โครงการครูใส่ใจ หนูน้อยยิ้มใส เด็กน้อยฟันดี เด็ก 2-4 ปี
ชื่อโครงการ | โครงการครูใส่ใจ หนูน้อยยิ้มใส เด็กน้อยฟันดี เด็ก 2-4 ปี |
รหัสโครงการ | 62-L1504-3-04 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 3 สนับสนุนการจัดกิจกรรมของ ศูนย์เด็กเล็ก/ผู้สูงอายุ/คนพิการ |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่หน่วยงานสาธารณสุข เช่น โรงเรียน |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลทุ่งกระบือ |
วันที่อนุมัติ | 9 กรกฎาคม 2562 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 กรกฎาคม 2562 - 30 สิงหาคม 2562 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2562 |
งบประมาณ | 15,110.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | นางวรรณา โคแหละ |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลทุ่งกระบือ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง |
ละติจูด-ลองจิจูด | 7.404,99.626place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน | 69 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน : |
||
กลุ่มวัยทำงาน | 84 | keyboard_arrow_down |
กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มวัยทำงาน : |
||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด |
---|
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
สุขภาพช่องปากมีความสำคัญต่อสุขภาพของทุกคน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กปฐมวัย โรคฟันผุในเด็กสามารถ พบได้ตั้งแต่ฟันเริ่มขึ้นในช่วงขวบปีแรก สาเหตุหลักที่ทำให้เด็กมีฟันผุ มาจากพฤติกรรมของมารดาในการเลี้ยงดูบุตรที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงการดูแลทำความสะอาด ช่องปากไม่ถูกวิธี และมีพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่เหมาะสม ก่อให้เกิดโรคฟันผุในฟันน้ำนมอย่างรุนแรง ทำให้เด็กเกิดความเจ็บปวด เคี้ยวอาหารไม่ได้ตามปกติ ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ และส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กได้ นอกจากนี้ยังมีผลเสียต่อฟันแท้ของเด็กในอนาคตด้วย กล่าวคือ ฟันน้ำนมที่ถูกถอนหรือหลุดไปก่อนที่ฟันแท้จะขึ้นแทนที่ จะทำให้ฟันที่อยู่ติดกันล้มเอียง เข้าหาช่องว่าง ทำให้ฟันแท้ไม่สามารถขึ้นได้อย่างปกติตามตำแหน่งนั้น อาจจะขึ้นมาในลักษณะบิด ซ้อนกันหรือมีขนาดใหญ่ ไม่เหมาะสมกับใบหน้าของเด็ก ซึ่งจะเป็นปมด้อยทำให้เด็กไม่มั่นใจ ไม่กล้าในการแสดงออก
จากรายงานผลการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากแห่งชาติครั้งที่ 8 ประเทศไทย พ.ศ. 2560 พบว่าสถานการณ์ในเด็กอายุ 3 ปี ซึ่งเป็นขวบปีแรกที่มีฟันน้ำนมขึ้นครบ 20 ซี่ มีฟันผุระยะเริ่มต้นร้อยละ 31.1 มีความชุกในการเกิดโรคฟันผุร้อยละ 52.9 มีค่าเฉลี่ยฟันผุ ถอน อุด (dmft) 2.8 ซี่/คน ความชุกของการเกิดฟันผุในเด็กอายุ 3 ปี พบสูงสุดในภาคกลางและภาคใต้ ร้อยละ 57.9 และ 57.0 ค่าเฉลี่ย ฟันผุ ถอน อุด 3.5 ซี่/คน และ 3.1 ซี่/คน ตามลำดับ และยังพบว่าประมาณร้อยละ 40.0 มีคราบจุลินทรีย์อยู่ในระดับเสี่ยงต่อการเกิดโรคฟันผุ พบฟันผุระยะเริ่มต้นในเด็กอายุ 3 ปี ร้อยละ 31.1
จากผลสรุปการสำรวจสภาวะช่องปากของเด็ก 2-4 ปี ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลทุ่งกระบือ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง พบว่า เด็กก่อนวัยเรียนกลุ่มนี้มีสภาวะฟันผุ โดยการสำรวจของครูผู้ดูแลเด็ก ผู้ดูแลเด็ก ซึ่งนับว่าสูงมาก นอกจากนี้จากการสังเกตพฤติกรรมเสี่ยงของเด็ก พบปัญหาเด็กติดขวดนม การแปรงฟันที่ไม่สะอาดและไม่ถูกวิธี การทานขนมที่มีรสชาติหวานหลังการแปรงฟัน ประกอบกับปัจจัยเสี่ยงด้านการดูแลเด็ก 2-4 ปี ทั้งในเรื่องของอาหารระหว่างมื้อจะเน้นไปที่ขนมหวาน ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ส่งผลให้เด็ก 2-4 ปี ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลทุ่งกระบือจึงมีสภาวะฟันผุที่สูง
จากที่กล่าวมาเบื้องต้น ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลทุ่งกระบือมีบทบาทหน้าที่ในการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากของเด็กปฐมวัยพร้อมกับส่งเสริมและสนับสนุนให้ความรู้กับผู้ปกครองในการดูแลสุขภาพช่องปากที่ถูกต้อง สำหรับเด็กปฐมวันจึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้น
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | 1.เพื่อให้ผู้ปกครอง มีความรู้และทักษะในการดูแลสุขภาพช่องปากเด็กอย่างถูกต้อง 2.เพื่อเกิดเครือข่ายการดูแลสุขภาพช่องปากให้แก่เด็กอย่างต่อเนื่องโดย อสม. ครู ทันตบุคลากร และผู้ปกครอง 3.เพื่อลดการเกิดโรคฟันผุในเด็ก 2-4 ปี
|
0.00 |
1) รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อวางแผนการจัดการโครงการ
2) ประชุมชี้แจงโครงการและแนวทางการดำเนินโครงการแก่กองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลตำบลทุ่งกระบือ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง เพื่อขออนุมัติโครงการ และเสนอของบประมาณ
- การอบรมเชิงปฏิบัติการแก่เด็กและผู้ปกครอง ครู อสม. แม่ครัว ในการให้ความรู้การดูแลสุขภาพช่อง ปากเด็ก และฝึกการดูแลสุขภาพช่องปากให้แก่เด็กแบบลงมือทำ
- จัดรณรงค์การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการดูแลช่องปาก ประกวดหนูน้อยฟันสวย
- จัดซื้ออุปกรณ์สาธิตการทำความสะอาดช่องปาก เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน แก้วน้ำ ภาพความรู้เกี่ยวกับการดูแลรักษาฟันและโมเดลฟัน
- สร้างการมีส่วนร่วมของคนในผู้ปกครองต่อการดูแลสุขภาพช่องปากเด็ก 2. ผู้ปกครองตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน 3. เด็กมีอนามัยช่องปากดี ส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการ การเจริญเติบโตที่สมวัย 4. ผู้ปกครองมีทัศนคติที่ดีในการดูแลความสะอาดของช่องปากและฟันของเด็ก 5. ในห้องเรียนมีอุปกรณ์ทำความสะอาดช่องปาก รวมถึงมีความรู้ในการทำความสะอาดช่องปากที่ถูกวิธี 6. มีการเฝ้าระวังปัญหาฟันผุ ทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคและค่าใช้จ่ายในการรักษาทางทันตกรรมได้ 7. ผู้ปกครองที่ผ่านการอบรมเป็นแกนนำถ่ายทอดความรู้สู่บุคคลในชุมชนได้
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2562 16:20 น.