แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเบตง
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเบตง
กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองเบตง
1. โรงแรมการ์เด้นวิว อำเภอเบตง จังหวัดยะลา2. โรงยิม กองการศึกษา เทศบาลเมืองเบตง3. สระว่ายน้ำ กองการศึกษา เทศบาลเมืองเบตง4. ศาลาภิรมทัศน์ กองช่าง เทศบาลเมืองเบตง
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
ปัญหาสุขภาพในการทำงานเป็นปัญหาสำคัญต่อกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยตรง พบปัญหานี้อย่างมากในประชากรที่อยู่ในช่วงของวัยแรงงาน โดยเฉพาะในปัจจุบันผลกระทบที่เกิดขึ้นจึงส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานที่อาจร้ายแรงถึงขั้นสูญสียแรงงานส่วนหนึ่งออกไปจากระบบเศรษฐกิจอันจะนำไปสู่ปัญหาขาดแคลนภาวะ แรงงานในภาคเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต ซึ่งอุปกรณ์สื่อสารและคอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำงานของสำนักงาน ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ทำให้สำนักงานในองค์กร ต่าง ๆ นำเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาช่วยในการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรับ-ส่ง ข้อมูลข่าวสารอิเล็กทรอนิกส์ การทำธุรกิจและให้บริการบนอินเตอร์เน็ต ตลอดจนการใช้เป็นเครื่องมือช่วยใน การทำงาน พนักงานส่วนใหญ่ในสำนักงานใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์หลักในการปฏิบัติงานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องโดยที่ระยะเวลาในการปฏิบัติงานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ในแต่ละวันพบว่ามีระยะเวลาการใช้งาน นานกว่า 4 ชั่วโมงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพนักงานระดับปฏิบัติการจะพบว่ามีระยะเวลาการใช้งานเครื่อง คอมพิวเตอร์นานกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน การใช้คอมพิวเตอร์ในการปฏิบัติงานอาจส่งผลต่อสภาพร่างกายและ ประสิทธิภาพในการทำงานของผู้ใช้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งมีผลการวิจัยเป็นจำนวนมากที่พบว่าการปฏิบัติงาน ที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงานเกือบตลอดทั้งวันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะความเสี่ยงต่อร่างกายใน ด้านต่าง ๆ เช่น อาการปวดบริเวณกล้ามเนื้อ คอและไหล่ปวดขมับและศีรษะ อาการผิดปกติทางตา ตาแห้ง อาการเมื่อยล้าทางตา อนึ่ง ตามกฎหมายพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานปี 2551 มาตรา 23 ของประเทศไทย ได้มีการกำหนดจำนวนชั่วโมงของการทำงานสำหรับงานที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัย ต้องไม่เกินวันละ 7 ชั่วโมง และสัปดาห์หนึ่งไม่เกิน 42 ชั่วโมง
ทั้งนี้ สาเหตุเนื่องจากปัจจุบันพบว่า หลายองค์กรได้นำดัชนีชี้วัดความสำเร็จ (KPI) เข้ามาใช้ภายในองค์กร และกำหนดเกณฑ์การให้ผลตอบแทน อาทิ ตำแหน่ง เงินเดือน ตามการประเมินผลการปฏิบัติงาน (Performance Management) เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้ปฏิบัติงานภายในองค์กรต้องทุ่มเทอย่างหนักและเร่งสร้างผลงานในการทางาน เพื่อสร้างความพร้อมและความได้เปรียบทางการแข่งขัน (Competitive advantage) ให้กับองค์กร (ณรงค์วิทย์ แสนทอง, 2556) รวมถึง หลายองค์กรมีจานวนผู้ปฏิบัติงานไม่เพียงพอต่อปริมาณงาน เนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจ หลายองค์กรจึงมีนโยบายการลดขนาดองค์กร และพยายามจากัดการรับพนักงาน ส่งผลให้เกิดสภาวะอัตรากาลังคนขาดผู้ปฏิบัติงานซึ่งเป็นพนักงานประจำ จำเป็นต้องรับภาระงานที่ค่อนข้างมากกว่าปกติ (Workload)(Ahmadi & Asl, 2013) ด้วยเหตุนี้ จึงส่งผลให้ปัจจุบันแนวโน้มของผู้ปฏิบัติงานมีจำนวนชั่วโมงการทำงานที่เพิ่มสูงขึ้น โดยมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคออฟฟิตซินโดรมหรือโรคคอมพิวเตอร์ซินโดรมของผู้ปฏิบัติงานภายในสำนักงาน (คมปกรณ์ ลิมป์สุทธิรัชต์, 2555)
จากการที่เทศบาลเมืองเบตง ได้ดำเนินการในการจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ อาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานเทศบาลเมืองเบตง พ.ศ. 2566 ซึ่งได้จัดฝึกอบรมโครงการดังกล่าว แก่พนักงานเจ้าหน้าที่สังกัดกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม สังกัดกองช่างและสังกัดงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักปลัดเทศบาล พบว่า มีความรู้ความปลอดภัยเกี่ยวกับ อาชีวอนามัย และความปลอดภัย เพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 96 อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือและสนับสนุนอย่างเต็มที่จากผู้เข้าร่วมอบรมทุกท่านซึ่งโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม เทศบาลเมืองเบตงจึงมองเห็นและให้ความสำคัญอีกกลุ่มหนึ่งที่ปฏิบัติงานบนสำนักงาน ซึ่งประกอบด้วยกองฝ่าย จำนวน 8 กอง ได้แก่ สำนักปลัดเทศบาล กองคลัง กองการศึกษา กองช่าง กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม กองยุทธศาสตร์และงบประมาณ กองสวัสดิการสังคม และกองการเจ้าหน้าที่ มีจำนวนหน้าที่ที่ปฏิบัติงานบนสำนักงานทั้งสิ้น 212 คน (ข้อมูล ณ เดือนกรกฎาคม 2566) ซึ่งส่วนใหญ่ต้องทำงานโดยการใช้คอมพิวเตอร์เป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นงานสารบรรณ งานจัดเก็บข้อมูลในระบบฐานข้อมูล การออกใบอนุญาต การเขียนแบบ หรือแม้กระทั่งสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ ซึ่งต้องนั่งทำงานมากกว่า 7 ชั่วโมงต่อวัน ก่อให้เกิดเป็นลักษณะอาการเจ็บป่วยสะสม (Repetitive strain injury) และอาการเมื่อยล้าบริเวณตา (Computer Vision Syndrome) ที่เกิดจากการมีพฤติกรรมท่าทางการทำงาน ในอิริยาบทเดิมๆ ของผู้ปฏิบัติงาน เป็นระยะเวลานาน มีความเครียดจากการทำงาน และสภาพแวดล้อมจากการทำงานไม่เหมาะสม อีกทั้งยังพบว่า พนักงานเทศบาลยังขาดความรู้ความเข้าใจถึงสาเหตุ การตระหนักรู้ การวางกลยุทธ์ แนวทางการป้องกันการเกิดโรคออศฟิตซินโดรมและโรคคอมพิวเตอร์ซินโดรม
เทศบาลเมืองเบตง โดยกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ได้เกิดความตระหนักและเห็นถึงอันตราย ที่จะเกิดขึ้นกับพนักงานเทศบาลที่ปฏิบัติงานบนสำนักงานดังกล่าวข้างต้น จึงได้จัดทำโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ อาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานเทศบาลเมืองเบตง ระยะที่ 2 เพื่อให้การประกอบอาชีพการปฏิบัติงานของพนักงานเทศบาลที่ปฏิบัติงานบนสำนักงาน มีความรู้ความเข้าใจ และตระหนักถึงโรคออฟฟิศซินโดรมและโรคคอมพิวเตอร์ซินโดรม สามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการป้องกันโรค ทำให้ปราศจากโรคและมีสภาวะสมบูรณ์ดีทั้งทางร่างกาย ทางจิตใจ ทางสังคม และจิตวิญญาณ มีสภาวะ ที่ปราศจากภัยคุกคามไม่มีอันตราย หรือความเสี่ยงใดๆ อนึ่ง การดำเนินงานโครงการดังกล่าวจะส่งผลให้ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองเบตง ได้รับการจัดบริการสาธารณะอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ทั้งนี้ขอรับรองว่าโครงการนี้ไม่ได้ซ้ำซ้อนกับงบประมาณที่ได้รับจากแหล่งอื่น มีความสอดคล้องกับแผนสุขภาพชุมชน และเทศบาลเมืองเบตงได้รับทราบถึงกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และวิธีการดำเนินงานตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติฯ พ.ศ.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 02/10/2023
กำหนดเสร็จ 29/12/2023
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?