โครงการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคไข้เลือดออกและโรคชิคุนกุนยา ปี 2563
ชื่อโครงการ | โครงการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคไข้เลือดออกและโรคชิคุนกุนยา ปี 2563 |
รหัสโครงการ | 2563 – L8010 – 1 - 03 |
ประเภทการสนับสนุน | ประเภท 1 สนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของ หน่วยบริการ/สถานบริการ/หน่วยงานสาธารณสุข |
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ | หน่วยงานสาธารณสุขอื่นของ อปท. เช่น กองสาธารณสุขของเทศบาล |
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ | กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม องค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง |
วันที่อนุมัติ | 19 ธันวาคม 2562 |
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | 1 ตุลาคม 2562 - 31 สิงหาคม 2563 |
กำหนดวันส่งรายงาน | 30 กันยายน 2563 |
งบประมาณ | 152,055.00 บาท |
ผู้รับผิดชอบโครงการ | กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม องค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง |
พี่เลี้ยงโครงการ | |
พื้นที่ดำเนินการ | ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล |
ละติจูด-ลองจิจูด | place |
(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)
กลุ่มเป้าหมาย | จำนวน(คน) | |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย | ||
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ |
สถานการณ์ปัญหา | ขนาด | |||
---|---|---|---|---|
1 | จำนวนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะไข้เลือดออกระบาด(คน) | 163.00 |
ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล
โรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยา เป็นโรคที่เป็นปัญหาสาธารณสุขโรคหนึ่งที่เกิดขึ้นได้ทุกเวลาและทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน ประมาณเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ความรุนแรงของโรคมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากสถิติระบาดวิทยาพบว่า ทั้งอัตราป่วยและอัตราตายยังสูงอยู่พบได้ทุกวัย ปัจจุบันไม่สามารถค้นคว้าวัคซีนในการป้องกันโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยาได้ วิธีป้องกันที่ดีที่สุดในขณะนี้คือ การควบคุมแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายเพื่อควบคุมยุงพาหะให้มีจำนวนน้อยลงจนไม่เป็นปัญหาในการระบาด ของโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยา จำเป็นที่จะต้องเร่งดำเนินการควบคุมอย่างทั่วถึงให้ครอบคลุมพื้นที่รับผิดชอบพร้อมๆกันอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องกันตลอดทั้งปี โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างองค์กรทั้งภาครัฐเอกชน องค์กรท้องถิ่น และประชาชนในชุมชน ให้มีส่วนร่วมรับผิดชอบสิ่งแวดล้อมที่อยู่อาศัยให้ปลอดยุงลายจึงจะสามารถป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยาได้ ปัจจัยที่มีความสำคัญ ต่อการแพร่กระจายของโรคมีความซับซ้อนและแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ คือ ภูมิต้านทานของประชาชน ชนิดของเชื้อไวรัส ความหนาแน่นและการเคลื่อนย้ายของประชากร สภาพภูมิอากาศ ชนิดของยุงพาหะ ความรู้ความเข้าใจและมีพฤติกรรมการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยา ของประชาชนในการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ ในการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยา และนโยบายในระดับชาติ สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่มีการแปรเปลี่ยนและมีผลกระทบอย่างต่อเนื่องกับการแพร่กระจายของโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยาเป็นอย่างยิ่ง และยังมีส่วนทำให้รูปแบบการเกิดโรคมีความผันแปรไปในแต่ละปี
จากสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 24กันยายน 2562 พบว่า ผู้ป่วย93,007 ราย ซึ่งมากกว่าปี พ.ศ.2561 ถึง 1.6 เท่า เสียชีวิต 98 ราย สูงกว่าปกติ คือร้อยละ 0.11 ผู้ป่วยส่วนใหญ่ในปีนี้พบในกลุ่มเด็กเล็ก เด็กวัยเรียน และวัยผู้ใหญ่ตอนต้น พบมากที่สุดคือกลุ่ม 5-14 ปี รองลงมา 15-34 ปี และแรกเกิด-4 ปี ตามลำดับ ( ที่มา: จากระบบรายงานการเฝ้าระวังโรค 506 สำนักระบาดวิทยา ณ วันที่ 24 กันยายน 2562) ส่วนสถานการณ์โรคชิคุนกุนยาหรือไข้ป่วยข้อ ในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 16 กันยายน 2562 พบผู้ป่วย 7,481 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ 25-34 ปี รองลงมาคือ 35-44 ปี และ 15-24 ปี จังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด 5 อันดับแรก คือ ปัตตานี ระนอง ตาก ภูเก็ต และสงขลา ตามลำดับ (ที่มา :สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 จ.สระบุรี/กองโรคติดต่อนำโดยแมลง/สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค ลงวันที่ 20 กันยายน 2562)
ตำบลกำแพง เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีการระบาดของโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยามาอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูล E1 พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก ตั้งแต่ปี 2560-2562 พบว่า ในปี 2560 มีอัตราป่วย เท่ากับ 131.52 ( 126 ราย) ต่อแสนประชากร ( ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2560)ในปี 2561 มีอัตราป่วย เท่ากับ 1015.72 (190 ราย) ต่อแสนประชากร ( ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2561)และปี 2562 มีอัตราป่วย เท่ากับ 871.38 (163 ราย ) ต่อแสนประชากร ( ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 30 กันยายน 2562)ส่วนโรคชิคุนกุนยา ข้อมูล E1 พบผู้ป่วยโรคชิคุนกุนยา ตั้งแต่ 2561-2562 พบว่า ในปี 2561 มีอัตราป่วยเท่ากับ 972.95 (182 ราย) ต่อแสนประชากร (ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2561) ในปี 2562 มีอัตราป่วยเท่ากับ 58.80 (11 ราย) ต่อแสนประชากร (ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ตุลาคม 2562) ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ 5-9 ปี รองลงมา 10-14 ปี และ 15-24 ปี ตามลำดับ ( ที่มา : จากศูนย์ระบาดอำเภอละงู ) จะเห็นได้ว่าอัตราป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกมีแนวโน้มสูงขึ้น การระบาดของโรคไข้เลือดออกส่วนใหญ่จะพบผู้ป่วยในช่วง เดือน เมษายน – กันยายน ของทุกปีและชีวนิสัยของยุงชอบออกหากินเวลากลางวัน จึงสันนิฐานได้ว่าการแพร่เชื้อและการกระจายโรค จะเกิดขึ้นได้ทั้งใน ชุมชน โรงเรียน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ด้วยเหตุนี้การควบคุมโรคจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม องค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนแนวคิดในการแก้ไขปัญหา จากการตั้งรับไปสู่นโยบายเชิงรุกโดยใช้ยุทธศาสตร์การมีส่วนร่วมให้คนในชุมชนได้ตระหนักถึงสภาพปัญหาของโรค เกิดความรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชนของตนเอง พร้อมทั้งหาวิธีการแก้ไข ซึ่งปัญหาของโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยา เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อม ดังนั้น การดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยา จึงต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของโรคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเน้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญและถือเป็นภารกิจที่ต้องช่วยกัน กระตุ้นและชักนำให้ประชาชน ผู้นำชุมชน ตลอดจนเครือข่ายสุขภาพให้มีส่วนร่วมอย่างจริงจังและต่อเนื่องส่งผลให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ปลอดภัยจากโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยาได้
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จ | ขนาดปัญหา | เป้าหมาย 1 ปี | |
---|---|---|---|
1 | เพื่อลดอัตราป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยา ให้เหลือไม่เกิน 50 ต่อแสนประชากร
|
871.38 | 50.00 |
hourglass_emptyไม่มีกลุ่มกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย (คน) |
งบกิจกรรม (บาท) |
ทำแล้ว |
ใช้จ่ายแล้ว (บาท) |
||
วันที่ | กิจกรรม | 173 | 152,055.00 | 5 | 64,417.00 | |
1 - 28 ก.พ. 63 | กิจกรรมที่ 1 อบรมและจัดตั้งทีมคณะทำงานเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยา ในหมู่บ้านทั้ง 12 หมู่บ้าน | 84 | 29,025.00 | ✔ | 27,105.00 | |
1 ก.พ. 63 - 31 ส.ค. 63 | กิจกรรมที่ 4 ควบคุม ป้องกัน โรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยา กรณีเกิดการระบาด | 0 | 47,990.00 | ✔ | 17,990.00 | |
1 มี.ค. 63 - 31 ส.ค. 63 | กิจกรรมที่ 2 ประชุมทีมคณะทำงานเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยา | 84 | 46,600.00 | ✔ | 10,822.00 | |
1 มี.ค. 63 - 31 ก.ค. 63 | กิจกรรมที่ 3 ประชาสัมพันธ์ รณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยา | 0 | 26,440.00 | ✔ | 7,500.00 | |
31 ส.ค. 63 | กิจกรรมที่ 5 รายงานผลโครงการและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ | 5 | 2,000.00 | ✔ | 1,000.00 |
วิธีดำเนินการ
กิจกรรมที่ 1 อบรมและจัดตั้งทีมคณะทำงานเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยา ในหมู่บ้านทั้ง 12 หมู่บ้าน
1.1 อบรม ให้ความรู้แก่แกนนำเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยา ในหมู่บ้านทั้ง 12 หมู่บ้าน ในเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง จำนวน 1 ครั้ง
1.2 จัดตั้งทีมคณะทำงานเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยา ในหมู่บ้านทั้ง 12 หมู่บ้าน
กิจกรรมที่ 2 ประชุมทีมคณะทำงานเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยา
2.1 ประชุมถอดบทเรียน ติดตาม ประเมินผลการดำเนินงาน ของคณะทำงานเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยา ในหมู่บ้านทั้ง 12 หมู่บ้าน เพื่อแจ้งสถานการณ์โรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยาและหาแนวทางการดำเนินงานเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยา เดือนละ 1 ครั้ง จำนวน 4 เดือน
กิจกรรมที่ 3 ประชาสัมพันธ์ รณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยา
3.1 จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ แผ่นซีดี ในการเผยแพร่ให้ความรู้เรื่อง 3 เก็บ ในหมู่บ้านและโรงเรียน อาทิตย์ละ 1 ครั้ง เป็นระยะเวลา 4 เดือน
3.2 รณรงค์ดำเนินกิจกรรม ( Big Cleaning) ในหมู่บ้าน/ โรงเรียน พร้อมสำรวจค่า HI,CI เดือนละ 1 ครั้ง เป็นระยะเวลา 8 เดือน
3.2 ประเมินบ้าน/โรงเรียนต้นแบบ สะอาด ปลอดโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยา โดยการคัดเลือกหมู่บ้านละ 1 ครัวเรือนและโรงเรียนในเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง ที่ผ่านการประเมิน จำนวน 2 รอบ ( 3 เดือน ต่อ 1 ครั้ง) เพื่อมอบสัญลักษณ์บ้าน/โรงเรียน สะอาด ปลอดโรค ไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยา
กิจกรรมที่ 4 ควบคุม ป้องกัน โรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยา กรณีเกิดการระบาด
4.1 จัดซื้อเคมีภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการกำจัดยุงลายและลูกน้ำยุงลาย
4.2 รับรายงานผู้ป่วยไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยา ในเขตพื้นที่ตำบลกำแพงจากศูนย์ ศูนย์สุขภาพชุมชนตำบลกำแพงและลงดำเนินการควบคุมป้องกันโรคภายใน 24 ชั่วโมง โดยทีมคณะทำงานเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยาแต่ละหมู่บ้าน โดยลงพ่นสารเคมีเพื่อควบคุมการระบาดของโรคในระยะรัศมี 100 เมตร จากบ้านผู้ป่วย 2 ครั้ง ภายใน 7 วัน
4.3 จัดทำแผนปฏิบัติงานพ่นสารเคมีกำจัดยุงในโรงเรียน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในเขตพื้นที่ตำบลกำแพง ในช่วงปิดภาคเรียน
กิจกรรมที่ 5 รายงานผลโครงการและแลกเปลี่ยนเรียนรู้
5.1 จัดทำเอกสารนำเสนอโครงการ จำนวน 2 ครั้ง
5.2 จัดทำรูปเล่มรายงานผลโครงการเมื่อเสร็จโครงการ
- ลดอัตราป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุน ไม่เกิน 50 คน ต่อแสนประชากร ของประชาชนและนักเรียนในเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง
- มีแกนนำ เครือข่าย ทีมคณะทำงานเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยาแต่ละหมู่บ้าน ในเขตพื้นที่ตำบลกำแพง
- แกนนำ/ประชาชน/มีความรู้ความเข้าใจ ในเรื่องโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยา ตลอดจนตระหนักถึงภัยของโรคไข้เลือดออก /โรคชิคุนกุนยา และมีส่วนร่วมในการดำเนินการควบคุมและป้องกันโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยา เกิดพฤติกรรมในการทำลายแหล่งเพาะพันธ์ยุงลายอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ
- มีครัวเรือน/โรงเรียน ต้นแบบในการดำเนินงานป้องกันโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยา
- สามารถควบคุมโรคไข้เลือดออก/โรคชิคุนกุนยาได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืนเพื่อมิให้มีการแพร่ระบาดในหมู่บ้าน/โรงเรียน ในเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง
- ทำให้สามารถลดความชุกของลูกน้ำยุงลาย
โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2563 12:49 น.