โครงการควบคุมโรคมาลาเรียในชุมชน ตำบลปะแต
ชื่อโครงการ | โครงการควบคุมโรคมาลาเรียในชุมชน ตำบลปะแต |
รหัสโครงการ | 61-4149-02-02 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 2 สนับสนุนกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคของกลุ่มหรือองค์กรประชาชน/หน่วยงานอื่น |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานสาธารณสุขอื่นของ อปท. เช่น กองสาธารณสุขของเทศบาล |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | สำนักปลัด เทศบาลตำบลปะแต |
วันที่อนุมัติ | 8 พฤศจิกายน 2560 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 พฤศจิกายน 2560 - 31 สิงหาคม 2561 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 31 สิงหาคม 2561 |
งบประมาณ | 224,650.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางสาวสากีเราะฮ์บือราเฮง |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลปะแต อำเภอยะหา จังหวัดยะลา |
ละติจูด-ลองจิจูด | 6.344,101.139place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 3000 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง : |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคมาลาเรีย ยังเป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญในประเทศไทย จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีแม้ผู้ป่วยจะได้รับการรักษาในโรงพยาบาลมากขึ้นแต่อัตราตายจากมาลาเรียยังคงสูงและในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตทั่วโลกประมาณ 627,000 คน โดยส่วนใหญ่จะเสียชีวิตจากมาลาเรียขึ้นสมอง เป็นปัญหาด้านสาธารณสุขที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพของประชาชน สถานการณ์ทั่วไปโรคไข้มาลาเรียช่วง ปี 2558 2559 และ 2560 พบผู้ป่วยโรคไข้มาลาเรีย 17,444 13,570 และ 8,919 ราย อัตราป่วยด้วยโรคมาลาเรียต่อพันประชากร 0.27 0.21 และ 0.14 ตามลำดับ โดยจังหวัดยะลา พบผู้ป่วยโรคไข้มาลาเรีย เป็นพื้นที่หนึ่งที่มีการระบาดของโรคมาลาเรีย อย่างต่อเนื่องทุกปี จึงได้มีการเน้นให้มีการควบคุมโรคมาลาเรียเป็นนโยบายหลักของงานด้านสาธารณสุข อำเภอยะหา เป็นอำเภอหนึ่งที่มีการระบาดของโรคมาลาเรียของจังหวัดยะลา โดยเฉพาะในเขตตำบลปะแตมีการระบาดมากที่สุด ในปี ๒๕๕7 พบผู้ป่วย จำนวน 107 ราย พบมากที่หมู่ที่ 8 เหมืองลาบู และพบการระบาดอย่างต่อเนื่อง ปี 2560 พบผู้ป่วยด้วยโรคมาลาเรียจำนวน 255 ราย (สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง,กรมควบคุมโรค) พบสูงสุดที่หมู่ที่ 9 บ้านตะโละเวสาเหตุจากยุงก้นปล่องที่เป็นพาหะนำโรค ประกอบกับสภาพพื้นที่ของตำบลที่มีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการระบาดของโรค ความเสี่ยงของโรคลดได้โดยการป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัด โดยใช้มุ้งหรือสารขับไล่แมลง หรือด้วยมาตรการควบคุมยุง เช่น การฉีดพ่นยาฆ่าแมลงหรือการระบายน้ำนิ่ง มียารักษาโรคหลายชนิดที่ป้องกันมาลาเรียในผู้ที่เดินทางไปยังบริเวณที่พบโรคมาลาเรียทั่วไป แนะนำให้ใช้ยารักษาโรคซัลฟาด็อกซีน/ไพริเมธามีนบางครั้งในทารกและหลังไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ในบริเวณซึ่งมีโรคมาลาเรียอัตราสูง โรคมาลาเรียยังไม่มีวัคซีนนอกจากนี้พฤติกรรมสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ ทำให้ไม่มีการตื่นตัวร่วมกันป้องกันและควบคุมโรคมาลาเรีย จึงทำให้โรคไข้มาลาเรียมีการระบาดตลอดปี และมีการระบาดในทุกกลุ่ม
ดังนั้นเพื่อไม่ให้มีการระบาดของโรคมาลาเรีย จึงต้องมีการป้องกัน โดยการสร้างความเข้าใจ ให้ความสำคัญ และให้ความร่วมมือในการพ่นสารเคมีตกค้างในบ้าน เพื่อให้เกิดความร่วมมือในชุมชนอย่างจริงจัง นำไปสู่การป้องกันโรคไข้มาลาเรียได้
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | แกนนำมาลาเรียมีความรู้ความเข้าใจเรื่องโรคมาลาเรียระดับดีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 |
1.00 | |
2 | ครัวเรือนในพื้นที่ระบาด A1และA2 ได้รับการพ่นสารเคมีตกค้างทุกหลัง 3239 หลังคาเรือน |
1.00 |
วันที่ | ชื่อกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) | งบกิจกรรม (บาท) | ทำแล้ว | ใช้จ่ายแล้ว (บาท) | |
---|---|---|---|---|---|---|
19 - 20 ธ.ค. 60 | กิจกรรม อบรมเชิงปฏิบัติการ การควบคุมโรคมาลาเรียในชุมชนสำหรับแกนนำมาลาเรีย | 50 | 16,000.00 | ✔ | 16,000.00 | |
1 - 28 ก.พ. 61 | กิจกรรม เจาะเลือดคัดกรองมาลาเรียเพื่อค้นหาผู้ป่วยในพื้นที่แหล่งโรค A1,A2 | 5000 | 46,700.00 | ✔ | 47,600.00 | |
5 มี.ค. 61 - 31 พ.ค. 61 | กิจกรรม พ่นสารเคมีตกค้างพื้นที่แหล่งโรค (A1, A2) และการค้นหาผู้ป่วย | 1000 | 161,950.00 | ✔ | 161,950.00 | |
รวม | 6,050 | 224,650.00 | 3 | 225,550.00 |
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2561 13:27 น.