กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

stars
1. รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เทศบาลนครยะลา ครั้งที่ 2
รหัสโครงการ 63 – L7452 – 5 – 2
ประเภทการสนับสนุน ประเภท 5 สนับสนุนกรณีเกิดโรคระบาดหรือภัยพิบัติ
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มคน ที่รับผิดชอบโครงการ หน่วยงานสาธารณสุขอื่นของ อปท. เช่น กองสาธารณสุขของเทศบาล
ชื่อองค์กรที่รับผิดชอบ กลุ่มงานป้องกันและควบคุมโรค สำนักการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครยะลา
วันที่อนุมัติ 23 มีนาคม 2563
ระยะเวลาดำเนินโครงการ 23 มีนาคม 2563 - 30 กันยายน 2563
กำหนดวันส่งรายงาน 30 กันยายน 2563
งบประมาณ 1,893,175.00 บาท
ผู้รับผิดชอบโครงการ นางทรงศรี มะโรหบุตร พยาบาลวิชาชีพปฎิบัติการ
พี่เลี้ยงโครงการ
พื้นที่ดำเนินการ ตำบลยะลา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา
ละติจูด-ลองจิจูด place
stars
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
แผนงานเผชิญภัยพิบัติและโรคระบาด
stars
3. งวดสำหรับการทำรายงาน
stars
4. กลุ่มเป้าหมาย

(ตามแนบท้ายประกาศคณะอนุกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคฯ พ.ศ. 2557)

กลุ่มเป้าหมายจำนวน(คน)
กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง 350 keyboard_arrow_down

กิจกรรมหลักตามกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง :

stars
5. หลักการและเหตุผล/สถานการณ์
สถานการณ์ปัญหาขนาด

ความสำคัญของโครงการ สถานการณ์ หลักการและเหตุผล

รายงานผู้ป่วยยืนยันทั่วโลก ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2562 ถึงวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ.2563 กระจายไปยัง 152 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 1 นครรัฐ รวมทั้งในเรือ Diamond Princess และ เรือ Grands Princess ทั้งนี้ ในวันที่ 15 มีนาคม มีรายงานจำนวนผู้ป่วยทั้งสิ้น 157,411 ราย มีอาการรุนแรง 5,649 ราย และเสียชีวิต 5,845 ราย โดยมียอดจำนวนผู้ป่วยยืนยันในพื้นที่ของประเทศที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ จีน 80,849 ราย ฮ่องกง 142 ราย มาเก๊า 10 ราย เกาหลี ใต้ 8,162 ราย อิตาลี 21,157 ราย อิหร่าน 12,729 ราย ฝรั่งเศส 4,499 ราย สเปน 6,391 ราย เยอรมนี 4,649 ราย ญี่ปุ่น 825 ราย สิงคโปร์ 212 ราย ไต้หวัน 59 ราย และประเทศไทยมีการติดเชื้อลักษณะเป็นกลุ่มก้อน 11 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสมรวม 114 ราย รายใหม่ 1 ราย และมีเสียชีวิต 1 ราย (กรมควบคุมโรค, 2563) และเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2563 องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้การระบาดของโรคดังกล่าวเป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public health emergency of international concern (PHEIC) สำหรับประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 มีการประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019: COVID) เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 เพื่อประโยชน์ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่ออันตราย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง และมาตรา 6 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2563 นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้ออกประกาศสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ฉบับที่ 2/2563 จากการที่มีคณะกิจกรรมพบปะทางศาสนา (ตับลีฆ) ที่มัสยิด ซือรี ปือตาลิง กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2 มีนาคม พ.ศ. 2563 ซึ่งมีจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 10,000 คน และต่อมาได้มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หลังจากเข้าร่วมการชุมนุมดังกล่าว ที่สำคัญ ตามรายงานข่าวแจ้งว่ามีคนไทยเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว จำนวน 132 คน รวมทั้งผู้ใกล้ชิดของผู้เข้าร่วมกิจกรรมข้างต้น ทางการมาเลเซียได้ตรวจผู้ป่วยที่เข้าร่วมงานดังกล่าวพบว่า มีผู้ป่วยสัญชาติมาเลเซียรวม 40 คน สัญชาติสิงคโปร์ 2 คน สัญชาติบรูไน 16 คน และติดเพิ่มเติมภายหลังอีก 1 รุ่น จำนวน 8 คน และจำนวนคนไทย ที่เข้าร่วมอีก 132 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประชาชนจาก 5 จังหวัดชายแดนใต้ เป็นชาวจังหวัดยะลา 30 คน ที่เข้าร่วมการชุมนุมครั้งนี้ และมีรายงานการเข้ารายงานตัวเพื่อคัดกรองตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อยู่ระหว่างการกักตัวภายใน 14 วัน ในภูมิลำเนาของตนเอง แม้ว่าความพยายามในการควบคุมโรค โดยการตรวจจับผู้ป่วยให้ได้อย่างรวดเร็ว แยกโรค และติดตามผู้สัมผัสผู้ป่วยทุกราย ทำให้การระบาดยังอยู่ในวงจำกัดในระยะที่ผ่านมา (Phase 2) อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความเสี่ยงสูงที่ประเทศไทยจะพบการระบาดในวงกว้าง เป้าหมายที่สำคัญคือ ลดโอกาสการแพร่เชื้อเข้าสู่เขตเมืองและชะลอการระบาด เพื่อให้สามารถควบคุมการระบาดของโรคให้อยู่ในวงจำกัด ลดผลกระทบทางสุขภาพ รวมถึงสามารถดูแลประชาชนและผู้เดินทางจากต่างประเทศ ให้ปลอดภัยจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามหลักการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความจำเป็นที่ต้องมีมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน เน้นการชะลอการระบาด ลดผลกระทบ และเพื่อรับสถานการณ์การระบาดในระยะที่ 3 (Phase 3 widespread local transmission) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อการเฝ้าระวังและป้องกันการระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จึงขอความร่วมมือจังหวัดแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 50 (4) เทศบาลมีอำนาจหน้าที่ในการป้องกันและระงับโรคติดต่อ มาตรา 54 (7) จัดทำกิจการ ซึ่งจำเป็นเพื่อการสาธารณสุข มาตรา 56 (3) กิจการอย่างอื่นซึ่งจำเป็นเพื่อการสาธารณสุข พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 มาตรา 16 (19) เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล และเมืองพัทยามีอำนาจหน้าที่ในการสาธารณสุข การอนามัยครอบครัวและการรักษาพยาบาล และตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ. 2561 ข้อ 10 (5) เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมกรณีเกิดโรคระบาดหรือภัยพิบัติในพื้นที่ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณสุขได้ตามความจำเป็น เหมาะสม และทันต่อสถานการณ์ได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่อาจเกิดขึ้นแก่ประชาชนเสี่ยงต่อการสัมผัสโรค โดยเฉพาะผู้ประกอบอาชีพที่มีความใกล้ชิดกับผู้รับบริการ เช่น ผู้บริการส่งอาหารด้วยรถจักรยานยนต์ ผู้ประกอบการอาหาร ร้านค้า ช่างเสริมสวย ผู้ให้บริการรถสาธารณะ และอาชีพให้บริการอื่นๆ ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคดังกล่าว จึงจำเป็นป้องกันการแพร่การระบาด ในประชาชนที่มีภาวะเสี่ยง จังหวัดยะลาจึงให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการประชาสัมพันธ์ระมัดระวัง และป้องกันการระบาด สำนักการสาธารณสุขและสิ่งแดล้อม เทศบาลนครยะลา จึงได้จัดทำ โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เทศบาลนครยะลา (ครั้งที่ 2) ด้วยกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้เรื่อง การป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และการให้ความรู้การป้องกันตนเอง การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ แก่กลุ่มประชาชนที่มีอาชีพเสี่ยงต่อการสัมผัสโรค รวมทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์การป้องกัน และเฝ้าระวังควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19) รวมถึงช่วยลดผลกระทบทางด้านสุขภาพ สังคม และเพิ่มความมั่นใจให้กับประชาชน ในเขตเทศบาลนครยะลา

stars
6. วัตถุประสงค์/เป้าหมาย
วัตถุประสงค์/ตัวชี้วัดความสำเร็จขนาดปัญหาเป้าหมาย 1 ปี
1 เพื่อให้ผู้บริการส่งอาหารด้วยรถจักรยานยนต์ ผู้ประกอบการอาหาร ร้านค้า ช่างเสริมสวย ผู้ให้บริการรถสาธารณะ และอาชีพให้บริการอื่นๆ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องมีความรู้ เรื่อง การป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ถูกต้อง
  1. ผู้บริการส่งอาหารด้วยรถจักรยานยนต์ ผู้ประกอบการอาหาร ร้านค้า ช่างเสริมสวย ผู้ให้บริการรถสาธารณะ และอาชีพให้บริการอื่น ๆ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอบรมตามเป้าหมาย จำนวน 350 คน
  2. ผู้เข้าอบรมมีความรู้และสามารถปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง ร้อยละ 80
0.00
2 เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
  1. ประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่เทศบาลนครยะลาและมีอาการน่าสงสัยได้รับการคัดกรอง ร้อยละ 80
  2. ไม่พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในเขตเทศบาลนครยะลา
0.00
3 เพื่อประชาสัมพันธ์และเตรียมความพร้อมในการป้องกันและควบคุมโรคโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
  1. มีการประชาสัมพันธ์และเฝ้าระวังการแพร่ระบาดในชุมชน สถานศึกษา วัด มัสยิด สถานที่หน่วยงานราชการ และเอกชน ร้อยละ 80
  2. ผู้เข้ารับการอบรมมีระดับความพึงพอใจไม่น้อยกว่าร้อยละ 80
0.00
stars
7. การดำเนินงาน/กิจกรรม
stars
8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
  1. ผู้บริการส่งอาหารด้วยรถจักรยานยนต์ ผู้ประกอบการอาหาร ร้านค้า ช่างเสริมสวย ผู้ให้บริการรถสาธารณะ และอาชีพให้บริการอื่นๆ มีความรู้เรื่องโรค ทักษะการดูแลตนเอง และปลอดภัยจากโรค 2. ไม่เกิดการเสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19 ในเขตเทศบาลนครยะลา
stars
9. เอกสารประกอบโครงการ

โครงการเข้าสู่ระบบเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2563 00:00 น.