2. ความสอดคล้องกับแผนงาน
3. สถานการณ์
การใช้ชีวิตประจำวันของเราในปัจจุบันมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้น ทำให้เรามีการเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง รวมทั้งการรับประทานอาหารในปริมาณที่มากเกินความต้องการของร่างกาย รับประทานอาหารรสหวานจัด เค็มจัด และอาหารที่มีไขมันสูง เหล่านี้จะทำให้เกิดภาวะอ้วน เกิดโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมองซึ่งอาจจะตีบหรือแตกได้ เมื่อประกอบกับความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอรวมกันและสะสมเรื้อรังไปนาน ๆ ก็นำไปสู่การเกิดกลุ่มโรค NCDs ขึ้นได้ ซึ่งก็จะทำให้มีค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคสูง รวมทั้งบางโรคยังรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-communicable diseases)หรือโรค NCDs คือโรคในสังคมสมัยใหม่ที่กำลังทำให้งานส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคของเจ้าหน้าที่ในระบบสุขภาพกลายเป็นภารกิจที่มีความท้าทายอย่างมากข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกปี 2559 แสดงให้เห็นว่ามีประชากรโลกที่เสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังถึง41 ล้านคนต่อปี คิดเป็นร้อยละ 71 ของการเสียชีวิตทั่วโลกและองค์การอนามัยโลกได้ทำนายไว้ว่าในปี พ.ศ. 2573 ประชากรโลกจำนวน 23 ล้านคนจะเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจโดยร้อยละ 85 อยู่ใน ประเทศกำลังพัฒนา ส่วนในประเทศไทย ปี 2561 มีประชากรไทยเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังมากถึง 320,000 คนต่อปี หรือเฉลี่ย 37 คนต่อชั่วโมงส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยทำงาน โดยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่มีการเสียชีวิตสูงสุดนั้น คือ โรคหลอดเลือดสมอง รองลงมา คือ โรคหัวใจขาดเลือด โรคทางเดินหายใจอุดกั้นเรื้อรังโรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง ตามลำดับ ข้อมูลทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงอันตรายและความเสี่ยงที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในอนาคตคงปฏิเสธไม่ได้ว่าโรคไม่ติดต่อเรื้อรังนั้นมีต้นเหตุมาจาก “พฤติกรรมสุขภาพ” ภายใต้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมการกินการอยู่ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากบริโภคนิยม โลกาภิวัฒน์ การจัดการโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่มีพื้นที่เป็นฐานและประชาชนเป็นศูนย์กลาง เงื่อนไขทางเศรษฐกิจ สังคม และสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงทางสุขภาพที่ส่งผลต่อความเจ็บป่วย วิถีชีวิตและค่านิยมในการบริโภคที่เปลี่ยนไปทำให้ผู้บริโภคเลือกความสะดวกสบาย ความทันสมัย และภาพลักษณ์ของรสนิยมมากกว่าการให้คุณค่ากับสุขภาพ เช่น พฤติกรรมการบริโภคอาหาร fast food ของกลุ่มวัยรุ่นเนื่องจากความเท่และทันสมัยที่ได้รับอิทธิพลจากสื่อโฆษณา พฤติกรรมการบริโภคอาหารปรุงสำเร็จของกลุ่มวัยทำงานเขตเมืองเนื่องจากความรวดเร็วเข้าถึงง่าย ดังนั้น พฤติกรรมเสี่ยงจากการบริโภคที่สะสมในชีวิตประจำวันจึงส่งผลต่อแนวโน้มการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังจนกลายเป็น “โรคของยุคสมัย”
โรงเรียนประสานวิทยามูลนิธิจึงได้จัดทำโครงการหยุดยั้งร่วมต้าน NCDsร่วมรณรงค์สร้างกระแสให้นักเรียนตระหนักภัยร้ายของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง เน้นให้นักเรียนสามารถดูแลสุขภาพและจัดการกับตนเอง
4. วัตถุประสงค์และตัวชี้วัด
- บอกจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานโครงการ และสิ่งที่ต้องการให้เกิดผลจากการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์นี้จะต้อง เฉพาะเจาะจง วัดได้จริง แสดงโอกาสที่จะเกิดผลสำเร็จ สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล ในระยะเวลาที่กำหนด
- ตัวชี้วัด ให้ระบุความชัดเจนว่า เมื่อดำเนินการตามโครงการเสร็จแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้างและมากน้อยเพียงใด และควรแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปธรรมวัดผลได้ และระบุตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการทั้งในระดับผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
1 เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคติดต่อไม่เรื้อรัง NCDs
2 เพื่อให้นักเรียนสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง NCDs
3 เพื่อให้นักเรียนได้รับการเฝ้าระวังป้องกันโรคติดต่อไม่เรื้อรัง NCDs
5. กลุ่มเป้าหมาย
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันเริ่มต้น 15/02/2021
กำหนดเสร็จ 29/07/2021
7. วิธีการดำเนินงาน
- กิจกรรม แสดงขั้นตอนการทำกิจกรรมและกระบวนการดำเนินงาน เขียนให้ละเอียดว่าจะทำอะไร อย่างไร จึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่วางไว้ เขียนให้เห็นลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
- งบประมาณ ในแต่ละกิจกรรม ขอให้จำแนกรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยละเอียด
หมายเหตุ :
8. ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง
ผลจากการดำเนินโครงการท่านคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร?1 นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคติดต่อไม่เรื้อรัง NCDs
2 นักเรียนสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง NCDs
3 นักเรียนสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง NCDs