กองทุนสุขภาพตำบล - กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น - กปท

แบบรายงานการดำเนินงานฉบับสมบูรณ์

รายงานฉบับสมบูรณ์

กองทุนสุขภาพตำบล อบต.กำแพง


“ โครงการคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพในร้านขายของชำ ”

ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล

หัวหน้าโครงการ
นายปวิตร วณิชชานนท์

ชื่อโครงการ โครงการคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพในร้านขายของชำ

ที่อยู่ ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล จังหวัด สตูล

รหัสโครงการ 60-L8010-1-03 เลขที่ข้อตกลง

ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2560 ถึง 30 กันยายน 2560


กิตติกรรมประกาศ

"โครงการคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพในร้านขายของชำ จังหวัดสตูล" สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความร่วมมือจาก สมาชิกในชุมชน ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล

คณะทำงานโครงการฯ ขอขอบคุณ กองทุนสุขภาพตำบล อบต.กำแพง ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้ง ภาคีเครือข่ายที่สำคัญระดับพื้นที่ ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ ชี้แนะ สุดท้ายขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องที่มิได้ระบุชื่อไว้ในที่นี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป

คณะทำงานโครงการ
โครงการคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพในร้านขายของชำ



บทคัดย่อ

โครงการ " โครงการคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพในร้านขายของชำ " ดำเนินการในพื้นที่ ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล รหัสโครงการ 60-L8010-1-03 ระยะเวลาการดำเนินงาน 1 มิถุนายน 2560 - 30 กันยายน 2560 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 57,420.00 บาท จาก กองทุนสุขภาพตำบล อบต.กำแพง เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมโครงการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นสมาชิกในชุมชนจำนวน 0 คน หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปรากฏดังนี้

โครงการนี้ยังไม่มีการเขียนหรือแก้ไขบทคัดย่อ

หมายเหตุ : รายละเอียดของบทสรุปคัดย่อการดำเนินงาน ให้ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้เขียนสรุปภาพรวมของโครงการใน "ผลลัพธ์โครงการ"


สารบัญ

กิตติกรรมประกาศ»
บทคัดย่อ»
   ความเป็นมา/หลักการเหตุผล»
   วัตถุประสงค์โครงการ»
   กิจกรรม/การดำเนินงาน»
   กลุ่มเป้าหมาย»
   ผลลัพธ์ที่ได้»
   การประเมินผล»
   ปัญหาและอุปสรรค»
   ข้อเสนอแนะ»
   เอกสารประกอบอื่นๆ»

ความเป็นมา/หลักการเหตุผล

งานคุ้มครองผู้บริโภคด้านสาธารณสุข เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการควบคุม กำกับ ดูแลและบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์สุขภาพและบริการสุขภาพ เช่น อาหาร ยา เครื่องสำอาง ร้านขายของชำในหมู่บ้าน เป็นต้น ซึ่งในส่วนของผลิตภัณฑ์สุขภาพและบริการสุขภาพเหล่านี้มีผู้เกี่ยวข้องหลายส่วน เช่น ผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ตลอดจนผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้บริโภคจะเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้น หากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคุณภาพ ลอกเลียนแบบ เจือปนสารอันตรายลงไป หรือหากบริการสุขภาพนั้นไม่ได้มาตรฐานจะทำให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบต่อสุขภาพจนอาจทำให้เสียชีวิตได้ ร้านขายของชำในหมู่บ้าน เป็นร้านที่ผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยและซื้อสินค้ามากที่สุด เนื่องจากเป็นร้านที่อยู่ในหมู่บ้าน สะดวกในการซื้อสินค้า และเป็นร้านที่จำหน่ายสินค้าหลากหลายชนิด เช่น ยา เครื่องสำอาง อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงรส อาหารแปรรูป บุหรี่และแอลกอฮอล์ แต่จากการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคพบว่า การใช้เครื่องอุปโภค บริโภคที่ไม่ได้มาตรฐานจากร้านขายของชำในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องสำอางที่ไม่ได้คุณภาพ จำหน่ายให้กับประชาชนในชุมชน และยังจำหน่ายยาบางชนิดที่ไม่สามารถจำหน่ายได้ในร้านขายของชำ ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่มีความรู้ที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเลือกผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องสำอางที่มีคุณภาพ ความรู้เรื่องประเภทของยาแต่ละชนิดที่สามารถจำหน่ายได้ในร้านขายของชำ และจำหน่ายให้กับร้านค้าในชุมชนได้ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคทั้งสิ้น ดังนั้น เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค ตรวจสอบและเฝ้าระวังความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์สุขภาพและบริการสุขภาพ ตลอดจนเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการร้านขายของชำในหมู่บ้าน ศูนย์สุขภาพชุมชนกำแพง โรงพยาบาลละงู จึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้น

สถานการณ์

วัตถุประสงค์โครงการ

  1. เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้เกิดความปลอดภัยจากการใช้ยา เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และบริการสุขภาพ
  2. เพื่อให้อสม.แกนนำคุ้มครองผู้บริโภค มีความรู้เกี่ยวกับอาหาร ยา เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และบริการสุขภาพ
  3. เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านขายของชำในหมู่บ้านมีความรู้เกี่ยวกับอาหาร ยา เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และบริการสุขภาพ
  4. เพื่อเฝ้าระวังการขายยา เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และบริการสุขภาพในร้านขายของชำ

กิจกรรม/การดำเนินงาน

    กลุ่มเป้าหมาย

    กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้
    กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
    กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน
    กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน
    กลุ่มวัยทำงาน 60
    กลุ่มผู้สูงอายุ
    กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
    กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด
    กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
    กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ
    กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง
    สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)]

    ผลที่คาดว่าจะได้รับ

    1. ผู้บริโภคมีความปลอดภัยจากการใช้ยา เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และบริการสุขภาพ
    2. ผู้ประกอบการร้านขายของชำสามารถเลือกซื้ออาหาร ยา เครื่องสำอางผลิตภัณฑ์สุขภาพ และบริการสุขภาพที่มีคุณภาพมาจำหน่ายให้กับ ผู้บริโภค
    3. ร้านขายของชำในพื้นที่ได้รับการเฝ้าระวัง/ตรวจสอบตามกฎหมาย

    ส่วนที่ 1 ผลการดำเนินงาน

    วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
    ผลลัพธ์และตัวชี้วัดผลลัพธ์**
    กิจกรรมของโครงการ
    ผลผลิต*
    ผลผลิตที่ตั้งไว้ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริง

    1. ประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคระดับตำบลกำแพง (3 ครั้ง)

    วันที่ 8 มิถุนายน 2560 เวลา 08:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

     

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    ประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคระดับตำบลกำแพง (3 ครั้ง) จำนวน 20 คน  

     

    20 20

    2. จัดตั้ง อสม. แกนนำคุ้มครองผู้บริโภค และจัดอบรมให้ความรู้พัฒนาศักยภาพแกนนำ ( 2 วัน)

    วันที่ 1 กรกฎาคม 2560 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

     

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    ผู้เข้าร่วมโครงการมี ๒ กลุ่ม คือกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) แกนนำคุ้มครองผู้บริโภค และกลุ่มผู้ประกอบการร้านขายของชำ โดยกลุ่ม อสม. แกนนำคุ้มครองผู้บริโภค มีผู้เข้าร่วมโครงการ ๖๐ คน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จำนวน ๕๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๙๖.๖๗ เป็นเพศชาย จำนวน ๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๓.๓๓ ช่วงอายุของผู้เข้าร่วมโครงการมากที่สุดคือช่วงอายุ ๔๑-๕๐ ปี จำนวน ๒๙ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๘.๓๓ รองลงมาคือช่วงอายุ ๕๑-๖๐ ปี จำนวน ๑๗ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๘.๓๓ ระดับการศึกษาส่วนใหญ่อยู่ในระดับมัธยมศึกษา จำนวน ๓๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๕๓.๓๓ รองลงมาคือระดับประถมศึกษา จำนวน ๒๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๐.๐๐ การนับถือศาสนาส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม จำนวน ๕๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๙๐.๐๐ รองลงมานับถือศาสนาพุทธ จำนวน ๖ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๐.๐๐ ด้านรายได้ส่วนใหญ่มีรายได้อยู่ระหว่าง ๒,๕๐๐ – ๕,๐๐๐ บาท/เดือน จำนวน ๓๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๕๖.๖๗  รองลงมามีรายได้อยู่ระหว่าง ๕,๐๐๑ – ๗,๕๐๐ บาท/เดือน จำนวน ๑๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๑.๖๗

     

    55 60

    3. การอบรมให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการร้านขายของชำ (จัดอบรม 2 รุ่นๆ ละ 1 วัน)

    วันที่ 1 กรกฎาคม 2560 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

     

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    กลุ่มผู้ประกอบการร้านขายของชำ มีผู้เข้าร่วมโครงการ ๑๖๐ คน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จำนวน ๑๐๖ คน คิดเป็นร้อยละ ๖๖.๒๕ เป็นเพศชาย จำนวน ๕๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๓.๗๕ ช่วงอายุของผู้เข้าร่วมโครงการมากที่สุดคือช่วงอายุ ๔๑-๕๐ ปี จำนวน ๕๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๒.๕๐ รองลงมาคือช่วงอายุ ๓๑-๔๐ ปี จำนวน ๔๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๗.๕๐ ระดับการศึกษาส่วนใหญ่อยู่ในระดับมัธยมศึกษา จำนวน ๗๑ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๔.๓๘ รองลงมาคือระดับ ปวช./ปวส. หรืออนุปริญญาตรี จำนวน ๕๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๓.๑๒ การนับถือศาสนาส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม จำนวน ๑๓๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๘๓.๑๒ รองลงมานับถือศาสนาพุทธ จำนวน ๒๗ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๖.๘๘ ผู้ประกอบการร้านขายของชำจำหน่ายสินค้ามากกว่าหนึ่งชนิด จำนวน ๑๔๒ ร้าน คิดเป็นร้อยละ ๘๘.๗๕ โดยสินค้าที่จำหน่ายในร้านขายของชำส่วนใหญ่ ได้แก่ ยา อาหารสำเร็จรูป เครื่องสำอาง และเครื่องปรุงรส มีเพียง ๑๘ ร้าน ที่จำหน่ายสินค้าเพียงอย่างเดียวคืออาหารแปรรูป จำพวกอาหารจานเดียวและก๋วยเตี๋ยว ด้านรายได้ส่วนใหญ่มีรายได้อยู่ระหว่าง ๗,๕๐๑ – ๑๐,๐๐๐ บาท/เดือน จำนวน ๗๗ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๘.๑๒  รองลงมามีรายได้อยู่ระหว่าง ๕,๐๐๑ – ๗,๕๐๐ บาท/เดือน จำนวน ๖๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๙.๓๘

     

    160 160

    4. ประชุมกลุ่มย่อยแต่ละหมู่บ้านและติดตามประเมินผล (11 หมู่บ้าน)

    วันที่ 1 สิงหาคม 2560 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

     

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    ประชุมกลุ่มย่อยและติดตามผลแต่ละหมู่บ้านและสุ่มตรวจร้านขายของชำในหมู่บ้าน

     

    99 99

    5. อสม. แกนนำคุ้มครองผู้บริโภค ออกตรวจเฝ้าระวังร้านขาย ของชำในหมู่บ้าน

    วันที่ 1 สิงหาคม 2560 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

     

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

          ร้านขายของชำในพื้นที่รับผิดชอบมีทั้งหมด ๑๖๐ ร้าน ได้ดำเนินการสุ่มตรวจร้านขายของชำโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ร่วมกับ อสม. แกนนำคุ้มครองผู้บริโภค จำนวน ๖๘ ร้าน คิดเป็นร้อยละ ๔๒.๕๐ ผลการสุ่มตรวจปรากฏผลดังนี้ ๑. ร้านขายของชำในชุมชน     - พบร้านขายของชำที่จำหน่ายยาที่ไม่สามารถจำหน่ายได้ในร้านขายของชำ จำนวน ๕๕ ร้าน คิดเป็นร้อยละ ๘๐.๘๘     - พบร้านขายของชำที่จำหน่ายยาที่สามารถจำหน่ายได้ในร้านขายของชำเพียง ๕ ร้าน คิดเป็น ร้อยละ ๗.๓๖     - พบร้านขายของชำที่ไม่จำหน่ายยา จำนวน ๘ ร้าน คิดเป็นร้อยละ ๑๑.๗๖ ๒. เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์สุขภาพ     - พบร้านขายของชำที่จำหน่ายเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ได้คุณภาพ จำนวน ๖๖ ร้าน คิดเป็นร้อยละ ๙๗.๐๖     - พบร้านขายของชำที่จำหน่ายเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ได้คุณภาพ เพียง  ๒ ร้าน คิดเป็นร้อยละ ๒.๙๔ ๑.๒ การประเมินความรู้ก่อนและหลังการอบรม / การอบรมให้ความรู้พัฒนาศักยภาพ อสม. แกนนำคุ้มครองผู้บริโภค       ผลการประเมินพบว่า หลังเข้ารับการอบรม ผู้เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่มีระดับความรู้เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ ๙๐ ซึ่งข้อคำถามที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนคือ ข้อคำถามที่ ๓ ผลิตภัณฑ์ยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ผู้จำหน่ายสามารถสังเกตได้จากสัญลักษณ์    เพิ่มขึ้นจากร้อยละ ๓.๓๓ เป็นร้อยละ ๙๒.๓๓ รองลงมาคือข้อคำถามที่ ๑ ยาที่สามารถวางขายได้ในร้านขายของชำคือ ยาแก้ไอน้ำดำ ตราเสือดาว ๖๐ ซีซี และข้อคำถามที่ ๒ การขายยาทรามาดอล (แคปซูลเหลือง –เขียว) หรือยาแก้ไอที่ผสม Diphenhydramine ในร้านขายของชำ ถือเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายมาตรา ๑๒ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๕ ปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ซึ่งทั้งสองข้อมีการเปลี่ยนแปลงเท่ากันคือร้อยละ ๘๓.๓๓ และข้อที่ไม่เปลี่ยนแปลงเลย คือข้อที่ก่อนและหลังการอบรมมีคะแนนร้อยละ ๑๐๐ เท่ากัน ได้แก่ข้อคำถามที่ ๔ การปฏิบัติตัวที่ถูกต้องในการดูแลตนเองคือเมื่อมีอาการท้องเสีย ควรรีบกินผงน้ำตาลเกลือแร่เพื่อชดเชยน้ำและแร่ธาตุทันที

     

    160 160

    6. จัดทำรูปเล่มรายงาน

    วันที่ 1 กันยายน 2560 เวลา 09:00 น.

    กิจกรรมที่ทำ

     

    ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    เล่มรายงานผลการดำเนินงานโครงการ 

     

    0 0

    * ผลผลิต หมายถึง ผลที่เกิดขึ้นเชิงปริมาณจากการทำกิจกรรม เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนผู้ผ่านการอบรม จำนวนครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น
    ** ผลลัพธ์ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่การแก้ปัญหา เช่น หลังอบรมมีผู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนกี่คน มีข้อบังคับหรือมาตรการของชุมชนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ต้องมีข้อมูลอ้างอิงประกอบการรายงาน เช่น ข้อมูลรายชื่อแกนนำ , แบบสรุปการประเมินความรู้ , รูปภาพกิจกรรมพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ เป็นต้น


    ส่วนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจต่อความสำเร็จและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการในภาพรวม

    ผลการดำเนินโครงการ

    สรุปผลการดำเนินโครงการ

    ผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม:
    บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
    บรรลุตามวัตถุประสงค์บางส่วนของโครงการ
    ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ

    จากการดำเนินโครงการ ผู้เข้าร่วมโครงการมี ๒ กลุ่ม คือกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) แกนนำคุ้มครองผู้บริโภค และกลุ่มผู้ประกอบการร้านขายของชำ โดยกลุ่ม อสม. แกนนำคุ้มครองผู้บริโภค มีผู้เข้าร่วมโครงการ ๖๐ คน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จำนวน ๕๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๙๖.๖๗ เป็นเพศชาย จำนวน ๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๓.๓๓ ช่วงอายุของผู้เข้าร่วมโครงการมากที่สุดคือช่วงอายุ ๔๑-๕๐ ปี จำนวน ๒๙ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๘.๓๓ รองลงมาคือช่วงอายุ ๕๑-๖๐ ปี จำนวน ๑๗ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๘.๓๓ ระดับการศึกษาส่วนใหญ่อยู่ในระดับมัธยมศึกษา จำนวน ๓๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๕๓.๓๓ รองลงมาคือระดับประถมศึกษา จำนวน ๒๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๐.๐๐ การนับถือศาสนาส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม จำนวน ๕๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๙๐.๐๐ รองลงมานับถือศาสนาพุทธ จำนวน ๖ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๐.๐๐ ด้านรายได้ส่วนใหญ่มีรายได้อยู่ระหว่าง ๒,๕๐๐ – ๕,๐๐๐ บาท/เดือน จำนวน ๓๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๕๖.๖๗  รองลงมามีรายได้อยู่ระหว่าง ๕,๐๐๑ – ๗,๕๐๐ บาท/เดือน จำนวน ๑๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๑.๖๗ สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการร้านขายของชำ มีผู้เข้าร่วมโครงการ ๑๖๐ คน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จำนวน ๑๐๖ คน คิดเป็นร้อยละ ๖๖.๒๕ เป็นเพศชาย จำนวน ๕๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๓.๗๕ ช่วงอายุของผู้เข้าร่วมโครงการมากที่สุดคือช่วงอายุ ๔๑-๕๐ ปี จำนวน ๕๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๒.๕๐ รองลงมาคือช่วงอายุ ๓๑-๔๐ ปี จำนวน ๔๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๗.๕๐ ระดับการศึกษาส่วนใหญ่อยู่ในระดับมัธยมศึกษา จำนวน ๗๑ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๔.๓๘ รองลงมาคือระดับ ปวช./ปวส. หรืออนุปริญญาตรี จำนวน ๕๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๓.๑๒ การนับถือศาสนาส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม จำนวน ๑๓๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๘๓.๑๒ รองลงมานับถือศาสนาพุทธ จำนวน ๒๗ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๖.๘๘ ผู้ประกอบการร้านขายของชำจำหน่ายสินค้ามากกว่าหนึ่งชนิด จำนวน ๑๔๒ ร้าน คิดเป็นร้อยละ ๘๘.๗๕ โดยสินค้าที่จำหน่ายในร้านขายของชำส่วนใหญ่ ได้แก่ ยา อาหารสำเร็จรูป เครื่องสำอาง และเครื่องปรุงรส มีเพียง ๑๘ ร้าน ที่จำหน่ายสินค้าเพียงอย่างเดียวคืออาหารแปรรูป จำพวกอาหารจานเดียวและก๋วยเตี๋ยว ด้านรายได้ส่วนใหญ่มีรายได้อยู่ระหว่าง ๗,๕๐๑ – ๑๐,๐๐๐ บาท/เดือน จำนวน ๗๗ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๘.๑๒  รองลงมามีรายได้อยู่ระหว่าง ๕,๐๐๑ – ๗,๕๐๐ บาท/เดือน จำนวน ๖๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๙.๓๘

    ๑.๑ การสุ่มตรวจร้านขายของชำในชุมชนโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ร่วมกับ อสม. แกนนำคุ้มครองผู้บริโภค       ร้านขายของชำในพื้นที่รับผิดชอบมีทั้งหมด ๑๖๐ ร้าน ได้ดำเนินการสุ่มตรวจร้านขายของชำโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ร่วมกับ อสม. แกนนำคุ้มครองผู้บริโภค จำนวน ๖๘ ร้าน คิดเป็นร้อยละ ๔๒.๕๐ ผลการสุ่มตรวจปรากฏผลดังนี้ ๑. ร้านขายของชำในชุมชน     - พบร้านขายของชำที่จำหน่ายยาที่ไม่สามารถจำหน่ายได้ในร้านขายของชำ จำนวน ๕๕ ร้าน คิดเป็นร้อยละ ๘๐.๘๘     - พบร้านขายของชำที่จำหน่ายยาที่สามารถจำหน่ายได้ในร้านขายของชำเพียง ๕ ร้าน คิดเป็น ร้อยละ ๗.๓๖     - พบร้านขายของชำที่ไม่จำหน่ายยา จำนวน ๘ ร้าน คิดเป็นร้อยละ ๑๑.๗๖ ๒. เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์สุขภาพ     - พบร้านขายของชำที่จำหน่ายเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ได้คุณภาพ จำนวน ๖๖ ร้าน คิดเป็นร้อยละ ๙๗.๐๖     - พบร้านขายของชำที่จำหน่ายเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ได้คุณภาพ เพียง  ๒ ร้าน คิดเป็นร้อยละ ๒.๙๔ ๑.๒ การประเมินความรู้ก่อนและหลังการอบรม / การอบรมให้ความรู้พัฒนาศักยภาพ อสม. แกนนำคุ้มครองผู้บริโภค       ผลการประเมินพบว่า หลังเข้ารับการอบรม ผู้เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่มีระดับความรู้เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ ๙๐ ซึ่งข้อคำถามที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนคือ ข้อคำถามที่ ๓ ผลิตภัณฑ์ยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ผู้จำหน่ายสามารถสังเกตได้จากสัญลักษณ์    เพิ่มขึ้นจากร้อยละ ๓.๓๓ เป็นร้อยละ ๙๒.๓๓ รองลงมาคือข้อคำถามที่ ๑ ยาที่สามารถวางขายได้ในร้านขายของชำคือ ยาแก้ไอน้ำดำ ตราเสือดาว ๖๐ ซีซี และข้อคำถามที่ ๒ การขายยาทรามาดอล (แคปซูลเหลือง –เขียว) หรือยาแก้ไอที่ผสม Diphenhydramine ในร้านขายของชำ ถือเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายมาตรา ๑๒ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๕ ปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ซึ่งทั้งสองข้อมีการเปลี่ยนแปลงเท่ากันคือร้อยละ ๘๓.๓๓ และข้อที่ไม่เปลี่ยนแปลงเลย คือข้อที่ก่อนและหลังการอบรมมีคะแนนร้อยละ ๑๐๐ เท่ากัน ได้แก่ข้อคำถามที่ ๔ การปฏิบัติตัวที่ถูกต้องในการดูแลตนเองคือเมื่อมีอาการท้องเสีย ควรรีบกินผงน้ำตาลเกลือแร่เพื่อชดเชยน้ำและแร่ธาตุทันที ๑.๓ การประเมินความรู้ก่อนและหลังการอบรม / การอบรมให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการร้านขายของชำ       ผลการประเมินพบว่า หลังเข้ารับการอบรม ผู้เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่มีระดับความรู้เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ ๘๕ ซึ่งข้อคำถามที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนคือ ข้อคำถามที่ ๑๓ ท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลเครื่องสำอางได้จาก web site  www.fda.moph.go.th “เลือกเครื่องสำอาง”เพิ่มขึ้นจากร้อยละ ๘.๓๓ เป็นร้อยละ ๘๗.๑๕ รองลงมาคือข้อคำถามที่ ๓ ผลิตภัณฑ์ยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ผู้จำหน่ายสามารถสังเกตได้ จากสัญลักษณ์      เพิ่มขึ้นจากร้อยละ ๙.๑๗ เป็นร้อยละ ๘๗.๒๔ และข้อที่มีการเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุดคือข้อคำถามที่ ๔ การปฏิบัติตัวที่ถูกต้องในการดูแลตนเองคือเมื่อมีอาการท้องเสีย ควรรีบกินผงน้ำตาลเกลือแร่เพื่อชดเชยน้ำและแร่ธาตุทันที เปลี่ยนแปลงเพียงร้อยละ ๑๐.๙๒ ๑.๔ ร้านขายของชำในชุมชนได้รับการตรวจสอบ/ติดตาม และเฝ้าระวัง       ในการดำเนินโครงการได้แบ่งการตรวจสอบ/ติดตาม และเฝ้าระวังออกเป็น ๒ ช่วง คือ     - ช่วงที่ ๑  อสม. แกนนำคุ้มครองผู้บริโภค ได้ทำการสำรวจร้านขายของชำในชุมชน และตรวจสอบในเบื้องต้นว่าร้านขายของชำแต่ละร้านจำหน่ายสินค้าประเภทใดบ้าง โดยได้ทำการสำรวจครบ    ทุกร้าน คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐.๐๐     - ช่วงที่ ๒ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ร่วมกับ อสม. แกนนำคุ้มครองผู้บริโภค ดำเนินการสุ่มตรวจร้านขายของชำในชุมชน จำนวน ๖๘ ร้าน คิดเป็นร้อยละ ๔๒.๕๐ ๑.๕ การประเมินความพึงพอใจ       ผลการประเมินความพึงพอใจจากแบบประเมินความพึงพอใจของผู้ประกอบการร้านขายของชำ จำนวน ๑๖๐ คน พบว่า                 ๑. ด้านการบริการของคณะดำเนินการ พบว่าผู้เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งพึงพอใจในเรื่อง การลงทะเบียนมากที่สุด ร้อยละ ๘๑.๓๒ รองลงมาคือการต้อนรับ ร้อยละ ๗๘.๙๔                 ๒. ด้านวิทยากร พบว่าผู้เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งพึงพอใจในเรื่อง การถ่ายทอดความรู้ของวิทยากรมากที่สุด ร้อยละ ๖๓.๔๕ รองลงมาคือ การตอบคำถามของวิทยากร ร้อยละ ๖๑.๔๙                 ๓. ด้านสถานที่/ระยะเวลา/อาหาร พบว่าผู้เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งพึงพอใจในเรื่อง สถานที่สะอาดและมีความเหมาะสมมากที่สุด ร้อยละ ๘๕.๘๗ รองลงมาคือความเหมาะสมของอาหารและเครื่องดื่ม ร้อยละ ๗๐.๒๓                 ๔. ด้านการนำความรู้ไปใช้ พบว่าผู้เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งพึงพอใจในเรื่องสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ได้ ร้อยละ ๗๔.๕๓ รองลงมาคือ สามารถนำความรู้ไปเผยแพร่/ถ่ายทอดแก่ชุมชนได้ ร้อยละ ๖๗.๖๐       โดยสรุปพบว่าผู้เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจต่อโครงการอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือระดับมาก

    ผลผลิตโครงการ

    วัตถุประสงค์สถานการณ์เป้าหมายผลผลิตอธิบาย
    1 เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้เกิดความปลอดภัยจากการใช้ยา เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และบริการสุขภาพ
    ตัวชี้วัด : 1. ร้อยละ 80 ของร้านขายของชำในชุมชนปลอดจากการจำหน่ายยา ที่ไม่สามารถจำหน่ายในร้านขายของชำ 2. ร้อยละ 80 ของร้านขายของชำในชุมชนปลอดจากการจำหน่ายเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์สุขภาพ ที่ไม่ได้คุณภาพ

     

    2 เพื่อให้อสม.แกนนำคุ้มครองผู้บริโภค มีความรู้เกี่ยวกับอาหาร ยา เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และบริการสุขภาพ
    ตัวชี้วัด : อาสาสมัครสาธารณสุข แกนนำคุ้มครองผู้บริโภค มีความรู้เกี่ยวกับอาหาร ยา เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และบริการสุขภาพ หลังเข้าร่วมโครงการ ร้อยละ 80

     

    3 เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านขายของชำในหมู่บ้านมีความรู้เกี่ยวกับอาหาร ยา เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และบริการสุขภาพ
    ตัวชี้วัด : ผู้ประกอบการร้านขายของชำ มีความรู้เกี่ยวกับอาหาร ยา เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และบริการสุขภาพ หลังเข้าร่วมโครงการ ร้อยละ 80

     

    4 เพื่อเฝ้าระวังการขายยา เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และบริการสุขภาพในร้านขายของชำ
    ตัวชี้วัด : ร้อยละ 100 ของร้านขายของชำได้รับการตรวจสอบ/ติดตาม และเฝ้าระวัง

     

    ผู้เข้าร่วมโครงการ

    กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
    จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด 60
    กลุ่มเป้าหมายจำนวนที่วางไว้(คน)จำนวนที่เข้าร่วม(คน)
    กลุ่มเป้าหมายจำแนกตามช่วงวัย
    กลุ่มเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน -
    กลุ่มเด็กวัยเรียนและเยาวชน -
    กลุ่มวัยทำงาน 60
    กลุ่มผู้สูงอายุ -
    กลุ่มเป้าหมายจำแนกกลุ่มเฉพาะ
    กลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด -
    กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง -
    กลุ่มคนพิการและทุพพลภาพ -
    กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง -
    สำหรับการบริหารหรือพัฒนากองทุนฯ [ข้อ 10(4)] -

    บทคัดย่อ*

    โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้เกิดความปลอดภัยจากการใช้ยา เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และบริการสุขภาพ (2) เพื่อให้อสม.แกนนำคุ้มครองผู้บริโภค มีความรู้เกี่ยวกับอาหาร ยา เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และบริการสุขภาพ (3) เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านขายของชำในหมู่บ้านมีความรู้เกี่ยวกับอาหาร ยา เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และบริการสุขภาพ (4) เพื่อเฝ้าระวังการขายยา เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และบริการสุขภาพในร้านขายของชำ

    ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่

    ข้อเสนอแนะ ได้แก่ (1) ...

    หมายเหตุ *

    • บทคัดย่อ จะนำไปใส่ในส่วนบทคัดย่อของรายงานฉบับสมบูรณ์
    • หากต้องการใช้ค่าเริ่มต้นของบทคัดย่อ ให้ลบข้อความในช่องบทคัดย่อ ทั้งหมด แล้วกดปุ่ม Refresh

    ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ

    ปัญหาและอุปสรรคสาเหตุข้อเสนอแนะ

     

     

     


    โครงการคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพในร้านขายของชำ จังหวัด สตูล

    รหัสโครงการ 60-L8010-1-03

    ได้ดำเนินกิจกรรมตามที่เสนอไว้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว

    ................................
    ( นายปวิตร วณิชชานนท์ )
    ผู้รับผิดชอบโครงการ
    ......./............/.......

    vertical_align_topไปบนสุด