แบบรายงานการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์
รายงานฉบับสมบูรณ์
กองทุนสุขภาพตำบล อบต.กำแพง
“ โครงการฟันดี ยิ้มสวย เคี้ยวอร่อย ด้วยวิธี SMART TECHNIQUE ”
ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล
หัวหน้าโครงการ
โรงพยาบาลละงู
ชื่อโครงการ โครงการฟันดี ยิ้มสวย เคี้ยวอร่อย ด้วยวิธี SMART TECHNIQUE
ที่อยู่ ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล จังหวัด สตูล
รหัสโครงการ 2562-L8010-1-02 เลขที่ข้อตกลง
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2561 ถึง 30 กันยายน 2562
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการฟันดี ยิ้มสวย เคี้ยวอร่อย ด้วยวิธี SMART TECHNIQUE จังหวัดสตูล" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.กำแพง ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการฟันดี ยิ้มสวย เคี้ยวอร่อย ด้วยวิธี SMART TECHNIQUE
บทคัดย่อ
แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโรคฟันผุจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงที่ เด็กมีอายุ 1-3 ปี และพบว่า เด็กไม่ได้รับการรักษาด้วยการอุด จะทำให้มีการลุกลามจนทะลุโพรงประสาทฟัน เกิดอาการปวดทรมาน ทำให้เด็กไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ รับประทานอาหารได้น้อยลง เกิดภาวะขาดสารอาหาร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและสมองเด็ก หากเด็กสูญเสียฟันน้ำนมก่อนกำหนดจะทำให้ไม่มีฟันเคี้ยวอาหาร หรือเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด มีผลต่อภาวะโภชนาการส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็ก ทำให้การเจริญเติบโตของเด็กลดลงตามจำนวนฟันผุ
จากการสำรวจเด็กทั้งหมดในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง ในปี พ.ศ. 2559 – 2561 พบฟันผุ ร้อยละ 75.18 ,72.6, 69.2 ตามลำดับ การสำรวจสภาวะโรคฟันผุในเด็ก 3 ขวบ ปี พ.ศ.2561 มีค่าเฉลี่ยฟันผุคนละประมาณ 5.22ซี่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง มีจำนวน 5 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านควนไสน เด็กจำนวน 65 คน ฟันผุ 19 คน คิดเป็นร้อยละ 29.23, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านท่าแลหลา เด็กจำนวน 65 คน ฟันผุ 26 คน คิดเป็นร้อยละ 40, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านปากปิง เด็กจำนวน 99 คน ฟันผุ 46 คน คิดเป็นร้อยละ 46.46, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านป่าฝาง เด็กจำนวน 73 คน ฟันผุ 70 คน คิดเป็นร้อยละ 95.89 และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านตูแตหรำ เด็กจำนวน 29 คน ฟันผุ 13 คน คิดเป็นร้อยละ 44.83 จะเห็นได้ว่า มีอุบัติการณ์โรคฟันผุสูง และพบว่าเด็กไม่ได้รับการรักษาด้วยการอุดฟัน ทำให้มีผุลุกลามจนทะลุโพรงประสาทฟัน เกิดอาการปวดทรมานทำให้เด็กไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ รับประทานอาหารได้น้อยลง เกิดภาวะขาดสารอาหาร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและสมองของเด็ก
SMART หรือ Simplified Modified Atrumatic Restoration Technique เป็นเทคนิคการอุดฟันที่คิดค้นเพื่อใช้ในการบูรณะฟันในกรณีที่ไม่สามารถจัดบริการรักษาแบบปกติได้ เป็นการให้บริการทันตกรรมเชิงรุก สามารถดำเนินการในชุมชนได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือที่ทันสมัย เทคนิคนี้ได้มีการพัฒนาวัสดุทางทันตกรรมที่ชื่อว่า กลาสไอโอโนเมอร์ ซีเมนต์ ที่มีคุณสมบัติที่ดีมีการปลดปล่อยฟลูออไรด์ในปริมาณที่สูง ซึ่งฟลูออไรด์ที่ปลดปล่อยออกมาก็มีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย เพิ่มการคืนกลับของแร่ธาตุ มีความสำคัญต่อการควบคุมการเกิดฟันผุหรือป้องกันการเกิดฟันผุซ้ำ จากการทบทวนของ Yip และ Smales ในปี ค.ศ.2006 พบว่า การใช้กลาสไอโอโนเมอร์ ซีเมนต์เป็นสารเคลือบหลุมร่องฟันและการใช้ทำ SMART พบว่า อัตราการยึดสมบูรณ์ มีประมาณร้อยละ 70 และอัตราการเกิดฟันผุอยู่ในช่วง ร้อยละ 0-4 (อัตราการคงอยู่และฟันไม่ผุเพิ่ม ร้อยละ 96) ส่วนเครื่องมือที่นำไปใช้ ในการทำ SMART เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ใช้มือ (Hand instrument) ในการอุดฟันประโยชน์ของการทำ SMART ด้วยกลาสไอโอโนเมอร์ ซีเมนต์ คือ ค่าใช้จ่ายต่ำ เป็นการปรับพฤติกรรมเด็ก เจ็บปวดน้อย ลดการผุลุกลามสามารถเก็บฟันไว้ได้โดยไม่ต้องถอน ลดปริมาณเชื้อแบคทีเรียในช่องปากได้ ซึ่งประสิทธิผลในการบูรณะด้วยวิธีนี้ ได้แนะนำให้เลือกใช้ในกิจกรรมโปรแกรมทันตสุขภาพในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหรือโรงเรียนได้ดี
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ
บทคัดย่อ
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
วัตถุประสงค์โครงการ
กิจกรรม/การดำเนินงาน
กลุ่มเป้าหมาย
ผลลัพธ์ที่ได้
การประเมินผล
ปัญหาและอุปสรรค
ข้อเสนอแนะ
เอกสารประกอบอื่นๆ
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
จากการสำรวจเด็กทั้งหมดในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง ในปี พ.ศ. 2559 – 2561 พบฟันผุ ร้อยละ 75.18 ,72.6, 69.2 ตามลำดับ การสำรวจสภาวะโรคฟันผุในเด็ก 3 ขวบ ปี พ.ศ.2561 มีค่าเฉลี่ยฟันผุคนละประมาณ 5.22ซี่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง มีจำนวน 5 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านควนไสน เด็กจำนวน 65 คน ฟันผุ 19 คน คิดเป็นร้อยละ 29.23, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านท่าแลหลา เด็กจำนวน 65 คน ฟันผุ 26 คน คิดเป็นร้อยละ 40, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านปากปิง เด็กจำนวน 99 คน ฟันผุ 46 คน คิดเป็นร้อยละ 46.46, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านป่าฝาง เด็กจำนวน 73 คน ฟันผุ 70 คน คิดเป็นร้อยละ 95.89 และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านตูแตหรำ เด็กจำนวน 29 คน ฟันผุ 13 คน คิดเป็นร้อยละ 44.83 จะเห็นได้ว่า มีอุบัติการณ์โรคฟันผุสูง และพบว่าเด็กไม่ได้รับการรักษาด้วยการอุดฟัน ทำให้มีผุลุกลามจนทะลุโพรงประสาทฟัน เกิดอาการปวดทรมานทำให้เด็กไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ รับประทานอาหารได้น้อยลง เกิดภาวะขาดสารอาหาร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและสมองของเด็ก
SMART หรือ Simplified Modified Atrumatic Restoration Technique เป็นเทคนิคการอุดฟันที่คิดค้นเพื่อใช้ในการบูรณะฟันในกรณีที่ไม่สามารถจัดบริการรักษาแบบปกติได้ เป็นการให้บริการทันตกรรมเชิงรุก สามารถดำเนินการในชุมชนได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือที่ทันสมัย เทคนิคนี้ได้มีการพัฒนาวัสดุทางทันตกรรมที่ชื่อว่า กลาสไอโอโนเมอร์ ซีเมนต์ ที่มีคุณสมบัติที่ดีมีการปลดปล่อยฟลูออไรด์ในปริมาณที่สูง ซึ่งฟลูออไรด์ที่ปลดปล่อยออกมาก็มีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย เพิ่มการคืนกลับของแร่ธาตุ มีความสำคัญต่อการควบคุมการเกิดฟันผุหรือป้องกันการเกิดฟันผุซ้ำ จากการทบทวนของ Yip และ Smales ในปี ค.ศ.2006 พบว่า การใช้กลาสไอโอโนเมอร์ ซีเมนต์เป็นสารเคลือบหลุมร่องฟันและการใช้ทำ SMART พบว่า อัตราการยึดสมบูรณ์ มีประมาณร้อยละ 70 และอัตราการเกิดฟันผุอยู่ในช่วง ร้อยละ 0-4 (อัตราการคงอยู่และฟันไม่ผุเพิ่ม ร้อยละ 96) ส่วนเครื่องมือที่นำไปใช้ ในการทำ SMART เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ใช้มือ (Hand instrument) ในการอุดฟันประโยชน์ของการทำ SMART ด้วยกลาสไอโอโนเมอร์ ซีเมนต์ คือ ค่าใช้จ่ายต่ำ เป็นการปรับพฤติกรรมเด็ก เจ็บปวดน้อย ลดการผุลุกลามสามารถเก็บฟันไว้ได้โดยไม่ต้องถอน ลดปริมาณเชื้อแบคทีเรียในช่องปากได้ ซึ่งประสิทธิผลในการบูรณะด้วยวิธีนี้ ได้แนะนำให้เลือกใช้ในกิจกรรมโปรแกรมทันตสุขภาพในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหรือโรงเรียนได้ดี
ดังนั้นกลุ่มงานทันตสาธารณสุขรพ.ละงู จึงได้จัดทำโครงการฟันดี ยิ้มสวย เคี้ยวอร่อย ด้วยวิธี SMART TECHNIQUE ขึ้นเพื่อควบคุมโรคฟันผุ ป้องกันการเกิดฟันผุซ้ำ และยังเป็นการดูแลรักษาอนามัยในช่องปากให้กับเด็กต่อไปได้
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- ข้อที่ 1. เพื่อฟื้นฟูและให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเด็กใน ศพด. เกี่ยวทักษะที่ถูกต้องในการดูแลสุขภาพช่องปากเด็ก
- ข้อที่ 2 เพื่อลดการผุลุกลามของฟันกรามน้ำนมในเด็กอายุ 3-5 ปี
- ข้อที่ 3.เพื่อให้เด็กอายุ 3-5 ปี ได้รับการอุดฟันเพิ่มขึ้น
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- กิจกรรมที่ 1.กิจกรรมด้านส่งเสริมป้องกัน
- กิจกรรมที่ 2.1 ตรวจสุขภาพช่องปากเด็กเล็กทุกคน
- กิจกรรมที่ 2.2 ให้การบูรณฟันด้วยวิธี SMART technique ในเด็กที่มีฟันน้ำนมผุ
- กิจกรรมที่ 3 รายงานผลโครงการและแลกเปลี่ยนเรียนรู้
- กิจกรรมที่ 2.3 ติดตามผล 1 เดือนภายหลังการอุดฟันด้วยเทคนิค SMART แล้ว เด็กไม่มีอาการปวดฟัน
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
331
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
กลุ่มวัยทำงาน
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
- ผู้ปกครองเด็กร้อยละ 80 มีความรู้และทักษะที่ถูกต้องในการดูแลสุขภาพช่องเด็ก
- ลดอัตราการเกิดโรคฟันผุ ลดการสูญเสียฟันน้ำนม และลดการเกิดฟันผุในฟันแท้ได้
- เด็กอายุ 3-5 ปี ได้เข้าถึงการรับบริการอุดฟันมากขึ้น
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์**
กิจกรรมของโครงการ ผลผลิต* ผลผลิตที่ตั้งไว้ ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง
1. กิจกรรมที่ 2.2 ให้การบูรณฟันด้วยวิธี SMART technique ในเด็กที่มีฟันน้ำนมผุ
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562กิจกรรมที่ทำ
กิจกรรม ให้การบูรณฟันด้วยวิธี SMART technique ในเด็กที่มีฟันน้ำนมผุ
เป้าหมาย
- เด็กใน ศพด. จำนวน 331 คน
รายละเอียดกิจกรรม
ทาง รพ.ประสานงานครูเพื่อลงไปดำเนินการอุดฟันให้นักเรียน
เตรียมวัสดุและอุปกรณ์ ออกหน่วย
ครูผู้ดูแลเด็กนัดผู้ปกครองเด็กเพื่อนำเด็กมาตามรายชื่อมาอุดฟันในวันและเวลาที่นัดหมาย
ให้บริการอุดฟันกรามน้ำนมด้วย SMART technique แก่เด็กเล็กในศพด.
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
จำนวนเด็กทั้งหมด จำนวน 331 คน
ได้รับตรวจฟัน จำนวน 310 คน คิดเป็นร้อยละ 93.66
จำนวนเด็กที่ปราศจากฟันผุ จำนวน 64 คน คิดเป็นร้อยละ 21.61
จำนวนเด็กที่มีฟันผุ จำนวน 243/1645 คน/ซี่ คิดเป็นร้อยละ 78.39
จำนวนเด็กที่ได้รับการบูรณฟัน ทั้งหมด 202/569 คน/ซี่ คิดเป็นร้อยละ 83.13
ดังนั้น นักเรียนที่ได้รับการบูรณฟันแล้วสามารถควบคุมรอยโรคฟันผุไม่ให้ผุลุกลามต่อในฟันน้ำนม และลดโอกาสเสี่ยงโรคฟันผุได้ถึงร้อยละ 50
331
0
2. กิจกรรมที่ 1.กิจกรรมด้านส่งเสริมป้องกัน
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562กิจกรรมที่ทำ
กิจกรรมอบรมให้ความรู้เพื่อเพิ่มทักษะในการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีแก่ผู้ปกครอง เด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก หลักสูตร 1 วัน/ศพด.
เป้าหมาย
- ผู้ปกครองเด็ก จำนวน 331 คน
ผู้ปกครอง ศพด.บ้านควนไสน จำนวน 65 คน
ผู้ปกครอง ศพด.บ้านท่าแลหลา จำนวน 65 คน
ผู้ปกครอง ศพด.บ้านป่าฝาง จำนวน 73 คน
ผู้ปกครอง ศพด.บ้านปากปิง จำนวน 99 คน
ผู้ปกครอง ศพด.บ้านตูแตหรำ จำนวน 29 คน
รายละเอียดกิจกรรม
- อบรมฟื้นฟูและให้ความรู้เพื่อเพิ่มทักษะในการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีแก่ผู้ปกครองเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
- ฝึกปฏิบัติทักษะการแปรงฟัน แบบ Hand on ให้แก่ผู้ปกครอง
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
กิจกรรมอบรมให้ความรู้เพื่อเพิ่มทักษะในการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีแก่ผู้ปกครอง เด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก หลักสูตร 1 วัน/ศพด.
เป้าหมาย - ผู้ปกครองเด็ก จำนวน 331 คน
ผู้ปกครอง ศพด.บ้านควนไสน จำนวน 65 คน
ผู้ปกครอง ศพด.บ้านท่าแลหลา จำนวน 65 คน
ผู้ปกครอง ศพด.บ้านป่าฝาง จำนวน 73 คน
ผู้ปกครอง ศพด.บ้านปากปิง จำนวน 99 คน
ผู้ปกครอง ศพด.บ้านตูแตหรำ จำนวน 29 คน
ผลการดำเนินงาน การประเมินความรู้โดยการทำแบบประเมินความรู้ก่อนและหลังการอบรมเรื่องความรู้เกี่ยวกับโรคฟังผุ การดูแลสุขภาพช่องปาก อาหารที่มีประโยชน์และโทษต่อฟัน โดยใช้แบบทดสอบจำนวน 10 ข้อ ข้อละ 1 คะแนน คะแนนเต็ม 10 คะแนน โดยให้ผู้เข้าอบรมขีดเครื่องหมายในช่องที่เห็นว่าใช่ หรือไม่ใช่ ในแบบประเมิน ผลปรากฎ ดังนี้
ก่อนการอบรม ผู้เข้าร่วมอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคฟันผุ การดูแลสุขภาพช่องปาก อาหารที่มีประโยชน์และโทษต่อฟัน ได้คะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 65.00 มีผู้ได้คะแนนสูงสุด 9 คะแนน และคะแนนต่ำสุด 1 คะแนน โดยมีคะแนนเฉลี่ย 6.46 คะแนน
หลังการอบรม ผู้เข้าร่วมอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคฟันผุ การดูแลสุขภาพช่องปาก อาหารที่มีประโยชน์และโทษต่อฟัน ได้คะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 90.09 มีผู้ได้คะแนนสูงสุด 10 คะแนน และคะแนนต่ำสุด 6 คะแนน โดยมีคะแนนเฉลี่ย 9.01 คะแนน
ผู้เข้าร่วมอบรมทั้งหมด 331 คน จากการทำแบบทดสอบก่อน-หลังการอบรม แสดงให้เห็นว่าเมื่อเสร็จสิ้นการอบรมแล้ว ผู้เข้าร่วมอบรมมีความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้น เฉลี่ยร้อยละ 36.5
331
0
3. กิจกรรมที่ 2.3 ติดตามผล 1 เดือนภายหลังการอุดฟันด้วยเทคนิค SMART แล้ว เด็กไม่มีอาการปวดฟัน
วันที่ 4 พฤษภาคม 2562กิจกรรมที่ทำ
กิจกรรมติดตามผล 1 เดือนภายหลังการอุดฟันด้วยเทคนิค SMART แล้ว เด็กไม่มีอาการปวดฟัน
เป้าหมาย
- เด็กใน ศพด. จำนวน 331 คน
รายละเอียดกิจกรรม
- ทันตบุคลากรจะเข้าไปติดตามอาการภายหลังการอุดฟันด้วย SMART technique ของเด็กเล็ก ในศพด. โดยจะสุ่มตรวจ ร้อยละ 10 ของนักเรียนที่ได้รับการรักษา
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
จากการสำรวจสภาวะช่องปาก มีเด็กได้รับการบูรณฟันเพียงร้อยละ 3.7 โดยหลังจากการดำเนินโครงการแล้วเสร็จ เด็กได้รับการเข้าถึงบริการเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 83.13
331
0
4. กิจกรรมที่ 3 รายงานผลโครงการและแลกเปลี่ยนเรียนรู้
วันที่ 1 กันยายน 2562กิจกรรมที่ทำ
รายละเอียดกิจกรรม
จัดทำเอกสารนำเสนอโครงการ จำนวน 2 ครั้ง
จัดทำรูปเล่มรายงานผลโครงการเมื่อเสร็จโครงการ
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
จัดทำรูปเล่มรายงานผลโครงการเมื่อเสร็จโครงการ จำนวน 4 เล่ม
2
0
5. กิจกรรมที่ 2.1 ตรวจสุขภาพช่องปากเด็กเล็กทุกคน
วันที่ 2 กันยายน 2562กิจกรรมที่ทำ
กิจกรรมตรวจสุขภาพช่องปากเด็กเล็กทุกคน
เป้าหมาย
- เด็กใน ศพด. จำนวน 331คน
รายละเอียดกิจกรรม
- นักเรียนใน ศพด. ทั้ง 5 แห่ง ได้รับการตรวจฟันจากทันตบุคลากร
- คัดเลือกเด็กนักเรียนที่มีฟันกรามน้ำนมผุเพื่อทำการอุด ART
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
จำนวนเด็กทั้งหมด จำนวน 331 คน
ได้รับตรวจฟัน จำนวน 310 คน คิดเป็นร้อยละ 93.66
จำนวนเด็กที่ปราศจากฟันผุ จำนวน 64 คน คิดเป็นร้อยละ 21.61
จำนวนเด็กที่มีฟันผุ จำนวน 243/1645 คน/ซี่ คิดเป็นร้อยละ 78.39
331
0
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ สถานการณ์ เป้าหมาย ผลผลิต อธิบาย
1
ข้อที่ 1. เพื่อฟื้นฟูและให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเด็กใน ศพด. เกี่ยวทักษะที่ถูกต้องในการดูแลสุขภาพช่องปากเด็ก
ตัวชี้วัด : 1. ร้อยละ 80 ของผู้ปกครองเด็กมีความรู้และทักษะที่ถูกต้องในการดูแลสุขภาพช่องเด็ก
80.00
2
ข้อที่ 2 เพื่อลดการผุลุกลามของฟันกรามน้ำนมในเด็กอายุ 3-5 ปี
ตัวชี้วัด : 1. ลดอัตราการเกิดโรคฟันผุ ลดการสูญเสียฟันน้ำนม และลดการเกิดฟันผุในฟันแท้ได้ อย่างน้อยร้อยละ 50
50.00
3
ข้อที่ 3.เพื่อให้เด็กอายุ 3-5 ปี ได้รับการอุดฟันเพิ่มขึ้น
ตัวชี้วัด : 1. เด็กอายุ 3-5 ปี ได้เข้าถึงการรับบริการอุดฟันมากขึ้น
100.00
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด
331
กลุ่มเป้าหมาย จำนวนที่วางไว้(คน) จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
331
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
-
กลุ่มวัยทำงาน
-
กลุ่มผู้สูงอายุ
-
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
-
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
-
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
-
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
-
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]
-
บทคัดย่อ*
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค สาเหตุ ข้อเสนอแนะ
โครงการฟันดี ยิ้มสวย เคี้ยวอร่อย ด้วยวิธี SMART TECHNIQUE จังหวัด สตูล
รหัสโครงการ 2562-L8010-1-02
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
................................
( โรงพยาบาลละงู )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......
กองทุนสุขภาพตำบล อบต.กำแพง
“ โครงการฟันดี ยิ้มสวย เคี้ยวอร่อย ด้วยวิธี SMART TECHNIQUE ”
ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูลหัวหน้าโครงการ
โรงพยาบาลละงู
ชื่อโครงการ โครงการฟันดี ยิ้มสวย เคี้ยวอร่อย ด้วยวิธี SMART TECHNIQUE
ที่อยู่ ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล จังหวัด สตูล
รหัสโครงการ 2562-L8010-1-02 เลขที่ข้อตกลง
ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2561 ถึง 30 กันยายน 2562
กิตติกรรมประกาศ
"โครงการฟันดี ยิ้มสวย เคี้ยวอร่อย ด้วยวิธี SMART TECHNIQUE จังหวัดสตูล" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล
คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.กำแพง ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป
คณะทำงานโครงการ
โครงการฟันดี ยิ้มสวย เคี้ยวอร่อย ด้วยวิธี SMART TECHNIQUE
บทคัดย่อ
แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโรคฟันผุจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงที่ เด็กมีอายุ 1-3 ปี และพบว่า เด็กไม่ได้รับการรักษาด้วยการอุด จะทำให้มีการลุกลามจนทะลุโพรงประสาทฟัน เกิดอาการปวดทรมาน ทำให้เด็กไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ รับประทานอาหารได้น้อยลง เกิดภาวะขาดสารอาหาร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและสมองเด็ก หากเด็กสูญเสียฟันน้ำนมก่อนกำหนดจะทำให้ไม่มีฟันเคี้ยวอาหาร หรือเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด มีผลต่อภาวะโภชนาการส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็ก ทำให้การเจริญเติบโตของเด็กลดลงตามจำนวนฟันผุ
จากการสำรวจเด็กทั้งหมดในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง ในปี พ.ศ. 2559 – 2561 พบฟันผุ ร้อยละ 75.18 ,72.6, 69.2 ตามลำดับ การสำรวจสภาวะโรคฟันผุในเด็ก 3 ขวบ ปี พ.ศ.2561 มีค่าเฉลี่ยฟันผุคนละประมาณ 5.22ซี่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง มีจำนวน 5 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านควนไสน เด็กจำนวน 65 คน ฟันผุ 19 คน คิดเป็นร้อยละ 29.23, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านท่าแลหลา เด็กจำนวน 65 คน ฟันผุ 26 คน คิดเป็นร้อยละ 40, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านปากปิง เด็กจำนวน 99 คน ฟันผุ 46 คน คิดเป็นร้อยละ 46.46, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านป่าฝาง เด็กจำนวน 73 คน ฟันผุ 70 คน คิดเป็นร้อยละ 95.89 และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านตูแตหรำ เด็กจำนวน 29 คน ฟันผุ 13 คน คิดเป็นร้อยละ 44.83 จะเห็นได้ว่า มีอุบัติการณ์โรคฟันผุสูง และพบว่าเด็กไม่ได้รับการรักษาด้วยการอุดฟัน ทำให้มีผุลุกลามจนทะลุโพรงประสาทฟัน เกิดอาการปวดทรมานทำให้เด็กไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ รับประทานอาหารได้น้อยลง เกิดภาวะขาดสารอาหาร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและสมองของเด็ก
SMART หรือ Simplified Modified Atrumatic Restoration Technique เป็นเทคนิคการอุดฟันที่คิดค้นเพื่อใช้ในการบูรณะฟันในกรณีที่ไม่สามารถจัดบริการรักษาแบบปกติได้ เป็นการให้บริการทันตกรรมเชิงรุก สามารถดำเนินการในชุมชนได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือที่ทันสมัย เทคนิคนี้ได้มีการพัฒนาวัสดุทางทันตกรรมที่ชื่อว่า กลาสไอโอโนเมอร์ ซีเมนต์ ที่มีคุณสมบัติที่ดีมีการปลดปล่อยฟลูออไรด์ในปริมาณที่สูง ซึ่งฟลูออไรด์ที่ปลดปล่อยออกมาก็มีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย เพิ่มการคืนกลับของแร่ธาตุ มีความสำคัญต่อการควบคุมการเกิดฟันผุหรือป้องกันการเกิดฟันผุซ้ำ จากการทบทวนของ Yip และ Smales ในปี ค.ศ.2006 พบว่า การใช้กลาสไอโอโนเมอร์ ซีเมนต์เป็นสารเคลือบหลุมร่องฟันและการใช้ทำ SMART พบว่า อัตราการยึดสมบูรณ์ มีประมาณร้อยละ 70 และอัตราการเกิดฟันผุอยู่ในช่วง ร้อยละ 0-4 (อัตราการคงอยู่และฟันไม่ผุเพิ่ม ร้อยละ 96) ส่วนเครื่องมือที่นำไปใช้ ในการทำ SMART เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ใช้มือ (Hand instrument) ในการอุดฟันประโยชน์ของการทำ SMART ด้วยกลาสไอโอโนเมอร์ ซีเมนต์ คือ ค่าใช้จ่ายต่ำ เป็นการปรับพฤติกรรมเด็ก เจ็บปวดน้อย ลดการผุลุกลามสามารถเก็บฟันไว้ได้โดยไม่ต้องถอน ลดปริมาณเชื้อแบคทีเรียในช่องปากได้ ซึ่งประสิทธิผลในการบูรณะด้วยวิธีนี้ ได้แนะนำให้เลือกใช้ในกิจกรรมโปรแกรมทันตสุขภาพในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหรือโรงเรียนได้ดี
หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"
สารบัญ
กิตติกรรมประกาศ | |
บทคัดย่อ | |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล | |
วัตถุประสงค์โครงการ | |
กิจกรรม/การดำเนินงาน | |
กลุ่มเป้าหมาย | |
ผลลัพธ์ที่ได้ | |
การประเมินผล | |
ปัญหาและอุปสรรค | |
ข้อเสนอแนะ | |
เอกสารประกอบอื่นๆ |
ความเป็นมา/หลักการเหตุผล
จากการสำรวจเด็กทั้งหมดในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง ในปี พ.ศ. 2559 – 2561 พบฟันผุ ร้อยละ 75.18 ,72.6, 69.2 ตามลำดับ การสำรวจสภาวะโรคฟันผุในเด็ก 3 ขวบ ปี พ.ศ.2561 มีค่าเฉลี่ยฟันผุคนละประมาณ 5.22ซี่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง มีจำนวน 5 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านควนไสน เด็กจำนวน 65 คน ฟันผุ 19 คน คิดเป็นร้อยละ 29.23, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านท่าแลหลา เด็กจำนวน 65 คน ฟันผุ 26 คน คิดเป็นร้อยละ 40, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านปากปิง เด็กจำนวน 99 คน ฟันผุ 46 คน คิดเป็นร้อยละ 46.46, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านป่าฝาง เด็กจำนวน 73 คน ฟันผุ 70 คน คิดเป็นร้อยละ 95.89 และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านตูแตหรำ เด็กจำนวน 29 คน ฟันผุ 13 คน คิดเป็นร้อยละ 44.83 จะเห็นได้ว่า มีอุบัติการณ์โรคฟันผุสูง และพบว่าเด็กไม่ได้รับการรักษาด้วยการอุดฟัน ทำให้มีผุลุกลามจนทะลุโพรงประสาทฟัน เกิดอาการปวดทรมานทำให้เด็กไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ รับประทานอาหารได้น้อยลง เกิดภาวะขาดสารอาหาร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและสมองของเด็ก
SMART หรือ Simplified Modified Atrumatic Restoration Technique เป็นเทคนิคการอุดฟันที่คิดค้นเพื่อใช้ในการบูรณะฟันในกรณีที่ไม่สามารถจัดบริการรักษาแบบปกติได้ เป็นการให้บริการทันตกรรมเชิงรุก สามารถดำเนินการในชุมชนได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือที่ทันสมัย เทคนิคนี้ได้มีการพัฒนาวัสดุทางทันตกรรมที่ชื่อว่า กลาสไอโอโนเมอร์ ซีเมนต์ ที่มีคุณสมบัติที่ดีมีการปลดปล่อยฟลูออไรด์ในปริมาณที่สูง ซึ่งฟลูออไรด์ที่ปลดปล่อยออกมาก็มีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย เพิ่มการคืนกลับของแร่ธาตุ มีความสำคัญต่อการควบคุมการเกิดฟันผุหรือป้องกันการเกิดฟันผุซ้ำ จากการทบทวนของ Yip และ Smales ในปี ค.ศ.2006 พบว่า การใช้กลาสไอโอโนเมอร์ ซีเมนต์เป็นสารเคลือบหลุมร่องฟันและการใช้ทำ SMART พบว่า อัตราการยึดสมบูรณ์ มีประมาณร้อยละ 70 และอัตราการเกิดฟันผุอยู่ในช่วง ร้อยละ 0-4 (อัตราการคงอยู่และฟันไม่ผุเพิ่ม ร้อยละ 96) ส่วนเครื่องมือที่นำไปใช้ ในการทำ SMART เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ใช้มือ (Hand instrument) ในการอุดฟันประโยชน์ของการทำ SMART ด้วยกลาสไอโอโนเมอร์ ซีเมนต์ คือ ค่าใช้จ่ายต่ำ เป็นการปรับพฤติกรรมเด็ก เจ็บปวดน้อย ลดการผุลุกลามสามารถเก็บฟันไว้ได้โดยไม่ต้องถอน ลดปริมาณเชื้อแบคทีเรียในช่องปากได้ ซึ่งประสิทธิผลในการบูรณะด้วยวิธีนี้ ได้แนะนำให้เลือกใช้ในกิจกรรมโปรแกรมทันตสุขภาพในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหรือโรงเรียนได้ดี
ดังนั้นกลุ่มงานทันตสาธารณสุขรพ.ละงู จึงได้จัดทำโครงการฟันดี ยิ้มสวย เคี้ยวอร่อย ด้วยวิธี SMART TECHNIQUE ขึ้นเพื่อควบคุมโรคฟันผุ ป้องกันการเกิดฟันผุซ้ำ และยังเป็นการดูแลรักษาอนามัยในช่องปากให้กับเด็กต่อไปได้
สถานการณ์
วัตถุประสงค์โครงการ
- ข้อที่ 1. เพื่อฟื้นฟูและให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเด็กใน ศพด. เกี่ยวทักษะที่ถูกต้องในการดูแลสุขภาพช่องปากเด็ก
- ข้อที่ 2 เพื่อลดการผุลุกลามของฟันกรามน้ำนมในเด็กอายุ 3-5 ปี
- ข้อที่ 3.เพื่อให้เด็กอายุ 3-5 ปี ได้รับการอุดฟันเพิ่มขึ้น
กิจกรรม/การดำเนินงาน
- กิจกรรมที่ 1.กิจกรรมด้านส่งเสริมป้องกัน
- กิจกรรมที่ 2.1 ตรวจสุขภาพช่องปากเด็กเล็กทุกคน
- กิจกรรมที่ 2.2 ให้การบูรณฟันด้วยวิธี SMART technique ในเด็กที่มีฟันน้ำนมผุ
- กิจกรรมที่ 3 รายงานผลโครงการและแลกเปลี่ยนเรียนรู้
- กิจกรรมที่ 2.3 ติดตามผล 1 เดือนภายหลังการอุดฟันด้วยเทคนิค SMART แล้ว เด็กไม่มีอาการปวดฟัน
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้ | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 331 | |
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | ||
กลุ่มวัยทำงาน | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | ||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | ||
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] |
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
- ผู้ปกครองเด็กร้อยละ 80 มีความรู้และทักษะที่ถูกต้องในการดูแลสุขภาพช่องเด็ก
- ลดอัตราการเกิดโรคฟันผุ ลดการสูญเสียฟันน้ำนม และลดการเกิดฟันผุในฟันแท้ได้
- เด็กอายุ 3-5 ปี ได้เข้าถึงการรับบริการอุดฟันมากขึ้น
ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์** กิจกรรมของโครงการ | ผลผลิต* | |
---|---|---|
ผลผลิตที่ตั้งไว้ | ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง | |
1. กิจกรรมที่ 2.2 ให้การบูรณฟันด้วยวิธี SMART technique ในเด็กที่มีฟันน้ำนมผุ |
||
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562กิจกรรมที่ทำกิจกรรม ให้การบูรณฟันด้วยวิธี SMART technique ในเด็กที่มีฟันน้ำนมผุ เป้าหมาย
รายละเอียดกิจกรรม
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจำนวนเด็กทั้งหมด จำนวน 331 คน
ดังนั้น นักเรียนที่ได้รับการบูรณฟันแล้วสามารถควบคุมรอยโรคฟันผุไม่ให้ผุลุกลามต่อในฟันน้ำนม และลดโอกาสเสี่ยงโรคฟันผุได้ถึงร้อยละ 50
|
331 | 0 |
2. กิจกรรมที่ 1.กิจกรรมด้านส่งเสริมป้องกัน |
||
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562กิจกรรมที่ทำกิจกรรมอบรมให้ความรู้เพื่อเพิ่มทักษะในการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีแก่ผู้ปกครอง เด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก หลักสูตร 1 วัน/ศพด. เป้าหมาย
รายละเอียดกิจกรรม
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกิจกรรมอบรมให้ความรู้เพื่อเพิ่มทักษะในการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีแก่ผู้ปกครอง เด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก หลักสูตร 1 วัน/ศพด. เป้าหมาย - ผู้ปกครองเด็ก จำนวน 331 คน
ผลการดำเนินงาน การประเมินความรู้โดยการทำแบบประเมินความรู้ก่อนและหลังการอบรมเรื่องความรู้เกี่ยวกับโรคฟังผุ การดูแลสุขภาพช่องปาก อาหารที่มีประโยชน์และโทษต่อฟัน โดยใช้แบบทดสอบจำนวน 10 ข้อ ข้อละ 1 คะแนน คะแนนเต็ม 10 คะแนน โดยให้ผู้เข้าอบรมขีดเครื่องหมายในช่องที่เห็นว่าใช่ หรือไม่ใช่ ในแบบประเมิน ผลปรากฎ ดังนี้ ก่อนการอบรม ผู้เข้าร่วมอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคฟันผุ การดูแลสุขภาพช่องปาก อาหารที่มีประโยชน์และโทษต่อฟัน ได้คะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 65.00 มีผู้ได้คะแนนสูงสุด 9 คะแนน และคะแนนต่ำสุด 1 คะแนน โดยมีคะแนนเฉลี่ย 6.46 คะแนน หลังการอบรม ผู้เข้าร่วมอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคฟันผุ การดูแลสุขภาพช่องปาก อาหารที่มีประโยชน์และโทษต่อฟัน ได้คะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 90.09 มีผู้ได้คะแนนสูงสุด 10 คะแนน และคะแนนต่ำสุด 6 คะแนน โดยมีคะแนนเฉลี่ย 9.01 คะแนน ผู้เข้าร่วมอบรมทั้งหมด 331 คน จากการทำแบบทดสอบก่อน-หลังการอบรม แสดงให้เห็นว่าเมื่อเสร็จสิ้นการอบรมแล้ว ผู้เข้าร่วมอบรมมีความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้น เฉลี่ยร้อยละ 36.5
|
331 | 0 |
3. กิจกรรมที่ 2.3 ติดตามผล 1 เดือนภายหลังการอุดฟันด้วยเทคนิค SMART แล้ว เด็กไม่มีอาการปวดฟัน |
||
วันที่ 4 พฤษภาคม 2562กิจกรรมที่ทำกิจกรรมติดตามผล 1 เดือนภายหลังการอุดฟันด้วยเทคนิค SMART แล้ว เด็กไม่มีอาการปวดฟัน เป้าหมาย
รายละเอียดกิจกรรม
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการสำรวจสภาวะช่องปาก มีเด็กได้รับการบูรณฟันเพียงร้อยละ 3.7 โดยหลังจากการดำเนินโครงการแล้วเสร็จ เด็กได้รับการเข้าถึงบริการเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 83.13
|
331 | 0 |
4. กิจกรรมที่ 3 รายงานผลโครงการและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ |
||
วันที่ 1 กันยายน 2562กิจกรรมที่ทำรายละเอียดกิจกรรม
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจัดทำรูปเล่มรายงานผลโครงการเมื่อเสร็จโครงการ จำนวน 4 เล่ม
|
2 | 0 |
5. กิจกรรมที่ 2.1 ตรวจสุขภาพช่องปากเด็กเล็กทุกคน |
||
วันที่ 2 กันยายน 2562กิจกรรมที่ทำกิจกรรมตรวจสุขภาพช่องปากเด็กเล็กทุกคน เป้าหมาย
รายละเอียดกิจกรรม
ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจำนวนเด็กทั้งหมด จำนวน 331 คน
|
331 | 0 |
* ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น
ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม
ผลการดำเนินโครงการ
สรุปผลการดำเนินโครงการ
ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
ผลผลิตโครงการ
วัตถุประสงค์ | สถานการณ์ | เป้าหมาย | ผลผลิต | อธิบาย | |
---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อที่ 1. เพื่อฟื้นฟูและให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเด็กใน ศพด. เกี่ยวทักษะที่ถูกต้องในการดูแลสุขภาพช่องปากเด็ก ตัวชี้วัด : 1. ร้อยละ 80 ของผู้ปกครองเด็กมีความรู้และทักษะที่ถูกต้องในการดูแลสุขภาพช่องเด็ก |
80.00 | |||
2 | ข้อที่ 2 เพื่อลดการผุลุกลามของฟันกรามน้ำนมในเด็กอายุ 3-5 ปี ตัวชี้วัด : 1. ลดอัตราการเกิดโรคฟันผุ ลดการสูญเสียฟันน้ำนม และลดการเกิดฟันผุในฟันแท้ได้ อย่างน้อยร้อยละ 50 |
50.00 | |||
3 | ข้อที่ 3.เพื่อให้เด็กอายุ 3-5 ปี ได้รับการอุดฟันเพิ่มขึ้น ตัวชี้วัด : 1. เด็กอายุ 3-5 ปี ได้เข้าถึงการรับบริการอุดฟันมากขึ้น |
100.00 |
ผู้เข้าร่วมโครงการ
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
---|---|---|---|
จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด | 331 | ||
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวนที่วางไว้(คน) | จำนวนที่เข้าร่วม(คน) | |
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | |||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 331 | ||
กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน | - | ||
กลุ่มวัยทำงาน | - | ||
กลุ่มผู้สูงอายุ | - | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ | |||
กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด | - | ||
กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง | - | ||
กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ | - | ||
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง | - | ||
สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] | - |
บทคัดย่อ*
ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ปัญหาและอุปสรรค | สาเหตุ | ข้อเสนอแนะ |
---|---|---|
โครงการฟันดี ยิ้มสวย เคี้ยวอร่อย ด้วยวิธี SMART TECHNIQUE จังหวัด สตูล
รหัสโครงการ 2562-L8010-1-02
ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
( โรงพยาบาลละงู )
ผู้รับผิดชอบโครงการ
......./............/.......