โครงการค่ายจัดการความเครียดกับเด็กในวัยเรียน เยาวชนโคกทราย
แบบรายงานการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์
รายงานฉบับสมบูรณ์
โครงการ
“ โครงการค่ายจัดการความเครียดกับเด็กในวัยเรียน เยาวชนโคกทราย ”
ตำบลบ้านควน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล
หัวหน้าโครงการ
นายอานัส ปาเต๊ะ
ได้รับการสนับสนุนโดย กองทุนสุขภาพตำบล อบต.บ้านควน
กันยายน 2563
ชื่อโครงการ โครงการค่ายจัดการความเครียดกับเด็กในวัยเรียน เยาวชนโคกทราย
ที่อยู่ ตำบลบ้านควน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล จังหวัด สตูล
รหัสโครงการ 62-L5307-2-15 เลขที่ข้อตกลง
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2562 ถึง 30 กันยายน 2563
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการค่ายจัดการความเครียดกับเด็กในวัยเรียน เยาวชนโคกทราย จังหวัดสตูล" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลบ้านควน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.บ้านควน ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการค่ายจัดการความเครียดกับเด็กในวัยเรียน เยาวชนโคกทราย
บทคัดย่อ
โครงการ " โครงการค่ายจัดการความเครียดกับเด็กในวัยเรียน เยาวชนโคกทราย " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลบ้านควน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล รหัสโครงการ 62-L5307-2-15 ระยะเวลาการดำเนินงาน 1 มีนาคม 2562 - 30 กันยายน 2563 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 20,050.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล อบต.บ้านควน เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้
โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ »
บทคัดย่อ »
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล »
วัตถุประสงค์โครงการ »
กิจกรรม/การดำเนินงาน »
กลุ่มเป้าหมาย »
ผลลัพธ์ที่ได้ »
การประเมินผล »
ปัญหาและอุปสรรค »
ข้อเสนอแนะ »
เอกสารประกอบอื่นๆ »
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
เด็กและเยาวชนเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า และเป็นอนาคตของชาติ ต้องได้รับการพัฒนาตามองค์รวมครบทุกด้าน ทั้งกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญาและจริยธรรมคุณธรรม ทั้งนี้การพัฒนาเด็กและเยาวชนต้องอาศัยการบูรณาการผสมผสานกับวิถีชีวิตและสภาพแวดล้อมของเด็กและเยาวชนโดยสถานการณ์ที่เกี่ยวกับปัญหาในวัยเด็ก พบว่ามีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในประเด็นของความเครียดอันเนื่องมาจากปัญหาสภาพแวดล้อม ครอบครัว กลุ่มเพื่อน ความรัก และที่สำคัญก็คือด้านการศึกษา จากการวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาดังกล่าวพบว่า ครอบครัวยังขาดศักยภาพในการดูแลสมาชิกของตนเอง และระบบการศึกษาก็เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่ทำให้เด็กเกิดภาวะเครียด
สถานการณ์เยาวชนในพื้นที่หมู่บ้านโคกทรายในปัจจุบัน พบว่าสภาพจิตใจของเด็กในชุมชนเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ทั้งปัญหาครอบครัว ปัญหาการเรียน ตัวอย่างเช่น ครอบครัวไม่สนใจกับเด็กส่งผลให้เด็กเกิดความน้อยใจ เก็บกด และนำไปสู่ภาวะความเครียดทำอย่างไรที่จะไห้เด็กได้ขจัดความเครียดเหล่านี้ออกไป มีทักษะในการบริหารความเครียด ทำให้จิตใจปรอดโปร่งสดใส่ เช่น หากิจกรรมกับครอบครัวและหันหน้าเข้ามาคุยกัน เพื่อที่จะบรรเทาความเครียดออกไปได้และทางโรงเรียนควรมีกิจกรรมเพื่อผ่อนคลายให้เด็กปล่อยความเครียดที่เขาอาจจะพูดกับครอบครัวไม่ได้ ให้ทางโรงเรียนได้มีส่วนร่มในการลดภาวะความเครียดในวัยเด็กนี้ได้
ดังนั้นกลุ่มเยาวชนโคกทรายจึงได้จัดโครงการค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมซึ่งเป็นการสนับสนุนให้เด็กมีโอกาสในการแสดงออกและปลดปล่อยสิ่งที่อยู่ด้านในจิตใจของเขาเพื่อลดภาวะความเครียดให้เด็กวัยเรียน และสงเสริมให้เด็กมีสมรรถภาพร่างกายและจิตใจที่เข้มแข็งจึงไดร่วมกันจัดโครงการค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อเป็นสื่อกลางในการลดภาวการณ์เครียด ให้เด็กมีทักษะในการรับมือกับความเครียดอย่างถูกต้องตลอดจนสามารถรู้จักเลือกทางชีวิตที่ดีต่อไปในอนาคต
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- เพื่อให้เด็กในวัยเรียน(อายุ 13 -18 ปี)มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการความเครียดอย่างง่ายได้
- เพื่อให้เด็กในวัยเรียน (อายุ 13-18 ปี)มีทักษะและสามารถเลือกวิธีการจัดการความเครียดที่เหมาะสมกับตนเองได้
- เพื่อให้เด็กในวัยเรียน (อายุ 13-18ปี)สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการผ่อนคลายความเครียดกับสมาชิกในกลุ่มได้
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- รวมพลคนเครียด
- ค่ายจัดการความเครียด
- ถอดบทเรียน การจัดการความเครียดในกลุ่มเยาวชน
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
40
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
40
กลุ่มวัยทำงาน
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
- เด็กในวัยเรียนสามารถจัดการความเครียดที่เกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม
- เด็กในวัยเรียนสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีการผ่อนคลายความเครียดและแนะนำวิธีการผ่อนคลายความเครียดแก่เพื่อนได้
- เด็กในวัยเรียนสามารถนำความรู้ที่ได้ ไปใช้ในการผ่อนคลายความเครียดที่เกิดขึ้นจากการเรียนได้
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์**
กิจกรรมของโครงการ ผลผลิต* ผลผลิตที่ตั้งไว้ ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง
1. รวมพลคนเครียด
วันที่ 30 สิงหาคม 2562กิจกรรมที่ทำ
มีการเปิดรับสมัครเยาวชนในวัยเรียนที่มีอายุระหว่าง 13-18 ปี ที่สนใจอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 3 บ้านโคกทราย ตำบลบ้านควน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล จำนวน 40 คน ที่ศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด (ตาดีกา) บ้านโคกทราย ได้รับความสนใจจากเยาวชนในชุมชนบ้านโคกทราย เป็นอย่างมาก หลังจากเยาวชนลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมโครงการดังกล่าวแล้ว ทางฝ่าย staff ได้ให้ผู้เข้าร่วมทำแบบประเมินการจัดการความเครียดก่อนการเข้าร่วมโครงการ เพื่อประเมินการจัดการความเครียดของกลุ่มเป้าหมาย บรรยากาศในงานในกิจกรรมนี้เต็มไปด้วยความอบอุ่นจากพี่เลี้ยง staff และได้รับความร่วมมือ เป็นอย่างดี จากผู้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
- ได้กลุ่มเยาวชนในวัยเรียนบ้านโคกทรายที่มีอายุระหว่าง13-18 ปี จำนวน 40 คน
- ได้ผลประเมินภาวะความเครียดของเยาวชนในวัยเรียนบ้านโคกทรายที่มีอายุระหว่าง13-18 ปี ก่อนร่วมโครงการ
40
0
2. ค่ายจัดการความเครียด
วันที่ 7 กันยายน 2562กิจกรรมที่ทำ
ค่ายจัดการความเครียด
- กิจกรรมย่อย 1 กิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับความเครียด
ท่านวิทยากรในการให้ความรู้เกี่ยวกับความเครียดในครั้งนี้คือ นางซอร์ฟีเย๊าะ สองเมือง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลควนโดน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล ได้พูดคุยกับเยาวชนผู้ร่วมกิจกรรมจำนวน 40 คนและร่วมทำกิจกรรมละลายพฤติกรรมเพราะกิจกรมละลายพฤติกรรมเป็นกระบวนการเชิงจิตวิทยาที่อออกแบบขึ้นมาเพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้มีโอกาสเปิดใจ ทำลายกำแพงกั้นความสุขของการอยู่ร่วมกัน แสดงความเป็นตัวเอง แสดงตัวตน ทำความรู้จักและเปิดเผยตัวเองออกมาให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มได้รู้จักกันมากขึ้น ถือเป็นกิกรรมเริ่มต้นที่ต้องทำก่อนเริ่มกิจกรรมอืนๆ ครั้งนี้ว่า ความเครียดเป็นภาวะของอารมณ์หรือความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อบุคคลต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ และทำให้รู้สึกถูกกดดัน ไม่สบายใจ วุ่นวายใจ กลัว วิตกกังวล ตลอดจนถูกบีบคั้น เมื่อบุคคลรับรู้หรือประเมินว่าปัญหาเหล่านั้นเป็นสิ่งที่คุกคามจิตใจ หรืออาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกาย จะส่งผลให้สภาวะสมดุลของร่างกายและจิตใจเสียไป แบบไหนถึงจะเรียกว่าเครียด?
เมื่อเกิดความเครียด บุคคลจะแสดงปฏิกิริยาตอบสนองต่อความเครียดและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย ด้านจิตใจและอารมณ์ รวมทั้งด้านพฤติกรรม แต่เมื่อเวลาผ่านไป และความเครียดเหล่านั้นคลายลง ร่างกายจะกลับเข้าสู่ภาวะสมดุลอีกครั้งหนึ่ง ผลจากปฏิกิริยาตอบสนองที่มีต่อความเครียด ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตัวบุคคลนั้น โดยแบ่งออกเป็น 3 ด้าน ได้แก่
1. ด้านร่างกาย ภาวะที่เครียดเกิดขึ้นจะกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติ ทำให้เกิดอาการหน้ามืด
เป็นลม เจ็บหน้าอก ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หลอดเลือดอุดตัน โรคอ้วน แผลในกระเพาะอาหาร เมื่อบุคคลตกอยู่ในความเครียดเป็นเวลานาน จะทำให้สุขภาพร่างกายเลวลงเนื่องจากเกิดความไม่สมดุลของระบบฮอร์โมน ซึ่งเป็นชีวเคมีที่สำคัญต่อมนุษย์ เพราะทำหน้าที่ช่วยควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ภายใน ขณะเกิดความเครียดจะทำให้ต่อมใต้ถูกกระตุ้น ทำให้ต่อมหมวกไตหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (cortisol) เพิ่มขึ้น จะทำให้เกิดอาการทางกายหลายอย่างแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ตั้งแต่ปวดศีรษะ ปวดหลัง อ่อนเพลีย หากบุคคลนั้นต้องเผชิญกับความเครียดที่รุนแรงมากๆ อาจส่งผลให้บุคคลเสียชีวิตได้เนื่องจากระบบการทำงานที่ล้มเหลวของร่างกาย เช่นคนที่มีโรคเบาหวานเป็นโรคประจำตัวอยู่แล้ว หากเกิดความเครียดอย่างรุนแรง ฮอร์โมนคอร์ติซอลจะไปกระตุ้นระดับน้ำตาลในเลือดให้สูงขึ้นหรือลดต่ำลงอย่างผิดปกติ และทำให้เกิดอาการช็อกได้ หรือในบางรายที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ไม่เต็มที่ส่งผลให้เกิดเป็นอาการของโรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ต่างๆ โรคผิวหนัง อาจมีอาการผมร่วงและมีอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับคนปกติ
2. ด้านจิตใจและอารมณ์ จิตใจของบุคคลที่เครียดจะเต็มไปด้วยการหมกมุ่นครุ่นคิด ไม่สนใจสิ่งรอบตัว ใจลอย ขาดสมาธิ ความระมัดระวังในการทำงานเสียไปเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย จิตใจขุ่นมัว โมโหโกรธง่าย สูญเสียความเชื่อมั่นในความสามารถที่จะจัดการกับชีวิตของตนเอง เศร้าซึม คับข้องใจ วิตกกังวล ขาดความภูมิใจในตนเอง ในบางรายที่ตกอยู่ในภาวะเครียดอย่างยาวนานมาก อาจก่อให้เกิดอาการทางจิต จนกลายเป็นโรคจิตโรคประสาทได้ เนื่องจากการเผชิญต่อภาวะเครียดเป็นเวลานานฮอร์โมนคอร์ติซอลที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น จะทำให้เซลล์ประสาทฝ่อและลดจำนวนลง โดยเฉพาะในสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับกับความจำและสติปัญญา ความเครียดจึงทำให้ทำให้ความจำและสติปัญญาลดลง และยังมีผลต่อการทำงานของระบบสารสื่อประสาทที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับอารมณ์และพฤติกรรมโดยเฉพาะสารสื่อประสาท จึงทำให้เกิดอาการซึมเศร้าและวิตกกังวลกว่าเวลาปกติ
3. ด้านพฤติกรรม การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายดังที่กล่าวในข้างต้น ไม่เพียงแต่จะทำให้ระบบการ
ทำงานของร่างกายผิดเพี้ยนไป แต่ยังทำให้พฤติกรรมการแสดงออกของบุคคลเปลี่ยนแปลงด้วย ยกตัวอย่างเช่น บุคคลที่เครียดมากๆ บางรายจะมีอาการเบื่ออาหารหรือบางรายอาจจะรู้สึกว่าตัวเองหิวอยู่ตลอดเวลาและทำให้มีการบริโภคอาหารมากกว่าปกติ มีอาการนอนหลับยากหรือนอนไม่หลับหลายคืนติดต่อกัน ประสิทธิภาพในการทำงานน้อยลง เริ่มปลีกตัวจากสังคม และเผชิญกับความเครียดอย่างโดดเดี่ยว บ่อยครั้งบุคคลจะมีพฤติกรรมการปรับตัวต่อความเครียดในทางที่ผิด เช่น สูบบุหรี่ ติดเหล้า ติดยา เล่นการพนัน การเปลี่ยนแปลงของสารเคมีบางอย่างในสมองทำให้บุคคลมีพฤติกรรมก้าวร้าวมากขึ้น ความอดทนเริ่มต่ำลง พร้อมที่จะเป็นศัตรูกับผู้อื่นได้ง่าย อาจมีการอาละวาดขว้างปาข้าวของ ทำร้ายผู้อื่น ทำร้ายร่างกายตนเอง หรือหากบางรายที่เครียดมากอาจเกิดอาการหลงผิดและตัดสินใจแบบชั่ววูบนำไปสู่การฆ่าตัวตายในที่สุด
หลังจากนั้นวิทยากรให้ผู้ร่วมกิจกรรมแบ่งกลุ่มๆละ 8-9 คน ประมาณ 6 กลุ่ม วิทยากรได้ให้ผู้ร่วมกิจกรรมพูดคุยและทำกิจกรรมร่วมกัน
กิจกรรมย่อย 2 กิจกรรม ค้นหาความเครียด เป็นลักษณะกิจกรรมเข้าฐาน
แบ่งเป็นฐานความเครียดจากครูรวมไปถึงปัจจัยจากการเรียนและโรงเรียนด้วย ฐานความเครียดจากเพื่อน ฐานความเครียดจากครอบครัว ฐานความเครียดจากสังคมและฐานความเครียดจากแฟน กลุ่มสต๊าฟ ได้แบ่งผู้ร่วมกิจกรรม เป็นทั้งหมด 5 กลุ่ม กลุ่มละ 8 คน กิจกรรมนี้ เป็นกิจกรรมเข้าฐานเพื่อไปเรียนรู้ปัจจัยหรือสิ่งแวดล้อมต่างๆที่ทำให้เกิดความเครียด แต่ละกลุ่มจะเข้าฐานวนเวียนไปจนครบฐาน ซึ่งในแต่ละฐานจะมีกลุ่มสต๊าฟคอยให้ความรู้และข้อมูลแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม มีทั้งวิชาการและนันทนาการ ให้เกิดความรู้มากที่สุด
กิจกรรมย่อย 3 กิจกรรมภาคกลางคืนเมื่อฉันเครียด เป็นการแสดงบทบาทสมมุติของแต่ละกลุ่ม ที่ถอดบทเรียนจากกิจกรรมในภาคกลางวัน โดยให้แต่ละกลุ่มแสดงบทบาทตามที่ได้จับฉลาก บทบาทสมมุติมี 5 ประเภท ได้แก่ ความเครียดจากครู ฐานความเครียดจากเพื่อน ฐานความเครียดจากครอบครัว ฐานความเครียดจากสังคมและฐานความเครียดจากแฟน ผู้เข้าร่วมกิจกรรมรู้สึกสนุกสนานและผ่อนคลาย ก่อนแยกย้ายทางสต๊าฟได้ชี้แจงรายละเอียดในกิจกรรมถัดไป คือกิจกรรมการเรียนรู้การจัดการความเครียด
กิจกรรมย่อย 4 กิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการความเครียด การจะจัดการกับความเครียด น้องๆต้องหาว่าความเครียดเกิดจากสาเหตุใด และร่างกายเราตอบสนองต่อความเครียดนั้นอย่างไร ขั้นตอนต่อมาต้องเรียนรู้วิธีการจัดการเกี่ยวกับความเครียดซึ่งมีวิธีดังนี้
1. ค้นหาปัญหาที่ทำให้เกิดความเครียด เป็นข้อที่สำคัญที่สุด หากไม่ทราบสาเหตุ ก็ไม่สามารถป้องกันได้ บางคนอาจจะไม่ทราบว่าเครียดจากอะไร น้องๆลองสำรวจตัวเองสิว่าชีวิตประจำวันของน้องมีอะไรบ้างที่น้องเบื่อ เช่นการพูดคุยกับผู้ปกครอง พี่น้อง เพื่อน งานบ้านน่าเบื่อ งานที่โรงเรียนมาก บทบาทของตนเองไม่ชัดเจนฯลฯ น้องลองสำรวจอาการของน้องเมื่อพบสิ่งที่ไม่ชอบหรือน่าเบื่อ เช่นโกรธ เบื่อ ท้อแท้ ปวดศีรษะ เหล่านี้คือเหตุที่ให้เกิดความเครียด ปัจจัยใดที่ทำให้น้องเครียดที่สุด ภาวะใดที่น้องกลัวมาก น้องอาจจะจดลงในสมุดบันทึกเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความเครียด อาการที่แสดงออก หลังจากที่ทราบสาเหตุแล้วก็ลองแก้ไข หากบางสิ่งสามารถหลีกเลี่ยงได้ก็ให้หลีกเลี่ยงเช่นบางคนไม่ชอบดูละครดราม่า เจ้าน้ำตาก็ไม่ต้องดูหรือพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ
2. การป้องกัน หลังจากทราบสาเหตุแล้วการป้องกันความเครียดจะเป็นวิธีที่ไม่ให้เกิดความเครียดซึ่งมีวิธีการต่างๆดังนี้ การเตรียมตัวเพื่อรับความเครียดสามารถทำได้ดังนี้
- การวางแผน เมื่อเกิดปัญหาหรือความเครียดพยายามตั้งสติและใช้ปัญญาหาทางแก้ไข
- เมื่อมีปัญหาพยายามหาทางเลือกหลายๆทาง และเลือกทางแก้ที่ดีที่สุด
- ขณะเรียนก็วางแผนอนาคตไปด้วย ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้และท้าทายการตั้งเป้าหมายเกินความสามารถเล็กน้อยจะเป็นการท้าทาย หากทำสำเร็จก็จะเกิดความภูมิใจความมั่นใจในตัวเองก็จะตามมา
- ตั้งเป้าหมายที่สมเหตุสมผลซึ่งจะทำให้เกิดแรงจูงใจที่จะกระทำ หากตั้งเป้าเกินความจริงจะทำให้เกิดความเครียด หากต้องการประสบความสำเร็จต้องพัฒนาความสามารถเพิ่ม แต่ถ้าไม่พยายามก็ไม่ประสบผลสำเร็จความเครียดก็จะเกิดตามมาและในที่สุดก็เลิกไปเอง
- จัดลำดับความสำคัญ และความเร่งด่วนของงาน งานที่สำคัญอาจจะไม่ใช่งานที่เร่งด่วนก็ได้ ให้ทำงานที่เร่งด่วนก่อน และก็ไปงานที่สำคัญ ขณะเรียนก็อย่ากังวลว่างานที่ยังไม่ได้ทำ ให้ทำงานที่ยากที่สุดก่อนงานอื่น
- หลีกเลี่ยงการรับผิดชอบงานที่มากเกินไป
- เมื่อมีความเครียดให้หยุดงานสักพักและหลีกหนีจากสถานการณ์ที่ทำให้น้องเครียด
- หลีกเลี่ยงการถกเถียงประเด็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หรือประเด็นที่หาข้อสรุปไม่ได้
3. แก้ไข แม้ว่าเราไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงความเครียด แต่เราสามารถลดโรคที่เกิดจากความเครียดโดย
- ปรึกษากับเพื่อน ครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงานจะช่วยท่านมองปัญหาในแง่มุมอื่นๆ ท่านจำเป็นต้องบอกเพื่อนร่วมงานว่าบางสิ่งไม่สามารถทำได้ ต้องรู้จักปฏิเสธ ท่านอาจจะต้องลดงานพิเศษบางอย่างขณะเกิดความเครียด ท่านต้องเคารพตัวเองไม่เอาเปรียบตัวเอง ไม่ทำงานเกินความสามารถตัวเอง ไม่ทำงานจนไม่มีเวลาพักผ่อน การทำงานต้องมีขอบเขตหากมิเช่นนั้นท่านอาจจะเป็นผู้ปกครองที่ไม่ดี เป็นเพื่อนร่วมงานที่ไม่ดี ต้องสามารถควบคุมอารมณ์โกรธได้ดี เมื่อโกรธก็หาสิ่งที่ชอบทำเช่นการฟังเพลง การเดิน
- อย่าซึมเศร้า เมื่อท่านมีโรคประจำตัวหรือประสบกับความผิดหวัง ท่านอาจจะหมดกำลังใจ ซึมเศร้า ชีวิตนี้ไม่มีความหวังอีกแล้ว อาการซึมเศร้าจะทำให้ท่านประสบกับความทุกข์ยากและทำให้อาการเจ็บปวดเพิ่มขึ้น ท่านอาจจะคิดว่า "ทำไมต้องเป็นเรา" "ทำไมเราถึงต้องทำสิ่งนั้น" "ทำไมเราทำสิ่งนั้นไม่ได้"คนปกติทุกคนจะคิดเหมือนกัน ท่านต้องทำใจและพยายามแก้ไข
- ทำชีวิตให้สบายๆอย่าทำชีวิตให้วุ่นวาย ทำตัวสบายๆงานที่ไม่สำคัญก็ไม่ต้องทำ
- เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้น ให้พยายามทำในสิ่งที่ตัวเองชอบและมีความสุข
- บริหารเวลาให้เหมาะสม จัดลำดับความสำคัญของงานให้ทำงานที่หนักเมื่อรู้สึกสบายหรือทำในตอนเช้า จัดเวลาสำหรับพักด้วย
- ให้ทำงานที่ละอย่างจนสำเร็จโดยการตั้งเป้าหมายในแต่ละวัน การตั้งเป้าหมายไม่จำเป็นต้องเป็นงานอาจจะเป็นงานอดิเรกก็ได้เมื่อได้กระทำสำเร็จจะเกิดความภูมิใจ
- เมื่อไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ปรึกษาแพทย์
4. ยอมรับความจริง
- ยอมรับความจริงว่าน้องสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้แต่น้องไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคนอื่น เพราะหากน้องคิดเปลี่ยนแปลงคนอื่นแล้วไม่สำเร็จ น้องก็จะเกิดความเครียด
- ยอมรับความจริงว่าคนทุกคนไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบต้องมีข้อบกพร่องยอมรับกับข้อบกพร่องความเครียดจะน้อยลง หลายคนคาดหวังว่าคนใช้จะสามารถทำงานได้ดีเท่ากับที่ตัวเองทำ เมื่อคนใช้ทำไม่ได้ก็เกิดความเครียด
- สร้างอารมณ์ขันให้กับตัวเองโดยเฉพาะเมื่อเวลาเกิดความเครียด ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับความเครียดแนะนำให้หัวเราะเมื่อมีความเครียด โดยจัดเวลาสำหรับงานบันเทิง คุยเรื่องตลกกับเพื่อนหรือดูตลก การหัวเราะจะช่วยลดความตึงเครียดได้เป็นอย่างดี อย่าปล่อยให้ตัวท่านตึงเครียดมืดมน มองโลกในแง่ดี
- ให้นึกว่าท่านสามารถเรียนรู้บางสิ่งจากเหตุการณ์ทุกอย่าง
5. หลีกเลี่ยง
- หลีกเลี่ยงความเครียดเล็กน้อย เช่นรถติดก็ออกจากบ้านให้เช้าขึ้น หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น
- หลีกเลี่ยงหรืออยู่ห่างๆบุคคลที่ทำให้ท่านเครียด เช่นแฟนที่ขี้บ่น เจ้านายที่จุกจิก
- หลีกเลี่ยงการรับผิดชอบงานที่มากเกินไป
- เมื่อมีความเครียดให้หยุดงานสักพักและหลีกหนีจากสถานการณ์ที่ทำให้คุณเครียด
- หลีกเลี่ยงการถกเถียงประเด็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หรือประเด็นที่หาข้อสรุปไม่ได้
6. การปรับเปลี่ยน เป็นการปรับเปลี่ยนขบวนความคิดและการปฏิบัติตนเพื่ออนาคตที่ดีกว่า
- ปรับเปลี่ยนวิธีคิด มองโลกในแง่ดีเสมอไม่พยายามมองโลกในแง่ร้าย ทุกปัญหามีทางออก เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส โลกมี่ทั้งกลางวันและกลางคืน หาหนทางที่จะพลิกสถานการณ์
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม รู้จักปฏิเสธในส่วนไม่ใช่ความรับผิดชอบของตัวเอง ลดความรีบร้อน หัดทำงานให้เสร็จที่ละอย่าง หัดกระจายงานสู่ผู้อื่น หางานอดิเรกทำที่ทำให้หายเบื่อ
- ปรับเปลี่ยนสภาพทำงาน ปรึกษากันเพื่อลดข้อขัดแย้งในการทำงาน กำหนดความรับผิดชอบของแต่ละคนกำหนดเจ้านายให้แน่นอน กำหนดกฎเกณฑ์ที่เอื้อต่อการทำงานมีระบบให้คำปรึกษาเรื่องความเครียด
- ปรับเปลี่ยนความรู้สึกของตัวเองหัดสร้างอารมณ์ขันในภาวะที่เครียดยอมรับคำตำนิรู้จักผ่อนคลายเครียด
กิจกรรมย่อย 5 กิจกรรมสงครามล้างความเครียด เป็นลักษณะเกมการบริหารจัดการตนเองกับความเครียดและการถอดบทเรียนจากกิจกรรม
กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมสุดท้ายของค่ายครั้งนี้ โดยให้แบ่งกลุ่มใหญ่ๆ 2 กลุ่ม เท่าๆกัน และให้มีราชีนี 1 คน ลักษณะเกมนี้ให้ทั้งสองฝั่งทำสงครามกันเพื่อแย่งชิงราชีนี อาวุธคือ ถุงที่ใสน้ำ ทั้งสองฝั่งขวางกัน ใครโดนถือว่าตายให้ออกจากเกม ฝั่งไหนตายหมดถือว่าแพ้ ผู้ชนะจะได้ครอบครองราชีนีไป เกมนี้ผ่านไปด้วยดี ทั้งสนุกสนานและผ่อนคลาย หลังจากนั้นให้ตัวแทนกลุ่มสรุปว่าได้อะไรบ้าง
ท้ายสุดพี่สต๊าฟได้สรุปและถอดบทเรียนอีกครั้งว่าเกมนี้อ้างอิงมาจาก (งานวิจัย Linden,2005) เพราะเกมนี้จะสำเร็จหรือชนะได้ต้องผ่านการวางแผน การจัดการตนเอง การจัดการความโกธร การแก้ปัญหา การผ่อนคลาย และการปรับความคิด ถ้าหากฝ่ายไหนนำกระบวนการทั้งหมดนี้ไปใช้ก็สามารถชนะได้ในเกมและสามารถไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันของตนเองได้ด้วย
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
- เยาวชนในวัยเรียนบ้านโคกทรายที่มีอายุระหว่าง13-18 ปี ได้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความเครียด
- เยาวชนในวัยเรียนบ้านโคกทรายที่มีอายุระหว่าง13-18 ปี ได้ทักษะการจัดการความเครียดและสามรถเลือกวิธีการจัดการความเครียดที่เหมาะสมกับตนเองในชีวิตจริงได้
- เยาวชนในวัยเรียนบ้านโคกทรายที่มีอายุระหว่าง13-18 ปี ได้เรียนรู้ประสบการณ์และกลวิธีการผ่อนคลายที่ถูกต้อง สมารถแลกเปลี่ยนภายในกลุ่มได้
-
- ได้ผลประเมินภาวะความเครียดของเยาวชนในวัยเรียนบ้านโคกทรายที่มีอายุระหว่าง13-18 ปี หลังร่วมโครงการ
40
0
3. ถอดบทเรียน การจัดการความเครียดในกลุ่มเยาวชน
วันที่ 14 กันยายน 2562กิจกรรมที่ทำ
นางสาวอาลิสา สะอะ พี่เลี้ยงโครงการฯ ได้กล่าวกับผู้ร่วมโครงการว่า ก่อนอื่น ต้องขอขอบคุณน้องๆทุกคนที่เสียสละเวลามาทำกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะได้รับความรู้ และทักษะเกี่ยวกับการจัดการความเครียด เพื่อนำไปใช้กับตนเอง ในชีวิตประจำวันไม่มากก็น้อย และขอขอบคุณทีมงานสต๊าฟ ที่เสียสละเวลาส่วนตัว เพื่อมาอยู่ที่นี่ เพื่อมานำน้องๆทำในสิ่งที่ดีๆ ในครั้งนี้และอยากให้น้องสต๊าฟ คิดคำนึงว่าครั้งหนึ่งเราได้มีโอกาสมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ขอบคุณที่ ร่วมเดินกันมาจนถึงวันนี้เป็นงานสุดท้ายของเรา ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ทั้งนั้น ข้อมูลความรู้ทักษะต่างๆที่เราได้เก็บเกี่ยวหลายวันที่ผ่านมา จะไม่เกิดประโยชน์ใดเลยหากเราไม่นำมาปฏิบัติ กับตนเองและคนรอบข้าง เมื่อนั้นสิ่งที่เราได้เก็บเกี่ยวมาจะเกิดประโยชน์สูงสุด ในส่วนโครงการของเราเป็นโครงการค่ายจัดการความเครียด ซึ่งตั้งแต่เริ่มมา เราก็ได้รวมตัวกัน เป็นครั้งแรก ในวันเปิดรับสมัคร ที่ศูนย์การศึกษาอิสลามประจํามัสยิดตาดีกาบ้านโคกทราย หลังจากลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมโครงการแล้วทางพี่สต๊าฟได้ให้น้องๆ ทำแบบประเมินการจัดการความเครียดก่อนการเข้าร่วมโครงการ เพื่อประเมินการจัดการความเครียดของกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 40 คน หลังจากผ่านการสังเคราะห์มา ข้อมูลทั้งหมด ถือว่าพวกเรา ยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับการจัดการความเครียดมากนัก เราไม่รู้วิธีการผ่อนคลายที่ถูกต้อง และอีกหลายๆอย่าง หลังจากนั้นพวกเราก็ได้ร่วมกิจกรรม ค่ายจัดการความเครียด ในค่ายการจัดการความเครียดมีกิจกรรมย่อยทั้งหมด 5 กิจกรรมย่อยด้วยกัน กิจกรรมย่อยที่ 1 เป็นกิจกรรม ให้ความรู้เกี่ยวกับความเครียด โดยมีวิทยากรจากภายนอกมาให้คำแนะนำกับพวกเรา ซึ่งผ่านไปด้วยดีเราได้รับความรู้ในจุดนี้มากเช่นกัน หลังจากนั้นเราก็ได้ร่วมกิจกรรมต่อมาคือกิจกรรมค้นคว้าความเครียดซึ่งเป็นกิจกรรมฐานมีทั้งหมด 5 ฐานประกอบไปด้วย ฐานความเครียดจากครู ฐานความเครียดจากเพื่อน
ฐานความเครียดจากครอบครัว ฐานความเครียดจากสังคมและทางความเครียดจากแฟน พวกเราได้เข้าร่วมแต่ละฐาน เราก็ได้รับความรู้ มามาก ซึ่งเราก็ได้สรุปหลังจากกิจกรรมนั้นมาแล้ว ต่อมา เป็นกิจกรรมย่อยที่ 3 คือกิจกรรมภาคกลางคืนเราก็ได้แบ่งกลุ่ม เพื่อเป็นการแสดงบทบาทสมมุติ ตามที่เราได้จับฉลากมา ซึ่งแต่ละกลุ่มก็ได้แสดงออกมาอย่างน่าภาคภูมิใจ คนที่ดูก็มีความสนุกสนานผ่อนคลาย มีรอยยิ้ม พร้อมกับได้รับข้อมูลความรู้ต่างๆไปด้วย กิจกรรมย่อยที่ 4 กิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการความเครียด โดยมีวิทยากรมาให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการความเครียดหลังจากที่เราได้รู้ถึง ความเครียดเกิดจากอะไร ปัจจัยความเครียดมีอะไรบ้างและเราก็ได้แสดงบทบาทสมมุติไปแล้ว ปัญหาทั้งหมดมีวิธีแก้ที่ถูกต้อง ต้องได้รับการชี้แนะจาก บุคคลที่มีประสบการณ์ มีความถนัดในด้านนี้ เราได้รู้ถึงวิธีการจัดการความเครียด เมื่อมีความเครียดเข้ามาเราจะมีวิธีการตั้งรับอย่างไรซึ่งพวกเราก็ได้รับรู้กันทั้งหมดแล้ว กิจกรรมสุดท้ายของค่าย ก็คือกิจกรรมย่อยที่ 5 เกี่ยวกับสงครามล้างความเครียด เมื่อเรารู้วิธีการจัดการความเครียดแล้วเราก็มาสร้างสถานการณ์ จำลองเมื่อเราอยู่ในสถานการณ์นั้น เราจะจัดการความเครียดที่ถูกต้องได้อย่างไร ซึ่งเป็นกิจกรรมภาคปฏิบัติ ซึ่งก็ผ่านไปด้วยดี เรามีวิธีการ ตั้งรับเมื่อมีปัญหา การวางแผน มีการใช้กระบวนการต่างๆ ที่ถูกต้อง เพื่อให้ผ่าน ปัญหาเหล่านั้นให้ได้และผ่านบททดสอบนั้นได้ ทั้งหมดเป็นกิจกรรมของการจัดค่ายความเครียด กิจกรรมต่อมาก็คือกิจกรรมถอดบทเรียน ซึ่งเป็น กิจกรรมสุดท้ายในวันนี้ พี่ก็สรุปคร่าวๆ เชื่อว่าทั้งหมดทั้งมวลที่เราได้ทำมาพวกเราได้ซึมซับเก็บเกี่ยวไว้หมดแล้วนะค่ะ เดี๋ยว อยากจะให้ตัวแทน ผู้ร่วม กิจกรรม 2 คน พูดความรู้สึก ว่าหลังจากเข้าร่วมโครงการแล้วเราได้รับอะไรบ้าง และอยากให้มีตัวแทน พี่เลี้ยง Staff 1 คนพูด ในการทำกิจกรรมครั้งนี้ เราได้อะไรบ้าง
นางสาวนูรอารียา หาบยุโซ๊ะ ตัวแทนผู้เข้าร่วมกล่าวว่า ก่อนอื่นหนูต้องขอบคุณโครงการนี้ที่ให้โอกาสหนูและเพื่อนๆได้มาเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ในครั้งนี้ หนูเชื่อว่าทุกคนสามารถมีความเครียดจากปัจจัยต่างๆที่แตกต่างกัน จะมากหรือน้อยอยู่ที่สถานณ์การ ผลกระทบจะมากหรือน้อยอยู่ที่ตัวเราว่าจะมีวิธีตั้งรับมันได้ขนาดไหน มีวิธีการจัดการมันอย่างไร มาวันนี้พวกเรารู้แล้วว่าจะทำอย่างไรกับมัน สบายมาก
ต่อมานายอัมรี ตะลา กล่าวว่า ผมพูดไม่เก่งครับ ขอพูดสั่นๆว่า ต่อไปนี้ผมคงไม่ต้องเครียดมาก ผมมีวิธีรับมือกับมัน ผมรับมือมันได้ และผมพร้อมที่จะไปเผยแผ่ความรู้อันให้กับคนรอบข้างครับ
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
- เยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 40 คน สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการผ่อนคลายความเครียดในกลุ่มได้
40
0
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ สถานการณ์ เป้าหมาย ผลผลิต อธิบาย
1
เพื่อให้เด็กในวัยเรียน(อายุ 13 -18 ปี)มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการความเครียดอย่างง่ายได้
ตัวชี้วัด : เด็กในวัยเรียนมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการความเครียดอย่างง่าย ร้อยละ 80
85.00
2
เพื่อให้เด็กในวัยเรียน (อายุ 13-18 ปี)มีทักษะและสามารถเลือกวิธีการจัดการความเครียดที่เหมาะสมกับตนเองได้
ตัวชี้วัด : เด็กในวัยเรียนสามารถเลือกวิธีการจัดการความเครียดที่เหมาะสมกับตนเอง ร้อยละ 80
85.00
3
เพื่อให้เด็กในวัยเรียน (อายุ 13-18ปี)สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการผ่อนคลายความเครียดกับสมาชิกในกลุ่มได้
ตัวชี้วัด : เด็กในวัยเรียนสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการผ่อนคลายความเครียดกับสมาชิกในกลุ่มเยาวชนโคกทราย เดือนละ 1 ครั้ง
2.00
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด
80
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
40
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
40
กลุ่มวัยทำงาน
0
กลุ่มผู้สูงอายุ
0
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
0
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
-
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
-
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
-
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
-
บทคัดย่อ*
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อให้เด็กในวัยเรียน(อายุ 13 -18 ปี)มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการความเครียดอย่างง่ายได้ (2) เพื่อให้เด็กในวัยเรียน (อายุ 13-18 ปี)มีทักษะและสามารถเลือกวิธีการจัดการความเครียดที่เหมาะสมกับตนเองได้ (3) เพื่อให้เด็กในวัยเรียน (อายุ 13-18ปี)สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการผ่อนคลายความเครียดกับสมาชิกในกลุ่มได้
ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (1) รวมพลคนเครียด (2) ค่ายจัดการความเครียด (3) ถอดบทเรียน การจัดการความเครียดในกลุ่มเยาวชน
ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...
หมายเหตุ *- บทคัดย่อ จะนำไปใส่ในส่วนบทคัดย่อของรายงานฉบับสมบูรณ์
- หากต้องการใช้ค่าเริ่มต้นของบทคัดย่อ ให้ลบข้อความในช่องบทคัดย่อ ทั้งหมด แล้วกดปุ่ม Refresh
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค สาเหตุ ข้อเสนอแนะ
โครงการค่ายจัดการความเครียดกับเด็กในวัยเรียน เยาวชนโคกทราย จังหวัด สตูล
รหัสโครงการ 62-L5307-2-15
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
................................
( นายอานัส ปาเต๊ะ )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......
โครงการ
“ โครงการค่ายจัดการความเครียดกับเด็กในวัยเรียน เยาวชนโคกทราย ”
ตำบลบ้านควน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล
หัวหน้าโครงการ
นายอานัส ปาเต๊ะ
กันยายน 2563
ที่อยู่ ตำบลบ้านควน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล จังหวัด สตูล
รหัสโครงการ 62-L5307-2-15 เลขที่ข้อตกลง
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2562 ถึง 30 กันยายน 2563
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการค่ายจัดการความเครียดกับเด็กในวัยเรียน เยาวชนโคกทราย จังหวัดสตูล" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลบ้านควน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.บ้านควน ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการค่ายจัดการความเครียดกับเด็กในวัยเรียน เยาวชนโคกทราย
บทคัดย่อ
โครงการ " โครงการค่ายจัดการความเครียดกับเด็กในวัยเรียน เยาวชนโคกทราย " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลบ้านควน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล รหัสโครงการ 62-L5307-2-15 ระยะเวลาการดำเนินงาน 1 มีนาคม 2562 - 30 กันยายน 2563 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 20,050.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล อบต.บ้านควน เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้
โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ | » |
บทคัดย่อ | » |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล | » |
วัตถุประสงค์โครงการ | » |
กิจกรรม/การดำเนินงาน | » |
กลุ่มเป้าหมาย | » |
ผลลัพธ์ที่ได้ | » |
การประเมินผล | » |
ปัญหาและอุปสรรค | » |
ข้อเสนอแนะ | » |
เอกสารประกอบอื่นๆ | » |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
เด็กและเยาวชนเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า และเป็นอนาคตของชาติ ต้องได้รับการพัฒนาตามองค์รวมครบทุกด้าน ทั้งกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญาและจริยธรรมคุณธรรม ทั้งนี้การพัฒนาเด็กและเยาวชนต้องอาศัยการบูรณาการผสมผสานกับวิถีชีวิตและสภาพแวดล้อมของเด็กและเยาวชนโดยสถานการณ์ที่เกี่ยวกับปัญหาในวัยเด็ก พบว่ามีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในประเด็นของความเครียดอันเนื่องมาจากปัญหาสภาพแวดล้อม ครอบครัว กลุ่มเพื่อน ความรัก และที่สำคัญก็คือด้านการศึกษา จากการวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาดังกล่าวพบว่า ครอบครัวยังขาดศักยภาพในการดูแลสมาชิกของตนเอง และระบบการศึกษาก็เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่ทำให้เด็กเกิดภาวะเครียด สถานการณ์เยาวชนในพื้นที่หมู่บ้านโคกทรายในปัจจุบัน พบว่าสภาพจิตใจของเด็กในชุมชนเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ทั้งปัญหาครอบครัว ปัญหาการเรียน ตัวอย่างเช่น ครอบครัวไม่สนใจกับเด็กส่งผลให้เด็กเกิดความน้อยใจ เก็บกด และนำไปสู่ภาวะความเครียดทำอย่างไรที่จะไห้เด็กได้ขจัดความเครียดเหล่านี้ออกไป มีทักษะในการบริหารความเครียด ทำให้จิตใจปรอดโปร่งสดใส่ เช่น หากิจกรรมกับครอบครัวและหันหน้าเข้ามาคุยกัน เพื่อที่จะบรรเทาความเครียดออกไปได้และทางโรงเรียนควรมีกิจกรรมเพื่อผ่อนคลายให้เด็กปล่อยความเครียดที่เขาอาจจะพูดกับครอบครัวไม่ได้ ให้ทางโรงเรียนได้มีส่วนร่มในการลดภาวะความเครียดในวัยเด็กนี้ได้ ดังนั้นกลุ่มเยาวชนโคกทรายจึงได้จัดโครงการค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมซึ่งเป็นการสนับสนุนให้เด็กมีโอกาสในการแสดงออกและปลดปล่อยสิ่งที่อยู่ด้านในจิตใจของเขาเพื่อลดภาวะความเครียดให้เด็กวัยเรียน และสงเสริมให้เด็กมีสมรรถภาพร่างกายและจิตใจที่เข้มแข็งจึงไดร่วมกันจัดโครงการค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อเป็นสื่อกลางในการลดภาวการณ์เครียด ให้เด็กมีทักษะในการรับมือกับความเครียดอย่างถูกต้องตลอดจนสามารถรู้จักเลือกทางชีวิตที่ดีต่อไปในอนาคต
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- เพื่อให้เด็กในวัยเรียน(อายุ 13 -18 ปี)มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการความเครียดอย่างง่ายได้
- เพื่อให้เด็กในวัยเรียน (อายุ 13-18 ปี)มีทักษะและสามารถเลือกวิธีการจัดการความเครียดที่เหมาะสมกับตนเองได้
- เพื่อให้เด็กในวัยเรียน (อายุ 13-18ปี)สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการผ่อนคลายความเครียดกับสมาชิกในกลุ่มได้
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- รวมพลคนเครียด
- ค่ายจัดการความเครียด
- ถอดบทเรียน การจัดการความเครียดในกลุ่มเยาวชน
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้ | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 40 | |
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 40 | |
กลุ่มวัยทำงาน | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | ||
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] |
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
- เด็กในวัยเรียนสามารถจัดการความเครียดที่เกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม
- เด็กในวัยเรียนสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีการผ่อนคลายความเครียดและแนะนำวิธีการผ่อนคลายความเครียดแก่เพื่อนได้
- เด็กในวัยเรียนสามารถนำความรู้ที่ได้ ไปใช้ในการผ่อนคลายความเครียดที่เกิดขึ้นจากการเรียนได้
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์** กิจกรรมของโครงการ | ผลผลิต* | |
---|---|---|
ผลผลิตที่ตั้งไว้ | ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง | |
1. รวมพลคนเครียด |
||
วันที่ 30 สิงหาคม 2562กิจกรรมที่ทำมีการเปิดรับสมัครเยาวชนในวัยเรียนที่มีอายุระหว่าง 13-18 ปี ที่สนใจอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 3 บ้านโคกทราย ตำบลบ้านควน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล จำนวน 40 คน ที่ศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด (ตาดีกา) บ้านโคกทราย ได้รับความสนใจจากเยาวชนในชุมชนบ้านโคกทราย เป็นอย่างมาก หลังจากเยาวชนลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมโครงการดังกล่าวแล้ว ทางฝ่าย staff ได้ให้ผู้เข้าร่วมทำแบบประเมินการจัดการความเครียดก่อนการเข้าร่วมโครงการ เพื่อประเมินการจัดการความเครียดของกลุ่มเป้าหมาย บรรยากาศในงานในกิจกรรมนี้เต็มไปด้วยความอบอุ่นจากพี่เลี้ยง staff และได้รับความร่วมมือ เป็นอย่างดี จากผู้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
|
40 | 0 |
2. ค่ายจัดการความเครียด |
||
วันที่ 7 กันยายน 2562กิจกรรมที่ทำค่ายจัดการความเครียด
- กิจกรรมย่อย 1 กิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับความเครียด กิจกรรมย่อย 2 กิจกรรม ค้นหาความเครียด เป็นลักษณะกิจกรรมเข้าฐาน
แบ่งเป็นฐานความเครียดจากครูรวมไปถึงปัจจัยจากการเรียนและโรงเรียนด้วย ฐานความเครียดจากเพื่อน ฐานความเครียดจากครอบครัว ฐานความเครียดจากสังคมและฐานความเครียดจากแฟน กลุ่มสต๊าฟ ได้แบ่งผู้ร่วมกิจกรรม เป็นทั้งหมด 5 กลุ่ม กลุ่มละ 8 คน กิจกรรมนี้ เป็นกิจกรรมเข้าฐานเพื่อไปเรียนรู้ปัจจัยหรือสิ่งแวดล้อมต่างๆที่ทำให้เกิดความเครียด แต่ละกลุ่มจะเข้าฐานวนเวียนไปจนครบฐาน ซึ่งในแต่ละฐานจะมีกลุ่มสต๊าฟคอยให้ความรู้และข้อมูลแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม มีทั้งวิชาการและนันทนาการ ให้เกิดความรู้มากที่สุด กิจกรรมย่อย 3 กิจกรรมภาคกลางคืนเมื่อฉันเครียด เป็นการแสดงบทบาทสมมุติของแต่ละกลุ่ม ที่ถอดบทเรียนจากกิจกรรมในภาคกลางวัน โดยให้แต่ละกลุ่มแสดงบทบาทตามที่ได้จับฉลาก บทบาทสมมุติมี 5 ประเภท ได้แก่ ความเครียดจากครู ฐานความเครียดจากเพื่อน ฐานความเครียดจากครอบครัว ฐานความเครียดจากสังคมและฐานความเครียดจากแฟน ผู้เข้าร่วมกิจกรรมรู้สึกสนุกสนานและผ่อนคลาย ก่อนแยกย้ายทางสต๊าฟได้ชี้แจงรายละเอียดในกิจกรรมถัดไป คือกิจกรรมการเรียนรู้การจัดการความเครียด กิจกรรมย่อย 4 กิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการความเครียด การจะจัดการกับความเครียด น้องๆต้องหาว่าความเครียดเกิดจากสาเหตุใด และร่างกายเราตอบสนองต่อความเครียดนั้นอย่างไร ขั้นตอนต่อมาต้องเรียนรู้วิธีการจัดการเกี่ยวกับความเครียดซึ่งมีวิธีดังนี้
1. ค้นหาปัญหาที่ทำให้เกิดความเครียด เป็นข้อที่สำคัญที่สุด หากไม่ทราบสาเหตุ ก็ไม่สามารถป้องกันได้ บางคนอาจจะไม่ทราบว่าเครียดจากอะไร น้องๆลองสำรวจตัวเองสิว่าชีวิตประจำวันของน้องมีอะไรบ้างที่น้องเบื่อ เช่นการพูดคุยกับผู้ปกครอง พี่น้อง เพื่อน งานบ้านน่าเบื่อ งานที่โรงเรียนมาก บทบาทของตนเองไม่ชัดเจนฯลฯ น้องลองสำรวจอาการของน้องเมื่อพบสิ่งที่ไม่ชอบหรือน่าเบื่อ เช่นโกรธ เบื่อ ท้อแท้ ปวดศีรษะ เหล่านี้คือเหตุที่ให้เกิดความเครียด ปัจจัยใดที่ทำให้น้องเครียดที่สุด ภาวะใดที่น้องกลัวมาก น้องอาจจะจดลงในสมุดบันทึกเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความเครียด อาการที่แสดงออก หลังจากที่ทราบสาเหตุแล้วก็ลองแก้ไข หากบางสิ่งสามารถหลีกเลี่ยงได้ก็ให้หลีกเลี่ยงเช่นบางคนไม่ชอบดูละครดราม่า เจ้าน้ำตาก็ไม่ต้องดูหรือพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ
2. การป้องกัน หลังจากทราบสาเหตุแล้วการป้องกันความเครียดจะเป็นวิธีที่ไม่ให้เกิดความเครียดซึ่งมีวิธีการต่างๆดังนี้ การเตรียมตัวเพื่อรับความเครียดสามารถทำได้ดังนี้
- การวางแผน เมื่อเกิดปัญหาหรือความเครียดพยายามตั้งสติและใช้ปัญญาหาทางแก้ไข
- เมื่อมีปัญหาพยายามหาทางเลือกหลายๆทาง และเลือกทางแก้ที่ดีที่สุด
- ขณะเรียนก็วางแผนอนาคตไปด้วย ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้และท้าทายการตั้งเป้าหมายเกินความสามารถเล็กน้อยจะเป็นการท้าทาย หากทำสำเร็จก็จะเกิดความภูมิใจความมั่นใจในตัวเองก็จะตามมา
- ตั้งเป้าหมายที่สมเหตุสมผลซึ่งจะทำให้เกิดแรงจูงใจที่จะกระทำ หากตั้งเป้าเกินความจริงจะทำให้เกิดความเครียด หากต้องการประสบความสำเร็จต้องพัฒนาความสามารถเพิ่ม แต่ถ้าไม่พยายามก็ไม่ประสบผลสำเร็จความเครียดก็จะเกิดตามมาและในที่สุดก็เลิกไปเอง
- จัดลำดับความสำคัญ และความเร่งด่วนของงาน งานที่สำคัญอาจจะไม่ใช่งานที่เร่งด่วนก็ได้ ให้ทำงานที่เร่งด่วนก่อน และก็ไปงานที่สำคัญ ขณะเรียนก็อย่ากังวลว่างานที่ยังไม่ได้ทำ ให้ทำงานที่ยากที่สุดก่อนงานอื่น กิจกรรมย่อย 5 กิจกรรมสงครามล้างความเครียด เป็นลักษณะเกมการบริหารจัดการตนเองกับความเครียดและการถอดบทเรียนจากกิจกรรม ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
|
40 | 0 |
3. ถอดบทเรียน การจัดการความเครียดในกลุ่มเยาวชน |
||
วันที่ 14 กันยายน 2562กิจกรรมที่ทำนางสาวอาลิสา สะอะ พี่เลี้ยงโครงการฯ ได้กล่าวกับผู้ร่วมโครงการว่า ก่อนอื่น ต้องขอขอบคุณน้องๆทุกคนที่เสียสละเวลามาทำกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะได้รับความรู้ และทักษะเกี่ยวกับการจัดการความเครียด เพื่อนำไปใช้กับตนเอง ในชีวิตประจำวันไม่มากก็น้อย และขอขอบคุณทีมงานสต๊าฟ ที่เสียสละเวลาส่วนตัว เพื่อมาอยู่ที่นี่ เพื่อมานำน้องๆทำในสิ่งที่ดีๆ ในครั้งนี้และอยากให้น้องสต๊าฟ คิดคำนึงว่าครั้งหนึ่งเราได้มีโอกาสมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ขอบคุณที่ ร่วมเดินกันมาจนถึงวันนี้เป็นงานสุดท้ายของเรา ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ทั้งนั้น ข้อมูลความรู้ทักษะต่างๆที่เราได้เก็บเกี่ยวหลายวันที่ผ่านมา จะไม่เกิดประโยชน์ใดเลยหากเราไม่นำมาปฏิบัติ กับตนเองและคนรอบข้าง เมื่อนั้นสิ่งที่เราได้เก็บเกี่ยวมาจะเกิดประโยชน์สูงสุด ในส่วนโครงการของเราเป็นโครงการค่ายจัดการความเครียด ซึ่งตั้งแต่เริ่มมา เราก็ได้รวมตัวกัน เป็นครั้งแรก ในวันเปิดรับสมัคร ที่ศูนย์การศึกษาอิสลามประจํามัสยิดตาดีกาบ้านโคกทราย หลังจากลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมโครงการแล้วทางพี่สต๊าฟได้ให้น้องๆ ทำแบบประเมินการจัดการความเครียดก่อนการเข้าร่วมโครงการ เพื่อประเมินการจัดการความเครียดของกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 40 คน หลังจากผ่านการสังเคราะห์มา ข้อมูลทั้งหมด ถือว่าพวกเรา ยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับการจัดการความเครียดมากนัก เราไม่รู้วิธีการผ่อนคลายที่ถูกต้อง และอีกหลายๆอย่าง หลังจากนั้นพวกเราก็ได้ร่วมกิจกรรม ค่ายจัดการความเครียด ในค่ายการจัดการความเครียดมีกิจกรรมย่อยทั้งหมด 5 กิจกรรมย่อยด้วยกัน กิจกรรมย่อยที่ 1 เป็นกิจกรรม ให้ความรู้เกี่ยวกับความเครียด โดยมีวิทยากรจากภายนอกมาให้คำแนะนำกับพวกเรา ซึ่งผ่านไปด้วยดีเราได้รับความรู้ในจุดนี้มากเช่นกัน หลังจากนั้นเราก็ได้ร่วมกิจกรรมต่อมาคือกิจกรรมค้นคว้าความเครียดซึ่งเป็นกิจกรรมฐานมีทั้งหมด 5 ฐานประกอบไปด้วย ฐานความเครียดจากครู ฐานความเครียดจากเพื่อน ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
|
40 | 0 |
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ | สถานการณ์ | เป้าหมาย | ผลผลิต | อธิบาย | |
---|---|---|---|---|---|
1 | เพื่อให้เด็กในวัยเรียน(อายุ 13 -18 ปี)มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการความเครียดอย่างง่ายได้ ตัวชี้วัด : เด็กในวัยเรียนมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการความเครียดอย่างง่าย ร้อยละ 80 |
85.00 |
|
||
2 | เพื่อให้เด็กในวัยเรียน (อายุ 13-18 ปี)มีทักษะและสามารถเลือกวิธีการจัดการความเครียดที่เหมาะสมกับตนเองได้ ตัวชี้วัด : เด็กในวัยเรียนสามารถเลือกวิธีการจัดการความเครียดที่เหมาะสมกับตนเอง ร้อยละ 80 |
85.00 |
|
||
3 | เพื่อให้เด็กในวัยเรียน (อายุ 13-18ปี)สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการผ่อนคลายความเครียดกับสมาชิกในกลุ่มได้ ตัวชี้วัด : เด็กในวัยเรียนสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการผ่อนคลายความเครียดกับสมาชิกในกลุ่มเยาวชนโคกทราย เดือนละ 1 ครั้ง |
2.00 |
|
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
---|---|---|---|
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด | 80 | ||
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | |||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 40 | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | 40 | ||
กลุ่มวัยทำงาน | 0 | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | 0 | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | |||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | 0 | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | - | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | - | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | - | ||
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] | - |
บทคัดย่อ*
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อให้เด็กในวัยเรียน(อายุ 13 -18 ปี)มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการความเครียดอย่างง่ายได้ (2) เพื่อให้เด็กในวัยเรียน (อายุ 13-18 ปี)มีทักษะและสามารถเลือกวิธีการจัดการความเครียดที่เหมาะสมกับตนเองได้ (3) เพื่อให้เด็กในวัยเรียน (อายุ 13-18ปี)สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการผ่อนคลายความเครียดกับสมาชิกในกลุ่มได้
ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (1) รวมพลคนเครียด (2) ค่ายจัดการความเครียด (3) ถอดบทเรียน การจัดการความเครียดในกลุ่มเยาวชน
ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...
หมายเหตุ *
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค | สาเหตุ | ข้อเสนอแนะ |
---|---|---|
|
|
|
โครงการค่ายจัดการความเครียดกับเด็กในวัยเรียน เยาวชนโคกทราย จังหวัด สตูล
รหัสโครงการ 62-L5307-2-15
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
( นายอานัส ปาเต๊ะ )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......