แบบฟอร์มพัฒนาโครงการ กองทุนหลักประกันสุขภาพ เทศบาลนครยะลา
1. ชื่อโครงการ/กิจกรรม
ชื่อโครงการควรสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสื่อสาระของสิ่งที่จะทำอย่างชัดเจน ควรจะระบุชื่อชุมชนในชื่อโครงการเพื่อความสะดวกในการค้นหา
กองทุนหลักประกันสุขภาพ เทศบาลนครยะลา
งานแพทย์แผนไทย กลุ่มงานบริการการแพทย์และสาธารณสุข สำนักการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม
ชุมชนเขตเทศบาลนครยะลา
2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
อาการปวดคอ บ่า ไหล่ เป็นกลุ่มอาการที่พบได้บ่อยในวัยทำงานและวัยรุ่นยุคใหม่ ปัจจุบันอาการเจ็บป่วยจากการทำงานถือเป็นเรื่องใกล้ตัวและมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าร้อยละ 60 ของคนวัยทำงานมีภาวะปวดคอ บ่า ไหล่ โดยอาการที่พบอันดับหนึ่งคืออาการปวดหลัง บ่า รองลงมาคืออาการปวดคอ/ไหล่ และปวดศีรษะตามลำดับ และนอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มคนอายุระหว่าง 16 – 24 ปี มีความเสี่ยงของภาวะดังกล่าวสูงถึงร้อยละ 55 ซึ่งสาเหตุหลัก คือ การไม่เปลี่ยนอิริยาบถระหว่างการทำงาน หรือการอยู่ในอิริยาบถที่ไม่เหมาะสม การนั่งหลังค่อม ท่าก้มหรือเงยคอมากเกินไป รวมถึงความเครียด ส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนล้า อ่อนเพลีย หากมีอาการเรื้อรังอาจนำไปสู่ กล้ามเนื้ออักเสบ พังผืดสะสมบริเวณกล้ามเนื้อ รวมไปถึงอาการปวดกล้ามเนื้อต้นคอ ร้าวขึ้นไปบริเวณขมับและกระบอกตาได้ สำหรับแนวทางในการรักษาอาการปวดคอ บ่า ไหล่จากการทำงานมีหลากหลายวิธี เช่น การรักษาด้วยยา การรักษาด้วยวิธีเวชศาสตร์ฟื้นฟู การปรับอิริยาบถให้ถูกต้อง การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มสมรรถภาพร่างกาย รวมถึงการรักษาด้วยศาสตร์ทางเลือกอื่นๆ เช่น การฝังเข็ม การนวดแผนไทย เป็นต้น
อาการปวดคอ บ่า ไหล่ ทางการแพทย์แผนไทยจัดเป็นโรคลมชนิดหนึ่ง สามารถเทียบได้กับกลุ่มโรคลมปลายปัตคาด ซึ่งเกิดจากการแข็งตัวของเลือด เนื่องจากความเครียด การทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ ท่าทาง อิริยาบถต่าง ๆ ที่ไม่ถูกต้อง เมื่อโรคนี้เกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อหลัง คอ บ่า และไหล่ จะทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยบริเวณดังกล่าว ปัจจุบันทางการแพทย์แผนไทยจึงได้มีการนำหัตถการ การนวดไทยมาใช้ในบำบัดรักษาโรคระบบกล้ามเนื้อและกระดูก ซึ่งการนวดจะส่งผลต่อระบบไหลเวียนเลือด ระบบประสาท ลดความเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและคลายเครียด
จากการสำรวจประชาชนในเขตเทศบาลนครยะลา โดยการตอบแบบสอบถามออนไลน์ ณ เดือน พฤศจิกายน 2563 โดยงานแพทย์แผนไทย สำนักการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครยะลา เรื่องการศึกษาพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาการปวดคอ บ่า ไหล่ ทั้งหมด 140 ราย ผลการสำรวจพบว่า กลุ่มอายุที่มีอาการปวดคอ บ่า ไหล่มากที่สุด คือ41 – 50 ปี รองลงมา 26 – 40 ปีอายุ 51 ปีขึ้นไป และอายุ 15 – 25 ปี คิดเป็นร้อยละ 42.4, 33.1, 16.5 และ 7.9 ตามลำดับ โดยกลุ่มคนส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 95.7 ต้องใช้คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คหรือสมาร์ทโฟนในการทำงานหรือใช้ในชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง โดยมีการใช้งานมากกว่าครั้งละ 1 ชั่วโมง และพบกลุ่มคนที่มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ ขณะทำงานหรืออยู่กับที่เป็นเวลานานถึงร้อยละ 92.1 ซึ่งสาเหตุหลักของอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ คือ การไม่เปลี่ยนอิริยาบถระหว่างการทำงาน คิดเป็นร้อยละ 58.2 รองลงมาคือ การนั่งหลังงอ หลังค่อม คิดเป็นร้อยละ17.2 และจากความเครียด คิดเป็นร้อยละ13.1 ตามลำดับ ซึ่งระดับความปวด ส่วนใหญ่อยู่ในระดับปวดเล็กน้อย สามารถทนได้ทั้งวัน คิดเป็นร้อยละ 51.8 ปวดระดับปานกลาง สามารถทนทำงานต่อได้มากกว่า 30 นาที คิดเป็นร้อยละ 33.1 โดยระดับความรบกวนการทำงานและชีวิตประจำวันจากอาการปวดเหล่านี้ พบว่า รบกวนเล็กน้อย สามารถทนได้ทั้งวัน คิดเป็นร้อยละ 46 รองลงมาคือ รบกวน แต่ยังสามารถทนทำงานและใช้ชีวิตได้ตามปกติ คิดเป็นร้อยละ 41.4 โดยกลุ่มคนที่มีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ที่เคยได้รับการดูแลรักษามีเพียงร้อยละ 38.4 และอีกร้อยละ 61.6 ยังไม่เคยได้รับการดูแลรักษาอาการปวดเหล่านี้
ดังนั้นงานแพทย์แผนไทยกลุ่มงานบริการการแพทย์และสาธารณสุข สำนักการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของอาการดังกล่าวจึงได้จัดทำ “โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการนวดคอ บ่า ไหล่ เพื่อสุขภาพ ” ขึ้น เพื่อช่วยส่งเสริมให้ประชาชนเกิดความตระหนักถึงปัญหาสุขภาพของตนเอง รู้เท่าทัน สามารถป้องกันตนเองจากอาการปวดคอ บ่า ไหล่ได้ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพอย่างถูกต้องเหมาะสม มีความรู้และทักษะการนวดเพื่อบรรเทาอาการปวดคอ บ่า ไหล่ สามารถดูแลสุขภาพของตนเองและครอบครัวได้
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 01/01/2021
กำหนดเสร็จ 30/09/2021
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1. ผู้เข้าอบรมมีความรู้ความเข้าใจในการดูแลสุขภาพของตนเองและป้องกันอาการปวดคอ บ่า ไหล่
2. ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้ในศาสตร์การแพทย์แผนไทยไปประยุกต์ใช้ในการดูแล ป้องกันสุขภาพตนเองจากอาการปวดคอ บ่า ไหล่ ได้ถูกต้องและปลอดภัย