โครงการให้ความรู้การใช้สารเคมีในเกษตรกร
ชื่อโครงการ | โครงการให้ความรู้การใช้สารเคมีในเกษตรกร |
รหัสโครงการ | 68-L3368-1 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานสาธารณสุขอื่นของ อปท. เช่น กองสาธารณสุขของเทศบาล |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | งานสาธารณสุข สำนักปลัด องค์การบริหารส่วนตำบลตะแพน |
วันที่อนุมัติ | 4 กรกฎาคม 2568 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 สิงหาคม 2568 - 30 กันยายน 2568 |
กำหนดวันส่งรายงาน | |
งบประมาณ | 18,700.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวเกศกนก วุ่นบัว |
พี่เลี้ยงโครงการ | นายสมเกียรติ กรดเต็ม |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลตะแพน อำเภอศรีบรรพต จังหวัดพัทลุง |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 45 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | ร้อยละของประชากรที่มีพฤติกรรมเสี่ยงจากการประกอบอาชีพ เช่น ใช้สารเคมีในการเกษตรโดยป้องกันตนเองไม่เหมาะสม | 0.10 | ||
2 | ร้อยละประชากรที่ขาดความรู้ หรือไม่ตระหนักในเรื่องความปลอดภัยจากการประกอบอาชีพ | 0.10 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
สถานการณ์โรคและภัยสุขภาพจากสารเคมีในปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นว่าแนวโน้มการนำเข้าสารเคมีกำจัดศัตรูพืชสูงขึ้น ส่งผลให้อัตราป่วยของโรคจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชเพิ่งสูงขึ้นเช่นกัน กลุ่มเกษตรกรเป็นกลุ่มแรงงานที่สำคัญของประเทศ และยังคงมีปัญหาการเจ็บป่วยจากพิษสารเคมีกำจัดศัตรูพืช และสารกำจัดแมลง ซึ่งอันตรายจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชดังกล่าวทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพทั้งเฉียบพลันและเรื้อรัง อาการแสดงเฉียบพลันมีตั้งแต่ระดับเล็กน้อยจนรุนแรงถึงแก่ชีวิตขึ้นอยู่กับระดับความเข้มข้น ความเป็นพิษและปริมาณที่ได้รับ ส่วนอาการเรื้อรังสารเคมีกำจัดศัตรูพืชจะสะสมในระบบต่างๆ ของร่างกายทำให้เกิดความผิดปกติในร่างกาย สารเคมีที่เข้าไปสะสมจะไปทำลายอวัยวะภายในร่างกาย เช่น ตับ ไต ปอด สมอง ผิวหนัง ระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และตา ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าจะได้รับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายทางใด และปริมาณมากน้อยเพียงใด ส่วนใหญ่แล้วการที่อวัยวะภายในร่างกายได้สะสมสารเคมีไว้จนจนถึงขีดที่ร่างกายไม่อาจทนได้ จนแสดงอาการต่างๆขึ้นมา เช่น โรคมะเร็ง โรคต่อมไร้ท่อ โรคเลือด และระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น สารเคมีกำจัดศัตรูพืชสามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายทาง โดยการสัมผัสทางผิวหนัง การสูดหายใจเอาละอองสารเคมีที่ฟุ้งกระจายในอากาศ และการรับประทานน้ำและอาหารที่มีสารเคมีปนเปื้อน ซึ่งพฤติกรรมการใช้สารเคมีที่ไม่ปลอดภัยนั้น ทำให้เกษตรกรผู้อาศัยในชุมชนและผู้บริโภคมีความเสี่ยงจากการได้รับอันตรายจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชเพิ่มขึ้น ในส่วนของการตรวจวิเคราะห์หาสารพวกออร์กาโนฟอสเฟตหรือคาร์บาเมท จากอวัยวะต่างๆ หรือจากเลือดมักจะได้ผลไม่ดี เนื่องจากสารพิษเหล่านั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในร่างกายอย่างรวดเร็ว โดยเกิดปฏิกิริยาทางเคมีหลายอย่าง จึงนิยมใช้วิธีตรวจหาระดับของเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส (Cholinesterase Enzyme) ในเลือดและอวัยวะต่างๆ เป็นการยืนยันการเป็นพิษแทน เพราะสารเคมีทั้งสองกลุ่มนี้มีความสัมพันธ์เกี่ยวโยงกับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส (Cholinesterase Enzyme) ซึ่งสามารถตรวจหาเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส (Cholinesterase Enzyme) โดยใช้กระดาษทดสอบพิเศษขององค์การเภสัชกรรม ตำบลตะแพน อำเภอศรีบรรพต จังหวัดพัทลุง ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพในภาคเกษตรกรรม โดยมีพื้นที่ที่ใช้ในการเกษตรมากถึงร้อยละ ๘๐ ของพื้นที่ทั้งหมด ผลกระทบจากการใช้สารเคมีในการควบคุมและกำจัดศัตรูพืช จึงกระจายและขยายเป็นวงกว้าง ดังนั้นงานสาธารณสุ สำนักปลัด องค์การบริหารส่วนตำบลตะแพนจึงเล็งเห็นความสำคัญของสุขภาพเกษตรกรในพื้นที่ จึงได้จัดทำโครงการให้ความรู้การใช้สารเคมีในเกษตรกร ขึ้นเพื่อให้ประชาชนและเกษตรกรกลุ่มเสี่ยงในบ้านพื้นที่ ได้รับความรู้ตรวจสุขภาพและเจาะเลือดเพื่อดูว่ามีปริมาณสารเคมีตกค้างในกระแสเลือดอยู่ในระดับใดเพื่อทำการเฝ้าระวังต่อไป
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อลดจำนวนประชากรที่มีพฤติกรรมเสี่ยงจากการประกอบอาชีพ เช่น ใช้สารเคมีในการเกษตรโดยป้องกันตนเองไม่เหมาะสม ร้อยละของประชากรที่มีพฤติกรรมเสี่ยงจากการประกอบอาชีพ เช่น ใช้สารเคมีในการเกษตรโดยป้องกันตนเองไม่เหมาะสม |
0.10 | 0.10 |
2 | เพื่อลดจำนวนประชากรที่ขาดความรู้ หรือไม่ตระหนักในเรื่องความปลอดภัยจากการประกอบอาชีพ ร้อยละประชากรที่ขาดความรู้ หรือไม่ตระหนักในเรื่องความปลอดภัยจากการประกอบอาชีพ |
0.10 | 0.10 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
คงเหลือ (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 0 | 18,700.00 | 2 | 18,700.00 | 0.00 | |
1 ส.ค. 68 - 30 ก.ย. 68 | กิจกรรมให้ความรู้ในการใช้สารเคมีในเกษตรกร | 0 | 11,050.00 | ✔ | 11,050.00 | 0.00 | |
1 ส.ค. 68 - 30 ก.ย. 68 | กิจกรรมคัดกรองสารเคมีในเลือดด้วยเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส (Cholinesterase Enzyme) | 0 | 7,650.00 | ✔ | 7,650.00 | 0.00 | |
รวมทั้งสิ้น | 0 | 18,700.00 | 2 | 18,700.00 | 0.00 |
1.ให้ความรู้แก่เกษตรกรเกี่ยวกับการใช้สารเคมีอย่างถูกต้อง ปลอดภัย และถูกวิธี.
2.ส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้สารเคมีและการดูแลสุขภาพตนเอง.
3.เกษตรกรมีสุขภาพที่ดีขึ้นและสามารถประกอบอาชีพเกษตรได้อย่างยั่งยืน.
4.เพื่อประเมินความเสี่ยงของเกษตรกรต่อการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืช
5.เพื่อค้นหาเกษตรกรกลุ่มเสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบจากการสัมผัสสารเคมี
6.เพื่อนำข้อมูลที่ได้จากการตรวจไปใช้ในการส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรคที่เกิดจากการสัมผัสสารเคมี
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2568 00:00 น.