสนอผลการค้นหาความเสี่ยงและแสดงความคิดเห็น
(3) อบรมเชิงปฏิบัติการโภชนาการและอาหารเพื่อสุขภาพแก่ผู้ปฏิบัติงานแบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติจัดทำอาหารสุขภาพ พร้อมนำเสนอผลการจัดทำเมนูสุขภาพ
(4) อบรมเชิงปฏิบัติการขจัดความเสี่ยงต่อสุขภาพ นำเสนอแผนขจัดความเครียดในสำนักงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้
(5) กิจกรรมสันทนาการ
- เทคนิคการออกกำลังกายเพื่อป้องกันออฟฟิศซินโดรม
- กิจกรรมชวนขยับ ป้องกัน ออฟฟิศ ซินโดรม (สันทนาการ)
3. ขั้นประเมินผล
3.1 จากการทำแบบทดสอบก่อน-หลังการอบรม
3.2 จากการถาม-ตอบ ระหว่างการอบรม
3.3 จากแบบสรุปแผนผังความคิดจากการหาความเสี่ยงและขจัดความเสี่ยงจากการทำงาน
3.4 จากการสังเกตการให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
-โดยจัดกิจกรรมอบรม มีผู้เข้าการอบรม จำนวน 200 คน ผู้เข้าร่วมมีความพึงพอใจภาพรวม ร้อยละ 91.34
-พนักงานมีความรู้เรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน สามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการปกิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง
-พนักงาน สามารถค้นหาความเสี่ยง และ สามารถขจัดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้อย่างถูกต้องและสามารถนำความรู้และทักษะที่ได้รับไปจัดการความเสี่ยงจากการทำงานที่ส่งต่อผลสุขภาพได้
200
0
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ สถานการณ์ เป้าหมาย ผลผลิต อธิบาย
1
1. พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ มีความรู้เรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน
ตัวชี้วัด : 1. ร้อยละ 85 ของพนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ มีความรู้เรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน
0.00
2
2. เพื่อให้พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ สามารถค้นหาความเสี่ยง และ สามารถขจัดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้อย่างถูกต้อง
ตัวชี้วัด : 2. พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ สามารถค้นหาความเสี่ยง และ สามารถขจัดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้ถูกต้อง
0.00
3
3. เพื่อให้พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ สามารถนำความรู้และทักษะที่ได้รับไปจัดการความเสี่ยง จากการทำงานที่ส่งต่อสุขภาพได้
ตัวชี้วัด : 3. พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ สามารถนำความรู้และทักษะที่ได้รับไปจัดการความเสี่ยงจากการทำงานที่ส่งต่อสุขภาพได้
0.00
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด
200
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
-
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
-
กลุ่มวัยทำงาน
200
กลุ่มผู้สูงอายุ
-
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
-
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
-
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
-
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
-
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
-
บทคัดย่อ*
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) 1. พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ มีความรู้เรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน (2) 2. เพื่อให้พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ สามารถค้นหาความเสี่ยง และ สามารถขจัดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้อย่างถูกต้อง (3) 3. เพื่อให้พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ สามารถนำความรู้และทักษะที่ได้รับไปจัดการความเสี่ยง จากการทำงานที่ส่งต่อสุขภาพได้
ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (1) กิจกรรมที่ 1. อบรมเชิงปฎิบัติการเรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน (2) อบรมเชิงปฎิบัติการเรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน แบ่ง 8 กลุ่ม (3) อบรมเชิงปฏิบัติการ (แบ่งกลุ่ม 8 กลุ่ม) (4) กิจกรรมสันทนาการ
ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...
หมายเหตุ *- บทคัดย่อ จะนำไปใส่ในส่วนบทคัดย่อของรายงานฉบับสมบูรณ์
- หากต้องการใช้ค่าเริ่มต้นของบทคัดย่อ ให้ลบข้อความในช่องบทคัดย่อ ทั้งหมด แล้วกดปุ่ม Refresh
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค สาเหตุ ข้อเสนอแนะ
โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานเทศบาลเมืองเบตงระยะที่ 2 (ปฏิบัติงานบนสำนักงาน) จังหวัด ยะลา
รหัสโครงการ 2566-L7161-01-07
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
................................
( นางศุภัศร์มา ยี่สุ่นศรี )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......
โครงการ
“ โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานเทศบาลเมืองเบตงระยะที่ 2 (ปฏิบัติงานบนสำนักงาน) ”
ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
หัวหน้าโครงการ
นางศุภัศร์มา ยี่สุ่นศรี
ธันวาคม 2566
ที่อยู่ ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา จังหวัด ยะลา
รหัสโครงการ 2566-L7161-01-07 เลขที่ข้อตกลง
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 2 ตุลาคม 2566 ถึง 29 ธันวาคม 2566
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานเทศบาลเมืองเบตงระยะที่ 2 (ปฏิบัติงานบนสำนักงาน) จังหวัดยะลา" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเบตง ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานเทศบาลเมืองเบตงระยะที่ 2 (ปฏิบัติงานบนสำนักงาน)
บทคัดย่อ
โครงการ " โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานเทศบาลเมืองเบตงระยะที่ 2 (ปฏิบัติงานบนสำนักงาน) " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา รหัสโครงการ 2566-L7161-01-07 ระยะเวลาการดำเนินงาน 2 ตุลาคม 2566 - 29 ธันวาคม 2566 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 138,700.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเบตง เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้
โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ | » |
บทคัดย่อ | » |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล | » |
วัตถุประสงค์โครงการ | » |
กิจกรรม/การดำเนินงาน | » |
กลุ่มเป้าหมาย | » |
ผลลัพธ์ที่ได้ | » |
การประเมินผล | » |
ปัญหาและอุปสรรค | » |
ข้อเสนอแนะ | » |
เอกสารประกอบอื่นๆ | » |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
ปัญหาสุขภาพในการทำงานเป็นปัญหาสำคัญต่อกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยตรง พบปัญหานี้อย่างมากในประชากรที่อยู่ในช่วงของวัยแรงงาน โดยเฉพาะในปัจจุบันผลกระทบที่เกิดขึ้นจึงส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานที่อาจร้ายแรงถึงขั้นสูญสียแรงงานส่วนหนึ่งออกไปจากระบบเศรษฐกิจอันจะนำไปสู่ปัญหาขาดแคลนภาวะ แรงงานในภาคเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต ซึ่งอุปกรณ์สื่อสารและคอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำงานของสำนักงาน ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ทำให้สำนักงานในองค์กร ต่าง ๆ นำเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาช่วยในการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรับ-ส่ง ข้อมูลข่าวสารอิเล็กทรอนิกส์ การทำธุรกิจและให้บริการบนอินเตอร์เน็ต ตลอดจนการใช้เป็นเครื่องมือช่วยใน การทำงาน พนักงานส่วนใหญ่ในสำนักงานใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์หลักในการปฏิบัติงานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องโดยที่ระยะเวลาในการปฏิบัติงานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ในแต่ละวันพบว่ามีระยะเวลาการใช้งาน นานกว่า 4 ชั่วโมงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพนักงานระดับปฏิบัติการจะพบว่ามีระยะเวลาการใช้งานเครื่อง คอมพิวเตอร์นานกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน การใช้คอมพิวเตอร์ในการปฏิบัติงานอาจส่งผลต่อสภาพร่างกายและ ประสิทธิภาพในการทำงานของผู้ใช้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งมีผลการวิจัยเป็นจำนวนมากที่พบว่าการปฏิบัติงาน ที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงานเกือบตลอดทั้งวันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะความเสี่ยงต่อร่างกายใน ด้านต่าง ๆ เช่น อาการปวดบริเวณกล้ามเนื้อ คอและไหล่ปวดขมับและศีรษะ อาการผิดปกติทางตา ตาแห้ง อาการเมื่อยล้าทางตา อนึ่ง ตามกฎหมายพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานปี 2551 มาตรา 23 ของประเทศไทย ได้มีการกำหนดจำนวนชั่วโมงของการทำงานสำหรับงานที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัย ต้องไม่เกินวันละ 7 ชั่วโมง และสัปดาห์หนึ่งไม่เกิน 42 ชั่วโมง ทั้งนี้ สาเหตุเนื่องจากปัจจุบันพบว่า หลายองค์กรได้นำดัชนีชี้วัดความสำเร็จ (KPI) เข้ามาใช้ภายในองค์กร และกำหนดเกณฑ์การให้ผลตอบแทน อาทิ ตำแหน่ง เงินเดือน ตามการประเมินผลการปฏิบัติงาน (Performance Management) เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้ปฏิบัติงานภายในองค์กรต้องทุ่มเทอย่างหนักและเร่งสร้างผลงานในการทางาน เพื่อสร้างความพร้อมและความได้เปรียบทางการแข่งขัน (Competitive advantage) ให้กับองค์กร (ณรงค์วิทย์ แสนทอง, 2556) รวมถึง หลายองค์กรมีจานวนผู้ปฏิบัติงานไม่เพียงพอต่อปริมาณงาน เนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจ หลายองค์กรจึงมีนโยบายการลดขนาดองค์กร และพยายามจากัดการรับพนักงาน ส่งผลให้เกิดสภาวะอัตรากาลังคนขาดผู้ปฏิบัติงานซึ่งเป็นพนักงานประจำ จำเป็นต้องรับภาระงานที่ค่อนข้างมากกว่าปกติ (Workload)(Ahmadi & Asl, 2013) ด้วยเหตุนี้ จึงส่งผลให้ปัจจุบันแนวโน้มของผู้ปฏิบัติงานมีจำนวนชั่วโมงการทำงานที่เพิ่มสูงขึ้น โดยมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคออฟฟิตซินโดรมหรือโรคคอมพิวเตอร์ซินโดรมของผู้ปฏิบัติงานภายในสำนักงาน (คมปกรณ์ ลิมป์สุทธิรัชต์, 2555) จากการที่เทศบาลเมืองเบตง ได้ดำเนินการในการจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ อาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานเทศบาลเมืองเบตง พ.ศ. 2566 ซึ่งได้จัดฝึกอบรมโครงการดังกล่าว แก่พนักงานเจ้าหน้าที่สังกัดกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม สังกัดกองช่างและสังกัดงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักปลัดเทศบาล พบว่า มีความรู้ความปลอดภัยเกี่ยวกับ อาชีวอนามัย และความปลอดภัย เพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 96 อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือและสนับสนุนอย่างเต็มที่จากผู้เข้าร่วมอบรมทุกท่านซึ่งโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม เทศบาลเมืองเบตงจึงมองเห็นและให้ความสำคัญอีกกลุ่มหนึ่งที่ปฏิบัติงานบนสำนักงาน ซึ่งประกอบด้วยกองฝ่าย จำนวน 8 กอง ได้แก่ สำนักปลัดเทศบาล กองคลัง กองการศึกษา กองช่าง กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม กองยุทธศาสตร์และงบประมาณ กองสวัสดิการสังคม และกองการเจ้าหน้าที่ มีจำนวนหน้าที่ที่ปฏิบัติงานบนสำนักงานทั้งสิ้น 212 คน (ข้อมูล ณ เดือนกรกฎาคม 2566) ซึ่งส่วนใหญ่ต้องทำงานโดยการใช้คอมพิวเตอร์เป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นงานสารบรรณ งานจัดเก็บข้อมูลในระบบฐานข้อมูล การออกใบอนุญาต การเขียนแบบ หรือแม้กระทั่งสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ ซึ่งต้องนั่งทำงานมากกว่า 7 ชั่วโมงต่อวัน ก่อให้เกิดเป็นลักษณะอาการเจ็บป่วยสะสม (Repetitive strain injury) และอาการเมื่อยล้าบริเวณตา (Computer Vision Syndrome) ที่เกิดจากการมีพฤติกรรมท่าทางการทำงาน ในอิริยาบทเดิมๆ ของผู้ปฏิบัติงาน เป็นระยะเวลานาน มีความเครียดจากการทำงาน และสภาพแวดล้อมจากการทำงานไม่เหมาะสม อีกทั้งยังพบว่า พนักงานเทศบาลยังขาดความรู้ความเข้าใจถึงสาเหตุ การตระหนักรู้ การวางกลยุทธ์ แนวทางการป้องกันการเกิดโรคออศฟิตซินโดรมและโรคคอมพิวเตอร์ซินโดรม เทศบาลเมืองเบตง โดยกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ได้เกิดความตระหนักและเห็นถึงอันตราย ที่จะเกิดขึ้นกับพนักงานเทศบาลที่ปฏิบัติงานบนสำนักงานดังกล่าวข้างต้น จึงได้จัดทำโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ อาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานเทศบาลเมืองเบตง ระยะที่ 2 เพื่อให้การประกอบอาชีพการปฏิบัติงานของพนักงานเทศบาลที่ปฏิบัติงานบนสำนักงาน มีความรู้ความเข้าใจ และตระหนักถึงโรคออฟฟิศซินโดรมและโรคคอมพิวเตอร์ซินโดรม สามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการป้องกันโรค ทำให้ปราศจากโรคและมีสภาวะสมบูรณ์ดีทั้งทางร่างกาย ทางจิตใจ ทางสังคม และจิตวิญญาณ มีสภาวะ ที่ปราศจากภัยคุกคามไม่มีอันตราย หรือความเสี่ยงใดๆ อนึ่ง การดำเนินงานโครงการดังกล่าวจะส่งผลให้ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองเบตง ได้รับการจัดบริการสาธารณะอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ทั้งนี้ขอรับรองว่าโครงการนี้ไม่ได้ซ้ำซ้อนกับงบประมาณที่ได้รับจากแหล่งอื่น มีความสอดคล้องกับแผนสุขภาพชุมชน และเทศบาลเมืองเบตงได้รับทราบถึงกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และวิธีการดำเนินงานตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติฯ พ.ศ.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- 1. พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ มีความรู้เรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน
- 2. เพื่อให้พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ สามารถค้นหาความเสี่ยง และ สามารถขจัดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้อย่างถูกต้อง
- 3. เพื่อให้พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ สามารถนำความรู้และทักษะที่ได้รับไปจัดการความเสี่ยง จากการทำงานที่ส่งต่อสุขภาพได้
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- กิจกรรมที่ 1. อบรมเชิงปฎิบัติการเรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน
- อบรมเชิงปฎิบัติการเรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน แบ่ง 8 กลุ่ม
- อบรมเชิงปฏิบัติการ (แบ่งกลุ่ม 8 กลุ่ม)
- กิจกรรมสันทนาการ
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้ | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 200 | |
กลุ่มผู้สูงอายุ | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | ||
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] |
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
- พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ มีความรู้เรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน
- พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ สามารถค้นหาความเสี่ยง และ สามารถขจัดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้อย่างถูกต้อง
- พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ สามารถนำความรู้และทักษะที่ได้รับไปจัดการความเสี่ยงจากการทำงานที่ส่งต่อผลสุขภาพได้
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์** กิจกรรมของโครงการ | ผลผลิต* | |
---|---|---|
ผลผลิตที่ตั้งไว้ | ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง | |
1. กิจกรรมสันทนาการ |
||
วันที่ 2 กันยายน 2566 เวลา 08:00 น.กิจกรรมที่ทำวิธีการดำเนินการ 1 ขั้นเตรียมการ 1.1 ชี้แจง ทำความเข้าใจผุ้กำกับดูแลของกอง/ฝ่าย ให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ของโครงการ 1.2 ติดต่อและประสานงานกับผู้ที่เกียวข้องเพื่อขอใช้สถานที่และประสานงานวิทยากร 2 ขั้นดำเนิการ 2.1 การคัดกรองสุขภาพเบื้องต้น (แบบทดสอบกลุ่มเสี่ยงผู้ที่มีภาวะออฟฟิศซินโดรม 2.2 กิจกรรมอบรม ดดยแบ่งเป็น (1) อบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน โดยแบ่งเป็น 8 กลุ่ม ตามฐานกิจกรรมดังนี้ หัวข้อ "สาเหตุของการเกิดโรคออฟฟิศ ซินโดรม(Office Syndrome)คืออะไร" หัวข้อ "อาการและโรคที่เกิดจากออฟฟิศ ซินโดรม(Office Syndrome)" หัวข้อ "ผลกระทบกลุ่มอาการออฟฟิศ ซินโดรม(Office Syndrome)" หัวข้อ "การจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมตามหลักการยศาาสตร์(Ergonomic)" หัวข้อ "โรคใหม่ๆ ของคนวัยทำงาน 2023" หัวข้อ "การตรวจสุขภาพของคนวัยทำงาน" (2) อบรมเชิงปฏิบัติการค้นหาความเสี่ยง และการจัดแผนขจัดความเครียดในสำนักงาน นำเสนอผลการค้นหาความเสี่ยงและแสดงความคิดเห็น (3) อบรมเชิงปฏิบัติการโภชนาการและอาหารเพื่อสุขภาพแก่ผู้ปฏิบัติงานแบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติจัดทำอาหารสุขภาพ พร้อมนำเสนอผลการจัดทำเมนูสุขภาพ (4) อบรมเชิงปฏิบัติการขจัดความเสี่ยงต่อสุขภาพ นำเสนอแผนขจัดความเครียดในสำนักงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (5) กิจกรรมสันทนาการ - เทคนิคการออกกำลังกายเพื่อป้องกันออฟฟิศซินโดรม - กิจกรรมชวนขยับ ป้องกัน ออฟฟิศ ซินโดรม (สันทนาการ) 3. ขั้นประเมินผล 3.1 จากการทำแบบทดสอบก่อน-หลังการอบรม 3.2 จากการถาม-ตอบ ระหว่างการอบรม 3.3 จากแบบสรุปแผนผังความคิดจากการหาความเสี่ยงและขจัดความเสี่ยงจากการทำงาน 3.4 จากการสังเกตการให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น-โดยจัดกิจกรรมอบรม มีผู้เข้าการอบรม จำนวน 200 คน ผู้เข้าร่วมมีความพึงพอใจภาพรวม ร้อยละ 91.34
|
0 | 0 |
2. อบรมเชิงปฏิบัติการ (แบ่งกลุ่ม 8 กลุ่ม) |
||
วันที่ 2 กันยายน 2566 เวลา 08:00 น.กิจกรรมที่ทำวิธีการดำเนินการ 1 ขั้นเตรียมการ 1.1 ชี้แจง ทำความเข้าใจผุ้กำกับดูแลของกอง/ฝ่าย ให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ของโครงการ 1.2 ติดต่อและประสานงานกับผู้ที่เกียวข้องเพื่อขอใช้สถานที่และประสานงานวิทยากร 2 ขั้นดำเนิการ 2.1 การคัดกรองสุขภาพเบื้องต้น (แบบทดสอบกลุ่มเสี่ยงผู้ที่มีภาวะออฟฟิศซินโดรม 2.2 กิจกรรมอบรม ดดยแบ่งเป็น (1) อบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน โดยแบ่งเป็น 8 กลุ่ม ตามฐานกิจกรรมดังนี้ หัวข้อ "สาเหตุของการเกิดโรคออฟฟิศ ซินโดรม(Office Syndrome)คืออะไร" หัวข้อ "อาการและโรคที่เกิดจากออฟฟิศ ซินโดรม(Office Syndrome)" หัวข้อ "ผลกระทบกลุ่มอาการออฟฟิศ ซินโดรม(Office Syndrome)" หัวข้อ "การจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมตามหลักการยศาาสตร์(Ergonomic)" หัวข้อ "โรคใหม่ๆ ของคนวัยทำงาน 2023" หัวข้อ "การตรวจสุขภาพของคนวัยทำงาน" (2) อบรมเชิงปฏิบัติการค้นหาความเสี่ยง และการจัดแผนขจัดความเครียดในสำนักงาน นำเสนอผลการค้นหาความเสี่ยงและแสดงความคิดเห็น (3) อบรมเชิงปฏิบัติการโภชนาการและอาหารเพื่อสุขภาพแก่ผู้ปฏิบัติงานแบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติจัดทำอาหารสุขภาพ พร้อมนำเสนอผลการจัดทำเมนูสุขภาพ (4) อบรมเชิงปฏิบัติการขจัดความเสี่ยงต่อสุขภาพ นำเสนอแผนขจัดความเครียดในสำนักงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (5) กิจกรรมสันทนาการ - เทคนิคการออกกำลังกายเพื่อป้องกันออฟฟิศซินโดรม - กิจกรรมชวนขยับ ป้องกัน ออฟฟิศ ซินโดรม (สันทนาการ) 3. ขั้นประเมินผล 3.1 จากการทำแบบทดสอบก่อน-หลังการอบรม 3.2 จากการถาม-ตอบ ระหว่างการอบรม 3.3 จากแบบสรุปแผนผังความคิดจากการหาความเสี่ยงและขจัดความเสี่ยงจากการทำงาน 3.4 จากการสังเกตการให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น-โดยจัดกิจกรรมอบรม มีผู้เข้าการอบรม จำนวน 200 คน ผู้เข้าร่วมมีความพึงพอใจภาพรวม ร้อยละ 91.34
|
0 | 0 |
3. อบรมเชิงปฎิบัติการเรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน แบ่ง 8 กลุ่ม |
||
วันที่ 2 กันยายน 2566 เวลา 08:00 น.กิจกรรมที่ทำวิธีการดำเนินการ 1 ขั้นเตรียมการ 1.1 ชี้แจง ทำความเข้าใจผุ้กำกับดูแลของกอง/ฝ่าย ให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ของโครงการ 1.2 ติดต่อและประสานงานกับผู้ที่เกียวข้องเพื่อขอใช้สถานที่และประสานงานวิทยากร 2 ขั้นดำเนิการ 2.1 การคัดกรองสุขภาพเบื้องต้น (แบบทดสอบกลุ่มเสี่ยงผู้ที่มีภาวะออฟฟิศซินโดรม 2.2 กิจกรรมอบรม ดดยแบ่งเป็น (1) อบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน โดยแบ่งเป็น 8 กลุ่ม ตามฐานกิจกรรมดังนี้ หัวข้อ "สาเหตุของการเกิดโรคออฟฟิศ ซินโดรม(Office Syndrome)คืออะไร" หัวข้อ "อาการและโรคที่เกิดจากออฟฟิศ ซินโดรม(Office Syndrome)" หัวข้อ "ผลกระทบกลุ่มอาการออฟฟิศ ซินโดรม(Office Syndrome)" หัวข้อ "การจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมตามหลักการยศาาสตร์(Ergonomic)" หัวข้อ "โรคใหม่ๆ ของคนวัยทำงาน 2023" หัวข้อ "การตรวจสุขภาพของคนวัยทำงาน" (2) อบรมเชิงปฏิบัติการค้นหาความเสี่ยง และการจัดแผนขจัดความเครียดในสำนักงาน นำเสนอผลการค้นหาความเสี่ยงและแสดงความคิดเห็น (3) อบรมเชิงปฏิบัติการโภชนาการและอาหารเพื่อสุขภาพแก่ผู้ปฏิบัติงานแบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติจัดทำอาหารสุขภาพ พร้อมนำเสนอผลการจัดทำเมนูสุขภาพ (4) อบรมเชิงปฏิบัติการขจัดความเสี่ยงต่อสุขภาพ นำเสนอแผนขจัดความเครียดในสำนักงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (5) กิจกรรมสันทนาการ - เทคนิคการออกกำลังกายเพื่อป้องกันออฟฟิศซินโดรม - กิจกรรมชวนขยับ ป้องกัน ออฟฟิศ ซินโดรม (สันทนาการ) 3. ขั้นประเมินผล 3.1 จากการทำแบบทดสอบก่อน-หลังการอบรม 3.2 จากการถาม-ตอบ ระหว่างการอบรม 3.3 จากแบบสรุปแผนผังความคิดจากการหาความเสี่ยงและขจัดความเสี่ยงจากการทำงาน 3.4 จากการสังเกตการให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น-โดยจัดกิจกรรมอบรม มีผู้เข้าการอบรม จำนวน 200 คน ผู้เข้าร่วมมีความพึงพอใจภาพรวม ร้อยละ 91.34
|
200 | 0 |
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ | สถานการณ์ | เป้าหมาย | ผลผลิต | อธิบาย | |
---|---|---|---|---|---|
1 | 1. พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ มีความรู้เรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน ตัวชี้วัด : 1. ร้อยละ 85 ของพนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ มีความรู้เรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน |
0.00 |
|
||
2 | 2. เพื่อให้พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ สามารถค้นหาความเสี่ยง และ สามารถขจัดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้อย่างถูกต้อง ตัวชี้วัด : 2. พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ สามารถค้นหาความเสี่ยง และ สามารถขจัดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้ถูกต้อง |
0.00 |
|
||
3 | 3. เพื่อให้พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ สามารถนำความรู้และทักษะที่ได้รับไปจัดการความเสี่ยง จากการทำงานที่ส่งต่อสุขภาพได้ ตัวชี้วัด : 3. พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ สามารถนำความรู้และทักษะที่ได้รับไปจัดการความเสี่ยงจากการทำงานที่ส่งต่อสุขภาพได้ |
0.00 |
|
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
---|---|---|---|
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด | 200 | ||
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | |||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | - | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | - | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 200 | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | - | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | |||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | - | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | - | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | - | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | - | ||
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] | - |
บทคัดย่อ*
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) 1. พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ มีความรู้เรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน (2) 2. เพื่อให้พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ สามารถค้นหาความเสี่ยง และ สามารถขจัดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้อย่างถูกต้อง (3) 3. เพื่อให้พนักงานเทศบาลและเจ้าหน้าที่ สามารถนำความรู้และทักษะที่ได้รับไปจัดการความเสี่ยง จากการทำงานที่ส่งต่อสุขภาพได้
ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (1) กิจกรรมที่ 1. อบรมเชิงปฎิบัติการเรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน (2) อบรมเชิงปฎิบัติการเรื่องอาชีวอนามัย ความปลอดภัยในการทำงาน แบ่ง 8 กลุ่ม (3) อบรมเชิงปฏิบัติการ (แบ่งกลุ่ม 8 กลุ่ม) (4) กิจกรรมสันทนาการ
ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...
หมายเหตุ *
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค | สาเหตุ | ข้อเสนอแนะ |
---|---|---|
|
|
|
โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานเทศบาลเมืองเบตงระยะที่ 2 (ปฏิบัติงานบนสำนักงาน) จังหวัด ยะลา
รหัสโครงการ 2566-L7161-01-07
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
( นางศุภัศร์มา ยี่สุ่นศรี )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......