แบบเสนอโครงการกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่น
แบบจัดทำแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
รหัส กปท.
อำเภอ จังหวัด
ตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2567 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 17 (2) "ให้พิจารณาอนุมัติโครงการ หรือกิจกรรม ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนตามข้อ 10"
อาศัยอำนาจของประกาศ ฯ ข้อ 10 "เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพตามข้อ 7 วรรคหนึ่ง ให้ใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมเป็นค่าใช้จ่ายตามแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ที่คณะกรรมการกองทุนอนุมัติ" จึงได้จัดทำแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ประจำปีงบประมาณ 2566 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ศูนย์บริการสาธารณสุขสามชัย อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน และกลุ่มผู้สูงอายุชุมชนหน้าโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย
การหกลัมในผู้สูงอายุแตกต่างจากการหกลัมในวัยหนุ่มสาวหรือวัยเด็ก สาเหตุของการหกล้มสำคัญที่แพทย์ควรประเมินเป็นลำดับแรกคือ สาเหตุจากปัจจัยทางสรีระวิทยาหรือความเจ็บป่วยของผู้สูงอายุ นิยามของการหกล้ม หมายถึง "การที่ร่างกายเคลื่อนลงมากระทบสู่พื้นดินหรือที่1 ระดับต่ำกว่าระดับเดิมโดยไม่ได้เป็นการดั้งใจ" การหกลัมในผู้สูงอายุในความจริงแล้วเกิดน้อยกว่าในวัยเด็กหรือนักกีฬา แต่ด้วยการที่สรีรวิทยาที่ถดถอยร่วมกับภาวะกระดูกบางหรือกระดูกพรุน ส่งผลกระทบต่อร่างกายได้อย่างชัดเจน ได้แก่ การบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อและเส้นเอ็นร้อยละ 50 และการบาดเจ็บที่รุนแรงขึ้นร้อยละ 10 เช่น กระดูกหัก เลือดออกในสมอง นอกจากนี้การหกล้มในผู้สูงอายุยังส่งผลกระทบต่อจิตใจ โดยเฉพาะการหกล้มเกิดขึ้นซ้ำ และไม่ได้รับการดูแลแก้ไข นำไปสู่สุขภาพจิตที่แย่ลงหรือภาวะซึมเศร้าได้ร้อยละ 20-30
อุบัติการณ์การหกล้มและการเดินการทรงตัวที่ผิดปกติเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยทั่วโลก และส่งผลต่อผู้สูงอายุทั้งด้านคุณภาพชีวิตและการเสียชีวิต รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้สูงอายุที่ค่อนข้างสูง สาเหตุของการหกล้มในผู้สูงอายุมีได้หลายสาเหตุ มีได้ทั้งทางร่างกาย ยาที่รับประทานและปัจจัย สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย ซึ่งแพทย์ควรทำการประเมินผู้สูงอายุที่มีการหกล้มโดยเริ่มจาก การซักประวัติการหกล้มที่เกิดขึ้นโดยละเอียดเพื่อค้นหาสาเหตุที่เป็นได้ ร่วมไปกับการประเมินการเดินการทรงตัว สำหรับการป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ พบว่ามีหลายกระบวนการที่ช่วยป้องกันได้ตามข้อมูลการศึกษาที่ผ่านมาโดยเฉพาะการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพทั้งการลดอัตราการหกลัมและลดความเสี่ยงต่อการหกล้ม ดังนั้นเมื่อแพทย์ได้ประเมินผู้สูงอายุและพบความเสี่ยงต่อการหกล้ม หรือเคยมีประวัติการหกล้มมาก่อน ควรหาสาเหตุที่มาของการหกล้มและความเสี่ยงอย่างละเอียด และให้การดูแลรักษาที่เหมาะสมเพื่อสามารถป้องกันการหกลัมและชะลอภาวะทุพพลภาพต่อไปได้
โดยปัญหาสุขภาพชุมชนที่นำมาทำประชาคมอ้างอิงจากแบบสำรวจสุขภาพประชาชนไทยครั้งที่ ๖ เป็นการสำรวจผู้สูงอายุประมาณ ๑๐,๐๐๐ คน เพื่อเป้าหมายตามหลักนโยบายผู้สูงอายุแห่งชาติ ให้ผู้สูงอายุสามารถอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี มีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนและประเทศ เป็นที่ต้องการของครอบครัวและสังคม และมีความเข้าใจดีระหว่างคนต่างรุ่นในครอบครัว โดยมีประเด็นดังนี้ ๑.การหกล้มในผู้สูงอายุ นำไปสู่การบาดเจ็บและเสียชีวิตได้ โดยมีการหกล้มภายในหกเดือน ๑๕.๓% พบเกิดปัญหาในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยเฉลี่ยล้มประมาณ ๓ ครั้ง ไม่แตกต่างกันมากนักระหว่างกลุ่มอายุ เป็นการหกล้มนอกบ้านมากกว่าในบ้าน และในบ้านเป็นบริเวณห้องนอนและห้องน้ำ สาเหตุที่ทำให้หกล้มคือ การสะดุดสิ่งวัตถุสิ่งของ ลื่นหกล้ม เสียการทรงตัว พื้นต่างระดับ แหละหน้ามืดขณะหกล้ม เป็นการบาดเจ็บแผลฟกช้ำ ถอก หรืออาจถึงข้อสะโพกหักได้ ๒.การพึ่งพิงในกิจวัตรประจำวัน ผู้สูงอายุประมาณ ๐.๗-๒๐.๒% มีข้อจำกัดในการทำกิจวัตรประจำวันพื้นฐาน พบเกิดปัญหาในผู้หญิงเป็นมากกว่าผู้ชาย เพิ่มขึ้นตามอายุ ๓.ความเสื่อมถอยของอวัยวะ เช่น ต้อกระจก การบดเคี้ยว และการได้ยิน และสุดท้ายคือโรคเรื้อรังในผู้สูงอายุทางกายและทางใจ ทางกายเช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคข้อเข่าเสื่อม ทางจิตใจเช่น ภาวะซึมเศร้าเป็นต้น โดยนำประเด็นปัญหาที่ได้จากแบบสำรวจและความเห็นของคนในชุมชนมาจัดทำประชาคมและจัดลำดับความสำคัญของปัญหา พิจารณาตามขนาดของปัญหาความรุนแรงของปัญหา ความยากง่ายและความตระหนักของคนในชุมชนต่อการแก้ปัญหา
จากการทำประชาคมปัญหาทางสุขภาพในเขตชุมชนหน้าโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย มีผู้เข้าร่วมประชาคมเป็นผู้สูงอายุในชุมชนหน้าโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) เป็นจำนวน ๑๕ คน ทีมแพทย์/พยาบาลจากโรงพยาบาลใหญ่ รวมทั้งสิ้น ๒๕ คน โดยประเด็นปัญหาที่ได้จากการทำประชาคมคือปัญหาหกล้มในผู้สูงอายุ ซึ่งสอดคล้องกับการคัดกรองสุขภาพของผู้สูงอายุอำเภอหาดใหญ่ปี ๒๕๖๒ ปัญหาที่พบมากที่สุด ๔ อันดับคือ โรคติดต่อไม่เรื้อรัง ข้อเข่าเสื่อม ปัญหาสมองเสื่อม และการหกล้ม
เทศบาลนครหาดใหญ่ ได้กำหนดนโยบายด้านสาธารณสุขและคุณภาพชีวิตให้ประชาชนทุกคน ได้รับการดูแลโดยเสมอภาค ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจหน้าที่ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ตามความในพระราชบัญญัติเทศบาล โดยให้บริการประชาชนภายใต้การมีส่วนร่วมของประชาชน และทั้งนี้ปัญหาสุขภาพที่ได้มาเกิดจากการทำประชาคมและการจัดลำดับความสำคัญของปัญหาโดยชุมชนอย่างแท้จริง จึงได้จัดทำโครงการ “สถานีวัยเก๋า เคลื่อนไหวดี ไม่มีล้ม” เพื่อส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ ประเมินความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้มของคนในชุมชน รู้สถานะความเสี่ยงของตนเอง ฝึกการทรงตัว การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ รวมถึงการปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมภายในบ้านให้ปลอดภัยต่อการดำเนินชีวิตของผู้สูงอายุ เพื่อลดโอกาสล้ม โดยจะมีการติดตามโครงการดังกล่าวทุกๆ ๓ เดือน เพื่อให้เกิดความยั่งยืน และเป็นต้นแบบโครงการชุมชนอันมาจากการมีส่วนร่วมของชุมชนที่แท้จริง
-
1. เพื่อให้ผู้สูงอายุในชุมชนได้รับการคัดกรองความเสี่ยงต่อการล้มตัวชี้วัด : ผู้สูงอายุในโครงการ ๖๐ ปีขึ้นไป ร้อยละ ๑๐๐ ได้รับการประเมินสุขภาพและคัดกรองความเสี่ยงต่อการล้มขนาดปัญหา เป้าหมาย 100.00
-
2. เพื่อให้ผู้สูงอายุในชุมชนที่มีความเสี่ยงต่อการล้มจากการมีภาวะเสี่ยงกระดูกพรุน(OSTA) ได้รับการดูแลรักษาที่เหมาะสมตัวชี้วัด : ผู้สูงอายุในโครงการ ๖๐ ปีขึ้นไปที่มีภาวะเสี่ยงกระดูกพรุน ร้อยละ ๑๐๐ ได้รับการส่งต่อและรักษาต่อเนื่องขนาดปัญหา เป้าหมาย 100.00
-
3. เพื่อให้ผู้สูงอายุในชุมชนมีความรอบรู้ทางสุขภาพ เพื่อป้องกันการหกล้มและส่งเสริมสุขภาวะตัวชี้วัด : ผู้สูงอายุในโครงการ ร้อยละ ๑๐๐ มีความรอบรู้ทางสุขภาพของผู้สูงอายุมากขึ้นขนาดปัญหา เป้าหมาย 100.00
-
4. เพื่อให้ผู้สูงอายุในชุมชนออกกำลังกายทำให้มีกำลังกล้ามเนื้อ การทรงตัวดีขึ้นตัวชี้วัด : -ผู้สูงอายุในโครงการ ร้อยละ ๘๐ มีการออกกำลังกายป้องกันล้มอย่างสม่ำเสมอตามเกณฑ์ -ผู้สูงอายุในโครงการ ร้อยละ ๘๐ ไม่ล้มหรือไม่ล้มซ้ำภายใน ๓ เดือน -ผู้สูงอายุในโครงการ ร้อยละ ๖๐ มีกำลังกล้ามเนื้อและการทรงตัวดีขึ้น -เกิดเครือข่ายการดูแลผู้สูงอายุในชุมชนขนาดปัญหา เป้าหมาย 80.00
-
5. เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถจัดสภาพแวดล้อมภายในบ้านป้องกันการล้มได้อย่างเหมาะสมตัวชี้วัด : -ผู้สูงอายุในโครงการ ร้อยละ ๘๐ ปรับเปลี่ยนให้ตนเองอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมขนาดปัญหา เป้าหมาย 80.00
- 1. คัดกรองประเมินการล้มผู้สูงอายุในชุมชน และประเมินภาวะเสี่ยงกระดูกพรุน(OSTA INDEX)รายละเอียด
กิจกรรมที่ ๑ คัดกรองประเมินความเสี่ยงต่อการล้มผู้สูงอายุในชุมชน และประเมินภาวะเสี่ยงกระดูกพรุน(OSTA INDEX) ทางแอปพลิเคชั่น “สมุดผู้สูงอายุ” และส่งต่อศูนย์บริการสาธารณสุข โดยแพทย์และนักกายภาพ (๑.ค่าสมนาคุณวิทยากรบรรยาย จำนวน ๓ ชั่วโมง ชั่วโมงละ ๖๐๐ บาท เป็นเงิน ๑,๘๐๐ บาท ๒.ค่าวัสดุอุปกรณ์จัดอบรม ได้แก่ ปากกา, กระดาษถ่ายเอกสาร เป็นเงิน ๑,๐๐๐ บาท ๓.ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มจำนวน๓๐ คน คนละ ๒๐ บาท รวมเป็นเงิน ๖๐๐ บาท) - ประเมินความเสี่ยงล้มผู้สูงอายุในชุมชน - ประเมินภาวะเสี่ยงกระดูกพรุน (OSTA INDEX) - Time up and go (ก่อนเริ่มโครงการและระหว่างการติดตามทุกๆ ๓ เดือน)
งบประมาณ 3,400.00 บาท - 2. ให้ความรู้เกี่ยวกับความรอบรู้ทางสุขภาพของผู้สูงอายุ ภาวะโภชนาการ การจัดสภาพแวดล้อมภายในบ้านป้องกันการล้ม โดยแพทย์ นักกายภาพ และนักโภชนาการรายละเอียด
กิจกรรมที่ ๒ ให้ความรู้เกี่ยวกับความรอบรู้ทางสุขภาพของผู้สูงอายุ ภาวะโภชนาการ วิธีออกกำลังกายในบ้านและนอกบ้านที่เหมาะสมสำหรับวัยผู้สูงอายุ การจัดสภาพแวดล้อมภายในบ้านป้องกันการล้ม โดยแพทย์ นักกายภาพ และนักโภชนาการ
-แบบทดสอบความรอบรู้ทางสุขภาพของผู้สูงอายุก่อนและหลังอบรม -ส่งรูปก่อนและหลังจัดสภาพแวดล้อมภายในบ้านป้องกันการล้มของตนเองหลังจากเข้าร่วมกิจกรรมในไลน์กลุ่มผู้สูงอายุ ๑. ค่าสมนาคุณวิทยากรบรรยาย จำนวน ๑.๕ ชั่วโมง ชั่วโมงละ ๖๐๐ บาท วิทยากร ๒ ท่าน เป็นเงิน ๑,๘๐๐ บาท ๒. ค่าจัดทำสมุดสุขภาพ จำนวน ๓๐ เล่ม เล่มละ ๖๐ บาท เป็นเงิน ๑,๘๐๐ บาท ๓. ค่าจัดทำคู่มือประกอบการอบรม จำนวน ๓๐ เล่ม เล่มละ ๕๐ บาท เป็นเงิน ๑,๕๐๐ บาท ๔. ค่าของที่ระลึกสำหรับผู้สูงอายุในชุมชนปฏิบัติต่อเนื่องหลังจากการประเมินทุกๆ ๓ เดือน จำนวน ๒๐ รางวัล รางวัลละ ๑๐๐ บาท เป็นเงิน ๒,๐๐๐ บาท ๕. ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มจำนวน๓๐ คน คนละ ๒๐ บาท รวมเป็นเงิน ๖๐๐ บาทงบประมาณ 7,700.00 บาท - 3. ร่วมกันออกกำลังกายอย่างเหมาะสมรายละเอียด
กิจกรรมที่ ๓ ร่วมกันออกกำลังกายอย่างเหมาะสม -รวมกลุ่มออกกำลังกายนอกบ้าน เช่น ไทเก็ก กายบริหารคลายเส้น -ส่งรูปออกกำลังกายภายในไลน์กลุ่มผู้สูงอายุ ๑. ค่าสมนาคุณวิทยากรบรรยาย จำนวน ๓ ชั่วโมง ชั่วโมงละ ๖๐๐ บาท เป็นเงิน ๑,๘๐๐ บาท ๒. ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มจำนวน ๓๐ คน คนละ ๒๐ บาท รวมเป็นเงิน ๖๐๐ บาท ๓. ค่าจ้างผู้นำออกกำลังกายไทเก็กชุมชน ครั้งละ ๓๐๐ บาท สัปดาห์ละครั้ง จำนวน ๕๐ สัปดาห์ (ประมาณ ๑ ปี) เป็นเงิน ๑๕,๐๐๐ บาท ๔. อุปกรณ์เครื่องเสียงสำหรับใช้ในการออกกำลังกาย (จัดหาจากชุมชน/สนับสนุนจากเทศบาล)
งบประมาณ 17,400.00 บาท - 4. ประชาสัมพันธ์โครงการ และประชุมเจ้าหน้าที่รายละเอียด
ประชุมเจ้าหน้าที่และประชาสัมพันธ์โครงการ ๑. ค่าป้ายไวนิลโครงการ ขนาด ๒.๕x๕ เมตร จำนวน ๒ ป้าย ราคา ๓,๗๕๐ บาท
งบประมาณ 3,750.00 บาท
ตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567
ชุมชนหน้าโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย
รวมงบประมาณโครงการ 32,250.00 บาท
จากผู้สูงอายุในชุมชนได้มีการรวมกลุ่มทำประชมคม ได้ประเด็นปัญหาสุขภาพที่ชุมชนต้องการแก้ไขอย่างแท้จริง จะทำให้ผู้สูงอายุในชุมชนมีความตระหนักในการป้องกันและส่งเสริมสุขภาพ และได้รับการประเมินสุขภาพ คัดกรองเสี่ยงต่อล้ม ผู้สูงอายุในชุมชนที่เสี่ยงต่อกระดูกพรุนได้รับการดูแลรักษาอยากต่อเนื่องและเหมาะสม อัตราการล้มลดลง และเกิดเครือข่ายการดูแลผู้สูงอายุในชุมชนที่เข้มแข็งและยั่งยืน
ข้าพเจ้า ................................................................ ตำแหน่ง.................................................... หน่วยงาน................................................................................ หมายเลขโทรศัพท์......................................................... ในฐานะของผู้เสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
ขอรับรองว่า แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ที่เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ ในครั้งนี้
- check_box_outline_blank ไม่ได้ซ้ำซ้อนกับงบประมาณที่ได้รับจากแหล่งอื่น
- check_box_outline_blank สอดคล้องกับแผนสุขภาพชุมชน ของ กปท.
- check_box_outline_blank รับทราบถึงกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และวิธีการดำเนินงานตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2567 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แล้ว
(............................................................)
ตำแหน่ง ............................................................
วันที่-เดือน-พ.ศ. ..................................................
- ให้เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ
(............................................................)
ตำแหน่ง ............................................................
วันที่-เดือน-พ.ศ. ..................................................
แบบเสนอแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
รหัส กปท.
อำเภอ จังหวัด
ตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ พ.ศ.2567 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 10 “เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพตามข้อ 7 วรรคหนึ่ง ให้ใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมเป็นค่าใช้จ่ายตามแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม ที่คณะกรรมการกองทุนอนุมัติ” นั้น
หน่วยงาน/องค์กร/กลุ่มประชาชน ได้ดำเนินการจัดทำแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม มาเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ กปท. ตามเอกสารแนบ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาอนุมัติ
(...........................................................)
ตำแหน่ง ...............................................
วันที่-เดือน-พ.ศ. ......................................
แบบอนุมัติแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม
รหัส กปท.
อำเภอ จังหวัด
ตามมติการประชุมคณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพ ครั้งที่ ....................... เมื่อวันที่ .................................................... สรุปผลการพิจารณาแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ดังนี้
(....................................................................)
ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการประชุม
วันที่-เดือน-พ.ศ. ....................................................
ตำแหน่ง ....................................................................
วันที่-เดือน-พ.ศ. ..................................................