กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

แบบรายงานการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์

รายงานฉบับสมบูรณ์


โครงการ
“ โครงการ คนควนโดนรักษ์สุขภาพ รอบรู้ สู้โรคไม่ติดต่อ (KD Health Literacy : Together Fight NCDs) ”
ตำบลควนโดน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล



หัวหน้าโครงการ
นางธิดา เหมือนพะวงศ์




ชื่อโครงการ โครงการ คนควนโดนรักษ์สุขภาพ รอบรู้ สู้โรคไม่ติดต่อ (KD Health Literacy : Together Fight NCDs)

ที่อยู่ ตำบลควนโดน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล จังหวัด สตูล

รหัสโครงการ 68-L8406-1-01 เลขที่ข้อตกลง 20/2568

ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 เมษายน 2568 ถึง 31 กรกฎาคม 2568

กิตติกรรมประกาศ

"โครงการ คนควนโดนรักษ์สุขภาพ รอบรู้ สู้โรคไม่ติดต่อ (KD Health Literacy : Together Fight NCDs) จังหวัดสตูล" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลควนโดน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล

คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนหลักประกันสุขภาพ อบต.ควนโดน ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป

คณะทำงานโครงการ
โครงการ คนควนโดนรักษ์สุขภาพ รอบรู้ สู้โรคไม่ติดต่อ (KD Health Literacy : Together Fight NCDs)



บทคัดย่อ

โครงการ " โครงการ คนควนโดนรักษ์สุขภาพ รอบรู้ สู้โรคไม่ติดต่อ (KD Health Literacy : Together Fight NCDs) " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลควนโดน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล รหัสโครงการ 68-L8406-1-01 ระยะเวลาการดำเนินงาน 1 เมษายน 2568 - 31 กรกฎาคม 2568 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 31,200.00 บาท จาก กองทุนหลักประกันสุขภาพ อบต.ควนโดน เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้

โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ

หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"


สารบัญ

กิตติกรรมประกาศ»
บทคัดย่อ»
   ความเป็นมา/หลักการเหตุผล»
   วัตถุประสงค์โครงการ»
   กิจกรรม/การดำเนินงาน»
   กลุ่มเป้าหมาย»
   ผลลัพธ์ที่ได้»
   การประเมินผล»
   ปัญหาและอุปสรรค»
   ข้อเสนอแนะ»
   เอกสารประกอบอื่นๆ»

ความเป็นมา/หลักการเหตุผล

 

สถานการณ์

วัตถุประสงค์โครงการ

  1. 1. เพื่อให้แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว มีความรอบรู้ด้านสุขภาพ เกี่ยวกับโรคไม่ติดต่อ สามารถดูแลกลุ่มเสี่ยง กลุ่มสงสัยป่วย และกลุ่มป่วยโรคไม่ติดต่อได้
  2. 2. เพื่อให้กลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานและกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและระดับความดันโลหิต ให้อยู่ในเกณฑ์ (DTX น้อยกว่า 126 mg.% และ BP ระหว่าง 90/60 mmHg. ถึง น้อยกว่า 140/90 mmHg. )
  3. 3. กลุ่มป่วยโรคเบาหวาน มีค่าระดับน้ำตาลสะสมในเม็ดเลือดแดง (HbA1C) น้อยกว่า 6.5 หรือค่า DTXลดลง หรือน้อยกว่า 140 mg.%

กิจกรรม/การดำเนินงาน

  1. ขั้นเตรียมการ 1. ประชุมเพื่อชี้แจงวัตถุประสงค์และแนวทางการดำเนินกิจกรรมในโครงการ แก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 2. เขียนโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ 3. ประสานชี้แจงการดำเนินงานตามโครงการฯ และติดต่อวิทยากร กิจกรรมที่ 1. กิจกรรมพัฒนาศักยภาพเชิงปฏิบัต
  2. 2. กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่กลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานและกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 50 คน 1.1 ให้ความรู้เรื่องความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ คืนข้อมูลโรคไม่ติดต่อในพื้นที่ การรับรู้
  3. 3. กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่เข้าร่วม DM Remission Clinic จำนวน 50 คน 1.1 ให้ความรู้เรื่องความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ คืนข้อมูลโรคไม่ติดต่อในพื้นที่ การรับรู้ตนเอง สาธิต

กลุ่มเป้าหมาย

กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
กลุ่มวัยทำงาน
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

 


ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน

วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์**
กิจกรรมของโครงการ
ผลผลิต*
ผลผลิตที่ตั้งไว้ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง

1. ขั้นเตรียมการ 1. ประชุมเพื่อชี้แจงวัตถุประสงค์และแนวทางการดำเนินกิจกรรมในโครงการ แก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 2. เขียนโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ 3. ประสานชี้แจงการดำเนินงานตามโครงการฯ และติดต่อวิทยากร กิจกรรมที่ 1. กิจกรรมพัฒนาศักยภาพเชิงปฏิบัต

วันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 08:30 น.

กิจกรรมที่ทำ

ขั้นเตรียมการ           1. ประชุมเพื่อชี้แจงวัตถุประสงค์และแนวทางการดำเนินกิจกรรมในโครงการ แก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 2. เขียนโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ 3. ประสานชี้แจงการดำเนินงานตามโครงการฯ และติดต่อวิทยากร                                                          4. จัดเตรียมเอกสาร ที่จะใช้ในการอบรมแก่กลุ่มเป้าหมาย
          ขั้นดำเนินการ 1.กิจกรรมพัฒนาศักยภาพเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว “แกนนำรอบรู้ สู้โรคไม่ติดต่อ Together Fight NCDs” แบ่งเป็นฐานการเรียนรู้ จำนวน 2 รุ่น ๆ ละ 50 คน รวม 100 คน

              1.1 ให้ความรู้เรื่องความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ คืนข้อมูลโรคไม่ติดต่อในพื้นที่ การรับรู้ตนเอง สาธิตและทดลองปฏิบัติการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด การตรวจวัดความดันโลหิต การคำนวณ ค่าดัชนีมวลกาย การวัดรอบเอว พร้อมการแปลผลที่ถูกต้อง โดยการจับคู่ปฏิบัติ “บัดดี้ NCDs”
              1.2 ให้ความรู้เรื่อง โลว์คาร์บไม่ใช่โลว์แคล และออกแบบการปรับเปลี่ยนสุขภาพของตนเอง               1.3 ให้ความรู้เรื่องการกำหนดการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่เหมาะสม               1.4 การเลือกเป้าหมายที่ชอบและเหมาะสมกับตัวเอง ในการดูแลสุขภาพ               1.5 ฝึกปฏิบัติงาน ใน ”ห้องเรียนชุมชน” ณ ศูนย์คนไทย ห่างไกล NCDs ตำบลควนโดน
                    (หลังการอบรม)               - ทำแบบทดสอบหลังการอบรม และสรุปผลการดำเนินงาน

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

กิจกรรมที่ 1 พัฒนาศักยภาพเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่ แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว “แกนนำรอบรู้ สู้โรคไม่ติดต่อ Together Fight NCDs”
พัฒนาศักยภาพเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่แกนนำสุขภาพ ประจำครอบครัว “แกนนำรอบรู้ สู้โรคไม่ติดต่อ Together Fight NCDs” แบ่งเป็นฐานการเรียนรู้ จำนวน 2 รุ่น ๆ ละ 50 คน รวม 100 คน ได้จัดกิจกรรมวันที่ 23 และ 24 สิงหาคม 2568 เวลา 08.30 – 16.30 น. ณ ห้องประชุมโรงเรียน อสม. และห้องประชุมดอกกระโดน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลควนโดน โดยเชิญวิทยากรจาก โรงพยาบาลควนโดน คุณวิภาดา ม้องพร้า ตำแหน่ง พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการ (CM) เป็นวิทยากรบรรยาย มีการทำแบบทดสอบก่อน-หลัง บทเรียน พร้อมสาธิตแนวทางการปฏิบัติตัวตามความรอบรู้ด้านสุขภาพ ในการดูแลสุขภาพ ดังแบบฝึกหัด ที่มีให้กับผู้เข้าร่วมอบรมทุกท่าน  และมีวิทยากรอีกท่าน จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านกุบังปะโหลด คุณถนอมสิน หิรัญสถิตย์ ตำแหน่ง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ เป็นวิทยากรบรรยาย มีการทำแบบทดสอบก่อน-หลัง บทเรียน พร้อมสาธิตแนวทางการปฏิบัติตัวตามความรอบรู้ด้านสุขภาพ ในการดูแลสุขภาพ ดังแบบฝึกหัด ที่มีให้กับผู้เข้าร่วมอบรมทุกท่าน มีกิจกรรมดังนี้
1.1 ให้ความรู้เรื่องความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ คืนข้อมูลโรคไม่ติดต่อในพื้นที่ การรับรู้ ตนเอง สาธิต และทดลองปฏิบัติการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด การตรวจวัดความดันโลหิต การคำนวณค่าดัชนีมวลกาย การวัดรอบเอว พร้อมการแปลผลที่ถูกต้อง โดยการจับคู่ปฏิบัติ “บัดดี้ NCDs” ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถปฏิบัติได้ โดยทุกคนมีคู่ “บัดดี้ NCDs” ช่วยเหลือกันในการทดลองปฏิบัติ 100 % 1.2 ให้ความรู้เรื่อง โลว์คาร์บไม่ใช่โลว์แคล และออกแบบการปรับเปลี่ยนสุขภาพของตนเอง ทุกคนมีความสนใจในการเรียนรู้ มีการถาม ตอบ สามารถทดลองปฏิบัติในแบบฝึกหัดได้ มากกว่า ร้อยละ 80 1.3 ให้ความรู้เรื่องการกำหนดการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่เหมาะสม สามารถปฏิบัติตามได้ มากกว่า ร้อยละ 90 1.4 การเลือกเป้าหมายที่ชอบและเหมาะสมกับตัวเอง ในการดูแลสุขภาพสามารถปฏิบัติตามได้ มากกว่า ร้อยละ 90 1.5 ฝึกปฏิบัติงาน ใน ”ห้องเรียนชุมชน” ณ ศูนย์คนไทย ห่างไกล NCDs ตำบลควนโดน
        (หลังการอบรม) ได้มีการหมุนเวียนกันลงไปฝึกปฏิบัติงาน ตามตารางการปฏิบัติงาน          


1.6 ทำแบบทดสอบก่อน - หลังการอบรม และสรุปผลการดำเนินงาน(การสรุปผลแนบมาพร้อมนี้)

ระดับคะแนน  น้อยกว่า 10 10 - 13 14  15  รวม

ก่อนอบรม 0 72 คน 27 คน 1 คน 100 คน ระดับคะแนน น้อยกว่า 12 13 14 15
หลังอบรม 0 2 คน 33 คน 65 คน 100 คน

ร้อยละ 100 ของแกนนำสุขภาพประจำครอบครัวที่เข้าร่วมโครงการ มีความรอบรู้ด้านสุขภาพ เกี่ยวกับโรคไม่ติดต่อ สามารถดูแลกลุ่มเสี่ยง กลุ่มสงสัยป่วย และกลุ่มป่วยโรคไม่ติดต่อ ให้ควบคุมโรคฯได้ (ทำแบบทดสอบหลังการอบรมผ่าน ร้อยละ 100 ( 13 คะแนน ขึ้นไป)

ผลการทดลองปฏิบัติ ประเมินภาวะสุขภาพ การคำนวณค่าดัชนีมวลกาย (BMI) จำนวน 100 คน

ค่า BMI จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ น้อยกว่า 18.00 1 1 นน.น้อย 18.01-23.00 34 34 ปกติ 23.00-25.00 13 13 เริ่มอ้วน 25.01 ขึ้นไป 52 52 อ้วน รวม 100 100

จากผลการตรวจสุขภาพ จะเห็นได้ว่า แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ส่วนใหญ่ จะมีภาวะอ้วน รองลงมาคือกลุ่มที่มีค่าดัชนีมวลกายปกติ ถัดไปกลุ่มเริ่มอ้วน และกลุ่ม นน.น้อย ซึ่งมีเพียง ร้อยละ1 เท่านั้น<br />

จะเห็นได้ว่ากลุ่มที่มี นน.มาก มีภาวะอ้วน จะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค NCDs มากกว่า คนที่มีค่าดัชนีมวลกายปกติ จึงควรมีการบริหารจัดการ ปรับเปลี่ยนแนวคิดในการดำเนินชีวิต ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ

ผลการทดลองปฏิบัติ ประเมินภาวะสุขภาพ การวัดรอบเอว จำนวน 100 คน

วัดรอบสะเอว จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ ชายน้อยกว่า 90 ซม. 27 27 ปกติ ชายมากกว่า 90 ซม. 5 5 รอบเอวเกิน หญิงน้อยกว่า 80 ซม. 36 36 ปกติ หญิงมากกว่า 90 ซม. 32 32 รอบเอวเกิน รวม 100 100

จากผลการตรวจสุขภาพ จะเห็นได้ว่า แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ส่วนใหญ่ ในผู้ชาย รอบเอวจะน้อยกว่า 90 เซนติเมตร ในขณะที่ แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ผู้หญิง จะไม่ค่อยแตกต่างกัน ระหว่าง กลุ่มรอบเอวปกติ และรอบเอวเกิน ห่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จะเห็นได้ว่า กลุ่มเหล่านี้ควรมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อดูแลสุขภาพอย่างจริงจัง เพื่อลด กลุ่มเสี่ยง กลุ่มสงสัยป่วยต่อไป

ผลการทดลองปฏิบัติ ประเมินภาวะสุขภาพ การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด อดอาหาร 8 ชม. จำนวน 100 คน

ระดับน้ำตาลในเลือด จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ 70 – 99 mg% 58 58 ปกติ 100 – 125 mg% 36 36 เสี่ยง 126 mg% ขึ้นไป 6 6 สงสัยป่วยเบาหวาน ป่วยด้วยโรคเบาหวาน 9 คน รวม 100 100

จากผลการตรวจสุขภาพ จะเห็นได้ว่า แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ส่วนใหญ่ จะมีค่าระดับ น้ำตาลในเลือด อยู่ในกลุ่มปกติ เกินครึ่งของกลุ่มเป้าหมาย รองลงมาคือกลุ่มเสี่ยง ซึ่งกลุ่มนี้หากไม่ได้รับความรู้ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตอย่างจริงจัง จะเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเป็นกลุ่มสงสัยป่วย หรือกลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ได้ และในกลุ่มที่สงสัยป่วย แม้จะเป็นกลุ่มที่น้อยที่สุด แต่ก็เป็นกลุ่มที่มีโอกาสเป็นผู้ป่วยรายใหม่ ได้มากกว่ากลุ่มอื่นๆ นอกจากนี้ แกนนำสุขภาพประจำครอบครัวส่วนหนึ่ง ร้อยละ 9 ก็เป็นกลุ่มที่ป่วยด้วยโรคเบาหวานแล้ว ต้องควบคุมโรค กินยาสม่ำเสมอ ไปตรวจตามนัดต่อเนื่อง และสังเกตอาการผิดปกติ พร้อมตรวจสุขภาพประจำปี ในทุกๆปี เพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อไป

ผลการทดลองปฏิบัติ ประเมินภาวะสุขภาพ การตรวจวัดระดับความดันโลหิต จำนวน 100 คน

ระดับความดันโลหิต จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ 90/60 - 129/80 mmHg. 53 53 ปกติ 130/81 – 139/89 mmHg. 38 38 เสี่ยง 140/90 – 159/99 mmHg. 6 6 สงสัยป่วยความดันฯ ป่วยด้วยโรค HT 23 คน รวม 100 100

จากผลการตรวจสุขภาพ จะเห็นได้ว่า แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ส่วนใหญ่ จะมีค่าระดับ ความดันโลหิต อยู่ในกลุ่มปกติ เกินครึ่งของกลุ่มเป้าหมาย รองลงมาคือกลุ่มเสี่ยง ซึ่งกลุ่มนี้หากไม่ได้รับความรู้ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตอย่างจริงจัง เคร่งครัด จะเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเป็นกลุ่มสงสัยป่วย หรือกลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ได้ และในกลุ่มที่สงสัยป่วย แม้จะเป็นกลุ่มที่น้อยที่สุด แต่ก็เป็นกลุ่มที่มีโอกาสเป็นผู้ป่วยรายใหม่ ได้มากกว่ากลุ่มอื่นๆ นอกจากนี้ แกนนำสุขภาพประจำครอบครัวส่วนหนึ่ง ร้อยละ 23 ก็เป็นกลุ่มที่ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงแล้ว ต้องควบคุมโรค กินยาสม่ำเสมอ ไปตรวจตามนัดต่อเนื่อง และสังเกตอาการผิดปกติ พร้อมตรวจสุขภาพประจำปี ในทุกๆปี เพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อไป
นอกจากนี้ ในการจัดกิจกรรม ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการตรวจสุขภาพขั้นพื้นฐานแล้ว ก็ยังมีการแนะนำเกี่ยวกับช่องทางการดูแลสุขภาพ โดยการใช้ แอปพลิแคชั่น ที่สะดวกทันสมัย สามารถดูแลสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัว พร้อมกันนั้น  ยังมี ข้อมูลความรู้ เป็นคลังความรู้ด้านสุขภาพ ที่สามารถศึกษาได้ ตามที่กลุ่มเป้าหมายสนใจ เพื่อการดูแลสุขภาพ เพิ่มความรอบรู้ด้านสุขภาพ ป้องกันโรคต่อไป (คิว อาร์โคด ตามเอกสารที่แนบต่อไป)

ในการดำเนินกิจกรรม ที่ 1 ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากแกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ทั้ง 8 หมู่บ้าน แม้จะต้องเดินเพื่อเปลี่ยนฐานการศึกษาเรียนรู้ เนื่องจากข้อจำกัดของระบบอินเตอร์เน็ต กลุ่มเป้าหมายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มีการโต้ตอบ ถามตอบ ร่วมมือในการเข้าไปศึกษาใน แอปพลิเคชั่น เป็นอย่างดี ช่วยเหลือกันใน “คู่หูบัดดี้ NCDs” เป็นภาพที่ประทับใจ

 

0 0

2. ขั้นเตรียมการ 1. ประชุมเพื่อชี้แจงวัตถุประสงค์และแนวทางการดำเนินกิจกรรมในโครงการ แก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 2. เขียนโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ 3. ประสานชี้แจงการดำเนินงานตามโครงการฯ และติดต่อวิทยากร กิจกรรมที่ 1. กิจกรรมพัฒนาศักยภาพเชิงปฏิบัต

วันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 08:30 น.

กิจกรรมที่ทำ

ขั้นเตรียมการ           1. ประชุมเพื่อชี้แจงวัตถุประสงค์และแนวทางการดำเนินกิจกรรมในโครงการ แก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 2. เขียนโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ 3. ประสานชี้แจงการดำเนินงานตามโครงการฯ และติดต่อวิทยากร                                                          4. จัดเตรียมเอกสาร ที่จะใช้ในการอบรมแก่กลุ่มเป้าหมาย
          ขั้นดำเนินการ 1.กิจกรรมพัฒนาศักยภาพเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว “แกนนำรอบรู้ สู้โรคไม่ติดต่อ Together Fight NCDs” แบ่งเป็นฐานการเรียนรู้ จำนวน 2 รุ่น ๆ ละ 50 คน รวม 100 คน

              1.1 ให้ความรู้เรื่องความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ คืนข้อมูลโรคไม่ติดต่อในพื้นที่ การรับรู้ตนเอง สาธิตและทดลองปฏิบัติการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด การตรวจวัดความดันโลหิต การคำนวณ ค่าดัชนีมวลกาย การวัดรอบเอว พร้อมการแปลผลที่ถูกต้อง โดยการจับคู่ปฏิบัติ “บัดดี้ NCDs”
              1.2 ให้ความรู้เรื่อง โลว์คาร์บไม่ใช่โลว์แคล และออกแบบการปรับเปลี่ยนสุขภาพของตนเอง               1.3 ให้ความรู้เรื่องการกำหนดการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่เหมาะสม               1.4 การเลือกเป้าหมายที่ชอบและเหมาะสมกับตัวเอง ในการดูแลสุขภาพ               1.5 ฝึกปฏิบัติงาน ใน ”ห้องเรียนชุมชน” ณ ศูนย์คนไทย ห่างไกล NCDs ตำบลควนโดน
                    (หลังการอบรม)               - ทำแบบทดสอบหลังการอบรม และสรุปผลการดำเนินงาน

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

กิจกรรมที่ 1 พัฒนาศักยภาพเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่ แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว “แกนนำรอบรู้ สู้โรคไม่ติดต่อ Together Fight NCDs”
พัฒนาศักยภาพเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่แกนนำสุขภาพ ประจำครอบครัว “แกนนำรอบรู้ สู้โรคไม่ติดต่อ Together Fight NCDs” แบ่งเป็นฐานการเรียนรู้ จำนวน 2 รุ่น ๆ ละ 50 คน รวม 100 คน ได้จัดกิจกรรมวันที่ 23 และ 24 สิงหาคม 2568 เวลา 08.30 – 16.30 น. ณ ห้องประชุมโรงเรียน อสม. และห้องประชุมดอกกระโดน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลควนโดน โดยเชิญวิทยากรจาก โรงพยาบาลควนโดน คุณวิภาดา ม้องพร้า ตำแหน่ง พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการ (CM) เป็นวิทยากรบรรยาย มีการทำแบบทดสอบก่อน-หลัง บทเรียน พร้อมสาธิตแนวทางการปฏิบัติตัวตามความรอบรู้ด้านสุขภาพ ในการดูแลสุขภาพ ดังแบบฝึกหัด ที่มีให้กับผู้เข้าร่วมอบรมทุกท่าน  และมีวิทยากรอีกท่าน จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านกุบังปะโหลด คุณถนอมสิน หิรัญสถิตย์ ตำแหน่ง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ เป็นวิทยากรบรรยาย มีการทำแบบทดสอบก่อน-หลัง บทเรียน พร้อมสาธิตแนวทางการปฏิบัติตัวตามความรอบรู้ด้านสุขภาพ ในการดูแลสุขภาพ ดังแบบฝึกหัด ที่มีให้กับผู้เข้าร่วมอบรมทุกท่าน มีกิจกรรมดังนี้
1.1 ให้ความรู้เรื่องความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ คืนข้อมูลโรคไม่ติดต่อในพื้นที่ การรับรู้ ตนเอง สาธิต และทดลองปฏิบัติการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด การตรวจวัดความดันโลหิต การคำนวณค่าดัชนีมวลกาย การวัดรอบเอว พร้อมการแปลผลที่ถูกต้อง โดยการจับคู่ปฏิบัติ “บัดดี้ NCDs” ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถปฏิบัติได้ โดยทุกคนมีคู่ “บัดดี้ NCDs” ช่วยเหลือกันในการทดลองปฏิบัติ 100 % 1.2 ให้ความรู้เรื่อง โลว์คาร์บไม่ใช่โลว์แคล และออกแบบการปรับเปลี่ยนสุขภาพของตนเอง ทุกคนมีความสนใจในการเรียนรู้ มีการถาม ตอบ สามารถทดลองปฏิบัติในแบบฝึกหัดได้ มากกว่า ร้อยละ 80 1.3 ให้ความรู้เรื่องการกำหนดการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่เหมาะสม สามารถปฏิบัติตามได้ มากกว่า ร้อยละ 90 1.4 การเลือกเป้าหมายที่ชอบและเหมาะสมกับตัวเอง ในการดูแลสุขภาพสามารถปฏิบัติตามได้ มากกว่า ร้อยละ 90 1.5 ฝึกปฏิบัติงาน ใน ”ห้องเรียนชุมชน” ณ ศูนย์คนไทย ห่างไกล NCDs ตำบลควนโดน
        (หลังการอบรม) ได้มีการหมุนเวียนกันลงไปฝึกปฏิบัติงาน ตามตารางการปฏิบัติงาน          


1.6 ทำแบบทดสอบก่อน - หลังการอบรม และสรุปผลการดำเนินงาน(การสรุปผลแนบมาพร้อมนี้)

ระดับคะแนน  น้อยกว่า 10 10 - 13 14  15  รวม

ก่อนอบรม 0 72 คน 27 คน 1 คน 100 คน ระดับคะแนน น้อยกว่า 12 13 14 15
หลังอบรม 0 2 คน 33 คน 65 คน 100 คน

ร้อยละ 100 ของแกนนำสุขภาพประจำครอบครัวที่เข้าร่วมโครงการ มีความรอบรู้ด้านสุขภาพ เกี่ยวกับโรคไม่ติดต่อ สามารถดูแลกลุ่มเสี่ยง กลุ่มสงสัยป่วย และกลุ่มป่วยโรคไม่ติดต่อ ให้ควบคุมโรคฯได้ (ทำแบบทดสอบหลังการอบรมผ่าน ร้อยละ 100 ( 13 คะแนน ขึ้นไป)

ผลการทดลองปฏิบัติ ประเมินภาวะสุขภาพ การคำนวณค่าดัชนีมวลกาย (BMI) จำนวน 100 คน

ค่า BMI จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ น้อยกว่า 18.00 1 1 นน.น้อย 18.01-23.00 34 34 ปกติ 23.00-25.00 13 13 เริ่มอ้วน 25.01 ขึ้นไป 52 52 อ้วน รวม 100 100

จากผลการตรวจสุขภาพ จะเห็นได้ว่า แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ส่วนใหญ่ จะมีภาวะอ้วน รองลงมาคือกลุ่มที่มีค่าดัชนีมวลกายปกติ ถัดไปกลุ่มเริ่มอ้วน และกลุ่ม นน.น้อย ซึ่งมีเพียง ร้อยละ1 เท่านั้น<br />

จะเห็นได้ว่ากลุ่มที่มี นน.มาก มีภาวะอ้วน จะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค NCDs มากกว่า คนที่มีค่าดัชนีมวลกายปกติ จึงควรมีการบริหารจัดการ ปรับเปลี่ยนแนวคิดในการดำเนินชีวิต ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ

ผลการทดลองปฏิบัติ ประเมินภาวะสุขภาพ การวัดรอบเอว จำนวน 100 คน

วัดรอบสะเอว จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ ชายน้อยกว่า 90 ซม. 27 27 ปกติ ชายมากกว่า 90 ซม. 5 5 รอบเอวเกิน หญิงน้อยกว่า 80 ซม. 36 36 ปกติ หญิงมากกว่า 90 ซม. 32 32 รอบเอวเกิน รวม 100 100

จากผลการตรวจสุขภาพ จะเห็นได้ว่า แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ส่วนใหญ่ ในผู้ชาย รอบเอวจะน้อยกว่า 90 เซนติเมตร ในขณะที่ แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ผู้หญิง จะไม่ค่อยแตกต่างกัน ระหว่าง กลุ่มรอบเอวปกติ และรอบเอวเกิน ห่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จะเห็นได้ว่า กลุ่มเหล่านี้ควรมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อดูแลสุขภาพอย่างจริงจัง เพื่อลด กลุ่มเสี่ยง กลุ่มสงสัยป่วยต่อไป

ผลการทดลองปฏิบัติ ประเมินภาวะสุขภาพ การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด อดอาหาร 8 ชม. จำนวน 100 คน

ระดับน้ำตาลในเลือด จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ 70 – 99 mg% 58 58 ปกติ 100 – 125 mg% 36 36 เสี่ยง 126 mg% ขึ้นไป 6 6 สงสัยป่วยเบาหวาน ป่วยด้วยโรคเบาหวาน 9 คน รวม 100 100

จากผลการตรวจสุขภาพ จะเห็นได้ว่า แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ส่วนใหญ่ จะมีค่าระดับ น้ำตาลในเลือด อยู่ในกลุ่มปกติ เกินครึ่งของกลุ่มเป้าหมาย รองลงมาคือกลุ่มเสี่ยง ซึ่งกลุ่มนี้หากไม่ได้รับความรู้ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตอย่างจริงจัง จะเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเป็นกลุ่มสงสัยป่วย หรือกลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ได้ และในกลุ่มที่สงสัยป่วย แม้จะเป็นกลุ่มที่น้อยที่สุด แต่ก็เป็นกลุ่มที่มีโอกาสเป็นผู้ป่วยรายใหม่ ได้มากกว่ากลุ่มอื่นๆ นอกจากนี้ แกนนำสุขภาพประจำครอบครัวส่วนหนึ่ง ร้อยละ 9 ก็เป็นกลุ่มที่ป่วยด้วยโรคเบาหวานแล้ว ต้องควบคุมโรค กินยาสม่ำเสมอ ไปตรวจตามนัดต่อเนื่อง และสังเกตอาการผิดปกติ พร้อมตรวจสุขภาพประจำปี ในทุกๆปี เพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อไป

ผลการทดลองปฏิบัติ ประเมินภาวะสุขภาพ การตรวจวัดระดับความดันโลหิต จำนวน 100 คน

ระดับความดันโลหิต จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ 90/60 - 129/80 mmHg. 53 53 ปกติ 130/81 – 139/89 mmHg. 38 38 เสี่ยง 140/90 – 159/99 mmHg. 6 6 สงสัยป่วยความดันฯ ป่วยด้วยโรค HT 23 คน รวม 100 100

จากผลการตรวจสุขภาพ จะเห็นได้ว่า แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ส่วนใหญ่ จะมีค่าระดับ ความดันโลหิต อยู่ในกลุ่มปกติ เกินครึ่งของกลุ่มเป้าหมาย รองลงมาคือกลุ่มเสี่ยง ซึ่งกลุ่มนี้หากไม่ได้รับความรู้ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตอย่างจริงจัง เคร่งครัด จะเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเป็นกลุ่มสงสัยป่วย หรือกลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ได้ และในกลุ่มที่สงสัยป่วย แม้จะเป็นกลุ่มที่น้อยที่สุด แต่ก็เป็นกลุ่มที่มีโอกาสเป็นผู้ป่วยรายใหม่ ได้มากกว่ากลุ่มอื่นๆ นอกจากนี้ แกนนำสุขภาพประจำครอบครัวส่วนหนึ่ง ร้อยละ 23 ก็เป็นกลุ่มที่ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงแล้ว ต้องควบคุมโรค กินยาสม่ำเสมอ ไปตรวจตามนัดต่อเนื่อง และสังเกตอาการผิดปกติ พร้อมตรวจสุขภาพประจำปี ในทุกๆปี เพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อไป
นอกจากนี้ ในการจัดกิจกรรม ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการตรวจสุขภาพขั้นพื้นฐานแล้ว ก็ยังมีการแนะนำเกี่ยวกับช่องทางการดูแลสุขภาพ โดยการใช้ แอปพลิแคชั่น ที่สะดวกทันสมัย สามารถดูแลสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัว พร้อมกันนั้น  ยังมี ข้อมูลความรู้ เป็นคลังความรู้ด้านสุขภาพ ที่สามารถศึกษาได้ ตามที่กลุ่มเป้าหมายสนใจ เพื่อการดูแลสุขภาพ เพิ่มความรอบรู้ด้านสุขภาพ ป้องกันโรคต่อไป (คิว อาร์โคด ตามเอกสารที่แนบต่อไป)

ในการดำเนินกิจกรรม ที่ 1 ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากแกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ทั้ง 8 หมู่บ้าน แม้จะต้องเดินเพื่อเปลี่ยนฐานการศึกษาเรียนรู้ เนื่องจากข้อจำกัดของระบบอินเตอร์เน็ต กลุ่มเป้าหมายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มีการโต้ตอบ ถามตอบ ร่วมมือในการเข้าไปศึกษาใน แอปพลิเคชั่น เป็นอย่างดี ช่วยเหลือกันใน “คู่หูบัดดี้ NCDs” เป็นภาพที่ประทับใจ

 

0 0

3. ขั้นเตรียมการ 1. ประชุมเพื่อชี้แจงวัตถุประสงค์และแนวทางการดำเนินกิจกรรมในโครงการ แก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 2. เขียนโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ 3. ประสานชี้แจงการดำเนินงานตามโครงการฯ และติดต่อวิทยากร กิจกรรมที่ 1. กิจกรรมพัฒนาศักยภาพเชิงปฏิบัต

วันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 08:30 น.

กิจกรรมที่ทำ

ขั้นเตรียมการ           1. ประชุมเพื่อชี้แจงวัตถุประสงค์และแนวทางการดำเนินกิจกรรมในโครงการ แก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 2. เขียนโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ 3. ประสานชี้แจงการดำเนินงานตามโครงการฯ และติดต่อวิทยากร                                                          4. จัดเตรียมเอกสาร ที่จะใช้ในการอบรมแก่กลุ่มเป้าหมาย
          ขั้นดำเนินการ 1.กิจกรรมพัฒนาศักยภาพเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว “แกนนำรอบรู้ สู้โรคไม่ติดต่อ Together Fight NCDs” แบ่งเป็นฐานการเรียนรู้ จำนวน 2 รุ่น ๆ ละ 50 คน รวม 100 คน

              1.1 ให้ความรู้เรื่องความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ คืนข้อมูลโรคไม่ติดต่อในพื้นที่ การรับรู้ตนเอง สาธิตและทดลองปฏิบัติการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด การตรวจวัดความดันโลหิต การคำนวณ ค่าดัชนีมวลกาย การวัดรอบเอว พร้อมการแปลผลที่ถูกต้อง โดยการจับคู่ปฏิบัติ “บัดดี้ NCDs”
              1.2 ให้ความรู้เรื่อง โลว์คาร์บไม่ใช่โลว์แคล และออกแบบการปรับเปลี่ยนสุขภาพของตนเอง               1.3 ให้ความรู้เรื่องการกำหนดการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่เหมาะสม               1.4 การเลือกเป้าหมายที่ชอบและเหมาะสมกับตัวเอง ในการดูแลสุขภาพ               1.5 ฝึกปฏิบัติงาน ใน ”ห้องเรียนชุมชน” ณ ศูนย์คนไทย ห่างไกล NCDs ตำบลควนโดน
                    (หลังการอบรม)               - ทำแบบทดสอบหลังการอบรม และสรุปผลการดำเนินงาน

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

กิจกรรมที่ 1 พัฒนาศักยภาพเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่ แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว “แกนนำรอบรู้ สู้โรคไม่ติดต่อ Together Fight NCDs”
พัฒนาศักยภาพเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่แกนนำสุขภาพ ประจำครอบครัว “แกนนำรอบรู้ สู้โรคไม่ติดต่อ Together Fight NCDs” แบ่งเป็นฐานการเรียนรู้ จำนวน 2 รุ่น ๆ ละ 50 คน รวม 100 คน ได้จัดกิจกรรมวันที่ 23 และ 24 สิงหาคม 2568 เวลา 08.30 – 16.30 น. ณ ห้องประชุมโรงเรียน อสม. และห้องประชุมดอกกระโดน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลควนโดน โดยเชิญวิทยากรจาก โรงพยาบาลควนโดน คุณวิภาดา ม้องพร้า ตำแหน่ง พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการ (CM) เป็นวิทยากรบรรยาย มีการทำแบบทดสอบก่อน-หลัง บทเรียน พร้อมสาธิตแนวทางการปฏิบัติตัวตามความรอบรู้ด้านสุขภาพ ในการดูแลสุขภาพ ดังแบบฝึกหัด ที่มีให้กับผู้เข้าร่วมอบรมทุกท่าน  และมีวิทยากรอีกท่าน จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านกุบังปะโหลด คุณถนอมสิน หิรัญสถิตย์ ตำแหน่ง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ เป็นวิทยากรบรรยาย มีการทำแบบทดสอบก่อน-หลัง บทเรียน พร้อมสาธิตแนวทางการปฏิบัติตัวตามความรอบรู้ด้านสุขภาพ ในการดูแลสุขภาพ ดังแบบฝึกหัด ที่มีให้กับผู้เข้าร่วมอบรมทุกท่าน มีกิจกรรมดังนี้
1.1 ให้ความรู้เรื่องความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ คืนข้อมูลโรคไม่ติดต่อในพื้นที่ การรับรู้ ตนเอง สาธิต และทดลองปฏิบัติการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด การตรวจวัดความดันโลหิต การคำนวณค่าดัชนีมวลกาย การวัดรอบเอว พร้อมการแปลผลที่ถูกต้อง โดยการจับคู่ปฏิบัติ “บัดดี้ NCDs” ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถปฏิบัติได้ โดยทุกคนมีคู่ “บัดดี้ NCDs” ช่วยเหลือกันในการทดลองปฏิบัติ 100 % 1.2 ให้ความรู้เรื่อง โลว์คาร์บไม่ใช่โลว์แคล และออกแบบการปรับเปลี่ยนสุขภาพของตนเอง ทุกคนมีความสนใจในการเรียนรู้ มีการถาม ตอบ สามารถทดลองปฏิบัติในแบบฝึกหัดได้ มากกว่า ร้อยละ 80 1.3 ให้ความรู้เรื่องการกำหนดการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่เหมาะสม สามารถปฏิบัติตามได้ มากกว่า ร้อยละ 90 1.4 การเลือกเป้าหมายที่ชอบและเหมาะสมกับตัวเอง ในการดูแลสุขภาพสามารถปฏิบัติตามได้ มากกว่า ร้อยละ 90 1.5 ฝึกปฏิบัติงาน ใน ”ห้องเรียนชุมชน” ณ ศูนย์คนไทย ห่างไกล NCDs ตำบลควนโดน
        (หลังการอบรม) ได้มีการหมุนเวียนกันลงไปฝึกปฏิบัติงาน ตามตารางการปฏิบัติงาน          


1.6 ทำแบบทดสอบก่อน - หลังการอบรม และสรุปผลการดำเนินงาน(การสรุปผลแนบมาพร้อมนี้)

ระดับคะแนน  น้อยกว่า 10 10 - 13 14  15  รวม

ก่อนอบรม 0 72 คน 27 คน 1 คน 100 คน ระดับคะแนน น้อยกว่า 12 13 14 15
หลังอบรม 0 2 คน 33 คน 65 คน 100 คน

ร้อยละ 100 ของแกนนำสุขภาพประจำครอบครัวที่เข้าร่วมโครงการ มีความรอบรู้ด้านสุขภาพ เกี่ยวกับโรคไม่ติดต่อ สามารถดูแลกลุ่มเสี่ยง กลุ่มสงสัยป่วย และกลุ่มป่วยโรคไม่ติดต่อ ให้ควบคุมโรคฯได้ (ทำแบบทดสอบหลังการอบรมผ่าน ร้อยละ 100 ( 13 คะแนน ขึ้นไป)

ผลการทดลองปฏิบัติ ประเมินภาวะสุขภาพ การคำนวณค่าดัชนีมวลกาย (BMI) จำนวน 100 คน

ค่า BMI จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ น้อยกว่า 18.00 1 1 นน.น้อย 18.01-23.00 34 34 ปกติ 23.00-25.00 13 13 เริ่มอ้วน 25.01 ขึ้นไป 52 52 อ้วน รวม 100 100

จากผลการตรวจสุขภาพ จะเห็นได้ว่า แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ส่วนใหญ่ จะมีภาวะอ้วน รองลงมาคือกลุ่มที่มีค่าดัชนีมวลกายปกติ ถัดไปกลุ่มเริ่มอ้วน และกลุ่ม นน.น้อย ซึ่งมีเพียง ร้อยละ1 เท่านั้น<br />

จะเห็นได้ว่ากลุ่มที่มี นน.มาก มีภาวะอ้วน จะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค NCDs มากกว่า คนที่มีค่าดัชนีมวลกายปกติ จึงควรมีการบริหารจัดการ ปรับเปลี่ยนแนวคิดในการดำเนินชีวิต ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ

ผลการทดลองปฏิบัติ ประเมินภาวะสุขภาพ การวัดรอบเอว จำนวน 100 คน

วัดรอบสะเอว จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ ชายน้อยกว่า 90 ซม. 27 27 ปกติ ชายมากกว่า 90 ซม. 5 5 รอบเอวเกิน หญิงน้อยกว่า 80 ซม. 36 36 ปกติ หญิงมากกว่า 90 ซม. 32 32 รอบเอวเกิน รวม 100 100

จากผลการตรวจสุขภาพ จะเห็นได้ว่า แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ส่วนใหญ่ ในผู้ชาย รอบเอวจะน้อยกว่า 90 เซนติเมตร ในขณะที่ แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ผู้หญิง จะไม่ค่อยแตกต่างกัน ระหว่าง กลุ่มรอบเอวปกติ และรอบเอวเกิน ห่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จะเห็นได้ว่า กลุ่มเหล่านี้ควรมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อดูแลสุขภาพอย่างจริงจัง เพื่อลด กลุ่มเสี่ยง กลุ่มสงสัยป่วยต่อไป

ผลการทดลองปฏิบัติ ประเมินภาวะสุขภาพ การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด อดอาหาร 8 ชม. จำนวน 100 คน

ระดับน้ำตาลในเลือด จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ 70 – 99 mg% 58 58 ปกติ 100 – 125 mg% 36 36 เสี่ยง 126 mg% ขึ้นไป 6 6 สงสัยป่วยเบาหวาน ป่วยด้วยโรคเบาหวาน 9 คน รวม 100 100

จากผลการตรวจสุขภาพ จะเห็นได้ว่า แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ส่วนใหญ่ จะมีค่าระดับ น้ำตาลในเลือด อยู่ในกลุ่มปกติ เกินครึ่งของกลุ่มเป้าหมาย รองลงมาคือกลุ่มเสี่ยง ซึ่งกลุ่มนี้หากไม่ได้รับความรู้ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตอย่างจริงจัง จะเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเป็นกลุ่มสงสัยป่วย หรือกลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ได้ และในกลุ่มที่สงสัยป่วย แม้จะเป็นกลุ่มที่น้อยที่สุด แต่ก็เป็นกลุ่มที่มีโอกาสเป็นผู้ป่วยรายใหม่ ได้มากกว่ากลุ่มอื่นๆ นอกจากนี้ แกนนำสุขภาพประจำครอบครัวส่วนหนึ่ง ร้อยละ 9 ก็เป็นกลุ่มที่ป่วยด้วยโรคเบาหวานแล้ว ต้องควบคุมโรค กินยาสม่ำเสมอ ไปตรวจตามนัดต่อเนื่อง และสังเกตอาการผิดปกติ พร้อมตรวจสุขภาพประจำปี ในทุกๆปี เพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อไป

ผลการทดลองปฏิบัติ ประเมินภาวะสุขภาพ การตรวจวัดระดับความดันโลหิต จำนวน 100 คน

ระดับความดันโลหิต จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ 90/60 - 129/80 mmHg. 53 53 ปกติ 130/81 – 139/89 mmHg. 38 38 เสี่ยง 140/90 – 159/99 mmHg. 6 6 สงสัยป่วยความดันฯ ป่วยด้วยโรค HT 23 คน รวม 100 100

จากผลการตรวจสุขภาพ จะเห็นได้ว่า แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ส่วนใหญ่ จะมีค่าระดับ ความดันโลหิต อยู่ในกลุ่มปกติ เกินครึ่งของกลุ่มเป้าหมาย รองลงมาคือกลุ่มเสี่ยง ซึ่งกลุ่มนี้หากไม่ได้รับความรู้ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตอย่างจริงจัง เคร่งครัด จะเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเป็นกลุ่มสงสัยป่วย หรือกลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ได้ และในกลุ่มที่สงสัยป่วย แม้จะเป็นกลุ่มที่น้อยที่สุด แต่ก็เป็นกลุ่มที่มีโอกาสเป็นผู้ป่วยรายใหม่ ได้มากกว่ากลุ่มอื่นๆ นอกจากนี้ แกนนำสุขภาพประจำครอบครัวส่วนหนึ่ง ร้อยละ 23 ก็เป็นกลุ่มที่ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงแล้ว ต้องควบคุมโรค กินยาสม่ำเสมอ ไปตรวจตามนัดต่อเนื่อง และสังเกตอาการผิดปกติ พร้อมตรวจสุขภาพประจำปี ในทุกๆปี เพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อไป
นอกจากนี้ ในการจัดกิจกรรม ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการตรวจสุขภาพขั้นพื้นฐานแล้ว ก็ยังมีการแนะนำเกี่ยวกับช่องทางการดูแลสุขภาพ โดยการใช้ แอปพลิแคชั่น ที่สะดวกทันสมัย สามารถดูแลสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัว พร้อมกันนั้น  ยังมี ข้อมูลความรู้ เป็นคลังความรู้ด้านสุขภาพ ที่สามารถศึกษาได้ ตามที่กลุ่มเป้าหมายสนใจ เพื่อการดูแลสุขภาพ เพิ่มความรอบรู้ด้านสุขภาพ ป้องกันโรคต่อไป (คิว อาร์โคด ตามเอกสารที่แนบต่อไป)

ในการดำเนินกิจกรรม ที่ 1 ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากแกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ทั้ง 8 หมู่บ้าน แม้จะต้องเดินเพื่อเปลี่ยนฐานการศึกษาเรียนรู้ เนื่องจากข้อจำกัดของระบบอินเตอร์เน็ต กลุ่มเป้าหมายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มีการโต้ตอบ ถามตอบ ร่วมมือในการเข้าไปศึกษาใน แอปพลิเคชั่น เป็นอย่างดี ช่วยเหลือกันใน “คู่หูบัดดี้ NCDs” เป็นภาพที่ประทับใจ

 

0 0

4. 2. กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่กลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานและกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 50 คน 1.1 ให้ความรู้เรื่องความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ คืนข้อมูลโรคไม่ติดต่อในพื้นที่ การรับรู้

วันที่ 6 กันยายน 2568 เวลา 08:30 น.

กิจกรรมที่ทำ

  1. กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่กลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานและกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 50 คน
                  1.1 ให้ความรู้เรื่องความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ คืนข้อมูลโรคไม่ติดต่อในพื้นที่ การรับรู้ตนเอง สาธิตและทดลองปฏิบัติการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด การตรวจวัดความดันโลหิต การคำนวณ ค่าดัชนีมวลกาย การวัดรอบเอว พร้อมการแปลผลที่ถูกต้อง โดยการจับคู่ปฏิบัติ “บัดดี้ NCDs”
                  1.2 ให้ความรู้เรื่อง โลว์คาร์บไม่ใช่โลว์แคล และออกแบบการปรับเปลี่ยนสุขภาพของตนเอง               1.3 ให้ความรู้เรื่องการกำหนดการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่เหมาะสม               1.4 การเลือกเป้าหมายที่ชอบและเหมาะสมกับตัวเอง ในการดูแลสุขภาพ เพื่อควบคุมโรคให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
                  - ติดตาม ระดับน้ำตาลในเลือดและระดับความดันโลหิต โดย “แกนนำรอบรู้ สู้โรคไม่ติดต่อ Together Fight NCDs” เป็น “คู่หูบัดดี้ NCDs” พร้อมส่งต่อ เมื่อพบความผิดปกติ ตามเกณฑ์ เพื่อเข้ารับการรักษาต่อที่เหมาะสม ผ่านทางช่องทางต่างๆ เช่น ทางไลน์ ทางโทรศัพท์ ทางระบบ Telemedicine เป็นต้น โดยจะมีการส่งต่อข้อมูล ผ่านระบบ Google Form               - สรุปผลการดำเนินงานและคืนข้อมูลเพื่อวิเคราะห์การดำเนินงานต่อไป

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

กิจกรรมที่ 2 อบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่กลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานและกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง โดยมีกิจกรรมดังนี้     2.1 ให้ความรู้เรื่องความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ คืนข้อมูลโรคไม่ติดต่อในพื้นที่ การรับรู้ตนเอง สาธิตและทดลองปฏิบัติการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด การตรวจวัดความดันโลหิต การคำนวณ ค่าดัชนีมวลกาย การวัดรอบเอว พร้อมการแปลผลที่ถูกต้อง โดยการจับคู่ปฏิบัติ “บัดดี้ NCDs” จำนวน  50 คน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมโครงการ คิดเป็น  ร้อยละ 100               2.2 ให้ความรู้เรื่อง โลว์คาร์บไม่ใช่โลว์แคล และออกแบบการปรับเปลี่ยนสุขภาพของตนเอง               2.3 ให้ความรู้เรื่องการกำหนดการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่เหมาะสม               2.4 การเลือกเป้าหมายที่ชอบและเหมาะสมกับตัวเอง ในการดูแลสุขภาพ เพื่อควบคุมโรคให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
              - ติดตาม ระดับน้ำตาลในเลือดและระดับความดันโลหิต โดย “แกนนำรอบรู้ สู้โรคไม่ติดต่อ Together Fight NCDs” เป็น “คู่หูบัดดี้ NCDs” พร้อมส่งต่อ เมื่อพบความผิดปกติ ตามเกณฑ์ เพื่อเข้ารับการรักษาต่อที่เหมาะสม ผ่านทางช่องทางต่างๆ เช่น ทางไลน์ ทางโทรศัพท์ ทางระบบ Telemedicine เป็นต้น โดยจะมีการส่งต่อข้อมูล ผ่านระบบ Google Form               - สรุปผลการดำเนินงานและคืนข้อมูลเพื่อวิเคราะห์การดำเนินงานต่อไป

กลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานและกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและระดับความดันโลหิต ให้อยู่ในเกณฑ์ (DTX น้อยกว่า 126 mg.%)
ผลการทดลองปฏิบัติ ประเมินภาวะสุขภาพ การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด อดอาหาร 8 ชม. จำนวน 50 คน

ระดับน้ำตาลในเลือด จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ 70 – 99 mg% 16 32 ปกติ 100 – 125 mg% 30 60 เสี่ยง 126 mg% ขึ้นไป 4 8 สงสัยป่วยเบาหวาน

รวม 50 100

จากผลการตรวจสุขภาพ จะเห็นได้ว่า กลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานและกลุ่มสงสัยป่วยโรค
ความดันโลหิตสูง ส่วนใหญ่ จะมีค่าระดับน้ำตาลในเลือด อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เกินครึ่งของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งกลุ่มนี้ หากไม่ได้รับความรู้ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตอย่างจริงจัง จะเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเป็นกลุ่มสงสัยป่วย หรือกลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ได้ รองลงมาคือกลุ่มปกติ และในกลุ่มที่สงสัยป่วยเบาหวาน แม้จะเป็นกลุ่มที่น้อยที่สุด แต่ก็เป็นกลุ่มที่มีโอกาสเป็นผู้ป่วยรายใหม่ ได้มากกว่ากลุ่มอื่นๆ นอกจากนั้น กลุ่มนี้ ได้รับการส่งต่อ เพื่อไปรับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป ต้องควบคุมโรค กินยาสม่ำเสมอ ไปตรวจตามนัดต่อเนื่อง และสังเกตอาการผิดปกติ พร้อมตรวจสุขภาพประจำปี ในทุกๆปี เพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อไป
ซึ่งจากเป้าหมายที่กำหนดไว้ กลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานและกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและระดับความดันโลหิต ให้อยู่ในเกณฑ์ (DTX น้อยกว่า 126 mg.%) นั้น กลุ่มนี้ จำนวน 46 คน คิดเป็นร้อยละ 92 ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้

กลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานและกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง สามารถควบคุมระดับความดันโลหิต ให้อยู่ในเกณฑ์  BP ระหว่าง 90/60 mmHg. ถึง น้อยกว่า 140/90 mmHg. )

ผลการทดลองปฏิบัติ ประเมินภาวะสุขภาพ การตรวจวัดระดับความดันโลหิต จำนวน 50 คน

ระดับความดันโลหิต จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ 90/60 - 129/80 mmHg. 15 30 ปกติ 130/81 – 139/89 mmHg. 4 8 เสี่ยง 140/90 – 159/99 mmHg. 17 34 สงสัยป่วยความดันฯ 160/100-179/109 mmHg. 14 28 ป่วยรายใหม่
รวม 50 100

จากผลการตรวจสุขภาพ จะเห็นได้ว่า กลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานและกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดัน โลหิตสูง ส่วนใหญ่ จะมีค่าระดับความดันโลหิต อยู่ในกลุ่มสงสัยป่วย กลุ่มปกติ และกลุ่มป่วยรายใหม่ ตามลำดับ ค่าที่ได้ไม่แตกต่างกันมาก แต่เมื่อมารวมกลุ่มสงสัยป่วย และกลุ่มป่วยรายใหม่ จะมี กลุ่มนี้มากถึง ร้อยละ 62 ไม่ผ่านเกณฑ์ ซึ่งเป็นจำนวนที่น่าเป็นห่วง ซึ่งกลุ่มนี้หากไม่ได้รับความรู้ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตอย่างจริงจัง เคร่งครัด จะเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเป็นกลุ่มป่วย หรือกลุ่มที่เกิดภาวะแทรกซ้อนได้
กลุ่มที่อยู่ในผู้ป่วยรายใหม่ ร้อยละ 28 ต้องได้รับการส่งต่อเพื่อยืนยันผล และตรวจทางห้องปฏิบัติการต่อไป หากกลุ่มเป้าหมาย ไม่ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ อาจจะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย ต้องควบคุมโรค ควบคุมระดับความดันโลหิต กินยาสม่ำเสมอ ไปตรวจตามนัดต่อเนื่อง และสังเกตอาการผิดปกติ พร้อมตรวจสุขภาพประจำปี ในทุกๆปี เพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อไป

ในการดำเนินกิจกรรม ที่ 2 ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งจากวิทยากร โรงพยาบาลควนโดน และวิทยากร นักโภชนาการ จาก โรงพยาบาลสตูล จากกลุ่มเป้าหมาย ทั้ง 8 หมู่บ้าน ร่วมเสนอความคิดเห็น มีการถามตอบในข้อสงสัย และมีการตั้งเป้าหมายในการดูแลสุขภาพ พร้อมทั้งการเรียนรู้และเข้าสู่ระบบการดูแลรักษา กลุ่มเป้าหมายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี บางรายเดินทางมาร่วมกิจกรรมท่ามกลางสายฝน เป็นภาพที่ประทับใจ แม้จะมาช้ากว่าคนอื่น แต่ตอบคำถามได้ ในหลายๆข้อคำถาม เป็นบรรยากาศที่ประทับใจผู้จัดเช่นกัน

 

0 0

5. 3. กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่เข้าร่วม DM Remission Clinic จำนวน 50 คน 1.1 ให้ความรู้เรื่องความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ คืนข้อมูลโรคไม่ติดต่อในพื้นที่ การรับรู้ตนเอง สาธิต

วันที่ 7 กันยายน 2568 เวลา 08:30 น.

กิจกรรมที่ทำ

  1. กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่เข้าร่วม DM Remission Clinic จำนวน 50 คน               1.1 ให้ความรู้เรื่องความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ คืนข้อมูลโรคไม่ติดต่อในพื้นที่ การรับรู้ตนเอง สาธิตและทดลองปฏิบัติการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด การตรวจวัดความดันโลหิต การคำนวณ ค่าดัชนีมวลกาย การวัดรอบเอว พร้อมการแปลผลที่ถูกต้อง โดยการจับคู่ปฏิบัติ “บัดดี้ NCDs”
                  1.2 ให้ความรู้เรื่อง โลว์คาร์บไม่ใช่โลว์แคล และออกแบบการปรับเปลี่ยนสุขภาพของตนเอง               1.3 ให้ความรู้เรื่องการกำหนดการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่เหมาะสม               1.4 การเลือกเป้าหมายที่ชอบและเหมาะสมกับตัวเอง ในการดูแลสุขภาพ เพื่อควบคุมโรคให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
                  - ติดตาม ระดับน้ำตาลในเลือดและระดับความดันโลหิต โดย “แกนนำรอบรู้ สู้โรคไม่ติดต่อ Together Fight NCDs” เป็น “คู่หูบัดดี้ NCDs” พร้อมส่งต่อ เมื่อพบความผิดปกติ ตามเกณฑ์ เพื่อเข้ารับการรักษาต่อที่เหมาะสม ผ่านทางช่องทางต่างๆ เช่น ทางไลน์ ทางโทรศัพท์ ทางระบบ Telemedicine เป็นต้น โดยจะมีการส่งต่อข้อมูล ผ่านระบบ Google Form                 - จัดทำสื่อ ประชาสัมพันธ์ความรู้เกี่ยวกับการดูแลตนเอง ผ่านช่องทางไลน์กลุ่ม ผ่านทางการอ่านคุตบะฮ์ในมัสยิดเวลาละหมาดวันศุกร์
                    - จัดเวทีประชาคม กำหนดมาตรการชุมชน เพื่อควบคุมโรคไม่ติดต่อ
    “อ่อนหวาน ลดเค็ม ต่อเต็ม เติมใจ ห่างไกล NCDs “               - สรุปผลการดำเนินงานและคืนข้อมูลเพื่อวิเคราะห์การดำเนินงานต่อไป

ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

กิจกรรมที่ 3. อบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่เข้าร่วม DM Remission Clinic
              3.1 ให้ความรู้เรื่องความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ คืนข้อมูลโรคไม่ติดต่อในพื้นที่ การรับรู้ตนเอง สาธิตและทดลองปฏิบัติการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด การตรวจวัดความดันโลหิต การคำนวณ ค่าดัชนีมวลกาย การวัดรอบเอว พร้อมการแปลผลที่ถูกต้อง โดยการจับคู่ปฏิบัติ “บัดดี้ NCDs”      จำนวน 50 คน มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมคิดเป็นร้อยละ 100
              3.2 ให้ความรู้เรื่อง โลว์คาร์บไม่ใช่โลว์แคล และออกแบบการปรับเปลี่ยนสุขภาพของตนเอง               3.3 ให้ความรู้เรื่องการกำหนดการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่เหมาะสม               3.4 การเลือกเป้าหมายที่ชอบและเหมาะสมกับตัวเอง ในการดูแลสุขภาพ เพื่อควบคุมโรคให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
              - ติดตาม ระดับน้ำตาลในเลือดและระดับความดันโลหิต โดย “แกนนำรอบรู้ สู้โรคไม่ติดต่อ Together Fight NCDs” เป็น “คู่หูบัดดี้ NCDs” พร้อมส่งต่อ เมื่อพบความผิดปกติ ตามเกณฑ์ เพื่อเข้ารับการรักษาต่อที่เหมาะสม ผ่านทางช่องทางต่างๆ เช่น ทางไลน์ ทางโทรศัพท์ ทางระบบ Telemedicine เป็นต้น     - มีการส่งต่อข้อมูล ผ่านระบบ Google Form                 - จัดทำสื่อ ประชาสัมพันธ์ความรู้เกี่ยวกับการดูแลตนเอง ผ่านช่องทางไลน์กลุ่ม ผ่านทางการอ่านคุตบะฮ์ในมัสยิดเวลาละหมาดวันศุกร์
                - จัดเวทีประชาคม กำหนดมาตรการชุมชน เพื่อควบคุมโรคไม่ติดต่อ
“อ่อนหวาน ลดเค็ม ต่อเต็ม เติมใจ ห่างไกล NCDs “               - สรุปผลการดำเนินงานและคืนข้อมูลเพื่อวิเคราะห์การดำเนินงานต่อไป ซึ่งตัวชี้วัดความสำเร็จ คือ ร้อยละ 50 ของผู้ป่วยโรคเบาหวานที่เข้าร่วมโครงการฯ มีค่าระดับน้ำตาลสะสมในเม็ดเลือดแดง (HbA1C) น้อยกว่า 6.5 หรือค่า DTX ลดลง หรือน้อยกว่า 140 mg.%
ผลการทดลองปฏิบัติ ประเมินภาวะสุขภาพ การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด อดอาหาร 8 ชม. จำนวน 50 คน

ระดับน้ำตาลในเลือด จำนวน ร้อยละ หมายเหตุ 70 – 99 mg% 1 2 ปกติ 100 – 125 mg% 34 68 ควบคุมโรคได้ค่อนข้างดี 126 mg% ขึ้นไป 15 30 ควบคุมได้ไม่ค่อยดี

รวม 50 100

จากผลการตรวจสุขภาพ จะเห็นได้ว่า กลุ่มป่วยโรคเบาหวานส่วนใหญ่ จะมีค่าระดับน้ำตาลในเลือด
อยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือกลุ่มที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ค่อนข้างดี เกินร้อยละ 50 ของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งผ่านเกณฑ์ตัวชี้วัดที่ตั้งไว้ กลุ่มนี้ ต้องได้รับความรู้ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตอย่างจริงจัง จะเป็นกลุ่มที่มีโอกาส ที่จะเป็นกลุ่มป่วยเบาหวานที่ควบคุมโรคให้อยู่ในระยะสงบได้ หากมีการดูแลตัวเอง ควบคุมโรค ปรับพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง มีการติดตามผลเป็นระยะๆ หรือกลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ที่ยังไม่ได้เริ่มยา ก็เช่นเดียวกัน นอกจากนั้น กลุ่มนี้หากพบผิดปกติ จะได้รับการส่งต่อ เพื่อไปรับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป  ต้องควบคุมโรค กินยาสม่ำเสมอ ไปตรวจตามนัดต่อเนื่อง และสังเกตอาการผิดปกติ พร้อมตรวจสุขภาพประจำปี ในทุกๆปี เพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อไป และดำรงชีวิตได้อย่างคนทั่วไป

ในการดำเนินกิจกรรม ที่ 3 ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งจากวิทยากร โรงพยาบาลควนโดน และวิทยากร จาก โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านกุบังปะโหลด และจากกลุ่มเป้าหมาย ทั้ง 8 หมู่บ้าน ร่วมเสนอความคิดเห็น มีการถามตอบในข้อสงสัย และมีการตั้งเป้าหมายในการดูแลสุขภาพ พร้อมทั้งการเรียนรู้และเข้าสู่ระบบการดูแลรักษา กลุ่มเป้าหมายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ร่วมกันนำเสนอความคิดเห็น ในการพูดคุยถึงประเด็นปัญหา เกี่ยวกับโรค ไม่ติดต่อ ที่เจอในชุมชน ร่วมกันวิเคราะห์ จัดเวทีประชาคม “อ่อนหวาน ลดเค็ม ต่อเต็ม เติมใจ ห่างไกล NCDs “ ซึ่ง ผลลัพธ์ที่ได้จากการประชาคม ประกอบด้วย ดังนี้





























เวทีประชาคม

“อ่อนหวาน ลดเค็ม ต่อเต็ม เติมใจ ห่างไกล NCDs “

วันที่ 7 กันยายน 2568 ณ ห้องประชุมโรงเรียน อสม.  รพ.สต.ควนโดน

จากการจัดเวทีประชาคม เพื่อร่วมกันกำหนดประเด็นปัญหา ตั้งเป้าหมาย พร้อมจัดทำแผนงาน/โครงการ และกิจกรรม โดยมีตัวแทนจากคณะกรรมการ พชอ.ควนโดน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จาก      สสอ.ควนโดน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จาก รพ.สต.ควนโดน ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา ตัวแทนร้านค้า ตัวแทนจากผู้ประกอบอาหารในงานบุญ ตัวแทนกลุ่มสตรีควนโดน อสม.ตำบลควนโดน และแกนนำสุขภาพประจำครอบครัว ตำบลควนโดน ได้ร่วมกัน 1. ระดมความคิด โดยใช้เครื่องมือ SPOME
2. กำหนดประเด็นปัญหาโดยใช้แผนผังต้นไม้ (Problem Tree) 3. ตั้งเป้าหมายร่วมกัน 4. จัดทำแผนงาน/โครงการ และกิจกรรม 5. จัดสรรงบประมาณ ในการดำเนินการ

ปัญหาหลัก : คนในชุมชน ชอบกิน หวาน มัน เค็ม - ด้านสุขภาพ o โรคความดันโลหิตสูง o โรคเบาหวาน o โรคหัวใจและหลอดเลือด
o โรคหลอดเลือดสมอง o โรคไต - ด้านสังคม o เพิ่มภาระการดูแล จำนวนกลุ่มเปราะบางที่ต้องดูแลเพิ่มขึ้น - ด้านเศรษฐกิจ -ขาดรายได้ ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น - ส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สาเหตุหลักของปัญหา - ด้านพฤติกรรม -ขาดความตระหนัก -ความสะดวก การประกอบอาชีพ ทำให้ไม่มีเวลาประกอบอาหาร เมนูส่วนใหญ่จะเป็นข้าวเหนียวไก่ทอด น้ำชา โรตี ในมื้อเช้า -ชอบกินน้ำชง น้ำหวาน นั่งร้านคาเฟ่ กินขนมเบเกอร์รี่ -ช่องทางในการสั่งซื้อ สะดวกขึ้น เช่น สั่งออนไลน์ รับหิ้ว ฯ

    -  ด้านสภาพแวดล้อมทางสังคม -งานบุญ งานนูหรี และวันสำคัญต่างๆ ในชุมชน
-เมนูงานบุญ เน้นแกงกะทิ และจัดงานบุญตอนกลางคืน       -  ด้านสภาพแวดล้อมทางกายภาพ - ร้านอาหารตามสั่ง ร้านข้างแกง ร้านข้าวมันไก่
- ร้านอาหารหน้าโรงเรียน มีเมนูใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เช่น ฟาสท์ฟู๊ด เบเกอร์รี่ อาหาร   ต่างประเทศ
- ร้านน้ำชง น้ำหวาน ร้านคาเฟ่ในชุมชน ที่เพิ่มขึ้น       - ด้านกลไกและระบบที่เกี่ยวข้อง - มีนโยบาย 3อ. 2ส. แต่ไม่มีการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง - มีนโยบายคนไทย ห่างไกล NCDs แต่เข้าไม่ถึงคนทุกระดับ

การตั้งเป้าหมายร่วมกัน 1. ด้านพฤติกรรม
- อยากให้คนในชุมชนตระหนักในการกิน หวาน มัน เค็ม - มีความรอบรู้ด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น - การปรับเปลี่ยนเมนูในการรับประทาน (ไม่จำเจ) - ลดการปรุงเพิ่ม มีการชิมก่อนปรุง - งดซด งดปรุง งดเกลือ งดโซเดียม 2. สภาพแวดล้อมทางสังคม - ลดโซเดียม ลดน้ำตาล น้ำหวานในการปรุงอาหารในชุมชน - เมนูลดเค็มในงานบุญอย่างน้อย 1 เมนู - ไม่นำน้ำหวาน น้ำอัดลม ไปงานบุญ 3. สภาพแวดล้อมทางกายภาพ - มีเมนูทางเลือกเพื่อสุขภาพ - มีจุดชิมก่อนปรุง ยกเลิกการตั้งเครื่องปรุงบนโต๊ะ - มีเมนู ลดหวานสั่งได้ ในร้านน้ำชง ร้านน้ำหวาน - มีเมนู ลดเค็มสั่งได้ ในร้านอาหารตามสั่ง 4. ด้านกลไกและระบบที่เกี่ยวข้อง - ผู้นำชุมชนประกาศนโยบาย - มีความต่อเนื่องในการปฏิบัติ





จากการดำเนินการ เกิดข้อตกลง/มาตรการชุมชน/นโยบายสาธารณะ ชุมชนร่วมกำหนดมาตรการที่ทำได้จริง ครอบคลุมระดับครัวเรือน ชุมชน/สังคม และร้านค้า ดำเนินงานอย่างมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน มาตรการสำหรับครัวเรือน 1. ให้ความรู้ เกี่ยวกับความรอบรู้ด้านสุขภาพโรคไม่ติดต่อ ตั้งแต่วัยเรียน วัยรุ่น 2. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างเคร่งครัด พร้อมติดตามการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง 3. จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากบุคคลต้นแบบ 4. ปลูกพืชผักสมุนไพร อย่างน้อย 5 ชนิด เพื่อลดการใช้โซเดียม เช่นโหระพา ใบมะกรูด คะน้าไชยา ตะไคร้ พริกสด ขิง ข่า เป็นต้น 5. ตำเครื่องแกงใช้เองในครัวเรือน 6. ลดการใช้เครื่องปรุงที่มีโซเดียมสูง เช่นน้ำปลา น้ำมันหอย ผงปรุงรส เป็นต้น

มาตรการสำหรับร้านค้า 1. ผู้บริโภค ชิมก่อนปรุง งดซด งดปรุง งดเกลือ งดโซเดียม ลดโรค 2. ร้านค้าไม่วางเครื่องปรุงบนโต๊ะ 3. ร้านค้ามีเมนูทางเลือกเพื่อสุขภาพ อย่างน้อย 1 เมนู 4. ร้านค้ามีบริการลดเค็มสั่งได้ 5. ร้านน้ำหวาน น้ำชง คาเฟ่ มีบริการลดหวานสั่งได้

มาตรการสำหรับชุมชน/สังคม 1. งานบุญมีเมนูที่มีส่วนประกอบของกะทิเพียง 1 เมนู มีเมนูน้ำใสอย่างน้อย 1 เมนู (ไม่ใส่กะปิ) เพิ่มผัก เน้นเมนูต้ม อบ นึ่ง ย่าง ยำ 2. งานบุญ (นูหรี) เลือกใช้น้ำสมุนไพรหวานน้อย หรือน้ำเปล่า ปลอดน้ำอักลม 3. ผู้ไปร่วมงานบุญ ไม่นำน้ำอัดลม น้ำหวานไปร่วมงานบุญ

 

0 0

* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น


ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม

ผลการดำเนินโครงการ

สรุปผลการดำเนินโครงการ

ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ

 

ผลผลิตโครงการ

วัตถุประสงค์สถานการณ์เป้าหมายผลผลิตอธิบาย
1 1. เพื่อให้แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว มีความรอบรู้ด้านสุขภาพ เกี่ยวกับโรคไม่ติดต่อ สามารถดูแลกลุ่มเสี่ยง กลุ่มสงสัยป่วย และกลุ่มป่วยโรคไม่ติดต่อได้
ตัวชี้วัด : ตัวชี้วัดความสำเร็จ ร้อยละ 80 ของแกนนำสุขภาพประจำครอบครัวที่เข้าร่วมโครงการ มีความรอบรู้ด้านสุขภาพ เกี่ยวกับโรคไม่ติดต่อ สามารถดูแลกลุ่มเสี่ยง กลุ่มสงสัยป่วย และกลุ่มป่วยโรคไม่ติดต่อ ให้ควบคุมโรคฯได้ (ทำแบบทดสอบหลังการอบรมผ่าน ร้อยละ 70)
70.00 80.00

 

2 2. เพื่อให้กลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานและกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและระดับความดันโลหิต ให้อยู่ในเกณฑ์ (DTX น้อยกว่า 126 mg.% และ BP ระหว่าง 90/60 mmHg. ถึง น้อยกว่า 140/90 mmHg. )
ตัวชี้วัด : ตัวชี้วัดความสำเร็จ ร้อยละ 60 ของกลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานและกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและระดับความดันโลหิต ให้อยู่ในเกณฑ์ (DTX น้อยกว่า 126 mg.% และ BP ระหว่าง 90/60 mmHg. ถึง น้อยกว่า 140/90 mmHg. )
60.00 60.00

 

3 3. กลุ่มป่วยโรคเบาหวาน มีค่าระดับน้ำตาลสะสมในเม็ดเลือดแดง (HbA1C) น้อยกว่า 6.5 หรือค่า DTXลดลง หรือน้อยกว่า 140 mg.%
ตัวชี้วัด : ตัวชี้วัดความสำเร็จ ร้อยละ 50 ของผู้ป่วยโรคเบาหวานที่เข้าร่วมโครงการฯ มีค่าระดับน้ำตาลสะสมในเม็ดเลือดแดง (HbA1C) น้อยกว่า 6.5 หรือค่า DTX ลดลง หรือน้อยกว่า 140 mg.%
50.00 50.00

 

ผู้เข้าร่วมโครงการ

กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด 0
กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน -
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน -
กลุ่มวัยทำงาน -
กลุ่มผู้สูงอายุ -
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด -
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง -
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ -
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง -
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] -

บทคัดย่อ*

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) 1. เพื่อให้แกนนำสุขภาพประจำครอบครัว มีความรอบรู้ด้านสุขภาพ เกี่ยวกับโรคไม่ติดต่อ สามารถดูแลกลุ่มเสี่ยง กลุ่มสงสัยป่วย และกลุ่มป่วยโรคไม่ติดต่อได้ (2) 2. เพื่อให้กลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานและกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและระดับความดันโลหิต ให้อยู่ในเกณฑ์ (DTX น้อยกว่า 126 mg.% และ BP ระหว่าง 90/60 mmHg. ถึง น้อยกว่า 140/90 mmHg. ) (3) 3. กลุ่มป่วยโรคเบาหวาน มีค่าระดับน้ำตาลสะสมในเม็ดเลือดแดง (HbA1C) น้อยกว่า 6.5 หรือค่า DTXลดลง หรือน้อยกว่า 140 mg.%

ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (1) ขั้นเตรียมการ          1. ประชุมเพื่อชี้แจงวัตถุประสงค์และแนวทางการดำเนินกิจกรรมในโครงการ แก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 2. เขียนโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติ 3. ประสานชี้แจงการดำเนินงานตามโครงการฯ และติดต่อวิทยากร  กิจกรรมที่ 1. กิจกรรมพัฒนาศักยภาพเชิงปฏิบัต (2) 2. กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่กลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวานและกลุ่มสงสัยป่วยโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 50 คน                1.1 ให้ความรู้เรื่องความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ คืนข้อมูลโรคไม่ติดต่อในพื้นที่ การรับรู้ (3) 3. กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ แก่ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่เข้าร่วม DM Remission Clinic จำนวน 50 คน                1.1 ให้ความรู้เรื่องความรอบรู้ด้านสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ คืนข้อมูลโรคไม่ติดต่อในพื้นที่ การรับรู้ตนเอง สาธิต

ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...

หมายเหตุ *

  • บทคัดย่อ จะนำไปใส่ในส่วนบทคัดย่อของรายงานฉบับสมบูรณ์
  • หากต้องการใช้ค่าเริ่มต้นของบทคัดย่อ ให้ลบข้อความในช่องบทคัดย่อ ทั้งหมด แล้วกดปุ่ม Refresh

ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ

ปัญหาและอุปสรรคสาเหตุข้อเสนอแนะ

 

 

 


โครงการ คนควนโดนรักษ์สุขภาพ รอบรู้ สู้โรคไม่ติดต่อ (KD Health Literacy : Together Fight NCDs) จังหวัด สตูล

รหัสโครงการ 68-L8406-1-01

ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว

................................
( นางธิดา เหมือนพะวงศ์ )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......

vertical_align_topไปบนสุด