กิจกรรมที่ 1 ฝึกอบรมให้ความรู้เรื่องผลกระทบที่เกิดจากการดื่มสุรา , สูบบุหรี่และเสพสารเสพติดต่าง ๆ
วิทยากร นางเจนชญา ชนชอบธรรม ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง โดยมีการอบรมให้ความรู้พร้อมแบ่งกลุ่มทำกิจกรรม ให้ผู้ที่เข้ารับการอบรมได้มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สรุปสาระสำคัญดังนี้ สุราหรือแอลกอฮอล์เป็นสารเสพติดที่มีทั้งคุณและโทษ เมื่อดื่มแล้วจะทำให้เกิดผลต่อระบบประสาทส่วนกลางโดยโทษของสุรานั้นอาจมีตั้งแต่ขั้นเบาไปจนถึงขั้นรุนแรงอย่างเช่น เสียการทรงตัว พูดไม่ชัด และที่รุนแรงคือหมดสติ ดังนั้นสุราจึงถูกควบคุมทั้งการจำหน่าย และการผลิต จากกฎหมายอย่างเคร่งครัด โทษและผลกระทบจากการดื่มแอลกอฮอล์ต่อวัยวะภายในของร่างกาย ด้านสุขภาพ เป็นสาเหตุหลักในการเสียชีวิต ทั้งผลเสียทั้งในระยะสั้นและระยะสะสม หากดื่มสุราติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนาน (ติดเหล้า) จะส่งผลอย่างแน่นอนกับระบบความจำ ระบบประสาท ระบบเลือด ความดันและที่ส่งผลโดยตรงต่ออวัยวะในร่างกายคือ ตับ พิษภัยจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังส่งผลต่อสมองที่รุนแรงขึ้นหากดื่มตั้งแต่อายุยังน้อย สุราเป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ถ้านาน ๆ ทีดื่มหรือดื่มแต่น้อย ก็ไม่ก่อให้เกิดผลเสียเท่าไหร่นัก แต่หากดื่มหนักหรือดื่มเป็นประจำจนติด ผลที่ตามมาก็คือการทำร้ายสุขภาพไม่ว่าจะเป็นหัวใจ สมอง ระบบประสาท กระเพราะอาหาร ตับ ซึ่งส่งผลอันร้ายแรงให้แก่ชีวิต และสุขภาพของเราได้
บุหรี่ คือ ยาสูบ หรือ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ หมายความว่าผลิตภัณฑ์ที่มีส่วน ประกอบของใบยาสูบหรือพืชนิโคเทียนาทาแบกกุ้ม และให้ความหมายรวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นใดที่มีสารนิโคตินเป็นส่วนประกอบ ซึ่งบริโภคด้วยวิธี สูบ ดูด ดม อม เคี้ยวเป่า กิน หรือ พ่นเข้าไป ใน ปาก หรือ จมูก ทา หรือ โดยวิธีอื่นใด เพื่อให้ได้ผลเช่นเดียวกัน
สารเสพติด คือ สารใด ๆ ก็ตามที่ไม่ใช่อาหารซึ่งสามารถมีผลกระทบต่อการทำงานของร่างกายและจิตใจยาเสพติดสามารถเปลี่ยนความคิด ความรู้สึก และการกระทำของบุคคลได้ โดยแบ่งตามประเภทการออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท สารกระตุ้นประสาท สารกดประสาท ยาหลอนประสาท
กิจกรรมที่ 2 ฝึกอบรมให้ความรู้การขับขี่ปลอดภัย ถูกกฎจราจร วิทยากร นายกิตติศักดิ์ นิ่มกาญจนา และทีมงาน จากบริษัทตั้งใจยนตรการ จำกัด สาขาห้วยยอด ได้อบรมให้ความรู้ในการขับขี่ปลอดภัย ถูกกฎจราจร และมีการให้ผู้เข้ารับการอบรมแสดงความคิดเห็น ซักถาม ปัญหาต่าง ๆ สรุปรายละเอียดดังนี้ ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญต่อการใช้รถใช้ถนน เนื่องจากเป็นผลดีต่อทั้งตัวผู้ขับขี่และเพื่อนร่วมทางรอบข้าง แต่ทำให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์จึงเพิ่มมากขึ้นทุกขณะ "ความประมาท" และ "การขาดความรู้เรื่องการใช้รถใช้ถนน" น่าจะเป็นสาเหตุหลัก การเป็นนักขับรถที่ดีไม่ใช่จะขับรถเป็นอย่างเดียว ต้องมีความรู้เกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนนในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้
วิธีการขับรถยนต์ให้ปลอดภัย
1. การเตรียมความพร้อมรถยนต์เบื้องต้นก่อนการเดินทาง
-ตรวจระบบไฟส่องสว่างทั้งหมด
-ตรวจสภาพยางยนต์และเช็คลมยาง
-ตรวจระบบแตร
-ตรวจยางใบปัดน้ำฝน
-ระดับน้ำมัน (น้ำมันเครื่อง,น้ำมันเกียร์,น้ำมันเบรก,และน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์)
2. การเตรียมความพร้อมร่างกายก่อนการเดินทาง
ง่วง-ไม่ขับ
ดื่ม-ไม่ขับ
โทร-ไม่ขับ
ไป-กลับปลอดภัย
3.เทคนิคการขับรถยนต์ลงจากทางลาดชัน
-ห้ามใช้เกียร์ว่าง
-ห้ามเหยียบคลัทช์
-ห้ามดับรถยนต์
-ต้องใช้เกียร์ต่ำ
-ขับชิดขอบด้านซ้าย
-ให้เสียบสัญญาณเตือนรถที่อาจจะสวนมากรณีทางแคบทางอ้อมเขา
-ห้ามแซงขณะขับรถขึ้นลงเขา
ปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะ ได้แก่ 1.เป้าหมายที่เป็นกลุ่มเสี่ยงโดยตรง เช่น คนที่ติดสารเสพติด ไม่ยอมเข้าร่วมโครงการ 2. ข้อเสนอแนะ ผู้เข้าร่วมโครงการอยากให้มีการจัดโครงการสร้างภูมิคุ้มกันปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพในชุมชน บ้านสะพานยาง หมู่ที่ 7 หรือ โครงการอื่น ๆ อย่างต่อเนื่องทุกปี 3. วิทยากรที่มาให้การอบรม เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ เปิดโอกาสให้ผู้เข้ารับการอบรมได้มีส่วนร่วม