โครงการศาสนบำบัดพุทธและอิสลามในพื้นที่พหุวัฒนธรรม
แบบรายงานการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์
รายงานฉบับสมบูรณ์
โครงการ
“ โครงการศาสนบำบัดพุทธและอิสลามในพื้นที่พหุวัฒนธรรม ”
ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
หัวหน้าโครงการ
นายอนุชา นวลไทย ตำแหน่ง ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอเบตง
ได้รับการสนับสนุนโดย กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเบตง
เมษายน 2568
ชื่อโครงการ โครงการศาสนบำบัดพุทธและอิสลามในพื้นที่พหุวัฒนธรรม
ที่อยู่ ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา จังหวัด ยะลา
รหัสโครงการ 2568-L7161-1-1 เลขที่ข้อตกลง
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 ถึง 4 เมษายน 2568
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการศาสนบำบัดพุทธและอิสลามในพื้นที่พหุวัฒนธรรม จังหวัดยะลา" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเบตง ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการศาสนบำบัดพุทธและอิสลามในพื้นที่พหุวัฒนธรรม
บทคัดย่อ
โครงการ " โครงการศาสนบำบัดพุทธและอิสลามในพื้นที่พหุวัฒนธรรม " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา รหัสโครงการ 2568-L7161-1-1 ระยะเวลาการดำเนินงาน 3 กุมภาพันธ์ 2568 - 4 เมษายน 2568 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 28,440.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเบตง เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้
โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ »
บทคัดย่อ »
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล »
วัตถุประสงค์โครงการ »
กิจกรรม/การดำเนินงาน »
กลุ่มเป้าหมาย »
ผลลัพธ์ที่ได้ »
การประเมินผล »
ปัญหาและอุปสรรค »
ข้อเสนอแนะ »
เอกสารประกอบอื่นๆ »
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
พหุวัฒนธรรม คือความหลากหลายในด้านเชื้อชาติศาสนา เพศสภาพ การยอมรับทางสังคม และชนชั้นทางสังคม ซึ่งส่งผลกระทบพบเจอของความแตกต่างกัน ซึ่งหลายครั้งนั้นนำมาสู่ความไม่ไว้วางใจกัน ต่อวัฒนธรรมนั้นแต่ไม่แตกแยก มิใช่วาทกรรม แต่ได้ผุดขึ้น และงอกงามในวัฒนธรรมสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังเห็นได้จากความมีน้ำจิตน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยไม่เกี่ยวศาสนา ภาพเหล่านี้ข้าพเจ้าได้เห็นมากับตา เมื่อเร็ว ๆ นี้เกิดอุทกภัยที่จังหวัดยะลา เขื่อนบางลางรับน้ำไม่ไหวต้องระบายออก และมวลน้ำเหล่านี้ได้เข้ามาท่วมในตัวเมืองปัตตานี อุทกภัยนี้หากมองในแง่ร้ายจะเห็นเพียงความสูญเสีย แต่ในแง่ของความเอื้ออาทรเราจะเห็นจากเหตุการณ์นี้ได้ทันที ภาพทหารที่คอยช่วยเหลือชาวบ้านถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ และหยิบยื่นข้าวของยังชีพในภาวะวิกฤตน้ำท่วม ภาพนักศึกษาหญิงชาวมุสลิมไปช่วยแจกถุงยังชีพให้กับชาวบ้านชุมชน ไทย – พุทธ ภาพเหล่านี้ประทับตรึงใจข้าพเจ้า ทั้งความรักและความสามัคคีปรองดอง ดังคำกล่าวที่ว่า “มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน” เพราะเรายืนอยู่บนผืนแผ่นดินไทยผืนเดียวกัน ฉะนั้นแล้วสิ่งที่มีคุณค่าและล้ำค่าที่สุดคือความเป็นคนไทย ที่สะท้อนผ่านความดี ความรัก และความสามัคคีปรองดองศาสนบำบัด ปรองดองศาสนบำบัด คือการนำหลักธรรมตามหลักศาสนามาจัดเป็นกิจกรรม ควบคู่ไปกับหลักการทางด้านจิตวิทยา ซึ่งจะเป็นแนวทางหนึ่งที่สามารถขัดเกลาและส่งเสริมให้กับผู้ต้องขังมีสมาธิ มีสติ และเกิดปัญญา มีคุณธรรม มีความเอื้ออารี เป็นการขัดเกลาพื้นฐานทางจิตใจในกรอบคุณธรรมจริยธรรม และส่งผลให้ผู้ต้องขังมีทัศนคติที่ดีต่อการดำเนินชีวิตทั้งขณะต้องโทษ และเมื่อพ้นโทษไปแล้ว ทั้งนี้ ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้สร้างความเท่าเทียมด้านสุขภาพ ตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยจัดระบบการให้บริการสาธารณสุขที่จำเป็นต่อสุขภาพในการดำรงชีวิตและการรักษาพยาบาลที่มีมาตรฐานให้ประชาชนชาวไทย และระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็น
เสมือนระบบศีลธรรมที่เกื้อกูลดูแลเพื่อนมนุษย์ โดยหลักการเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขด้านสุขภาพให้กับคนทุกคน ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มผู้ต้องขังซึ่งมักถูกตีตราจากสังคมว่าเป็นบุคคลไม่พึงประสงค์ ด้วยโทษความผิดที่รับ โดยสภาวะที่ต้องควบคุมตัวตามหมายศาลภายในเรือนจำ อาจเป็นสาเหตุให้เกิดความเครียด ความวิตกกังวล
จากข้อมูลสถิติเมื่อเดือนตุลาคม ผู้ต้องขังนับถือศาสนาอิสลาม จำนวน 133 คน คิดเป็นร้อยละ 55.65 ผู้ต้องขังนับถือศาสนาพุทธ จำนวน 100 คน คิดเป็นร้อยละ 41.84 และผู้ต้องขังที่นับถือศาสนาคริสต์ จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 2.51 ผู้ต้องขังรวมทั้งสิ้น 239 คน ดังนั้นเรือนจำอำเภอเบตงจึงจัดโครงการศาสนบำบัดพุทธ “หลักสูตรสัคคสาสมาธิ”ตามแนวทางสมเด็จพระญาณวชิโรดม (หลวงพ่อวิริยังค์ สิริญธโร) และโครงการศาสนบำบัดอิสลาม “หลักสูตรอิสลามเบื้องต้น” เพื่อเป็นการเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพให้กับผู้ต้องขัง ด้านสร้างเสริมสุขภาพจิต เรือนจำจึงทำโครงการศาสนบำบัดพุทธและอิสลามในพื้นที่พหุวัฒนธรรม
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- เพื่อเป็นการเข้าถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพให้กับผู้ต้องขัง โดยใช้แนวทางศาสนบำบัด
- เพื่อส่งเสริมให้ผู้ต้องขังมีความรู้ความเข้าใจ และทักษะการดูแลสุขภาพตามหลักศาสนบำบัด
- เพื่อส่งเสริมให้ผู้ต้องขังสามารถนำคำสอนของศาสนามาเป็นแนวทางในการดูแลสุขภาพได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
- เพื่อให้ผู้ต้องขังได้รับการอบรมแก้ไขพฤตินิสัย เพื่อกลับตนเป็นคนดีสู่สังคม
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- โครงการศาสนบำบัดพุทธและอิสลามในพื้นที่พหุวัฒนธรรม
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
กลุ่มวัยทำงาน
100
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์**
กิจกรรมของโครงการ ผลผลิต* ผลผลิตที่ตั้งไว้ ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ สถานการณ์ เป้าหมาย ผลผลิต อธิบาย
1
เพื่อเป็นการเข้าถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพให้กับผู้ต้องขัง โดยใช้แนวทางศาสนบำบัด
ตัวชี้วัด : ผู้ต้องขังเข้ารับบริการสร้างเสริมสุขภาพให้กับผู้ต้องขัง โดยใช้แนวทางศาสนบำบัด ร้อยละ 100
100.00
2
เพื่อส่งเสริมให้ผู้ต้องขังมีความรู้ความเข้าใจ และทักษะการดูแลสุขภาพตามหลักศาสนบำบัด
ตัวชี้วัด : ผู้ต้องขังได้เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม ร้อยละ 80
80.00
3
เพื่อส่งเสริมให้ผู้ต้องขังสามารถนำคำสอนของศาสนามาเป็นแนวทางในการดูแลสุขภาพได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
ตัวชี้วัด : ผู้ต้องขังสามารถปฏิบัติแนวตามคำสั่งสอนของศาสนาได้ ร้อยละ 100
100.00
4
เพื่อให้ผู้ต้องขังได้รับการอบรมแก้ไขพฤตินิสัย เพื่อกลับตนเป็นคนดีสู่สังคม
ตัวชี้วัด : ผู้ต้องขังได้รับการอบรมแก้ไขพฤตินิสัย เพื่อกลับตนเป็นคนดีสู่สังคม ร้อยละ 100
100.00
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด
100
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
-
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
-
กลุ่มวัยทำงาน
100
กลุ่มผู้สูงอายุ
-
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
-
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
-
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
-
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
-
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
-
บทคัดย่อ*
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อเป็นการเข้าถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพให้กับผู้ต้องขัง โดยใช้แนวทางศาสนบำบัด (2) เพื่อส่งเสริมให้ผู้ต้องขังมีความรู้ความเข้าใจ และทักษะการดูแลสุขภาพตามหลักศาสนบำบัด (3) เพื่อส่งเสริมให้ผู้ต้องขังสามารถนำคำสอนของศาสนามาเป็นแนวทางในการดูแลสุขภาพได้อย่างถูกต้องเหมาะสม (4) เพื่อให้ผู้ต้องขังได้รับการอบรมแก้ไขพฤตินิสัย เพื่อกลับตนเป็นคนดีสู่สังคม
ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (1) โครงการศาสนบำบัดพุทธและอิสลามในพื้นที่พหุวัฒนธรรม
ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...
หมายเหตุ *- บทคัดย่อ จะนำไปใส่ในส่วนบทคัดย่อของรายงานฉบับสมบูรณ์
- หากต้องการใช้ค่าเริ่มต้นของบทคัดย่อ ให้ลบข้อความในช่องบทคัดย่อ ทั้งหมด แล้วกดปุ่ม Refresh
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค สาเหตุ ข้อเสนอแนะ
โครงการศาสนบำบัดพุทธและอิสลามในพื้นที่พหุวัฒนธรรม จังหวัด ยะลา
รหัสโครงการ 2568-L7161-1-1
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
................................
( นายอนุชา นวลไทย ตำแหน่ง ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอเบตง )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......
โครงการ
“ โครงการศาสนบำบัดพุทธและอิสลามในพื้นที่พหุวัฒนธรรม ”
ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
หัวหน้าโครงการ
นายอนุชา นวลไทย ตำแหน่ง ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอเบตง
เมษายน 2568
ที่อยู่ ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา จังหวัด ยะลา
รหัสโครงการ 2568-L7161-1-1 เลขที่ข้อตกลง
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 ถึง 4 เมษายน 2568
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการศาสนบำบัดพุทธและอิสลามในพื้นที่พหุวัฒนธรรม จังหวัดยะลา" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเบตง ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการศาสนบำบัดพุทธและอิสลามในพื้นที่พหุวัฒนธรรม
บทคัดย่อ
โครงการ " โครงการศาสนบำบัดพุทธและอิสลามในพื้นที่พหุวัฒนธรรม " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา รหัสโครงการ 2568-L7161-1-1 ระยะเวลาการดำเนินงาน 3 กุมภาพันธ์ 2568 - 4 เมษายน 2568 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 28,440.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเบตง เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้
โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ | » |
บทคัดย่อ | » |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล | » |
วัตถุประสงค์โครงการ | » |
กิจกรรม/การดำเนินงาน | » |
กลุ่มเป้าหมาย | » |
ผลลัพธ์ที่ได้ | » |
การประเมินผล | » |
ปัญหาและอุปสรรค | » |
ข้อเสนอแนะ | » |
เอกสารประกอบอื่นๆ | » |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
พหุวัฒนธรรม คือความหลากหลายในด้านเชื้อชาติศาสนา เพศสภาพ การยอมรับทางสังคม และชนชั้นทางสังคม ซึ่งส่งผลกระทบพบเจอของความแตกต่างกัน ซึ่งหลายครั้งนั้นนำมาสู่ความไม่ไว้วางใจกัน ต่อวัฒนธรรมนั้นแต่ไม่แตกแยก มิใช่วาทกรรม แต่ได้ผุดขึ้น และงอกงามในวัฒนธรรมสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังเห็นได้จากความมีน้ำจิตน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยไม่เกี่ยวศาสนา ภาพเหล่านี้ข้าพเจ้าได้เห็นมากับตา เมื่อเร็ว ๆ นี้เกิดอุทกภัยที่จังหวัดยะลา เขื่อนบางลางรับน้ำไม่ไหวต้องระบายออก และมวลน้ำเหล่านี้ได้เข้ามาท่วมในตัวเมืองปัตตานี อุทกภัยนี้หากมองในแง่ร้ายจะเห็นเพียงความสูญเสีย แต่ในแง่ของความเอื้ออาทรเราจะเห็นจากเหตุการณ์นี้ได้ทันที ภาพทหารที่คอยช่วยเหลือชาวบ้านถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ และหยิบยื่นข้าวของยังชีพในภาวะวิกฤตน้ำท่วม ภาพนักศึกษาหญิงชาวมุสลิมไปช่วยแจกถุงยังชีพให้กับชาวบ้านชุมชน ไทย – พุทธ ภาพเหล่านี้ประทับตรึงใจข้าพเจ้า ทั้งความรักและความสามัคคีปรองดอง ดังคำกล่าวที่ว่า “มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน” เพราะเรายืนอยู่บนผืนแผ่นดินไทยผืนเดียวกัน ฉะนั้นแล้วสิ่งที่มีคุณค่าและล้ำค่าที่สุดคือความเป็นคนไทย ที่สะท้อนผ่านความดี ความรัก และความสามัคคีปรองดองศาสนบำบัด ปรองดองศาสนบำบัด คือการนำหลักธรรมตามหลักศาสนามาจัดเป็นกิจกรรม ควบคู่ไปกับหลักการทางด้านจิตวิทยา ซึ่งจะเป็นแนวทางหนึ่งที่สามารถขัดเกลาและส่งเสริมให้กับผู้ต้องขังมีสมาธิ มีสติ และเกิดปัญญา มีคุณธรรม มีความเอื้ออารี เป็นการขัดเกลาพื้นฐานทางจิตใจในกรอบคุณธรรมจริยธรรม และส่งผลให้ผู้ต้องขังมีทัศนคติที่ดีต่อการดำเนินชีวิตทั้งขณะต้องโทษ และเมื่อพ้นโทษไปแล้ว ทั้งนี้ ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้สร้างความเท่าเทียมด้านสุขภาพ ตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยจัดระบบการให้บริการสาธารณสุขที่จำเป็นต่อสุขภาพในการดำรงชีวิตและการรักษาพยาบาลที่มีมาตรฐานให้ประชาชนชาวไทย และระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็น
เสมือนระบบศีลธรรมที่เกื้อกูลดูแลเพื่อนมนุษย์ โดยหลักการเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขด้านสุขภาพให้กับคนทุกคน ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มผู้ต้องขังซึ่งมักถูกตีตราจากสังคมว่าเป็นบุคคลไม่พึงประสงค์ ด้วยโทษความผิดที่รับ โดยสภาวะที่ต้องควบคุมตัวตามหมายศาลภายในเรือนจำ อาจเป็นสาเหตุให้เกิดความเครียด ความวิตกกังวล
จากข้อมูลสถิติเมื่อเดือนตุลาคม ผู้ต้องขังนับถือศาสนาอิสลาม จำนวน 133 คน คิดเป็นร้อยละ 55.65 ผู้ต้องขังนับถือศาสนาพุทธ จำนวน 100 คน คิดเป็นร้อยละ 41.84 และผู้ต้องขังที่นับถือศาสนาคริสต์ จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 2.51 ผู้ต้องขังรวมทั้งสิ้น 239 คน ดังนั้นเรือนจำอำเภอเบตงจึงจัดโครงการศาสนบำบัดพุทธ “หลักสูตรสัคคสาสมาธิ”ตามแนวทางสมเด็จพระญาณวชิโรดม (หลวงพ่อวิริยังค์ สิริญธโร) และโครงการศาสนบำบัดอิสลาม “หลักสูตรอิสลามเบื้องต้น” เพื่อเป็นการเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพให้กับผู้ต้องขัง ด้านสร้างเสริมสุขภาพจิต เรือนจำจึงทำโครงการศาสนบำบัดพุทธและอิสลามในพื้นที่พหุวัฒนธรรม
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- เพื่อเป็นการเข้าถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพให้กับผู้ต้องขัง โดยใช้แนวทางศาสนบำบัด
- เพื่อส่งเสริมให้ผู้ต้องขังมีความรู้ความเข้าใจ และทักษะการดูแลสุขภาพตามหลักศาสนบำบัด
- เพื่อส่งเสริมให้ผู้ต้องขังสามารถนำคำสอนของศาสนามาเป็นแนวทางในการดูแลสุขภาพได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
- เพื่อให้ผู้ต้องขังได้รับการอบรมแก้ไขพฤตินิสัย เพื่อกลับตนเป็นคนดีสู่สังคม
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- โครงการศาสนบำบัดพุทธและอิสลามในพื้นที่พหุวัฒนธรรม
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้ | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 100 | |
กลุ่มผู้สูงอายุ | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | ||
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] |
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์** กิจกรรมของโครงการ | ผลผลิต* | |
---|---|---|
ผลผลิตที่ตั้งไว้ | ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง |
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ | สถานการณ์ | เป้าหมาย | ผลผลิต | อธิบาย | |
---|---|---|---|---|---|
1 | เพื่อเป็นการเข้าถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพให้กับผู้ต้องขัง โดยใช้แนวทางศาสนบำบัด ตัวชี้วัด : ผู้ต้องขังเข้ารับบริการสร้างเสริมสุขภาพให้กับผู้ต้องขัง โดยใช้แนวทางศาสนบำบัด ร้อยละ 100 |
100.00 |
|
||
2 | เพื่อส่งเสริมให้ผู้ต้องขังมีความรู้ความเข้าใจ และทักษะการดูแลสุขภาพตามหลักศาสนบำบัด ตัวชี้วัด : ผู้ต้องขังได้เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม ร้อยละ 80 |
80.00 |
|
||
3 | เพื่อส่งเสริมให้ผู้ต้องขังสามารถนำคำสอนของศาสนามาเป็นแนวทางในการดูแลสุขภาพได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ตัวชี้วัด : ผู้ต้องขังสามารถปฏิบัติแนวตามคำสั่งสอนของศาสนาได้ ร้อยละ 100 |
100.00 |
|
||
4 | เพื่อให้ผู้ต้องขังได้รับการอบรมแก้ไขพฤตินิสัย เพื่อกลับตนเป็นคนดีสู่สังคม ตัวชี้วัด : ผู้ต้องขังได้รับการอบรมแก้ไขพฤตินิสัย เพื่อกลับตนเป็นคนดีสู่สังคม ร้อยละ 100 |
100.00 |
|
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
---|---|---|---|
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด | 100 | ||
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | |||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | - | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | - | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 100 | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | - | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | |||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | - | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | - | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | - | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | - | ||
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] | - |
บทคัดย่อ*
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อเป็นการเข้าถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพให้กับผู้ต้องขัง โดยใช้แนวทางศาสนบำบัด (2) เพื่อส่งเสริมให้ผู้ต้องขังมีความรู้ความเข้าใจ และทักษะการดูแลสุขภาพตามหลักศาสนบำบัด (3) เพื่อส่งเสริมให้ผู้ต้องขังสามารถนำคำสอนของศาสนามาเป็นแนวทางในการดูแลสุขภาพได้อย่างถูกต้องเหมาะสม (4) เพื่อให้ผู้ต้องขังได้รับการอบรมแก้ไขพฤตินิสัย เพื่อกลับตนเป็นคนดีสู่สังคม
ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (1) โครงการศาสนบำบัดพุทธและอิสลามในพื้นที่พหุวัฒนธรรม
ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...
หมายเหตุ *
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค | สาเหตุ | ข้อเสนอแนะ |
---|---|---|
|
|
|
โครงการศาสนบำบัดพุทธและอิสลามในพื้นที่พหุวัฒนธรรม จังหวัด ยะลา
รหัสโครงการ 2568-L7161-1-1
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
( นายอนุชา นวลไทย ตำแหน่ง ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอเบตง )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......