ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายฯ
แบบรายงานการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์
รายงานฉบับสมบูรณ์
โครงการ
“ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายฯ ”
ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา
หัวหน้าโครงการ
นางเพ็ญศรี รอดอิน
ได้รับการสนับสนุนโดย กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเขารูปช้าง
สิงหาคม 2560
ชื่อโครงการ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายฯ
ที่อยู่ ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา จังหวัด สงขลา
รหัสโครงการ 60-L5215-1-4.4 เลขที่ข้อตกลง
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 ถึง 31 สิงหาคม 2560
กิตติกรรมประกาศ
"ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายฯ จังหวัดสงขลา" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเขารูปช้าง ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายฯ
บทคัดย่อ
โครงการ " ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายฯ " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา รหัสโครงการ 60-L5215-1-4.4 ระยะเวลาการดำเนินงาน 1 กุมภาพันธ์ 2560 - 31 สิงหาคม 2560 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 13,020.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเขารูปช้าง เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้
โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ »
บทคัดย่อ »
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล »
วัตถุประสงค์โครงการ »
กิจกรรม/การดำเนินงาน »
กลุ่มเป้าหมาย »
ผลลัพธ์ที่ได้ »
การประเมินผล »
ปัญหาและอุปสรรค »
ข้อเสนอแนะ »
เอกสารประกอบอื่นๆ »
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
เบาหวานและความดันโลหิตสูงเป็นทั้งปัญหาสุขภาพและสาธารณสุขที่สำคัญ สมาพันธ์เบาหวานนานาชาติ (International Diabetes Federation; IDF) รายงานสถานการณ์โรคเบาหวานในปี 2558 ว่ามีผู้เป็นเบาหวานทั่วโลก 387 ล้านคนสาเหตุสำคัญ คือ การไม่ได้รับการวินิจฉัยหรือไม่ได้รับการตรวจคัดกรองว่าเป็นเบาหวานตั้งแต่เบื้องต้น ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้จัดให้อยู่ในกลุ่มเรื้อรังที่ไม่ติดต่อที่มีสาเหตุที่ซับซ้อนและมีปัจจัยเกื้อหนุนทั้งด้านพันธุกรรม พฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปจนเกิดโรคอ้วน ขาดการออกกำลังกาย มีพฤติกรรมสุขภาพด้านลบ เช่น สูบบุหรี่หรือบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มากเกินไป นอกจากนี้สภาวะแวดล้อมสังคมที่เร่งรีบและไม่กระตุ้นให้คนมีวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ ด้วยเหตุนี้โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงจึงเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยและการตายสูงถึงร้อยละ 60 ของการตายทั่วโลก และส่วนใหญ่เกิดขึ้นในประเทศที่กำลังพัฒนา ประเทศไทยพบว่า ประชากรที่เป็นเบาหวานทั้งหมด 3.2 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 6.9ส่วนโรคความดันโลหิตสูงคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปมี ความดันโลหิตสูง ร้อยละ 35.82 หรือคิดเป็นจำนวน 17.64 ล้านคน (World Health Organization [WHO], 2002)ประชากรกลุ่มเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงจำนวน 1ใน 10 คน หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสมก็จะกลายเป็นผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง ถึงร้อยละ 19-61 ภายในระยะเวลา 5-10 ปี (ชุมพจน์และบุญถนอม, 2550 ) และจะส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆทั้งโรคหัวใจ โรคไขมัน ซึ่งเป็นโรคที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้คนที่เป็นโรคส่วนใหญ่มักจะเป็นหลายโรคพร้อมกัน การจัดการกับโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงในปัจจุบันจึงเปลี่ยนจากการตั้งรับเพื่อการรักษา มาเป็นการมองว่าความเสี่ยงจะเป็นโรคมากน้อยเพียงไร และจะจัดการลดความเสี่ยงเหล่านั้นอย่างไร
จากการศึกษาที่ผ่านมา พบว่าปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคเบาหวานในกลุ่มเสี่ยง มีหลายปัจจัยด้วยกันได้แก่ ปัจจัยด้านอาหาร พันธุกรรม สิ่งแวดล้อม ความอ้วนการขาดการออกกำลังกายและปัจจัยอื่นๆ เช่น ความเครียดการใช้ยาบางชนิด สำหรับปัจจัยด้านอาหารพบว่ามีสาเหตุมาจากการมีพฤติกรรมการบริโภคอาหารไม่เหมาะสมโดยบริโภคอาหารที่ให้พลังงานสูงและรับประทานผลไม้ที่มีรสหวานจัดบริโภคผัก ผลไม้ และธัญพืชลดลง เป็นเหตุให้มีภาวะน้ำหนักเกินเพิ่มสูงขึ้น ปริมาณไขมันในเลือดมากเกินไปจนทำให้เกิดโรคอ้วนส่งผลให้เกิด เบาหวานในเวลาต่อมา (กรรณิการ์, 2549; ณรงค์ฤทธิ์, 2551; เนตรนภิส, 2551; สมควร, 2552) และยังพบว่าพฤติกรรมด้านการบริโภคอาหารของกลุ่มเสี่ยงต่อโรคเบาหวานส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง (กรรณิการ์, 2549; สุพิมพ์, 2550; เสกสันต์, 2551; สมควร, 2552) ผลการศึกษาสะท้อนให้เห็นว่าปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ล้วนมาจากพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต ของประชาชนกลุ่มเสี่ยงต่อโรคเบาหวานทั้งสิ้น ในปี ค.ศ. 2002 มีการศึกษาวิจัยถึงโปรแกรมการป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน ที่ศึกษาในคนอ้วน (ดัชนีมวลกาย 35 กก./ม.2) พบว่า การเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิต การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย สามารถลดอัตราการเป็นเบาหวานได้ร้อยละ 58 ส่วนผู้ที่เสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงการปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตที่สำคัญ (สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย, 2551; seventh report of the Joint National Committee [JNC 7], 2003) ได้แก่ 1) การลดน้ำหนักให้ดัชนีมวลกาย (Body mass index) เท่ากับ 8.5-24. กก./ตร.ม.2) การออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายชนิดใช้ออกซิเจนอย่างสม่ำเสมอเช่น การเดินเร็ว อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน และเกือบทุกวัน 3) งดหรือลดการดื่มแอลกอฮอล์ 4) รับประทานผัก ผลไม้ ที่ไม่หวานจัด 5)ลดปริมาณไขมันในอาหาร โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัว และ 6) การจำกัดเกลือในอาหารโดยลดการรับประทานเกลือโซเดียมให้น้อยกว่า 2,400 มิลลิกรัม ต่อวัน เพราะอาหารที่มีรสเค็ม หรือเกลือโซเดียม ถ้าได้รับปริมาณมากทำให้กล้ามเนื้อเรียบของผนังหลอดเลือดตึงตัว และระคายเคืองต่อต่อมหมวกไต จะทำให้หัวใจทำงานหนัก ส่งผลให้เกิดโรคหัวใจได้ง่าย (วิมลรัตน์, 2552) การปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตจะทำได้ต้องมีสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการปรับปรุง ตั้งแต่การปลูกฝังค่านิยมในการดำเนินชีวิต การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การป้องกันการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงนั้นจะทำได้โดยการสร้างให้เขาเกิดความตระหนักในความเสี่ยงที่มีอยู่การจะทำให้การปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตได้สำเร็จนั้นผู้ที่มีความเสี่ยงต้องมีจิตใจที่ตั้งมั่นจะรับผิดชอบดูแลสุขภาพตนเอง ทีมรักษา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะทำหน้าที่สนับสนุนและช่วยให้ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสามารถปฏิบัติการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้และเป็นไปตามแนวทางที่ถูกต้อง
ข้อมูลการวินิจฉัยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทุ่งใหญ่ ปี 2559 พบกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน จำนวน 69 คน คิดเป็นร้อยละ 2.43 กลุ่มเสี่ยงได้รับการวินิจฉัยโรคเบาหวานรายใหม่ จำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 13.04 กลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 90 คน คิดเป็นร้อยละ 3.52 กลุ่มเสี่ยงได้รับการวินิจฉัยโรคความดันโลหิตสูงรายใหม่ จำนวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 26.66 ในปี 2560 พบกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน จำนวน 51 คน คิดเป็นร้อยละ 1.78 กลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 159 คน คิดเป็นร้อยละ 5.38 แสดงให้เห็นว่าร้อยละการวินิจฉัยผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงรายใหม่มากกว่าร้อยละ 5 ซึ่งเกินเกณฑ์มาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดขึ้น
ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทุ่งใหญ่ จึงได้จัดโครงการปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตเพื่อป้องกันการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงสำหรับผู้ที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคโดยใช้แนวคิดทฤษฎีการเรียนรู้ของแบนดูรา (Bandura, 1986) กล่าวว่า พฤติกรรมของคนเราส่วนมากจะเป็นการเรียนรู้โดยการสังเกต (Observational Learning) หรือการเลียนแบบจากตัวแบบ (Modeling) สำหรับตัวแบบไม่จำเป็นต้องเป็นตัวแบบที่มีชีวิตเท่านั้น แต่อาจจะเป็นตัวสัญลักษณ์ และถือว่าทั้งบุคคลที่ต้องการจะเรียนรู้และสิ่งแวดล้อมเป็นสาเหตุของพฤติกรรมและได้อธิบายการปฏิสัมพันธ์ ร่วมกับขั้นตอนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (Transtheoretical model หรือ Stages of change ) ของโปรชาสการ์และคณะ (Prochaska etal., 1997 อ้างตาม อุมาพร, 2547) ที่กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม บุคคลจะมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเมื่อพร้อมที่จะเปลี่ยนเท่านั้น และระยะของความพร้อมที่แตกต่างกัน ต้องอาศัยคำแนะนำหรือแรงกระตุ้นที่จำเพาะ คือ ร่างกาย จิตใจ บุคคลรอบข้าง สิ่งแวดล้อม และรูปแบบการดำเนินชีวิตที่เหมาะสม ในการผลักดันให้เกิดการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต (Lifestyle) นี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะนำไปสู่การป้องกันการเกิดโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงของผู้ใช้บริการกลุ่มเสี่ยงสูงในที่สุด
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงสูงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
และมีดัชนีมวลกาย (Body mass index) เท่ากับ 18.5-24. กก./ตร.ม
- เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงรายใหม่
- เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงมีความรู้และมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายที่เหมาะสม
- เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงมีความพึงพอใจกิจกรรมโครงการ “ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและออกกำลังกายสักนิด เพื่อป้องกันการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง”
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- กิจกรรมอบรมให้ความรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
กลุ่มวัยทำงาน
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
9
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
40
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
- กลุ่มเสี่ยงสูงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตได้ผ่านกระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและการออกกำลังกาย
- กลุ่มเสี่ยงสูงมีความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงและสามารถปฏิบัติพฤติกรรมการดูแลตนเองเพื่อป้องกันโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
- จำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตรายใหม่สูงลดลง
- ผู้ป่วยรายใหม่ได้รับการส่งต่อและรักษาตามมาตรฐาน
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์**
กิจกรรมของโครงการ ผลผลิต* ผลผลิตที่ตั้งไว้ ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง
1. กิจกรรมอบรมให้ความรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร
วันที่ 17 มีนาคม 2560กิจกรรมที่ทำ
1.จัดทำทะเบียนกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง
2.จัดให้กลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงได้เข้าร่วมกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
หลังจากดำเนินกิจกรรม 1 เดือนผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารได้จำนวน 3 คนคิดเป็นร้อยละ 33.33 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการออกกำลังกายได้จำนวน 4 คนคิดเป็นร้อยละ 44.44 มีการผ่อนคลายอารมณ์จำนวน 6 คนคิดเป็นร้อยละ 66.66 แต่ยังไม่พบว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถลดได้เองได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงจำนวน 9 คนคิดเป็นร้อยละ 100
59
0
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ สถานการณ์ เป้าหมาย ผลผลิต อธิบาย
1
เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงสูงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
และมีดัชนีมวลกาย (Body mass index) เท่ากับ 18.5-24. กก./ตร.ม
ตัวชี้วัด :
2
เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงรายใหม่
ตัวชี้วัด :
3
เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงมีความรู้และมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายที่เหมาะสม
ตัวชี้วัด :
4
เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงมีความพึงพอใจกิจกรรมโครงการ “ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและออกกำลังกายสักนิด เพื่อป้องกันการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง”
ตัวชี้วัด :
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด
49
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
-
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
-
กลุ่มวัยทำงาน
-
กลุ่มผู้สูงอายุ
-
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
-
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
9
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
-
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
40
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
-
บทคัดย่อ*
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงสูงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
และมีดัชนีมวลกาย (Body mass index) เท่ากับ 18.5-24. กก./ตร.ม (2) เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงรายใหม่ (3) เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงมีความรู้และมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายที่เหมาะสม (4) เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงมีความพึงพอใจกิจกรรมโครงการ “ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและออกกำลังกายสักนิด เพื่อป้องกันการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง”
ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (1) กิจกรรมอบรมให้ความรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร
ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...
หมายเหตุ *- บทคัดย่อ จะนำไปใส่ในส่วนบทคัดย่อของรายงานฉบับสมบูรณ์
- หากต้องการใช้ค่าเริ่มต้นของบทคัดย่อ ให้ลบข้อความในช่องบทคัดย่อ ทั้งหมด แล้วกดปุ่ม Refresh
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค สาเหตุ ข้อเสนอแนะ
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายฯ จังหวัด สงขลา
รหัสโครงการ 60-L5215-1-4.4
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
................................
( นางเพ็ญศรี รอดอิน )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......
โครงการ
“ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายฯ ”
ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา
หัวหน้าโครงการ
นางเพ็ญศรี รอดอิน
สิงหาคม 2560
ที่อยู่ ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา จังหวัด สงขลา
รหัสโครงการ 60-L5215-1-4.4 เลขที่ข้อตกลง
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 ถึง 31 สิงหาคม 2560
กิตติกรรมประกาศ
"ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายฯ จังหวัดสงขลา" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเขารูปช้าง ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายฯ
บทคัดย่อ
โครงการ " ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายฯ " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา รหัสโครงการ 60-L5215-1-4.4 ระยะเวลาการดำเนินงาน 1 กุมภาพันธ์ 2560 - 31 สิงหาคม 2560 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 13,020.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล เทศบาลเมืองเขารูปช้าง เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้
โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ | » |
บทคัดย่อ | » |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล | » |
วัตถุประสงค์โครงการ | » |
กิจกรรม/การดำเนินงาน | » |
กลุ่มเป้าหมาย | » |
ผลลัพธ์ที่ได้ | » |
การประเมินผล | » |
ปัญหาและอุปสรรค | » |
ข้อเสนอแนะ | » |
เอกสารประกอบอื่นๆ | » |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
เบาหวานและความดันโลหิตสูงเป็นทั้งปัญหาสุขภาพและสาธารณสุขที่สำคัญ สมาพันธ์เบาหวานนานาชาติ (International Diabetes Federation; IDF) รายงานสถานการณ์โรคเบาหวานในปี 2558 ว่ามีผู้เป็นเบาหวานทั่วโลก 387 ล้านคนสาเหตุสำคัญ คือ การไม่ได้รับการวินิจฉัยหรือไม่ได้รับการตรวจคัดกรองว่าเป็นเบาหวานตั้งแต่เบื้องต้น ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้จัดให้อยู่ในกลุ่มเรื้อรังที่ไม่ติดต่อที่มีสาเหตุที่ซับซ้อนและมีปัจจัยเกื้อหนุนทั้งด้านพันธุกรรม พฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปจนเกิดโรคอ้วน ขาดการออกกำลังกาย มีพฤติกรรมสุขภาพด้านลบ เช่น สูบบุหรี่หรือบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มากเกินไป นอกจากนี้สภาวะแวดล้อมสังคมที่เร่งรีบและไม่กระตุ้นให้คนมีวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ ด้วยเหตุนี้โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงจึงเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยและการตายสูงถึงร้อยละ 60 ของการตายทั่วโลก และส่วนใหญ่เกิดขึ้นในประเทศที่กำลังพัฒนา ประเทศไทยพบว่า ประชากรที่เป็นเบาหวานทั้งหมด 3.2 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 6.9ส่วนโรคความดันโลหิตสูงคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปมี ความดันโลหิตสูง ร้อยละ 35.82 หรือคิดเป็นจำนวน 17.64 ล้านคน (World Health Organization [WHO], 2002)ประชากรกลุ่มเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงจำนวน 1ใน 10 คน หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสมก็จะกลายเป็นผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง ถึงร้อยละ 19-61 ภายในระยะเวลา 5-10 ปี (ชุมพจน์และบุญถนอม, 2550 ) และจะส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆทั้งโรคหัวใจ โรคไขมัน ซึ่งเป็นโรคที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้คนที่เป็นโรคส่วนใหญ่มักจะเป็นหลายโรคพร้อมกัน การจัดการกับโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงในปัจจุบันจึงเปลี่ยนจากการตั้งรับเพื่อการรักษา มาเป็นการมองว่าความเสี่ยงจะเป็นโรคมากน้อยเพียงไร และจะจัดการลดความเสี่ยงเหล่านั้นอย่างไร
จากการศึกษาที่ผ่านมา พบว่าปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคเบาหวานในกลุ่มเสี่ยง มีหลายปัจจัยด้วยกันได้แก่ ปัจจัยด้านอาหาร พันธุกรรม สิ่งแวดล้อม ความอ้วนการขาดการออกกำลังกายและปัจจัยอื่นๆ เช่น ความเครียดการใช้ยาบางชนิด สำหรับปัจจัยด้านอาหารพบว่ามีสาเหตุมาจากการมีพฤติกรรมการบริโภคอาหารไม่เหมาะสมโดยบริโภคอาหารที่ให้พลังงานสูงและรับประทานผลไม้ที่มีรสหวานจัดบริโภคผัก ผลไม้ และธัญพืชลดลง เป็นเหตุให้มีภาวะน้ำหนักเกินเพิ่มสูงขึ้น ปริมาณไขมันในเลือดมากเกินไปจนทำให้เกิดโรคอ้วนส่งผลให้เกิด เบาหวานในเวลาต่อมา (กรรณิการ์, 2549; ณรงค์ฤทธิ์, 2551; เนตรนภิส, 2551; สมควร, 2552) และยังพบว่าพฤติกรรมด้านการบริโภคอาหารของกลุ่มเสี่ยงต่อโรคเบาหวานส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง (กรรณิการ์, 2549; สุพิมพ์, 2550; เสกสันต์, 2551; สมควร, 2552) ผลการศึกษาสะท้อนให้เห็นว่าปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ล้วนมาจากพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต ของประชาชนกลุ่มเสี่ยงต่อโรคเบาหวานทั้งสิ้น ในปี ค.ศ. 2002 มีการศึกษาวิจัยถึงโปรแกรมการป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน ที่ศึกษาในคนอ้วน (ดัชนีมวลกาย 35 กก./ม.2) พบว่า การเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิต การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย สามารถลดอัตราการเป็นเบาหวานได้ร้อยละ 58 ส่วนผู้ที่เสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงการปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตที่สำคัญ (สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย, 2551; seventh report of the Joint National Committee [JNC 7], 2003) ได้แก่ 1) การลดน้ำหนักให้ดัชนีมวลกาย (Body mass index) เท่ากับ 8.5-24. กก./ตร.ม.2) การออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายชนิดใช้ออกซิเจนอย่างสม่ำเสมอเช่น การเดินเร็ว อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน และเกือบทุกวัน 3) งดหรือลดการดื่มแอลกอฮอล์ 4) รับประทานผัก ผลไม้ ที่ไม่หวานจัด 5)ลดปริมาณไขมันในอาหาร โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัว และ 6) การจำกัดเกลือในอาหารโดยลดการรับประทานเกลือโซเดียมให้น้อยกว่า 2,400 มิลลิกรัม ต่อวัน เพราะอาหารที่มีรสเค็ม หรือเกลือโซเดียม ถ้าได้รับปริมาณมากทำให้กล้ามเนื้อเรียบของผนังหลอดเลือดตึงตัว และระคายเคืองต่อต่อมหมวกไต จะทำให้หัวใจทำงานหนัก ส่งผลให้เกิดโรคหัวใจได้ง่าย (วิมลรัตน์, 2552) การปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตจะทำได้ต้องมีสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการปรับปรุง ตั้งแต่การปลูกฝังค่านิยมในการดำเนินชีวิต การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การป้องกันการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงนั้นจะทำได้โดยการสร้างให้เขาเกิดความตระหนักในความเสี่ยงที่มีอยู่การจะทำให้การปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตได้สำเร็จนั้นผู้ที่มีความเสี่ยงต้องมีจิตใจที่ตั้งมั่นจะรับผิดชอบดูแลสุขภาพตนเอง ทีมรักษา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะทำหน้าที่สนับสนุนและช่วยให้ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสามารถปฏิบัติการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้และเป็นไปตามแนวทางที่ถูกต้อง
ข้อมูลการวินิจฉัยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทุ่งใหญ่ ปี 2559 พบกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน จำนวน 69 คน คิดเป็นร้อยละ 2.43 กลุ่มเสี่ยงได้รับการวินิจฉัยโรคเบาหวานรายใหม่ จำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 13.04 กลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 90 คน คิดเป็นร้อยละ 3.52 กลุ่มเสี่ยงได้รับการวินิจฉัยโรคความดันโลหิตสูงรายใหม่ จำนวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 26.66 ในปี 2560 พบกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน จำนวน 51 คน คิดเป็นร้อยละ 1.78 กลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 159 คน คิดเป็นร้อยละ 5.38 แสดงให้เห็นว่าร้อยละการวินิจฉัยผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงรายใหม่มากกว่าร้อยละ 5 ซึ่งเกินเกณฑ์มาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดขึ้น
ดังนั้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านทุ่งใหญ่ จึงได้จัดโครงการปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตเพื่อป้องกันการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงสำหรับผู้ที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคโดยใช้แนวคิดทฤษฎีการเรียนรู้ของแบนดูรา (Bandura, 1986) กล่าวว่า พฤติกรรมของคนเราส่วนมากจะเป็นการเรียนรู้โดยการสังเกต (Observational Learning) หรือการเลียนแบบจากตัวแบบ (Modeling) สำหรับตัวแบบไม่จำเป็นต้องเป็นตัวแบบที่มีชีวิตเท่านั้น แต่อาจจะเป็นตัวสัญลักษณ์ และถือว่าทั้งบุคคลที่ต้องการจะเรียนรู้และสิ่งแวดล้อมเป็นสาเหตุของพฤติกรรมและได้อธิบายการปฏิสัมพันธ์ ร่วมกับขั้นตอนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (Transtheoretical model หรือ Stages of change ) ของโปรชาสการ์และคณะ (Prochaska etal., 1997 อ้างตาม อุมาพร, 2547) ที่กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม บุคคลจะมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเมื่อพร้อมที่จะเปลี่ยนเท่านั้น และระยะของความพร้อมที่แตกต่างกัน ต้องอาศัยคำแนะนำหรือแรงกระตุ้นที่จำเพาะ คือ ร่างกาย จิตใจ บุคคลรอบข้าง สิ่งแวดล้อม และรูปแบบการดำเนินชีวิตที่เหมาะสม ในการผลักดันให้เกิดการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต (Lifestyle) นี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะนำไปสู่การป้องกันการเกิดโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงของผู้ใช้บริการกลุ่มเสี่ยงสูงในที่สุด
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงสูงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และมีดัชนีมวลกาย (Body mass index) เท่ากับ 18.5-24. กก./ตร.ม
- เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงรายใหม่
- เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงมีความรู้และมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายที่เหมาะสม
- เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงมีความพึงพอใจกิจกรรมโครงการ “ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและออกกำลังกายสักนิด เพื่อป้องกันการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง”
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- กิจกรรมอบรมให้ความรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้ | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | ||
กลุ่มวัยทำงาน | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | 9 | |
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 40 | |
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] |
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
- กลุ่มเสี่ยงสูงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตได้ผ่านกระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและการออกกำลังกาย
- กลุ่มเสี่ยงสูงมีความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงและสามารถปฏิบัติพฤติกรรมการดูแลตนเองเพื่อป้องกันโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
- จำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตรายใหม่สูงลดลง
- ผู้ป่วยรายใหม่ได้รับการส่งต่อและรักษาตามมาตรฐาน
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์** กิจกรรมของโครงการ | ผลผลิต* | |
---|---|---|
ผลผลิตที่ตั้งไว้ | ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง | |
1. กิจกรรมอบรมให้ความรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร |
||
วันที่ 17 มีนาคม 2560กิจกรรมที่ทำ1.จัดทำทะเบียนกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง 2.จัดให้กลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงได้เข้าร่วมกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นหลังจากดำเนินกิจกรรม 1 เดือนผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารได้จำนวน 3 คนคิดเป็นร้อยละ 33.33 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการออกกำลังกายได้จำนวน 4 คนคิดเป็นร้อยละ 44.44 มีการผ่อนคลายอารมณ์จำนวน 6 คนคิดเป็นร้อยละ 66.66 แต่ยังไม่พบว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถลดได้เองได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงจำนวน 9 คนคิดเป็นร้อยละ 100
|
59 | 0 |
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ | สถานการณ์ | เป้าหมาย | ผลผลิต | อธิบาย | |
---|---|---|---|---|---|
1 | เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงสูงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
และมีดัชนีมวลกาย (Body mass index) เท่ากับ 18.5-24. กก./ตร.ม ตัวชี้วัด : |
|
|||
2 | เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงรายใหม่ ตัวชี้วัด : |
|
|||
3 | เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงมีความรู้และมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายที่เหมาะสม ตัวชี้วัด : |
|
|||
4 | เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงมีความพึงพอใจกิจกรรมโครงการ “ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและออกกำลังกายสักนิด เพื่อป้องกันการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง” ตัวชี้วัด : |
|
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
---|---|---|---|
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด | 49 | ||
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | |||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | - | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | - | ||
กลุ่มวัยทำงาน | - | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | - | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | |||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | - | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | 9 | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | - | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | 40 | ||
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] | - |
บทคัดย่อ*
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงสูงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
และมีดัชนีมวลกาย (Body mass index) เท่ากับ 18.5-24. กก./ตร.ม (2) เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงรายใหม่ (3) เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงมีความรู้และมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายที่เหมาะสม (4) เพื่อให้กลุ่มเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงมีความพึงพอใจกิจกรรมโครงการ “ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและออกกำลังกายสักนิด เพื่อป้องกันการเกิดโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง”
ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (1) กิจกรรมอบรมให้ความรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร
ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...
หมายเหตุ *
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค | สาเหตุ | ข้อเสนอแนะ |
---|---|---|
|
|
|
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายฯ จังหวัด สงขลา
รหัสโครงการ 60-L5215-1-4.4
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
( นางเพ็ญศรี รอดอิน )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......